
The People
Yesterday
·
“สองประเทศสามารถยืนหยัดอย่างภาคภูมิในฐานะเพื่อนบ้านที่มีอธิปไตยของตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน แต่อาจเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เคียงข้างกันด้วยความเข้าใจ เพราะอดีตที่เราร่วมกันผ่านมาคือสิ่งที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์เฉพาะในสายตาของโลก”
วันนี้ (27 ก.ค. 2568) ‘ยา กัล เทอรี’ นางแบบและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชาวกัมพูชา-จีน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการปรากฏตัวในโลกออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ โพสต์คลิปและข้อความบนเฟซบุ๊กในประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ระบุว่า กัมพูชาเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูจากสงครามและความเจ็บปวดในอดีต จึงไม่พร้อมรับความขัดแย้งหรือสงครามอีกต่อไป ไทยและกัมพูชามีรากวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ร่วมกัน ซึ่งควรเป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจ ไม่ใช่ต้นเหตุแห่งความแตกแยก ประชาชนของทั้งสองชาติต้องการสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
เนื้อหาเต็มมีดังนี้ “กัมพูชา คือบ้านเกิดของฉัน และเป็นที่ที่ครอบครัวของฉันอาศัยอยู่ เป็นชาติเล็ก ๆ ที่กำลังลุกขึ้นยืนจากเถ้าถ่านของสงครามและการเหตุการณ์นองเลือดครั้งใหญ่ เป็นแผ่นดินที่ยังคงอยู่ระหว่างการเยียวยา บูรณะ และก้าวข้ามบาดแผลทางประวัติศาสตร์ เป็นประเทศที่ไม่พร้อมรับมือกับสงครามใดๆ อีก
“คนกัมพูชาและคนไทยมีรากวัฒนธรรม บรรพบุรุษ และประเพณีที่คล้ายคลึงกัน เราแบ่งปันอดีตร่วมกันมาอย่างยาวนาน แม้กาลเวลาจะหล่อหลอมให้อัตลักษณ์ของเราแตกต่างกันไปตามบริบทของแต่ละชาติ แต่อดีตนั้นก็คือสะพานเชื่อม ไม่ใช่กำแพงกั้น การปล่อยให้ความขัดแย้งจากประวัติศาสตร์มาบั่นทอนกันในปัจจุบัน คือการถอยหลังกลับไปสู่ความเจ็บปวดเดิม
“ไม่มีความถูกต้องดีงามในการสู้รบปรบมือกัน และแน่นอนว่าไม่มีประโยชน์ใด ๆ จากการทำสิ่งนี้ มีแต่หายนะ บาดแผล ความทุกข์ทรมาน และการพลัดถิ่นฐาน โปรดอย่าลืมว่า ประชาชนไม่ได้ต้องการสงคราม ประชาชนต้องการสันติภาพ ความเป็นหนึ่งเดียว และความสามารถในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
“สองประเทศสามารถยืนหยัดอย่างภาคภูมิในฐานะเพื่อนบ้านที่มีอธิปไตยของตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน แต่อาจเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เคียงข้างกันด้วยความเข้าใจ เพราะอดีตที่เราร่วมกันผ่านมาคือสิ่งที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์เฉพาะในสายตาของโลก”
ในช่วงท้ายเธอยังได้กล่าวเป็นภาษาบ้านเกิดว่า “กัมพูชาไม่ต้องการสงคราม คนเขมรไม่อยากเผชิญสงครามอีกต่อไป”
“วันนี้เราต้องการสันติภาพ ในสถานการณ์ที่เปราะบางเช่นนี้ วันนี้ ยิ่งกว่าที่เคย ขอบคุณที่รับฟัง และเปิดพื้นที่ให้ฉันได้ส่งต่อเสียงของชาวเขมรไปสู่โลกภายนอก”
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1163003875858646&set=a.633364222155950
·
“สองประเทศสามารถยืนหยัดอย่างภาคภูมิในฐานะเพื่อนบ้านที่มีอธิปไตยของตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน แต่อาจเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เคียงข้างกันด้วยความเข้าใจ เพราะอดีตที่เราร่วมกันผ่านมาคือสิ่งที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์เฉพาะในสายตาของโลก”
วันนี้ (27 ก.ค. 2568) ‘ยา กัล เทอรี’ นางแบบและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชาวกัมพูชา-จีน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการปรากฏตัวในโลกออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ โพสต์คลิปและข้อความบนเฟซบุ๊กในประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ระบุว่า กัมพูชาเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูจากสงครามและความเจ็บปวดในอดีต จึงไม่พร้อมรับความขัดแย้งหรือสงครามอีกต่อไป ไทยและกัมพูชามีรากวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ร่วมกัน ซึ่งควรเป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจ ไม่ใช่ต้นเหตุแห่งความแตกแยก ประชาชนของทั้งสองชาติต้องการสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
เนื้อหาเต็มมีดังนี้ “กัมพูชา คือบ้านเกิดของฉัน และเป็นที่ที่ครอบครัวของฉันอาศัยอยู่ เป็นชาติเล็ก ๆ ที่กำลังลุกขึ้นยืนจากเถ้าถ่านของสงครามและการเหตุการณ์นองเลือดครั้งใหญ่ เป็นแผ่นดินที่ยังคงอยู่ระหว่างการเยียวยา บูรณะ และก้าวข้ามบาดแผลทางประวัติศาสตร์ เป็นประเทศที่ไม่พร้อมรับมือกับสงครามใดๆ อีก
“คนกัมพูชาและคนไทยมีรากวัฒนธรรม บรรพบุรุษ และประเพณีที่คล้ายคลึงกัน เราแบ่งปันอดีตร่วมกันมาอย่างยาวนาน แม้กาลเวลาจะหล่อหลอมให้อัตลักษณ์ของเราแตกต่างกันไปตามบริบทของแต่ละชาติ แต่อดีตนั้นก็คือสะพานเชื่อม ไม่ใช่กำแพงกั้น การปล่อยให้ความขัดแย้งจากประวัติศาสตร์มาบั่นทอนกันในปัจจุบัน คือการถอยหลังกลับไปสู่ความเจ็บปวดเดิม
“ไม่มีความถูกต้องดีงามในการสู้รบปรบมือกัน และแน่นอนว่าไม่มีประโยชน์ใด ๆ จากการทำสิ่งนี้ มีแต่หายนะ บาดแผล ความทุกข์ทรมาน และการพลัดถิ่นฐาน โปรดอย่าลืมว่า ประชาชนไม่ได้ต้องการสงคราม ประชาชนต้องการสันติภาพ ความเป็นหนึ่งเดียว และความสามารถในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
“สองประเทศสามารถยืนหยัดอย่างภาคภูมิในฐานะเพื่อนบ้านที่มีอธิปไตยของตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน แต่อาจเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เคียงข้างกันด้วยความเข้าใจ เพราะอดีตที่เราร่วมกันผ่านมาคือสิ่งที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์เฉพาะในสายตาของโลก”
ในช่วงท้ายเธอยังได้กล่าวเป็นภาษาบ้านเกิดว่า “กัมพูชาไม่ต้องการสงคราม คนเขมรไม่อยากเผชิญสงครามอีกต่อไป”
“วันนี้เราต้องการสันติภาพ ในสถานการณ์ที่เปราะบางเช่นนี้ วันนี้ ยิ่งกว่าที่เคย ขอบคุณที่รับฟัง และเปิดพื้นที่ให้ฉันได้ส่งต่อเสียงของชาวเขมรไปสู่โลกภายนอก”
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1163003875858646&set=a.633364222155950