Saiseema Phutikarn
Yesterday
<"ปล่อยนกปล่อยปลา" ได้บุญไม่เท่า "ปล่อยคน">
อยากชวนคนที่จะไปทำบุญ "ปล่อยนกปล่อยปลา" ตามนโยบายมหาดไทย ให้มาทำบุญ "ปล่อยคน" แทนดีกว่า ด้วยการร่วมบริจาคให้ "กองทุนราษฎรประสงค์" ที่ยังคงโดนระบบยุติธรรมไทย "รีดไถ" ทุกวัน วันละหลายแสนจนล่าสุดเงินใกล้หมดบัญชีแล้ว
กองทุนราษฎรประสงค์โดยมูลนิธิสิทธิอิสรา
บัญชีเลขที่ 125-8-64752-8 ธนาคารกสิกรไทย สาขาศาลยุติธรรม
QR Code ดูได้ที่นี่
https://www.facebook.com/photo/?fbid=530870239055028&set=pcb.530884712386914
.....
กองทุนราษฎรประสงค์
December 15
เมื่อวันที่ 14-15 ธ.ค. 65 กองทุนราษฎรประสงค์ได้เบิกเงินทั้งสิ้น 271,300 บาท เพื่อนำไปใช้วางประกัน, ชำระค่าปรับ และช่วยเหลือค่าเดินทางของจำเลย ในคดีดังต่อไปนี้
1. วันที่ 14 ธ.ค. 65 เบิกเงิน 14,000 บาท เพื่อวางประกัน “จินนี่” ตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ หลังจากที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่ยอมให้ประกันประชาชนผู้นี้ และทำให้เธอถูกขังคุกมาถึง 20 วันในคดีที่เป็นแต่เพียงข้อหาดูหมิ่นศาลจากการปราศรัย ทัั้งนี้ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อพิจารณาจาก “ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดี” แล้ว “เห็นว่า คดีนี้โทษจำคุกไม่สูงมากนัก ประกอบกับผู้ต้องหามีภูมิลำเนาที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ยังไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน” จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ประกัน โดยศาลอุทธรณ์ตีวงเงินประกัน 70,000 บาท แต่เมื่อให้ติดอุปกรณ์อีเอ็มตามคำร้องของทนายความแล้ว ก็ให้ลดจำนวนเงินสดที่ต้องวางประกันลงเหลือ 14,000 บาท ศาลอุทธรณ์กำหนดเงื่อนไขว่าห้ามกระทำการลักษณะเดียวกันนี้อีก โดยระบุว่า หากผิดเงื่อนไข ศาลชั้นต้นย่อมอาจถอนประกันได้ (ไม่ใช่การริบหลักประกัน) ดูหลักฐานใบเสร็จได้ในภาพที่ 2
2. วันที่ 14 ธ.ค. 65 เบิกเงิน 29,500 บาท เพื่อชำระค่าปรับพินัยที่ศาลจังหวัดชัยนาท ให้แก่ประชาชน 1 คน ซึ่งถูกฟ้องในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและดูหมิ่นเจ้าพนักงานในระหว่างการปราศรัยที่ อ.เมือง จ.ชัยนาทเมื่อ 17 ก.พ. 64 โดยข้อหาแรกศาลพิพากษาจำคุก 4 เดือน ปรับ 20,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพ จึงลดโทษจำคุกเหลือ 2 เดือน โทษปรับเหลือ 10,000 บาท ส่วนข้อหาดูหมิ่นเข้าพนักงาน พิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 40,000 บาท ลดโทษจำคุกเหลือ 3 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี คงเหลือโทษปรับรวม 30,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยเคยถูกคุมขังในชั้นสอบสวน 1 วัน จึงให้หัก 500 บาท เหลือยอดชำระ 29,5000 บาท ดังหลักฐานในภาพที่ 3 อนึ่ง คดีนี้กองทุนวางประกันไว้ 50,000 บาท ซึ่งนายประกันจะได้เดินทางไป จ.ชัยนาท เพื่อทำเรื่องรับคืนในภายหลัง เนื่องจากทนายความแจ้งเรื่องการสารภาพมากะทันหันเพราะไม่ทันได้มีการหารือกับจำเลยมาก่อนหน้า
3. วันที่ 14 ธ.ค. เบิกเงิน 300 บาทเพื่อช่วยเหลือค่าเดินทางให้แก่ผู้ต้องหาคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 คน ในการไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษศาลแขวง 2 รัชดา ดังหลักฐานสลิปในภาพที่ 4
4. วันที่ 15 ธ.ค. 65 ที่ศาลจังหวัดยะลา เบิกเงิน 225,000 บาทเพื่อวางประกันชั้นอุทธรณ์ให้แก่ประชาชน 1 คน ซึ่งถูกพิพากษาจำคุกในความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ โดยศาลสั่งจำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษเหลือจำคุก 2 ปีสำหรับการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 1 ข้อความ ทั้งนี้ คดีนี้กองทุนฯเคยวางประกันชั้นต้นไว้ 150,000 บาท และควรจะต้องวางเพิ่มอีก 75,000 บาทสำหรับชั้นอุทธรณ์ แต่เนื่องจากศาลไม่อนุญาตให้ต่อสัญญาประกันเดิม จึงทำให้ต้องวางเงินใหม่ทั้งหมด 225,000 บาท ดังหลักฐานใบเสร็จในภาพที่ 5 ส่วนเงินประกัน 150,000 บาทเดิมนั้นได้เตรียมการทำเรื่องขอรับคืนไว้แล้วทันที ซึ่งเมื่อได้รับคืนจากศาลแล้วจะได้มารายงานต่อไป
5. วันที่ 15 ธ.ค. 65 เบิกเงิน 2,500 บาทเพื่อชำระค่าปรับที่ศาลแขวงพระนครเหนือให้แก่ประชาชน 1 คน ซึ่งถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินจากเหตุชุมนุมบริเวณแยกดินแดงเมื่อ 7 ส.ค. 64 ดังหลักฐานใบเสร็จในภาพที่ 6
6. นอกจากนี้กองทุนฯยังได้ยื่นประกันตามคำร้องของทนายความ ให้แก่ “วัชรพล” ซึ่งถูกศาลอาญาคุมขังไม่ให้ประกันมาเป็นเวลา 186 วันแล้ว จากเหตุชุมนุมที่แยกดินแดงเมื่อ 16 มิ.ย. 65 ศาลอาญาไม่ให้ประกันด้วยเหตุผลว่า “พิเคราะห์แล้วศาลนี้และศาลอุทธรณ์เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว”
ภายหลังการเบิกจ่ายข้างต้น ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเช้าวันที่ 16 ธ.ค. 65 คงอยู่ที่ 724,775.37 บาท ดังหลักฐานในภาพที่ 1
#กองทุนราษฎรประสงค์
#มูลนิธิสิทธิอิสรา
https://www.facebook.com/saiseema.p/posts/pfbid0227wLnGrWqnMRedDqXN65uWBUB8CQiynmMFpxMJnY3Sn7zWtZWa41z4zCU2FXEr31l
