วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 01, 2565

๘ ปีภายใต้อำนาจเหนือกฎหมายของผลพวงรัฐประหาร คือ “ความไร้สาระและขาดวุฒิภาวะของ สว.ตู่ตั้ง”

ดูจากความไร้สาระและขาดวุฒิภาวะของ สว.ตู่ตั้ง อย่าง กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ที่อภิปรายคัดค้านร่างแก้รัฐธรรมนูญ ปลดล็อคท้องถิ่น ของคณะก้าวหน้าที่ได้มาจากประชาชนเข้าชื่อกันสนับสนุนกว่า ๕ หมื่นคน แล้ว ตอบโจทย์ได้เลยว่า

ความตกต่ำในจริยธรรมของการเมืองไทยตลอด ๘ ปีที่ผ่านมา อันสะท้อนไปถึงปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวงในหมู่ข้าราชการ โดยเฉพาะตำรวจ-ทหาร เกี่ยวพันถึงประสิทธิภาพทางการบริหารรัฐกิจ ไปจนปัญหาข้าวยากหมากแพง มาจากอำนาจเหนือกฎหมาย

ไม่ว่าจะเป็นอำนาจที่เหมาเอาตามต้องการ เช่น มาตรา ๔๔ กำหนดให้ข้าราชการที่ทำร้ายหรือให้โทษต่อฝ่ายตรงข้ามของคณะรัฐประหาร พ้นผิด จากอาญาสิทธิ์กฎหมาย หรืออำนาจตามความเชื่อล้าหลังเกี่ยวกับชนชั้น ที่พวกตุลาการได้ประโยชน์

ตั้งแต่กรณีคดีโครงการจำนำข้าวซึ่ง ศาลปกครองกลางพิพากษาเมื่อต้นเดือนเมษายนปีที่แล้ว กลับคำตัดสินเดิมของศาลอาญาแผนกคดีการเมือง ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ต้องชดใช้ความเสียหายจากการจำนำข้าว ๓.๕๗ หมื่นล้าน

เนื่องเพราะคำสั่งทางปกครองที่ให้กระทรวงการคลังจัดการยึดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกขายทอดตลาดนำเงินเข้าคลังนั้น “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถกลับไปไล่เบี้ยกับพวกผู้ปฏิบัติการได้ เมื่อมี ม.๔๔ คุ้มครอง

มาถึงคดีอาญาที่กล่าวหา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ถือหุ้นสื่อ (บริษัท วี-ลัค มีเดีย) ต้องห้าม “มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.” ตอนนั้นคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาจะสั่งฟ้องโดยอัยการสูงสุด หลังจากตำรวจส่งความเห็นแย้งให้

แต่ศาลรัฐธรรมนูญชิงวินิจฉัย (ด้วยธงการเมือง) เสียก่อนว่าผู้ถูกกล่าวหามี พิรุธสั่งให้ตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว มาเมื่อ ๓๐ พ.ย. ๖๕ อัยการสูงสุดแถลง “สั่งไม่ฟ้อง” เมื่อพบว่า “พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะสั่งฟ้องในคดีนี้”

เท่ากับว่า ธนาธรถูกตัดสินและลงโทษตัดสิทธิทางการเมือง ทั้งที่ไม่มีความผิดทางอาญาแต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นการกระทำผิดของฝ่ายบ้านเมือง ซึ่งสามารถเอาผิดฐานประพฤติมิชอบในการปฏิบัติราชการ ตามมาตรา ๑๕๗ ได้ในมาตรฐานนิติธรรมสากล

ทว่าฝ่ายตรงข้ามของคณะรัฐประหารต้องรับโทษทัณฑ์ ถูกผู้ครองอำนาจปล้นทั้งสิทธิและทรัพย์สิน ควรที่จะฟ้องกลับไล่เบี้ยเอาผิดกับผู้ใช้อำนาจเกินกรอบกฎหมายเหล่านั้น ให้หลาบจำบ้าง ดังที่ปรากฏในเกาหลีใต้และอีกหลายประเทศ

ท้ายที่สุดก็ต้องให้ประเทศมีรัฐบาลซึ่งมาจากพรรคการเมืองที่อิงกับประชาชน มากกว่าฝ่ายสนับสนุนอำนาจนิยม ในสภาพที่พอคาดเดาได้สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า รัฐบาลที่มาจากพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน จะตอบโจทย์ลบล้างผลพวงรัฐประหารได้

(https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/pfbid067t, https://www.facebook.com/oothanawut/posts/5846188485395125/ และ https://www.voicetv.co.th/read/I91kTy593)