วันจันทร์, พฤษภาคม 19, 2568

ปีนี้ตัวเลขไม่สวย นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยหดไปเกือบ ๓% พ้องกับรายงานวิจัยว่า รัฐบาลก่อหนี้สาธารณะเพิ่มเพื่อเอาไปโปะการขาดดุลงบประมาณ

เห็นแวบๆ จากโพสต์ของนายแบกว่าจริงๆ แล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยไม่ได้ลด เพียงแต่ตัวเลขเปอร์เซ็นต์ต่าง ๑ ไม่ถึง ๒% เท่านั้น แต่นั่นก็เยอะอยู่นา พอค้นดูเจอรายงายจากศูนย์วิจัยกสิกร ว่าจำนวนหดไปเกือบ ๓% แน่ะ

“คาดปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยหดตัว ๒.% เหลือ ๓๔.๕ ล้านคน รายได้หดตัวอยู่ที่ ๑.๖๒ ล้านล้านบาท” ศูนย์วิจัยกสิกรอ้างเป็นเพราะปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ “จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว” ไม่ใช่ไทย ก็เออหยวนๆ ไป

หากแต่ว่าถ้าลงรายละเอียดสักหน่อย “นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ จากหลายปัจจัยลบ” เช่นเรื่องความปลอดภัย จากเหตุที่เกิดกับดาราจีน และความไม่สงบใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้

ส่วนปัจจัยภายนอกก็คือ แผ่นดินไหวในเมียรมาและไทยก็ทำให้มีการระงับและเลื่อนการเดินทาง และสถานการณ์ตึงเครียดขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ก็ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศลดลง นอกนั้นก็สภาพเศรษฐกิจโลก

ที่แน่ๆ ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่สมประกอบขณะนี้ อยู่ที่ “รัฐบาลก่อหนี้สาธารณะเพิ่ม เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ” เดอะ โพลิติคส์ ของค่ายมติชน แจ้งว่า “ล่าสุดปี ๒๕๖๘ กู้ถึง ๘๕๐,๐๐๐ ล้านบาท กว่า ๗๐% เป็นรายจ่ายประจำ”

ส่วนนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี เนื่องจากไทยกำลังเป็น สังคมผู้สูงวัย (ก้าวเข้าไปขาหนึ่งแล้ว) ประชากรวัยเกษียณกินบำนาญกันมากกว่าจำนวนคนในวัยทำงาน แถมด้วย หลักเกณฑ์คำนวณเดิม ให้ผลตอบแทนสูงมาก

ดูจากงบประมาณปี ๖๙ รายจ่ายในส่วนที่เป็นเบี้ยหวัด บำเหน็จ และบำนาญข้าราชการ พุ่งสูงถึง ๓๖๔,๒๘๘.๗๕ ล้านบาท คาดการณ์ว่าในอีกสิบปีข้างหน้างบประมาณตัวนี้จะต้องแตะ ๖ แสนล้านบาทแน่ๆ ผลก็คือ “อาจนำไปสู่วิกฤตการคลังที่เร็วกว่คิด”

(https://www.youtube.com/watch?v=wGTNUnR4QVs และ https://www.nationtv.tv/economy-business/378961563fA)