วันอาทิตย์, เมษายน 16, 2566

มารู้จัก นโยบายบำนาญประชาชน ของพรรคไทยสร้างไทย


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan
May 29, 2022

ดิฉัน ได้ติดตามการพิจารณารายงานของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการศึกษา เรื่องแนวทางการเสนอกฎหมายบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ โดยเห็นว่าร่างรายงานดังกล่าว มีเนื้อหาสาระเป็นไปในทิศทางเดียวกับ นโยบาย”บำนาญประชาชน เดือนละ3,000 บาท” ที่พรรคไทยสร้างไทยได้นำเสนอ และประกาศเป็นนโยบายมาเกือบหนึ่งปีแล้ว
ซึ่งหลักการและแนวคิดดังกล่าวมีเหตุผลและความจำเป็น เพราะประเทศไทย เป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลก ที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ (Aged Society)อย่างเต็มขั้นในปี 2565 และคาดว่าประเทศไทยจะขยับขึ้นเป็นสังคมสูงอายุแบบสุดยอด (Hyper Aged Society) หรือมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุประมาณ 20% ในปี 2574
ดังนั้น ดิฉันและพรรคไทยสร้างไทย จึงเสนอนโยบายบำนาญประชาชนดังกล่าว เพื่อเป็นเครื่องมือเตรียมการรองรับสังคมสูงวัยของไทย โดยเราต้องดูแลผู้สูงวัยให้แข็งแรง ซึ่งจะปล่อยให้ประเทศไทยมีแต่คนแก่ที่อ่อนแอ และยากจนอย่างในปัจจุบันไม่ได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้สูงวัยทั้งของรัฐและครอบครัว ตลอดจนจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยิ่ง เพราะคนทำงานหารายได้จะลดลง
พรรคไทยสร้างไทย จึงออกแบบนโยบายบำนาญประชาชน เพื่อแก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัย โดยนโยบายนี้จะสามารถแก้ไขปัญหา และสร้างประโยชน์ได้ถึง 4 อย่าง คือ
1.ผู้สูงอายุมีเงิน เพียงพอต่อการยังชีพ อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี
2.ผู้รับบำนาญประชาชนต้องมีหน้าที่ในการสร้างสุขภาพให้แข็งแรง โดยรัฐจะจัดให้มี โปรแกรมในการสร้างสุขภาพผ่านศูนย์สุขภาพชุมชน โดยมีการตั้งเป้าหมายเพื่อลดโรคไขมัน ความดัน เบาหวาน และมีโปรแกรมการฝึก สมองกล้ามเนื้อและจิตใหัปู้สูงอายุ
3.ลดภาระลูกหลาน ในการเลี้ยงดูผู้สูงอายุ จะได้สร้างตัวได้ หมดกังวลในการดูแลพ่อแม่
4.เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้
เพราะเป็นการใส่เม็ดเงินเพื่อเพิ่มกำลังซื้อ จะเกิดกำลังซื้อมหาศาล ให้กับเศรษฐกิจฐานรากขับเคลื่อนได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศขยายตัวดีขึ้นตามมา เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นรัฐบาลก็สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น
จึงขอเชิญชวน พี่น้องประชาชนทุกคนมาร่วมกันเป็นเครือข่ายบำนาญประชาชนของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อร่วมกันสนับสนุนระบบสวัสดิการนี้ ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
ประธานพรรคไทยสร้างไทย
.....


“สุดารัตน์” มอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชนคนที่ 3.2ล้าน เขตดอนเมืองยันบำนาญ 3000 บาทไทยสร้างไทย เสนอกม.เข้าสภาเรียบร้อยแล้ว เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม GDP ได้ 5-7 เท่าใน 5 ปี ยั่งยืนกว่านโยบายแจกเงินให้เปล่า

15 เมษายน 2566 ที่ ชุมชนบูรพา 7 เขตดอนเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายการุณ โหสกุล ผู้สมัคร ส.ส. หมายเลข 2 เขตดอนเมือง พรรคไทยสร้างไทยลงพื้นที่เขตดอนเมือง เพื่อมอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชน คนที่ 3.2 ล้าน ให้กับ นางพิราภรณ์ ซองศิริ อยู่ชุมชนบูรพา 16 เขตดอนเมือง

ทั้งนี้ โครงการบำนาญประชาชนของ พรรคไทยสร้างไทย มีเป้าหมายที่ แก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัยและเป็นโครงการกระตุ้น เศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศที่จะเพิ่ม GDP ได้อย่างยั่งยืน การกระจายเงิน 3000 บาทลงสู่ ชุมชนโดยตรง เป็นการสร้างกำลังซื้อใหม่ทุกเดือนให้กับทุกชุมชน เป็นเงิน 360,000 ล้านบาทต่อปี



นอกจากนี้จะเป็นพลังสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำ อย่างถาวร แถมลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุได้ ปีละกว่าแสนล้านบาท และผู้สูงอายุที่ร่างกายแข็งแรงจะกลับมาทำงานสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัว รวมทั้งจะสร้างรายได้จากภาษีให้ประเทศได้มากขึ้น อย่างต่อเนื่อง

สำหรับกฎหมายบำนาญประชาชนพรรคไทยสร้างไทยได้เสนอเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เมื่อ พี่น้องเลือกพรรคไทยสร้างไทยให้ชนะถล่มทลายทุกเขต รัฐบาลไทยสร้างไทย จะเข้าไปยกมือผ่านกฎหมายได้ทันที

ส่วนเงินบำนาญประชาชนเดือนละ 3000 บาท ให้ผู้สูงอายุ ทั้งประเทศจำนวน 10-11 ล้านคน เป็นเงินปีละ 360,000 ล้านบาท จะทำให้ GDP เพิ่มขึ้น ในเวลา 5 ปี สูงถึง 1,800,000 ล้านบาท ถึง 2,520,000 ล้านบาท คือ GDP จะเพิ่มขึ้นถึง 5 ถึง 7 เท่า ใน เวลา 5 ปี และที่สำคัญจะเป็นการเพิ่ม GDP อย่างยั่งยืน

เพราะเป็นการจ่ายบำนาญประชาชน ให้กับประชาชนผู้สูงอายุทุกเดือนไปตลอดชีวิต จะสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้ฟื้นตัว เพื่อสร้างเศรษฐกิจทั้งประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นการลดความเหลื่อมล้ำอย่างถาวร และไม่ได้เป็นการให้เงินแบบสูญเปล่า เพราะผู้รับบำนาญประชาชน ต้องมีหน้าที่สร้างสุขภาพผ่านศูนย์สุขภาพชุมชน เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรงยืดเวลาการเจ็บป่วยจากอายุ 60-70 ปี เป็น 80-90 ค่อยป่วย


ดังนั้นจึง เป็นการลดรายจ่ายในการรักษาพยาบาล ของประชาชน และประเทศชาติปีละกว่าแสนล้าน และประเทศจะได้รายได้จากภาษีเพิ่ม ประมาณ15% ของ GDP หรือประมาณ 270,000 ล้านบาท ถึง 378,000 ล้านบาท ในเวลา 5 ปี ทั้งนี้ โครงการบำนาญประชาชน

จึงถือเป็นโครงการที่สร้างความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สุขภาพคุณภาพชีวิตเพื่อเป็นการรองรับปัญหาสังคมผู้สูงวัย ให้ประเทศไทยพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยในวันนี้เป็นการ มามอบบัตรเครือข่ายบำนาญประชาชนไปที่ 3.2 ล้าน ที่เขตดอนเมือง ร่วมกับนายการุณ โหสกุล

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำว่า ถึงแม้พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคการเมืองใหม่ ยังไม่ผ่านการเลือกตั้ง และยังไม่มี ส.ส.ในสภาแม้แต่คนเดียว แต่พรรคไทยสร้างไทย “จะมาสร้างชัยชนะให้ประชาชน” จึงได้เสนอร่างกฎหมายบำนาญประชาชนเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว เปรียบเสมือนนำรถไปจอดที่สภา รอเพียงคนขับคือ ส.ส. ของพรรคไทยสร้างไทย ที่จะเข้าไปขับเคลื่อนให้กฎหมายบำนาญประชาชนผ่านสภาได้สำเร็จภายใน 3 เดือน


"จึงขอให้พี่น้องช่วยเลือก ส.ส. เขตดอนเมืองก็คือ นายการุณ โหสกุล หมายเลข 2 และขอให้เลือก พรรคไทยสร้างไทย พรรค “ส” หมายเลข 32 ให้ชนะถล่มทลายเป็นรัฐบาล ทุกเขตเพื่อเข้าไปยกมือให้กฎหมายบำนาญประชาชนผ่านสภาให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามประชาชนก็จะได้รับเงินบำนาญ 3,000 บาทโอนเป็นเงินสดเข้าบัญชีทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต ผู้สูงอายุสามารถเบิกไปใช้ซื้อกินซื้ออยู่ในชุมชนได้สะดวก" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวและย้ำว่า โครงการ บำนาญ ประชาชนช่วยทำให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ลดภาระลูกหลาน สร้างสุขภาพดี และยังเป็นโครงการที่จะฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน

ที่มา เนชั่นออนไลน์
“สุดารัตน์” ลงพื้นที่ดอนเมือง ปลุกเลือก “เก่ง การุณ” กาเบอร์ 32 ทสท.
15 เมษายน 2566