https://www.facebook.com/baitongpost/posts/9946333332115073
Atukkit Sawangsuk
7 hours ago
·
เยียวยาเหมือนเยี่ยวรด
กสทช. ต้องกำหนดมาตรการเยียวยาไม่ใช่ให้ทรูกำหนดเอง
...
พนิดา มงคลสวัสดิ์ - Phanida Mongkolsawat
8 hours ago
·
#เน็ตล่มไม่ใช่เรื่องเล็ก - 3วันผ่านไป การเยียวยาประชาชนยังไม่มีความชัดเจน
เหตุการณ์ที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือของทรูล่มทั่วประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ได้เผยให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในระบบโทรคมนาคมของไทยอย่างชัดเจน ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบต่อการสื่อสารของประชาชนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการขาดหลักประกันสิทธิ ของผู้บริโภคในบริการที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของชีวิตประจำวันของทุกคน
เครือข่ายทรูล่มทั่วประเทศ ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งในด้านการติดต่อสื่อสาร การทำธุรกรรมทางการเงิน การเรียนออนไลน์ การทำงานทางไกล และการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไรเดอร์ กู้ภัย ร้านค้า การชำระเงินออนไลน์ หยุดชะงักทั้งหมด เพราะผู้ใช้บริการของทรูมีจำนวนมากกว่า 62.93 ล้านเลขหมาย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 57.79% ของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดในประเทศไทย
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
แต่มันคือ ผลพวงของการควบรวมกิจการทรู-ดีแทค ที่รัฐปล่อยผ่านให้มีผู้เล่นหลักในตลาดโทรคมนาคมเพียง 2 รายใหญ่ ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางไซเบอร์ของประเทศ ที่หากเกิดปัญหาพร้อมกันจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนและเศรษฐกิจทั้งระบบ โดย กสทช. ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแล ไม่ได้ใช้อำนาจอย่างจริงจังเพื่อปกป้องประโยชน์ของประชาชนแต่อย่างใด
แม้ กสทช. จะมีการเรียกผู้บริหารของทรูเข้าชี้แจง และสั่งการให้รายงานสาเหตุของปัญหา รวมถึงกำหนดมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการภายในวันเดียวกัน พร้อมทั้งประกาศกำชับให้บริษัทเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์และโครงข่ายให้สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
แต่อะไรคือรูปธรรมของแผนความมั่นคงทางเครือข่ายโทรคมนาคมของประเทศ? เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ
การเยียวยาของทรูต่อเหตุการณ์นี้คือการให้ผู้ได้รับผลกระทบ ‘กดยืนยันสิทธิ์’ ดาต้าฟรี 10GB โทรฟรี100นาที จากข้อความที่ส่งมาทาง SMS !? สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือเยียวยาให้ใช้สิทธิ์นี้เพียง24ชม. เท่านั้น แล้วเท่ากับว่าคนที่ใช้เน็ต Unlimited อยู่แล้วไม่ได้อะไรชดเชยเยียวยาเลย แล้วแถมข้อความที่ส่งมาก็กดรับสิทธิ์ไม่ได้เพราะระบบ Error อีก ซึ่งเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมากก็แสดงถึงความไม่พอใจต่อการเยียวยาดังกล่าว
ดิฉันอยากฝากข้อเสนอนี้ไปยัง กสทช. เพื่อให้นำไปปรับปรุงการกำกับดูแล
1. การเยียวยาอัตโนมัติ: ควรกำหนดมาตรการเยียวยาอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุขัดข้อง โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้บริการร้องขอเอง และต้องให้การเยียวยาที่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
2. การทบทวนโครงสร้างตลาด: จำเป็นต้องพิจารณาโครงสร้างตลาดโทรคมนาคมใหม่ เพื่อป้องกันการผูกขาดและเพิ่มความหลากหลายของผู้ให้บริการ
3. การกำกับดูแลที่เข้มงวด: หน่วยงานกำกับดูแลควรมีบทบาทเชิงรุกในการตรวจสอบและบังคับใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก
เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการมีระบบโทรคมนาคมที่มั่นคงและเป็นธรรมต่อผู้บริโภค การดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิ และผลประโยชน์ของประชาชนในโลกยุคดิจิทัลปัจจุบัน
สุดท้ายอยากชวนทุกท่านติดตามการ “ประมูลคลื่นความถี่” ที่ กสทช. กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน 2568 นี้ด้วยกัน เพราะยังมีหลายจุดที่น่ากังวล ทั้งการตั้งราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นซึ่งอาจเสี่ยงทำรัฐเสียประโยชน์ ไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดผู้เล่นรายเล็กรายอื่นๆเข้ามามีบทบาทในตลาด นั่นเท่ากับว่าจะไม่เกิดการแข่งขันจริง ขาดหลักประกันถึงสิทธิในการเข้าถึงเครือข่ายโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง ซึ่งอาจเป็นการเอื้อให้เอกชนผู้ประกอบการมากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการ
ย้ำกันอีกครั้งว่า “คลื่นความถี่” คือ สัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเตอร์เน็ต สัญญาณวิทยุ/โทรทัศน์ มันคือปัจจัยที่ 5 เป็นหัวใจในการสื่อสารของเราทุกคน เป็นทรัพยากรที่เราใช้ร่วมกันทั้งประเทศ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล อย่าปล่อยให้ใครทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ มาช่วยกันปกป้องทรัพยากรของคนทั้งประเทศ และปกป้องสิทธิในการได้รับบริการที่คุ้มค่าเต็มประสิทธิภาพไปด้วยกันนะคะ
ปล. ใครมีประสบการณ์อย่างไรในช่วงที่เน็ตล่มมาแชร์กันนะคะ เราจะนำข้อมูลจากทุกท่านไปทำงานต่อค่ะ
#กสทช #ควบรวมทรูดีแทค #คลื่นความถี่ #เน็ตทรูล่ม
·
#เน็ตล่มไม่ใช่เรื่องเล็ก - 3วันผ่านไป การเยียวยาประชาชนยังไม่มีความชัดเจน
เหตุการณ์ที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือของทรูล่มทั่วประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ได้เผยให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในระบบโทรคมนาคมของไทยอย่างชัดเจน ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบต่อการสื่อสารของประชาชนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการขาดหลักประกันสิทธิ ของผู้บริโภคในบริการที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของชีวิตประจำวันของทุกคน
เครือข่ายทรูล่มทั่วประเทศ ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งในด้านการติดต่อสื่อสาร การทำธุรกรรมทางการเงิน การเรียนออนไลน์ การทำงานทางไกล และการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไรเดอร์ กู้ภัย ร้านค้า การชำระเงินออนไลน์ หยุดชะงักทั้งหมด เพราะผู้ใช้บริการของทรูมีจำนวนมากกว่า 62.93 ล้านเลขหมาย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 57.79% ของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดในประเทศไทย
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
แต่มันคือ ผลพวงของการควบรวมกิจการทรู-ดีแทค ที่รัฐปล่อยผ่านให้มีผู้เล่นหลักในตลาดโทรคมนาคมเพียง 2 รายใหญ่ ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางไซเบอร์ของประเทศ ที่หากเกิดปัญหาพร้อมกันจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนและเศรษฐกิจทั้งระบบ โดย กสทช. ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแล ไม่ได้ใช้อำนาจอย่างจริงจังเพื่อปกป้องประโยชน์ของประชาชนแต่อย่างใด
แม้ กสทช. จะมีการเรียกผู้บริหารของทรูเข้าชี้แจง และสั่งการให้รายงานสาเหตุของปัญหา รวมถึงกำหนดมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการภายในวันเดียวกัน พร้อมทั้งประกาศกำชับให้บริษัทเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์และโครงข่ายให้สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
แต่อะไรคือรูปธรรมของแผนความมั่นคงทางเครือข่ายโทรคมนาคมของประเทศ? เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ
การเยียวยาของทรูต่อเหตุการณ์นี้คือการให้ผู้ได้รับผลกระทบ ‘กดยืนยันสิทธิ์’ ดาต้าฟรี 10GB โทรฟรี100นาที จากข้อความที่ส่งมาทาง SMS !? สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือเยียวยาให้ใช้สิทธิ์นี้เพียง24ชม. เท่านั้น แล้วเท่ากับว่าคนที่ใช้เน็ต Unlimited อยู่แล้วไม่ได้อะไรชดเชยเยียวยาเลย แล้วแถมข้อความที่ส่งมาก็กดรับสิทธิ์ไม่ได้เพราะระบบ Error อีก ซึ่งเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมากก็แสดงถึงความไม่พอใจต่อการเยียวยาดังกล่าว
ดิฉันอยากฝากข้อเสนอนี้ไปยัง กสทช. เพื่อให้นำไปปรับปรุงการกำกับดูแล
1. การเยียวยาอัตโนมัติ: ควรกำหนดมาตรการเยียวยาอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุขัดข้อง โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้บริการร้องขอเอง และต้องให้การเยียวยาที่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
2. การทบทวนโครงสร้างตลาด: จำเป็นต้องพิจารณาโครงสร้างตลาดโทรคมนาคมใหม่ เพื่อป้องกันการผูกขาดและเพิ่มความหลากหลายของผู้ให้บริการ
3. การกำกับดูแลที่เข้มงวด: หน่วยงานกำกับดูแลควรมีบทบาทเชิงรุกในการตรวจสอบและบังคับใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก
เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการมีระบบโทรคมนาคมที่มั่นคงและเป็นธรรมต่อผู้บริโภค การดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิ และผลประโยชน์ของประชาชนในโลกยุคดิจิทัลปัจจุบัน
สุดท้ายอยากชวนทุกท่านติดตามการ “ประมูลคลื่นความถี่” ที่ กสทช. กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน 2568 นี้ด้วยกัน เพราะยังมีหลายจุดที่น่ากังวล ทั้งการตั้งราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นซึ่งอาจเสี่ยงทำรัฐเสียประโยชน์ ไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดผู้เล่นรายเล็กรายอื่นๆเข้ามามีบทบาทในตลาด นั่นเท่ากับว่าจะไม่เกิดการแข่งขันจริง ขาดหลักประกันถึงสิทธิในการเข้าถึงเครือข่ายโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง ซึ่งอาจเป็นการเอื้อให้เอกชนผู้ประกอบการมากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการ
ย้ำกันอีกครั้งว่า “คลื่นความถี่” คือ สัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเตอร์เน็ต สัญญาณวิทยุ/โทรทัศน์ มันคือปัจจัยที่ 5 เป็นหัวใจในการสื่อสารของเราทุกคน เป็นทรัพยากรที่เราใช้ร่วมกันทั้งประเทศ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล อย่าปล่อยให้ใครทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ มาช่วยกันปกป้องทรัพยากรของคนทั้งประเทศ และปกป้องสิทธิในการได้รับบริการที่คุ้มค่าเต็มประสิทธิภาพไปด้วยกันนะคะ
ปล. ใครมีประสบการณ์อย่างไรในช่วงที่เน็ตล่มมาแชร์กันนะคะ เราจะนำข้อมูลจากทุกท่านไปทำงานต่อค่ะ
#กสทช #ควบรวมทรูดีแทค #คลื่นความถี่ #เน็ตทรูล่ม
