วันอาทิตย์, กรกฎาคม 11, 2564

เรือเริ่มรั่วจากเมื่อพวกเป่านกหวีดเจาะ พอหนี้ครัวเรือนถึง ๙๐ เปอร์เซ็นต์ อ้างเราอยู่ลำเดียวกัน


“สี่งที่ไม่เข้าใจเลยว่าตรงข้ามวัดพระศรีมหาธาตุ คือ กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.11 ทม.รอ.) ทำไมไม่ให้คนตรวจโควิดที่ต้องตากแดด ตากฝน นอนกลางพื้นซีเมนต์ ไปใช้สถานที่ครับ”

คงไม่ใช่เพราะคำถามนี้เมื่อ ๒๔ ชั่วโมงที่แล้วของ Thanapol Eawsakul หรอกนะ ทำให้วันนี้มีข่าวออกมาว่า พรุ่งนี้ รมว.สาธารณสุขจะพิจารณาปลดล็อค ชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง ซึ่งประชาชนสามารถซื้อไปตรวจที่บ้าน ไม่ต้องไปกรำฝนรอคิวริมกำแพงวัด

ชุดตรวจดังกล่าวเรียกว่า Rapid Antigen Test kits ที่องค์การอาหารและยาอนุญาตให้ ๒๔ บริษัทจัดจำหน่ายได้แล้ว จะมีวางขายตามร้านยาทั่วไป คาดว่าสนนราคาอยู่ที่ชุดละ ๓๐๐-๔๐๐ บาท สำหรับคนที่มีประวัติเคยสำผัสเชื้อ หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง

จากโพสต์ของ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานกรรมาธิการสาธารณสุข บอกว่า “ช่วยลดปัญหาคอขวดที่ประชาชนจำนวนมากรอรับบริการตรวจ RT-PCR ในขณะนี้” ซึ่งก็เข้าลักษณะช้าไปนิด เฉกเช่นการแก้ปัญหาโรคระบาดที่รัฐบาลนี้ทำมา

มักจะวิ่งไล่ตามปัญหา หรือต้องให้โดนด่าขรมเสียก่อนค่อยทำ เหมือนที่ อนุทิน ชาญวีรกูล ถ่อไปยืนกางร่มเต๊ะท่า ว่าดูแลผู้สูงอายุรายหนึ่งซึ่งป่วยด้วยไวรัส นอนแบ้บอยู่กับบ้านในเขตทวีวัฒนา ไม่สามารถหาเตียงรักษาในโรงพยาบาลได้

ผู้ป่วยที่ตกอยู่ในสภาพอย่างนี้มีมาเป็นร้อยๆ ราย หลายเดือนแล้ว บ้างตายคาเตียง บ้างไปตายหน้าดรงพยาบาล รัฐมนตรีสาธารณสุขเพิ่งจะออกไปอำนวยความช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาลตอนเที่ยงคืนก็ครั้งนี้ คงคุ้มแหละที่มีแสงออกสื่อหนึ่งครั้ง

ข้อเท็จจริงอยู่ที่การบริหารจัดการมันห่วยมาตลอด มาได้สำนึกพยายามหาทางทำให้ถูกต้อง หลังจากลองผิด ไม่ค่อยลองถูกมานักแล้ว จะให้ประชาชนวางมือเลิกบดเลิกอัดคงไม่ได้ ขืนปล่อยไปอีกสันดานเดิมอวดเก่งไม่ฟังแล้วทำพังก็กลับมาอีก


โดยเฉพาะตอนนี้หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างยิ่ง จำนวนติดเชื้อเพิ่มเมื่อ ๑๑ กรกฎา คงระดับเกือบหมื่น (๙,๕๓๙) ตายใหม่ๆ อีก ๘๖ ราย ไม่บังควรที่จะมาหาซีน ต้องเร่งคิดเร่งดำเนินมาตรการสกัดกั้นที่เป็นผล ไม่รู้ต้องขวนขวายหา ไม่เห็นต้องเงี่ยฟังเสียงทัก

อย่าสักแต่สั่ง สั่ง สั่ง ต้องรู้ว่าทำได้ถึงสั่ง อย่างล็อคดาวน์ที่ Atukkit Sawangsuk บอกว่าเป็น ล็อคดาวน์เทียมนี่ก็ลักลั่นที่สุด มาตรการต่างๆ แค่ขอให้ช่วยๆ กันนะ เพราะล็อคดาวน์โดยไม่มีเยียวยา มันไปไม่ได้ เดี๋ยวก็ติดกึกหรือไม่ก็พังครืน

ตามข่าว ว้อยซ์ทีวีหนี้สินครัวเรือนวันนี้ เข้าไปแตะ ๙๐.๕% ต่อจีดีพีแล้วละ คงอิหลักอิเหลื่อ จะล็อคดาวน์เต็มโด๊สก็ไม่กล้า รู้แก่ใจว่าธุรกิจย่อยจะยิ่งพังกันไปใหญ่ เลยออกมาได้อย่างตามยถากรรมเล็กน้อย เป็น สั่งขี้มูก อย่างอธึกกิตว่า

หรืออย่าง แซนด์บ็อกซ์ ภูเก็ตวันแรกจ๋อยเพราะจัดการไม่ได้เรื่อง คนทำงานพลิกตัวไม่ทันคนสั่ง วันที่สองเอาการบินไทยจนนักท่องเที่ยวจากยุโรปมา ๓ เที่ยวบินสัก ๙๐๐ คนกู้หน้าได้หน่อย พอวันที่สามทำเงียบกริบ แต่คนรู้เบาะแสเอามาเปิด

“เพื่อนเป็นเซลฯ โรงแรมที่ภูเก็ต บอกนักท่องเที่ยวล็อตแรกที่มาเช็คอิน พากันรีบทะยอยเก็บเสื้อผ้าเช็คเอ๊าท์กลับบ้าน บ่นว่าชั้นถูกรัฐบาลเธอหลอกมา มาแล้วไม่มีอะไรทำ ที่เที่ยวที่กินปิดหมด (โดยเฉพาะ ไน้ท์ไล้ฟ์)ให้ฉันอยู่ทำกีอะไรคะ บอริ่งค่ะ”


การที่ โจ นูโว จิรายุส วรรธนสิน จะมากระแนะแซะต่อใคร “ตะโกนโวยวาย...กรีดร้องไห้...ด่าทอนายท้าย...บางคนแอบเจาะรู...อย่าลืมว่าเราอยู่ในเรือลำเดียวกัน” เมื่อเห็นว่ามีพวกกันเองออกมา คอลเอ๊าท์ นายทหารขี้ตู่ที่ตนเป็นนั่งร้านให้เข้ามายึดอำนาจ

นั้น มันเป็นความเห็นแก่ได้ เอาเปรียบเพื่อนร่วมชาติ หวังจะให้หัวโขนที่ตนหลงใหล ได้ครองอำนาจอย่างราบรื่นง่ายดาย ควรแล้วที่โดนรุ่นพี่ ฮ้าร์ทสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล ศอกกลับให้ว่าคนอื่นๆ เขาต้องลอยคอในน้ำกันมานาน เมื่อเหนือหัวโจทำเรือรั่วเอง

(https://www.matichon.co.th/politics/news_2821833, https://bangkokbiznews.com/news/detail/948257?aoj=, https://www.facebook.com/wanwisa.../posts/4639983329363658 และ https://facebook.com/100001454030105/posts/4261262990598793/?d=n)