จำนวนติดเชื้อโควิดเพิ่มไม่มีท่าจะลดละ วันนี้ยืนระดับ ผู้ป่วยใหม่ ๕,๙๑๖ ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก ๔๔ คน ซ้ำร้ายข้อมูลน่าเชื่อถือจาก Saiseema, Phutikarn แย้งว่า “ยอดผู้ติดเชื้อโควิดของไทยที่รายงานแต่ละวัน มีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าความเป็นจริงมาก”
เขาอ้างฐานข้อมูลสองแหล่งแจงสาเหตุ “ข้อจำกัดด้านการตรวจเชื้อ” ของไทยอยุ่ที่สูงสุดประมาณวันละ ๘ หมื่นราย “เปรียบเทียบแล้วยังตรวจเชื้อน้อยกว่ามาเลเซียซึ่งประชากรน้อยกว่าไทยครึ่งหนึ่ง” ไม่ต้องเทียบอังกฤษประชากรเท่าเราแต่ตรวจมากกว่าสิบเท่า
“แม้แต่ประเทศที่ตรวจเชื้อเยอะมากอย่างอังกฤษ ก็ยังไม่สามารถตรวจหาผู้ติดเชื้อได้หมด เพราะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่ไม่แสดงอาการแต่อาจแพร่เชื้อได้” ยิ่งถ้าวัคซีนที่ใช้ด้อยคุณภาพในการป้องกันติดเชื้อ (อย่างซิโนแว็ก) ยิ่งหนักเข้าไปอีก
พูติกาล ศายษีมา แนะว่าจะให้ดีให้ดูจำนวนคนตายเป็นเกณฑ์วัด “จากแบบจำลองของทั้ง Imperial College London (ICL) และ Institute for Health Metrics and Evaluation (IHME) ต่างประเมินได้ว่า” จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยแท้จริงราว ๑๒,๐๐๐ ราย
โพสต์ของเอกชนรายหนึ่งซึ่งอยู่ในกิจการห้องแหลบตรวจเชื้อ บอกว่า “กำลังถูกหน่วยงานรัฐขอความร่วมมือแกมบังคับ ให้หยุดการตรวจโควิดทั้งหมด ซึ่งดูก็รู้ว่า จริงๆ แค่ไม่อยากให้ตัวเลขมันสูงไปกว่านี้” เขาเชื่อว่านี่เป็นการปัดฝุ่นซุกใต้พรม
“อยากเตือนเพื่อนๆ ทุกคนด้วยความเป็นห่วง ว่าสถานการณ์โควิดในตอนนี้ อาจรุนแรงกว่าตัวเลขที่รายงานอยู่ในปัจจุบัน ไปมากแล้วก็ได้” โรงพยาบาลหลายแห่งหยุดตรวจไปแล้ว และจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่บ้าน ไม่ผ่านศูนย์ข้อมูลโรงพยาบาลอีกเท่าไหร่
มันจึงไปลงที่ปัญหาวัคซีนชั้นดีมาสาย เพราะรัฐบาลเหมาหมดอำนาจในการสั่งซื้อและเลือกยี่ห้อวัคซีน เพิ่งมาเปิดรับและเริ่มสั่งซื้อวัคซีน ‘ทางเลือก’ แต่ประสิทธิภาพสูงกว่าวัคซีนซื้อง่าย (แม้จะแพงกว่า) ของจีน ที่เจ้าสัวใหญ่ไทยมีหุ้นส่วน เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง
เมื่อรูปการณ์ปรากฏ วัคซีนยี่ห้อบังคับ จากผู้ผลิตที่มีศักดินาสูงส่ง แต่ความสามารถในการผลิตไม่ได้สูงเท่านามาภิไธย เพราะเป็นมือใหม่หัดขับรถคันนี้ เริ่มแสดงว่าไม่ทันการรุกเร็วของโควิดแน่ วิธีแก้ก็คือใช้การ ‘พีอาร์’ แบบทหาร
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งไม่บังเอิญเป็นผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ สถานการณ์โควิด “ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน...ต้องดำรงในส่วนของการป้องกันส่วนบุคคล” ภาษาชาวบ้านก็คือ ดูแลตัวเองกันด้วย
ส่วนวัคซีนดีๆ ที่เป็นแค่ทางเลือก แต่ “ประชาชนต้องการ” นั้น ทั้ง โมเดอร์น่า และ ไฟ้เซอร์ “ก็พยายามเร่งรัดอยู่ ฉะนั้นในเมื่อทั้งสองอย่างนั้นยังไม่มา วัคซีนที่เรามีอยู่คือซิโนแวคก็น่าจะเป็นวัคซีนที่เหมาะสมกับสภาพเวลานี้” เออ ง่ายดี
นอกจากนี้ทั่น ผอ. ผู้มีความชำนาญด้านความมั่นคง ยังให้ความเห็นเป็นพิเศาด้วยว่า “ในเมื่อประเทศผู้ผลิตเขาใช้อยู่มันก็ต้องมีความมั่นใจได้ว่าเป็นวัคซีนที่ดี” ต้องตอบว่า เออ อีก มันดีเฉพาะช่วยไม่ให้ตายง่าย แต่ไม่ดีตรงไม่ค่อยช่วยไม่ให้ติดง่ายไง
ดีแต่แถไถกันไปอย่างนี้ จะไม่ให้คนทั่วไปเกิดความรู้สึกว่า รัฐบาลเห็นการระบาดเป็นสนามทดลองหรือไร “วัคซีนที่ดีเป็นวัคซีนที่มี” ไม่ใช่พีอาร์น่าฟัง แล้วยังส่อเจตนาชั่วร้ายแอบแฝง ดังที่ ถือแถน@pran2844 ตั้งข้อสังเกตุว่า “ท่านจะไม่แปลกใจ...
ถ้าท่านรู้ว่า องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ขอขึ้นทะเบียน อย.และเป็นผู้นำเข้า เป็นตัวแทนจำหน่ายวัคซีน Sinovac แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย” ประจวบเหมาะกับ “การสั่งซื้อวัคซีน Moderna และ Pfizer จึงเต็มไปด้วยข้ออ้างและอุปสรรค”
สถาบันวัคซีนแห่งชาติ มีทางออกใหม่ จะไปร่วมมือกับคิวบาผลิตวัคซีนที่ประเทศนั้นพัฒนาขึ้นเองได้ ๒ ตัว กระบวนพีอาร์เริ่มเมื่อเดือนที่แล้ว “วัคซีนคิวบาเนื้อหอม ประสิทธิภาพสูง หลายชาติทาบขอซื้อ” พาดหัวข่าวไทยรัฐ เอาเลยเปิดเบิ่ง
กระทรวงต่างประเทศเข้าร่วม นางพรพิมล กาญจนลักษณ์ ที่ปรึกษา รมว.พา นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันฯ เข้าพบสนทนากับทูตคิวบาประจำไทย “หารือเรื่องความร่วมมือด้านสาธารณสุข รวมถึงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙”
Sunai @sunaibkk มีข้อสังเกตุ “ลักษณะคล้ายๆ กับการเชียร์ #AstraZeneca เมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้บริษัทไทยที่ถูกระบุว่ามีประวัติร่วมมือกับคิวบาผลิตยาต่างๆ ก็คือ Siam Bioscience” อ่า มันเป็นเช่นนี้นี่เอง
(https://twitter.com/sunaibkk/status/1411220252868763649, https://www.facebook.com/saiseema.p/posts/2898973443751497, https://www.khaosod.co.th/politics/news_6488545)