วันเสาร์, ตุลาคม 12, 2567

French Best Baguette เรื่องราวที่สวยงาม คนไทยที่เกลียดพม่าและผู้อพยพต่างชาติ ไม่ควรพลาด เรื่องความดิ้นรนของผู้อพยพ ชาวศรีลังกา กับ ขนมปังยอดนิยมของชาวฝรั่งเศส ที่เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม


Shakrit Chanrungsakul
9 hours ago
·
French Best Baguette - ชายหนุ่มชาวศรีลังกาผู้ซึ่งอพยพไปถึงปารีสเมื่อปี 2006 แล้วหางานทำด้วยการเริ่มหัดทำสลัดกับของหวานในร้านอาหารอิตาเลียนโดยที่ยังไม่คุ้นเคยกับภาษาฝรั่งเศส ... สองปีต่อมาร้านอิตาเลียนปิดตัวลง แต่เขาก็เริ่มรู้ตัวว่าชอบทำขนมปังก็เลยดิ้นรนไปขอทำงานในร้านที่ชื่อ Boulangerie Au Levain des Pyrénées ... เจ้าของร้านก็ยินดีรับและค่อย ๆ สอนเคล็ดลับในการทำงานให้รู้มากขึ้น คู่มือภาษาท้องถิ่นคือปัญหาสำคัญของเขา
.
แต่เขาก็ไม่ถือเป็นอุปสรรคใหญ่โตที่ข้ามไม่ได้ จนถึงปี 2012 เขาไต่ขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกขนมปัง และเริ่มชำนาญมากขึ้นในศิลปะที่เขาเลือกทำ
.
Tharshan Selvarajah เข้าแข่งขัน Grand Prix de la Baguette de Tradition Française de la Ville De Paris ครั้งแรกในปี 2018 ได้อันดับสามจากการแข่งขันนี้ ... เขาคว้ารางวัลใหญ่ให้กับตัวเองเป็นครั้งแรกพร้อมแรงบันดาลใจใหม่ที่จะเป็นที่หนึ่งของฝรั่งเศสให้ได้
.
ปี 2021 เจ้านายเกิดอยากจะเกษียณ เขาก็เลยตัดสินใจลงทุนเช่าร้านต่อจากเจ้าของเดิมเพื่อปรับปรุงวิธีที่เขาอยากจะใช้ทำจนเป็นวิธีของเขาเอง ... การบีบเพื่อสัมผัสของความกรอบบาง, การดมเพื่อร้บรู้กลิ่นหอมของแป้งที่ผ่านความร้อน, การฉีกเป็นชิ้นมาชิมเพื่อเข้าถึงรสสัมผัสในปาก ... กระบวนการที่กรรมการทั้งหมดต้องทำและให้คะแนนบาแก็ตต์แต่ละแท่งโดยมีแค่หมายเลขกำกับบนตะกร้า ถือเป็นความท้าทายของเขา
.
จนในที่สุดเขาก็ส่งเข้าประกวดอีกครั้งในปี 2023 แล้วเอาชนะผู้เข้าแข่งขันจากร้านที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 126 แห่งจากทั่วประเทศจนได้รับการยกย่องให้เป็นที่สุดของฝรั่งเศส รางวัลกรังปรีซ์เป็นของ Tharshan ... ทุกวันนี้เขาต้องส่งบาแก็ตต์เข้าทำเนียบเพื่อเป็นมื้อเช้าของประธานาธิบดีมาครง
.
ปีต่อมาเขาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิคในปารีส 2024 ในฐานะผู้สร้างชื่อเสียงให้กับฝรั่งเศส
.
ศิลปะหลายแขนงถูกถ่ายทอดมายังผู้อพยพที่มีอยู่จำนวนมากในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมา รวมถึงการทำขนมปังยอดนิยมอีกหนึ่งอย่างของชนชาตินี้ด้วย ทำให้ผู้ชนะรางวัลที่สุดของประเทศเป็นชาวต่างชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ ในรอบสิบปีที่ผ่านมาเช่นตูนิเชียและเซเนกัลก็เคยเป็นแชมป์รางวัลนี้มาแล้ว
.
"คุณต้องตื่นตั้งแต่ตีสาม เพื่อเริ่มงานตอนตีสี่เพื่อเป็นคนที่ได้งานทำในร้านขนมปังทั่วไป แค่ตรงนั้นก็ต้องสู้กับตัวเองให้ได้ ... ซักสิบปีคุณก็น่าจะเก่งพอที่ลูกค้าจะจำได้และมาซื้อบ่อย ๆ ... ถ้าคุณทำได้มากกว่านั้น ลูกค้าก็จะมาหาคุณตอนเช้า ตอนสาย ตอนบ่าย ตอนเย็น" ผมคิดว่าเขาอธิบายได้ชัดเจนแล้วว่าทำไมผู้อพยพถึงเป็นเชฟที่ได้รางวัลมากขึ้นเรื่อย ๆ ... ไม่ง่ายเลย แต่เป็นหนทางอยู่รอดของผู้ที่ต้องการจะรอดให้ได้ในชีวิตที่มีแต่ข้อจำกัด