
Chamnan Pengpark
14h
ประเทศไทย เจ้าสัวสั่งใว้แค่350บ.ก็พออย่าให้ถึง600บ./ว.แม้ในอีก5ปีข้างหน้า
.....

สถานการณ์ชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานในประเทศไทยเป็นอย่างไร แย่แค่ไหน หากใครไม่ได้เป็นคนกลุ่มนั้นเอง แค่ออกจากบ้านแล้วกวาดสายตามองดูตามท้องถนนและสองข้างทาง ก็จะมองเห็นได้
แต่ถ้าจะว่าด้วย ‘ข้อมูล’ ก็ขอยกข้อมูลจากการประมวลผลของกลุ่มนโยบายเศรษฐกิจแรงงานระหว่างประเทศ กองเศรษฐกิจการแรงงาน กระทรวงแรงงาน ที่ประมวลผลเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 มาเผยให้เห็น
รายได้เฉลี่ยของคนไทยหลังหักภาษีอยู่ที่เดือนละ 18,046.16 บาท แต่รายจ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 21,422.35 บาท เท่ากับว่ารายได้เฉลี่ยจากการทำงาน 1 เดือน (หลังหักภาษี) เพียงพอต่อการครองชีพเพียง 24 วัน ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อเดือนในเกาหลีใต้เพียงพอต่อการครองชีพ 69 วัน ในญี่ปุ่นเพียงพอต่อการครองชีพ 63 วัน ในอิสราเอลเพียงพอต่อการครองชีพ 42 วัน และในไต้หวันเพียงพอต่อการครองชีพ 51 วัน

ค่าอาหารพื้นฐานในประเทศไทยคิดเป็น 48.07% ของค่าจ้างขั้นต่ำ ค่าเดินทางคิดเป็น 11.32% ของค่าจ้างขั้นต่ำ ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐานคิดเป็น 21.92% ของค่าจ้างขั้นต่ำ
ขณะที่ในไต้หวัน ค่าอาหารพื้นฐานคิดเป็น 16.20% ของค่าจ้างขั้นต่ำ ค่าเดินทางคิดเป็น 3.15% ของค่าจ้างขั้นต่ำ ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐานคิดเป็น 5.55% ของค่าจ้างขั้นต่ำ
ในเกาหลีใต้ ค่าอาหารพื้นฐานคิดเป็น 15.19% ของค่าจ้างขั้นต่ำ ค่าเดินทางคิดเป็น 2.47% ของค่าจ้างขั้นต่ำ และค่าสาธารณูปโภคคิดเป็น 21.92% ของค่าจ้างขั้นต่ำ
ในอิสราเอล ญี่ปุ่น และสวีเดน ที่ถูกหยิบยกมาเปรียบเทียบ ล้วนแต่มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อค่าจ้างขั้นต่ำต่ำกว่าไทยมากๆ

ตัวเลขเหล่านี้ทำให้เห็นภาพชัดว่าคนทำงานในประเทศไทยมีชีวิตอยู่ยากแค่ไหน
ที่มา Thairath Plus
อ่านบทความเต็ม
ปัญหาขาดแคลนแรงงานในไทย คงแก้ไม่ได้ ถ้ายังกดค่าแรง คนทำงานไม่พอกิน ขณะที่ตลาดงานต่างประเทศจ่ายเงินดีกว่า