
Pavin Chachavalpongpun
9 hours ago
·
อีกหัวข้อนึงที่อยากเขียนถึง คือการวิเคราะห์ท่าทีสหรัฐฯ และจีนในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ต่อความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
...หากอ่านจากแถลงการณ์สั้นๆ นี้ ท่าทีของสหรัฐฯ สะท้อนถึงเป้าหมายหลักในการรักษาสถียรภาพในภูมิภาคและส่งเสริมหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงสิทธิมนุษยชน สหรัฐฯ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจนในเรื่องข้อพิพาทเขตแดนโดยตรง แต่เน้นย้ำถึงการปกป้องพลเรือน และการยุติความรุนแรง สหรัฐฯ ต้องการเห็นความสงบในอาเซียน เพื่อรักษาอิทธิพลของตนและป้องกันไม่ให้จีนเข้ามามีบทบาทโดดเด่นแต่เพียงผู้เดียว
...ส่วนท่าทีของจีนมีความซับซ้อนและมีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนกว่า การที่จีนระบุว่า "รากเหง้าของปัญหามาจากอาณานิคมตะวันตก" เป็นการเล่นบทบาทต่อต้านจักรวรรดินิยม ซึ่งสอดคล้องกับวาทกรรมการเมืองของจีนเอง และยังช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากการกระทำในปัจจุบันของกัมพูชา (ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของจีน) ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ จีนต้องการปกป้องพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างกัมพูชาในอาเซียน และวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้เล่นที่รับผิดชอบที่พร้อมจะเข้ามามีบทบาท "สร้างสรรค์" ในการแก้ไขปัญหาในภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างอิทธิพลของตนเองและลดอิทธิพลของชาติตะวันตก
...ทีนี้ไทยควรทำอย่างไรเพื่อให้ "ชนะ" ในสถานการณ์นี้
1) "ชัยชนะ" ในบริบทนี้ไม่ใช่การเอาชนะด้วยกำลังทหาร แต่คือการบรรลุเป้าหมายสูงสุดในการปกป้องอธิปไตย ความปลอดภัยของประชาชน และรักษาผลประโยชน์ของชาติ รวมถึงการดำรงสถานะที่ดีในเวทีระหว่างประเทศ ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับมหาอำนาจต่างๆ
2) การสื่อสารที่เป็นเอกภาพและทรงพลัง: รัฐบาลไทยต้องสื่อสารด้วย "เสียงเดียว" ที่ชัดเจน สอดคล้องกัน และมาจากหน่วยงานหลัก (เช่น กระทรวงการต่างประเทศหรือโฆษกรัฐบาล) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีระหว่างประเทศ ต้องหยุดปัญหาการที่หลายหน่วยงานต่างคนต่างพูดซึ่งทำให้เกิดความสับสน
3) เชิงรุกและอิงหลักฐาน: ไม่ใช่แค่ตอบโต้ แต่ต้องนำเสนอหลักฐานที่ชัดเจนและหนักแน่นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการโจมตีเป้าหมายพลเรือน การวางทุ่นระเบิด และการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอื่นๆ ของกัมพูชา ให้กับสื่อต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ และรัฐบาลต่างๆ (เขียนไปหลายครั้งแล้ว)
4) เน้นประเด็นมนุษยธรรม: การเน้นย้ำถึงผลกระทบต่อพลเรือนไทยผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิง จะสร้างความเห็นอกเห็นใจและแรงสนับสนุนจากประชาคมโลกได้ดีที่สุด
...แต่ทั้งนี้ ไทยไม่ควรมุ่งหวังให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงทางทหารหรือเข้าข้างไทยโดยตรงในข้อพิพาทเขตแดน แต่ควรขอการสนับสนุนในด้านหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ การปกป้องพลเรือน และการกดดันให้เกิดการลดความตึงเครียด สำหรับจีน เราต้องเข้าใจว่าจีนจะปกป้องกัมพูชาในฐานะพันธมิตร แต่ไทยยังคงต้องรักษาช่องทางการสื่อสารที่ดีกับจีน และพยายามชี้แจงมุมมองของไทย เพื่อให้จีนเข้าใจสถานการณ์และไม่เอนเอียงจนเกินไป นอกเหนือจากนั้น เราต้องใช้ช่องทางกฎหมายระหว่างประเทศ เดินหน้ายื่นเรื่องประท้วงและดำเนินการผ่านองค์กรต่างๆ เช่น ICRC, UNSC และพิจารณาทางเลือกในการดำเนินการทางกฎหมายอื่นๆ ที่สามารถทำได้ เช่น ICC เพื่อตอกย้ำว่าไทยยึดมั่นในหลักกฎหมายสากล
...โดยสรุปแล้ว การ "ชนะ" ของไทยในสถานการณ์นี้ คือการดำเนินกลยุทธ์ที่รอบด้าน ทั้งทางการทูต การสื่อสาร และการใช้ช่องทางกฎหมาย โดยมีเป้าหมายคือการยุติความรุนแรง ปกป้องอธิปไตยและประชาชน และรักษาบทบาทของไทยในฐานะประเทศที่มีความรับผิดชอบในประชาคมโลก ท่ามกลางบริบทภูมิรัฐศาสตร์ที่มหาอำนาจต่างพยายามถ่วงดุลอิทธิพลกันและกันค่ะ
https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/9709655552469454