วันพุธ, กรกฎาคม 30, 2568

ข่าวจากชายแดน ความเสียหายที่ชายแดนรอบนี้รุนแรงกว่าปี 54 ประมาณ 10 เท่า รัฐไม่พร้อมที่จะดูแลศูนย์อพยพ การช่วยเหลือจะกระจุก


Chainarong Setthachua
8 hours ago
·
ให้สัมภาษณ์ The Active

The Active
9 hours ago
·
นักวิชาการ ติงรัฐล้มเหลวดูแลประชาชน ในภาวะวิกฤตชายแดน
.
หวังใช้ประสบการณ์รอบนี้ เป็นบทเรียน สู่การเตรียมพร้อมรับมือที่ดีกว่า เชื่อ ยังไม่มีใครการันตีว่าเหตุปะทะจะไม่เกิดขึ้นอีก ห่วง ลัทธิชาตินิยม กำลังทำงาน วอนคนไทยอย่าสนับสนุนความรุนแรง ยกระดับสู่ประเทศที่เป็นอารยะ
.
.
อ่านเพิ่มจากลิงก์
https://theactive.thaipbs.or.th/.../socialmovement...
https://theactive.thaipbs.or.th/news/socialmovement-20250729-2

Chainarong Setthachua .
17 hours ago
·
ข่าวจากชายแดน
ได้คุยกับลูกศิษย์ที่ทำวิทยานิพนธ์ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และต้องช่วยเหลือพี่น้องชาวบ้านที่ถูกอพยพทั้งในเหตุการณ์ ปี 2554 และเหตุการณ์ขณะนีั เธอบอกว่า
1.ความเสียหายที่ชายแดนรอบนี้รุนแรงกว่าปี 54 ประมาณ 10 เท่า เนื่องเพราะอาวุธที่รบกันมีอานุภาพร้ายแรงกว่ามาก
2.แม้รัฐมีแผนการอพยพประชาชน แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ หลายคนแทบจะหนีมาตัวเปล่า แค่เอาตัวรอดก็บุญแล้ว
3.รัฐไม่พร้อมที่จะดูแลศูนย์อพยพ การช่วยเหลือจะกระจุก เช่น ที่จังหวัดสุรินทร์ จะช่วยเหลือที่อำเภอเมืองสุรินทร์เป็นหลัก ส่วนอำเภออื่นๆ เช่น บัวเชด กาบเชิง ขาดแคลนอาหาร ส่วน ชรบ.ก็ต้องอาศัยอาหารสำรองจนจะหมดแล้ว หากยืดเยื้ออีกคงมีคนอดตายแน่ๆ
4.กลุ่มคนที่แบกรับภาระหนักคือ หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ที่ต้องดูแลสุขภาพผู้อพยพ
5.กลุ่มคนที่ต้องตกเป็นเหยื่ออีกกลุ่มคือแรงงานข้ามชาติที่ชายแดน พวกเขาหวาดกลัวมากจนแทบทำงานไม่ได้ การจะพูดแต่ละคำออกมามันยากมาก จากแต่เดิมที่เคยอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตร
6.ปัญหาที่ชายแดนเป็นเพราะรัฐบาลปล่อยให้หมักหมมมานาน ฝ่ายการเมืองไม่สนใจที่จะคลี่คลายปัญหา
7.ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่รุนแรงกว่าปี 54 ยังมาจากกระแสชาตินิยมจากทั้งสองประเทศที่ใช้โซเชียลสร้างความเกลียดชัง ซึ่งขัดกันอย่างสิ้นเชิงกับโลกในยุคไร้พรมแดน ขณะที่คนที่ชายแดนต้องการสันติสุข ไม่ใช่สงคราม

https://www.facebook.com/chainarong.stc/posts/1967469917388720