
The Reporters
5 hours ago
·
HUMANITY:"ผมวิ่งเข้าไปอุ้มลูกสาวออกมาก่อนหลังระเบิดลงเพราะเห็นน้องอยู่ใกล้ แล้วเข้าไปใน 7-11 ไปหาภรรยาและลูกชาย แต่มีไฟไหม้ ผมทำอะไรไม่ได้เลย เสียใจมากที่สูญเสียครอบครัวไปทั้ง 3 คน ถ้าขอได้ก็อยากให้สงครามยุติโดยเร็ว"
นายคมสันต์ ประชัน ยังอยู่ในสภาพเศร้าเสียใจ กับการสูญเสียคนในครอบครัวถึง 3 คน รวมถึงเพื่อนของลูกที่เป็นเด็กวัย 9 ขวบอีก 1 คน จากเหตุการโจมตีของกัมพูชาด้วยเครื่องยิงจรวด BM-21 มายังปั๊มน้ำมันในบ้านผือ ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค.68 ระเบิดตกลงมาที่ร้านสะดวกซื้อ ทำให้มีประชาชนที่เป็นพนักงานร้านและคนมาใช้บริการเสียชีวิต 7 คน
"ตอนนั้นผมอยู่ในรถ จอดอยู่หน้าเซเว่น น้องผักบุ้งลูกสาวอยู่ในร้าน ส่วนภรรยา พาลูกชาย น้องฟรีคิก และเพื่อนน้องซีเกมส์ ไปซื้อของ หลังโรงเรียนประกาศให้พ่อแม่มารับลูก ผมก็ขับรถมาเติมน้ำมัน ภรรยาก็พาลูกไปซื้อขนมรอ ไม่มีใครคิดว่าระเบิดจะมาตกปั๊มน้ำมันและมาตกที่ร้านเซเว่น ผมก็ตกใจ รถก็ถูกแรงระเบิด แล้วผมเห็นลูกสาว รีบวิ่งไปอุ้มลูกออกจากในร้านมาก่อน แล้ววิ่งไปหาภรรยากับลูกอีกคน แต่หาไม่พบ แล้วระเบิดก็ทำให้ไฟไหม้ ผมทำอะไรไม่ได้แล้ว เรียกหารถดับเพลิง แต่ด้วยสถานการณ์ที่มีการยิงกันแล้ว รถดับเพลิงก็มาช้า ไฟก็ลุกไหม้ไปแล้ว ผมไม่รู้ต้องทำยังไงจริงๆ "
นายคมสันต์ เล่าให้ฟังถึงช่วงเวลาที่สะเทือนใจที่สุดในชีวิตของเขา ที่ไม่สามาถช่วยภรรยาและลูกชาย รวมถึงเพื่อนของลูกชายออกมาได้ รวมถึงลูกสาวที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์ ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ นี่จึงเป็นความสูญเสียอย่างมากในชีวิตของเขา
"ตอนอุ้มผักบุ้งออกมา ไม่มีเลือดอะไร คิดว่าลูกจะสลบ ก็พยายามตบให้มีสติ ก้อุ้มออกมาและหวังว่าจะปั๊มหัวใจให้รอดชีวิต ได้มาอยู่กับพ่อ แต่หมอบอกว่ากระดูคอน่าจะหัก โดยแรงอัดข้างหลัง หมอก็ปั๊มหัวใจอยู่นาน ผมก็บอกว่าไม่อยากให้น้องเจ็บแล้ว"
นายคมสันต์ ยอมรับว่าไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเพราะจุดนั้นไม่ใช่พื้นที่สีแดง เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมมากๆ ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับประชาชน เพราะถ้าจะทำสงครามกัน ก็ไม่ควรกระทบถึงบ้านเรือนประชาชน
"ชาวบ้านไม่รู้เรื่องจะต้องมารับเคราะห์ รับกรรมที่รบกัน ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต ถ้าจะฝากถึงรัฐบาลได้ ก็ต้องบอกว่าถ้ามีปัญหากันแค่เรื่องดินแดน ทำไมถึงขึ้นต้องทำสงคราม น่าจะพูดคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าจะรบจะยิงกันทำไมไม่ทำให้จบสิ้นไป ทำไมมาทำแล้วก็หยุดเหมือนที่ผ่านมา จนมากระทบถึงประชาชน"
นายคมสันต์ กล่าวด้วยความเสียใจ และผ่านมา 24 ชั่วโมง เขาเพิ่งได้เห็นหน้าลูกและภรรยา เนื่องจากมีการนำร่างออกจากร้านสะดวกซื้อได้ในเช้าวันนี้ และนำมาชันสูตรที่ รพ.ศรีสะเกษ จึงได้มายืนยันตัวตน แต่ยังไม่นำศพไปทำพิธีทางศาสนา เพราะอยู่ระหว่างการอพยพจากสถานการณ์การสู้รบ
สำหรับนายคมสันต์ ประชัน สูญเสียภรรยา น.ส.รุ่งรัศ ประชัน อายุ 40 ปี ลูกสาว ด.ญ.ทักษพร ประชัน อายุ 14 ปี หรือน้องผักบุ้ง ลูกชาย ด.ช.พงศภัค ประชัน อายุ 9 ปี หรือน้องฟรีคิก รวมถึงเพื่อนของลูกชายที่รับมาจากโรงเรียนพร้อมกัน ด.ช.กิตติศักดิ์ คำวัง อายุ 9 ปี
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1115845727404128&set=a.534942252161148

The Reporters
4 hours ago
·
UPDATE: กองทัพบก สดุดี 6 ทหารกล้าผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ในเหตุปะทะชายแดนไทย - กัมพูชา
วันนี้ (25 ก.ค. 68) กองทัพบก กล่าวสดุดีการเสียสละของทหารกล้าจะถูกจารึกไว้ในความทรงจำของผู้ร่วมรบ และจะสถิตอยู่ในหัวใจของทหารทุกนายตลอดไป จากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา เมื่อวันที่ 24–25 กรกฎาคม 2568 กำลังพลจากกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญในการพิทักษ์อธิปไตยของชาติ ได้เสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจด้วยความกล้าหาญและเสียสละ จำนวน 6 นาย
เสียชีวิตในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 จำนวน 1 นาย สิบตรีกองประจำการ วรัญชิต ยวงสุวรรณ สังกัด กรมทหารราบที่ 13
เสียชีวิตในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 จำนวน 5 นาย จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา สังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 106 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 6, สิบเอก นพพล บุญเลิศ สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6, สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6, สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6, สิบโท ศราวุฒิ นามสวัสดิ์ สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 8
กองทัพบก กล่าวว่า ความมุ่งมั่น กล้าหาญ และการอุทิศตนของวีรชนทั้ง 6 นายในการปกป้องแผ่นดินไทยครั้งนี้ ได้สร้างความภาคภูมิใจอย่างยิ่งแก่ครอบครัว ผู้บังคับบัญชา เพื่อนทหารร่วมภารกิจ ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน กองทัพบกจะดูแลสิทธิและสวัสดิการแก่ครอบครัวและทายาทของทหารกล้าเหล่านี้ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแห่งความเสียสละของท่านเหล่านี้
ที่มา : กองทัพบก
https://www.facebook.com/TheReportersTH
