อีกแล้ว ก.คลังของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งฟัดกับผู้ว่าแบ๊งค์ชาติ คราวนี้บอกที่ผู้ว่าฯ เบรค Entertainment Complex เป็นความเห็นส่วนตัว รมช.จุลพันธ์ว่า “ที่ผ่านมาเราก็พยายามไม่ก้าวก่ายกัน” แม้จะใช้อำนาจบริหารเหมือนกัน แต่เรามาจากเลือกตั้ง
อันเนื่องมาจาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวถึงโครงการสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลว่า มีคาสิโนรวมอยู่ด้วย แนะว่าทำไมไม่ทำโครงการ Wellness Complex แทนเสีย จะได้ไม่ดูเป็นสีเทา
เท่านี้ละ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ฉุนกึก ขึ้นเสียงเชียว “ท่านก็รักษาความเป็นอิสระ เราก็พยามไม่ได้ไปยุ่ง...เราก็มีหน้าที่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการพัฒนาต่างๆ ตรงนี้เราก็ได้ดูมาอย่างละเอียด รอบคอบ และทางคณะรัฐมนตรีก็ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว”
แม้นั่นไม่ได้หมายความว่า ผู้ว่าแบ๊งค์ชาติจะท้วงติงไม่ได้ ในอดีตสมัย ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ เป็นผู้ว่าแบ๊งค์ชาติ สฤษดิ์ ธนะรัชถ์ เป็นนายก ผู้ว่าฯ ก็ยังทักท้วงการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลบ่อยไป เพราะโครงการของรัฐบาลต้องใช้เงินจากคลัง
อย่างไรก็ตามนายจุลพันธ์คงพูดด้วยความอหังการ์ ไม่ได้ดูหน้าดูหลังเท่าไร ในเมื่อเศรษฐกิจของชาติเวลานี้อยู่ในสภาวะจำกัดจำเขี่ย งบประมาณขาดดุลสูง หนี้รัฐเพิ่ม รายได้ขาดแคลน นักท่องเที่ยวไม่มา ล่าสุด สภาพัฒน์ฯ หั่นจีดีพีเหลือแค่ ๑.๘%
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนฯ แถลงว่าอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศสำหรับทั้งปี ๒๕๖๘ จะขยายตัวได้เพียง ๑.๘% แทนที่จะเป็น ๒.๘% ตามของเดิม ทั้งที่เมื่อต้นปีการขยายตัวในไตรมาสแรกอยู่ที่ ๓.๑% ต่อเนื่องกับไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ซึ่งขยายตัว ๓.๓%
เป็นเทร็นด์ที่สาละวันกำลังเตี้ยลง รวมทั้งการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ทุกหมวดสินค้ามีการขยายตัวเพียง ๒.๖% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งขยายตัว ๓.๔% ส่วนหมวดสินค้าไม่คงทน เช่นอาหาร เครื่องดื่ม การขยายตัวลดลงจาก ๒.๓% มาเป็น ๑.๙% เป็นต้น
(https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1180889?aoj และ https://www.posttoday.com/business/724189)