วันศุกร์, กรกฎาคม 16, 2564

พังไม่เป็นท่า รัฐบาลเผยแอสตร้าขอเลื่อนส่งช้าไปอีกครึ่งปี กว่าจะครบ 61 ล้านโดส ปาไปพฤษภา 2565


.....
Puangthong Pawakapan
11h ·

บริษัทแอสตร้าฯ ดูจะมีปัญหาความรับผิดชอบต่อลูกค้าของตัวเองในหลายประเทศ
กรณีที่รู้กันดีคือ สหภาพยุโรปฟ้องแอสตร้าฯว่าไม่สามารถส่งมอบวัคซีนให้ได้ตามกำหนด แม้ว่าสัญญาที่อียูทำจะหละหลวมเช่นเดียวกับรัฐบาลไทย คือไม่มีบทลงโทษหากแอสตร้าฯไม่สามารถส่งวัคซีนได้ตามกำหนด ขณะที่สัญญาที่อังกฤษทำกับแอสตร้าฯ ระบุบทลงโทษชัดเจน แอสตร้าจึงไม่กล้าเบี้ยวอังกฤษ
กระนั้น อียูก็ยืนยันว่าแอสตร้าฯรู้ดีว่า อียูต้องการวัคซีนจำนวนเท่าไร ในสัญญาระบุชัดเจนว่าแอสตร้าต้องส่งวัคซีนให้กับอียูแต่ละไตรมาสเท่าไร แต่แอสตร้ากลับส่งออกวัคซีนไปให้ประเทศอื่นๆ แล้วบอกว่ามีปัญหาว่าผลิตไม่ทัน ผลจากการฟ้องศาล ๆ มีคำสั่งให้แอสตร้าต้องส่งวัคซีนเพิ่มให้อียู (แม้ว่าจำนวนที่ศาลสั่งจะน้อยกว่าที่อียูต้องการ) หากทำไม่ได้ จะต้องถูกปรับโดสละ 10 ยูโร
กรณีไทยก็เช่นเดียวกัน หน่วยงานที่ทำสัญญากับแอสตร้าฯ ก็ระบุว่าได้ส่งแผนการใช้วัคซีนให้แอสตร้าฯ ชัดเจน แต่แอสตร้าก็ไม่สามารถส่งให้ได้ตามที่ไทยต้องการ ประเทศอื่นๆ ที่ทำสัญญาซื้อกับแอสตร้าไทย ก็เจอปัญหาได้วัคซีนล่าช้าเดียวกัน เช่น มาเลเซีย และไต้หวัน
คำถามคือ เป็นไปได้หรือว่าบริษัทแอสตร้าทั้งในไทยและยุโรป ไม่รู้ความสามารถในการผลิตของตนเอง? หรือเขาคิดว่าทำสัญญาไปก่อน เอาออเดอร์มาเยอะๆ แล้วทยอยส่งให้แต่ละประเทศจำนวนหนึ่งก่อนเพื่อผูกมัดระยะยาว - พอฉีดเข็มหนึ่งแล้ว ก็ต้องรอเข็มสอง ลูกค้าจะไปไหนเสีย
ฉะนั้น การที่ยุโรปหันไปใช้สูตรผสมแอสตร้า+mRNA นอกจากจะแก้ปัญหาการเกิดลิ่มเลือดจากแอสตร้าแล้ว ยังแก้ปัญหาต้องเพิ่งพิงบริษัทที่ไม่ทำตามสัญญาได้อีกด้วย
ในระยะยาว ประเทศพัฒนาแล้วจะลดการใช้แอสตร้าแน่นอน ณ วันนี้ เกาหลีใต้ซึ่งมีบริษัทผลิตแอสตร้าในประเทศด้วย รัฐบาลก็ประกาศแล้วว่าจะลดการใช้แอสตร้าฯ หันไปใช้ mRNA แทน
ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว เวลาเราเจอผู้ขายแบบนี้ แถมมารู้ภายหลังว่าสินค้าก็ไม่ได้ดีอย่างที่คุยโม้ไว้ วิธีการลงโทษที่ดีที่สุดคือ ยุติการซื้อโดยเด็ดขาด แต่สำหรับไทย ปัญหามันยุ่งกว่านั้น เมื่อผู้ผลิตแอสตร้าฯ คือ SBS
ทั้งหมดนี้ก็ล้วนมาจากรัฐบาล-หมออำมหิตที่เอาชีวิตของคนทั้งประเทศไปผูกกับวัคซีนเส้นก๋วยจั๊บเพียงแค่ 2 ตัว ม้าเต็งกลายเป็นม้าตายก็ช่างมันเถอะ แต่ประชาชนตายเป็นใบไม้ร่วงทุกวัน แล้วยังไม่รู้จะออกจากนรกนี้ได้อย่างไรนี่สิ
.....
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
19h ·

คิดว่า เหตุผลที่แท้จริงที่ สธ. จะให้ฉีดวัคซีนไขว้ชนิด Sinovac + AstraZeneca (AZ) ก็คือ AstraZeneca ไม่มาตามแผน (เรื่องประสิทธิภาพ ความเสี่ยง ฯลฯ ขอไม่พูดถึง เพราะเป็นเรื่องของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ)
ยอดฉีดสะสมวันนี้ทั้งหมด 13.2 ล้านคน ในนี้เป็น AZ สองเข็ม 73,491 คน และ AZ หนึ่งเข็ม 5.68 ล้านคน คนที่ฉีด AZ หนึ่งเข็มทุกคนน่าจะเริ่มฉีดในวัน "เริ่มปูพรม" 7 มิ.ย. ซึ่งถ้านับไป 12 สัปดาห์ คิวฉีดเข็มสองก็คือ วันที่ 30 สิงหาคม หรือสิ้นเดือน ส.ค. พอดี
ถ้าเอา 5.68 ล้านคนที่ฉีด AZ หนึ่งเข็ม หารด้วย 38 วัน (จำนวนวันตั้งแต่วันเริ่มปูพรม 7 มิ.ย. จนถึงวันนี้) แปลว่า เราฉีด AZ เข็มแรกเฉลี่ยวันละ 149,474 คน ฉะนั้นเดือน มิ.ย. สี่สัปดาห์ เราฉีด AZ ไปแล้วไม่น้อยกว่า 149,474 x 28 วัน = 4.2 ล้าน (ตัวเลขจริงไม่ใช่ตัวเลขนี้แน่ๆ แต่ใช้ตัวเลขนี้เป็นประมาณการคร่าวๆ ไปก่อน)
คนอย่างน้อย 4.2 ล้านคนนี้ มีคิวฉีด AZ เข็มสอง ระหว่าง 30 ส.ค. ถึง 27 ก.ย. (12 สัปดาห์หลังเข็มแรก) ตีว่าเท่ากับ กันยายนทั้งเดือน
ดังนั้นแปลว่า เดือน ก.ย. ทั้งเดือน ต้องมี AstraZeneca ให้คนที่ฉีดเข็มแรกไปแล้ว 4.2 ล้านโดส -- คนกลุ่มนี้ไม่มีทางเลือกอื่น จะให้ฉีด Sinovac เข็มสองก็ไม่ได้ เพราะไม่มีประโยชน์
นั่นหมายความว่า ถ้าเอา AZ มาฉีดเป็นเข็มแรก (สำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีดอะไรเลย) ทั้งเดือน ก.ย. ในอัตราฉีดวันละ 149,474 แปลว่า เดือน ก.ย. จะต้องมีวัคซีน AZ ทั้งหมดประมาณ 4.2 (เข็มสอง) + 4.2 (เข็มแรก) = 8.4 ล้านโดส
แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะหวังว่า ในเดือน ก.ย. เราจะเห็น AZ ส่งมอบวัคซีนได้ 8.4 ล้านโดส เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่าบริษัทเองจะส่งอย่างมากก็เดือนละ 5 ล้านโดสเท่านั้น (เผลอๆ อาจไม่ถึงด้วยซ้ำ เพราะนี่กลางเดือน ก.ค. เข้าไปแล้ว เรายังไม่รู้ตัวเลขเลยว่า บริษัท AZ ส่งวัคซีนในเดือน ก.ค. มาเท่าไหร่แล้ว ถึง 2.5 ล้านโดสหรือยัง) -- และที่คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติเพิ่งประกาศว่าจะไปเจรจากับบริษัท ศึกษาการใช้กฎหมายวัคซีนห้ามส่งออกจนกว่าไทยจะได้ของพอ ฯลฯ ก็ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ไม่รู้ว่าจะทำจริงไหม และทำเมื่อไหร่
ฉะนั้นวิธี "แก้ปัญหาเฉพาะหน้า" ก็คือค่อยๆ "กัน" วัคซีน AZ ที่จะส่งมาเดือนนี้และเดือนหน้า (ก.ค. + ส.ค.) ให้ครบ 4.2 ล้านโดส สำหรับคนที่ฉีด AZ เข็มแรกไปแล้ว (และมีนัดฉีดเข็มสองระหว่าง 30 ส.ค. - 27 ก.ย.)
โดยให้คนที่มาฉีดเข็มแรกในช่วงนี้ (หรือช่วงหลังจากนี้ด้วย ถ้าเห็นว่า AZ ยังมาไม่พอ) ฉีดแต่ Sinovac ภายใต้สูตร Sinovac + AZ ที่ สธ. ประกาศ
ทั้งหมดนี้ยิ่งทำให้น่าโมโหว่า รัฐบาลไปทำข้อตกลงที่เสียเปรียบมหาศาล ไม่เผื่อ ไม่คิดเรื่องการบริหารจัดการความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยงใดๆ เลยได้อย่างไร
(ข้อมูลการฉีดวัคซีน จากไทยรัฐ https://www.thairath.co.th/news/local/2140522)
#มหากาพย์วัคซีน