วันพุธ, มกราคม 08, 2568

หลังจากพี่น้อง วิวัชรวงศ์ กลับมาเป็นข่าว ก็มีคนหยิบเรื่องเก่ามาพูดอีก เป็นเรื่องที่ พูดกันไป-พูดกันมา เมื่อ 30กว่าปีที่แล้ว จนถึงวันนี้!


ภาพจาก The Momentum
(https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3128398014118548&id=1551751431783222&set=a.1636533129971718)
.....
Suvipan Pornawalai
19 hours ago
·
หลังจากพี่น้อง วิวัชรวงศ์ กลับมาเป็นข่าว ก็มีคนหยิบเรื่องเก่ามาพูดอีก เป็นเรื่องที่ พูดกันไป-พูดกันมา เมื่อ 30กว่าปีที่แล้ว จนถึงวันนี้!
มาฟังในมุมพี่ต้อย ร้อยเรียง กัน
คุณแม่ศิรินทิพย์ เป็นลูกครึ่งไทย-ฮอลแลนด์ เกิดในไทย ปีเกิดคุณแม่อยู่ในยุคต้นรัชกาลที่ 7
ชีวิตตอนเด็กจนเป็นสาว ของคุณแม่ ค่อนข้างโลดโผน และทำหลายอาชีพ และเคยขายล็อตเตอรี่ด้วย
คุณแม่เป็นคนสวย หน่วยก้านดี และมีพื้นฐานทางศิลปินจากสายเลือด จึงได้มีโอกาสถูกฝึกให้เป็นนักร้อง และได้มาเป็นนักร้องสาว ประจำวงสรรพสามิต ในยุค 2490
ชีวิตสมรสครั้งแรก ของคุณแม่ ไปได้ไม่ดีนัก!
แต่ในทางอาชีพบันเทิง คุณแม่ไปได้อย่างสวยงาม
จนคุณแม่มาพบรักอีกครั้งในวัย 25 และสมรสอีกครั้ง กับ อาจารย์ชาลี อินทรวิจิตร ที่ต่อมาทั้งสอง ครองรักกัน นานถึง 40 ปี
อาจารย์ชาลี นี่เกิดสมัย ร.6 ก็มีชีวิตที่โลดโผน! มาจากครอบครัวธรรมดาที่ ท่าฉลอม และเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพ รร.อำนวยศิลป์ จนมีโอกาสได้เรียนต่อ ที่โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟรุ่น1
คือถ้าจะเอาดีทางการรถไฟ ปลายทางของคนรุ่น1 นี่น่าไปจบที่ตำแหน่งสูงสุดของ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สบาย แต่ก็ต้องสร้างคอนเน็คชั่นส์ด้วยตนเอง ตามระบบราชการไทย
แต่จะยังไงไม่รู้? ความสุขอีกด้านของแก คือการร้องเพลง จนช่วงนั้นชีวิตแกหักเห! ได้มีโอกาสมาเจอกับครูล้วน ควันธรรม สุดยอดปรมาจารย์ครูในวงการเพลงตลอดกาล!
อาจารย์ชาลี เลยมีโอกาสต่อยอด และปล่อยแสงออกมาช่วงนั้น!
ช่วงชีวิตวัยหนุ่มของอาจารย์ชาลี ตอนแรก ได้เป็นนักร้องหน้าม่าน!
นักร้องหน้าม่าน ความหมายคือ เป็นนักร้องสำรอง ที่คอย ร้องคั่นเวลาให้คนดูไม่เบื่อ สลับระหว่างหลังม่านแดงที่หุบอยู่ เพื่อทำการเซ็ตเครื่องดนตรีให้มีความพร้อม
ก่อนจะเปิดม่าน และมีนักร้องหลักตัวจริงออกมา!
อาจารย์แกก็ฝัน ที่จะเป็นนักร้องหลัก และไต่เต้าตามลำดับ!
แต่พอได้ใกล้ชิดครูล้วน และได้รับการถ่ายทอดที่ดี
ครูล้วนเอง ก็เห็นความอัจฉริยะของลูกศิษย์คนนี้
นักร้องชาลี จึงพลิกโอกาส ใช้ความสามารถพิเศษของตนเอง มาเป็นนักแต่งเพลง อยู่เบื้องหลังในเวลาต่อมา
พอคลุกคลีในวงการบันเทิงมากๆ ในการอยู่เบื้องหลังของศิลปินต่างๆ ทั้งนักร้องและนักแสดง แกก็เห็นกระบวนการทำงานโดยรวม
ไม่นานจากนั้น แกก็พัฒนาตัวเองไปเป็นผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ หลายเรี่อง
อาจารย์ชาลี อายุมากกว่าคุณแม่ 4 ปี และทั้งสองคนก็ใช้ชีวิตในวงการบันเทิง ตั้งแต่หลังแต่งงาน จึงทำให้คุณแม่มีผลงานการแสดงออกมา โด่งดัง เป็นจำนวนมาก
ฝั่งอาจารย์ชาลีสามี ก็มีผลงานแต่งเพลงอยู่ในระดับชั้นนำของวงการ
ช่วง 2คน แต่งงานกันใหม่ๆ มีดราม่าในวงการบันเทิง โดยคุณแม่หยิบเอาชีวิตที่โลดโผนของตนเอง ทั้งงานและความรักที่ล้มเหลว มาเล่าหลายที่
จนมีคนขอเอามาทำเป็นบทละครวิทยุ เรื่อง “ม่านน้ำตา”
ตอนนั้นคุณแม่เริ่มโด่งดังแล้ว พอเป็นละครวิทยุที่เล่ามาจากชีวิตจริง
ผู้คนก็ติดตามฟังกันจำนวนมาก! แบบฮอทมากๆ
ฮอทขนาดว่า ทำเป็นละครวิทยุ อย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องเอามาทำเป็นภาพยนตร์ด้วย
สมัยนั้น ภาพยนตร์เรื่องม่านน้ำตา ผู้รับบทเป็นคุณแม่ศิรินทิพย์ คือ คุณเพชรา เชาวราษฎร์
และเอาออกมาฉาย ที่โรงหนังคาเธ่ย์ โรงแทบแตก!
พอหนังฉาย เกิดดราม่าหนักกว่าเดิม!
เพราะบทในหนังไป แซะ! สามีคนแรกของคุณแม่
จนต่อมามีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทกัน
จบตรงที่ศาลฯไกล่เกลี่ย ให้ผู้กำกับเรื่องนี้ มาขอขมาฯ และประกาศลงหนังสือพิมพ์ในคำขอโทษ
ทุกอย่างจึงจบ!
สามีคนที่สองคืออาจารย์ชาลี แกก็ยืนข้างคุณแม่ตลอดชีวิต อาจารย์ จึงแต่งเพลงออกมา หลังดราม่าในศาลฯ ชื่อ
“ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก” และให้คุณ สวลี ผกาพันธุ์ เป็นผู้ขับร้อง!
เพลงนี้เราร้องได้ด้วย!555 เพราะชอบมาก
และคนที่ร้องไพเราะที่สุดก็คือคุณสวลี นี่แหละ
ลองไปหาฟังใน YouTube กันนะครับ!
ชีวิตรักของทั้งสองคน ก็ราบรื่นมาโดยตลอดหลายปี
โดยเฉพาะอาจารย์ชาลี อินทรวิจิตร แกก็ปล่อยของออกมาในวงการ นับพันเพลง
หลายเพลงของแก คือเพลงไทยที่คลาสสิกตลอดกาล จนถึงวันนี้ เช่น
แสนแสบ , ท่าฉลอม , เรือนแพ , มนต์รักดอกคำใต้ , ทุ่งรวงทอง , จำเลยรัก , รักเธอเสมอ และ บ้านเรา
และเพลงที่คนในชาติ ร้องได้ทุกคน อีกเพลงของแก คือ
#เพลงสดุดีมหาราชา
แกเป็นคนท่าฉลอม พอแกแต่งเพลง ท่าฉลอม ออกมา จึงอินมาก ด้วยการไขว้ สาวมหาชัย แผ่นดินฝั่งตรงข้ามบ้านแก ที่มองข้ามแม่น้ำก็เห็นกัน ที่แกเคย PuppyLove
เอาง่ายๆ ในยุคนั้นนักร้องใครที่เป็นท็อปไฟว์ในประเทศ ทุกคนจะเดินเข้ามาหาแก ขอร้อง ให้แกแต่งเนื้อเพลงให้
มีอยู่เพลงนึง ที่ไม่มีใครขอร้องให้แกแต่ง
แต่แกแต่งเอง ให้ฟรีๆ เพื่อเอาเพลงนี้ไปต้อนรับแขกวีไอพีของแก ชื่อเพลงว่า “บ้านเรา” หลายคนคงร้องเพลงนี้กันได้!
แกแต่งเพลงนี้ให้ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ขับร้อง!
เพราะมีช่วงนึง! คุณสุเทพ โดนมรสุมทางการเมือง โถมใส่! จนเหมือนถูกเนรเทศ ให้อยู่ต่างประเทศ และกลับประเทศไทยไม่ได้!
ตอนปีพศ.2500 จอมพล ป. ส่งกลุ่มศิลปินนักร้องชื่อดังของไทย ไปแลกเปลี่ยนศิลปะวัฒนธรรม กับประเทศจีน และระหว่างที่คณะนักร้องชื่อดังของไทย แสดงอยู่ในจีน!
จอมพลสฤษดิ์ ยึดอำนาจ! จอมพล ป. ในปีนั้น!
จนจอมพล ป. ต้องหนีออกไปนอกประเทศไปอยู่ที่ญี่ปุ่น
จอมพลผ้าขาวม้าแดง ภรรยาเยอะ! โฉนดกองสูงเท่าเพดานบ้าน
ประกาศว่า คณะนักร้องพวกนี้ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์! และตั้งข้อหาอย่างรุนแรง ว่า เป็นภัยต่อชาติ!
อาจารย์สุเทพ วงศ์กำแหง จึงกลับไทยไม่ได้ 3 ปีแล้วก็หอบผ้าผ่อน จากจีน ไปอยู่ที่ญี่ปุ่น
โดยได้รับความช่วยเหลือจากจอมพล ป. ที่ญี่ปุ่นให้การช่วยเหลือแกอยู่ จึงให้มาอยู่ด้วยกัน
จนทุกอย่างเริ่มผ่อนคลายลง คุณสุเทพจึงได้กลับมาไทย!
อาจารย์ชาลี จึงแต่งเพลง “บ้านเรา”
แสนสุขใจแม้จะอยู่ที่ไหน ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา
ให้คุณสุเทพร้อง เป็นการต้อนรับ!
จนกลายเป็นเพลงอมตะ!
มีท่อนหนึ่ง ในเพลงนี้ ที่แต่งเนื้อในปี พศ.2503
เหมือนอาจารย์ชาลี จะเกิดก่อนกาล
และแต่งเนื้อให้คุณทักษิณ ที่แกไปประชุมที่สหรัฐ และโดนทหารยึดอำนาจแก
และ 2ปีถัดมาแกกลับมา ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ และก้มกราบพื้น จูบพื้น
ก่อนไม่นานแกจะขอไปดูโอลิมปิคแล้วไม่ได้กลับมาเลยเป็น 10 ปี
บุญนำพา กลับมาถึงถิ่น
ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร
ในวงการนักแต่งเพลง และนักร้องในยุคนั้น ไม่ได้กว้างมากนัก เดินสวนกัน ในงานใหญ่ๆ เห็นหน้ากัน รู้จักกันหมด
ก็มีครูเพลงอีกท่านนึง คืออาจารย์ธนิต ผลประเสริฐ นักแต่งเพลง และภรรยา คุณเยาวลักษณ์ โกมารกุล ณ นคร ที่เป็นนักร้องสาว ของวงสุนทราภรณ์
ก็กลายเป็น 2บ้านนี้ รู้จักกันดี!
อาจารย์ธนิต และภรรยา มีลูกสาวหน้าตาดี 1 คน ก็คือ คุณยุวธิดา ผลประเสริฐ ที่ต่อมาถูกชักชวน เข้าวงการแสดง และ เป็นนางเอก ที่โด่งดังเลย เมื่อเข้าวงการหลายเรื่อง
เรื่องที่โด่งดังคือเรื่อง “แสนแสบ”
และเพลงแสนแสบ ที่ติดหูจากภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจารย์ชาลี ก็เป็นคนประพันธ์ให้ใหม่!
ก็เอาเป็นว่าผู้คนในยุคนั้น! ก็สามารถเชื่อมโยงได้เองว่า สองบ้านนี้มีความสนิทสนมกัน
ผลักดันกัน จนลูกสาวอีกบ้านนึงโด่งดัง! เพราะมันก็ค่อนข้างมีเหตุผลที่ยืนยันกันได้จาก footprint! ข้างต้น!
เรื่องนี้จะไม่ได้เป็นเหตุใหญ่โตเลย และถือเป็นเรื่องปกติ
ถ้าในปี 2530 คุณแม่ ไม่หายตัวไป #โดยการถูกลักพาตัว
ซึ่งคุณแม่ก็เป็นคนดังในวงการ จึงยิ่งเป็นข่าวใหญ่โต พาดหัวหนังสือพิมพ์ในยุคนั้น ทุกฉบับ และพูดกันในที่ลับหลายเดือน จนแหวกเหตุนี้ ไปหลายประเด็น แต่ข่าวเขียนไม่ได้!
คนในยุคนั้น จะจำบทบาทการแสดงของคุณแม่ได้ ที่เป็น มีม! ติดตา ติดใจ ประชาชน ตลอดกาล
คือบทบาทที่ประชาชนเกลียดที่สุด! ในการรับบทแม่ ของท่านชายกลาง ในภาพยนตร์เรื่อง “บ้านทรายทอง”
ที่คุณจารุณี สุขสวัสดิ์ รับบทเป็นเด็กสาวบ้านนอก ที่ถือตัวยืนหยัดในสายเลือดสว่างวงศ์ ที่ไม่ก้มหัวให้ใครที่มาเหยียดนาง
ถือชะลอมสานไม้ไผ่ ถักหางเปีย เป็น “พจมาน สว่างวงศ์”
ไปเป็นสมาชิกบ้านคฤหาสน์ทรงยุโรป คุณแม่ศิรินทิพย์ บอสส์ตัวจริงบ้านทรายทอง มีลูก3 เป็นหญิงใหญ่พร้อมตบ! ชายกลางพร้อมสูบไปป์ ไม่ทำการทำงาน และชายน้อยผู้พิการน่าสงสาร
เวลาค่ำ ก่อนวันที่คุณแม่หายตัวไปตลอดกาล
มีโทรศัพท์สายนึง โทรมาที่บ้านคุณแม่บอกคุณแม่ว่า
อยากจะจ้างคุณแม่ไปถ่ายแบบปฏิทินประจำปี มีคนดังหลายคน มาร่วมถ่ายด้วย และมีค่าตัวให้คุณแม่ 10,000 บาท
บริษัทที่ติดต่อมาเป็นบริษัททำสื่อเจ้านึง ชื่อไม่เคยได้ยิน
และบอกให้คุณแม่ มาเจอที่ฟู๊ดคอร์ด เดอะมอลล์รามคำแหง และไห้คุณแม่ เตรียมชุดเสื้อผ้า เป็นชุดไทยมาด้วย!
ในบ้านก็อยู่กันสองคน!
คุณแม่ก็บอกอาจารย์ชาลี ตามรายละเอียดนี้ทั้งหมดแล้ว คุณแม่ก็ออกจากบ้านไป และไม่กลับมาอีกเลย
ช่วงหลายเดือนที่อาจารย์ชาลีเข้าติดตามค้นหาภรรยาแก
แกก็แต่งเนื้อเพลงออกมาเพลงนึง แต่ใช้ทำนองสากลจากวง Bread และใส่เนื้อเพลงพร่ำพรรณนาถึงภรรยาแก ชื่อเพลงว่า “เมื่อเธอจากฉันไป” และให้คุณก้อยพรพิมล ธรรมสาร ร้อง
ชื่อเรื่องที่เราเขียนนี้!
#คุณแม่ศิรินทิพย์ปริศนาข้ามกาลเวลา
<< #จบตอนที่หนึ่ง
ต่อเลยนะ! อย่าพัก ในเรื่องแบบนี้!555
คดีนี้ถือว่าใหญ่มาก เพราะประชาชนให้ความสนใจ!
ตำรวจ ก็ทำงานอย่างหนัก! และสื่อฯ ก็เกาะไม่ปล่อย!
ตำรวจลงพื้นที่ ฟู๊ดคอร์ทเดอะมอลล์ รามฯ จุดสุดท้ายที่ทราบว่าคุณแม่ไป! พยานแวดล้อมตรงนั้น ให้ข้อมูลว่า เห็นคุณแม่ ขึ้นรถโตโยต้า โคโรลล่า DX ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ไปพร้อมกับผู้ชายสวมเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาว มีผ้าพันคอสีเหลืองอ่อน ขึ้นรถไปพร้อมกันสองคน ไม่ทราบว่าไปไหน?
ต่อมา อาจารย์ชาลี ก็ไปแจ้งความฯ ตำรวจก็ซักแกอยู่นาน เพราะเป็นบุคคลใกล้ชิดที่สุด และเป็นคนสุดท้ายที่แยกกับคุณแม่
ตำรวจตั้งประเด็นไว้เยอะ
ทั้งเรื่องการลักพาตัว
ทั้งอาจจะปัญหาในครอบครัว
ทั้งอาจจะเรื่องซู้สาว
และ ทั้งเรื่องหนี้สิน จากการพนัน
๏เรื่องลักพาตัว ตำรวจรอการติดต่อกลับมาจากคนร้ายว่า มีจุดประสงค์เรียกค่าไถ่ หรือไม่?
๏เรื่องปัญหาครอบครัว เพราะหลังจากตำรวจซักอาจารย์เพิ่มแล้ว อาจารย์ยอมให้ข้อมูลว่า ตนเองก็เล่นการพนันบ้าง และภรรยาไม่ชอบ! จนมีปากเสียงกันบางครั้ง และรับปากภรรยาว่าจะเลิกในเรื่องนี้ จนมีการงอนกันบ้าง ในเรื่องนี้
๏เรื่องหนี้สิน ให้ข้อมูลว่ามีบ้างเล็กน้อย
ตำรวจเสาะหาข้อมูลว่า อาจารย์แกสนิทกับใครอีก ที่จะนำพามาเชื่อมโยงในเรื่องหนี้สินและการพนัน
พบว่ามีชายสองคน ที่เข้ามาเกี่ยวโยง ในเรื่องนี้ด้วย
ตำรวจ ก็ไปพาตัว2คน มาซักอย่างละเอียด! จากนั้นก็ปล่อยตัวไป
แต่ก็ยังเฝ้าติดตามอยู่ห่างๆ
ไม่กี่วันหลังจากนั้น อาจารย์มาให้ข้อมูลว่า
มีสายโทรศัพท์เข้ามาที่บ้าน เรียกค่าไถ่จำนวนหนึ่งล้านบาท แกจึงไปแจ้งความตำรวจอีกครั้ง
เพราะแกจำเสียงได้ว่า เป็นชายหนึ่งในสองคนที่เคยเป็นบริวารของแก
และเป็นกลุ่มสองคนนั้น ที่ตำรวจ เคยเรียกมาซักและปล่อยตัวไป
ผู้ต้องสงสัยรายนั้น หนีคดีนี้อยู่นาน 4-5 ปี
จนตำรวจได้เบาะแสว่าหลบหนีไปอยู่ที่หัวหิน
และวันที่ตำรวจบุกเข้าจับตัว
ผู้ต้องสงสัย ก็พกอาวุธปืน และยิงต่อสู้กับตำรวจ!
จนสุดท้าย ผู้ต้องสงสัย ถูกวิสามัญฆาตกรรม!
ยิงเข้าที่อกซ้าย 1 นัด ตัดทะลุขั้วหัวใจ
อีกนัดหนึ่ง ยิงเข้าที่ปาก!
นับจากวันที่คุณแม่หายตัวไป
จนถึงวันที่ผู้ต้องสงสัยถูกวิสามัญฆาตกรรม
คือ ระยะเวลาเกือบห้าปี!
ข่าวบอกว่า ตอนนั้นตำรวจยิ่งถึงทางตัน! เพราะผู้ต้องสงสัยสิ้นลม! ยิ่งยากที่จะไขปริศนา ทั้งหมด ว่า คุณแม่อยู่ที่ไหน? และถ้าถูกฆาตกรรม ร่างไปถูกเก็บไว้ที่ไหน?
ถึงขั้นที่ตำรวจทำพิธีมูเตลู! พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ชี้ทาง
เหลือผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งคน คือลูกชายผู้ตาย! ตำรวจก็พากลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และตั้งข้อหาล่อลวงไปฆาตกรรม
แต่ศาลยกฟ้อง! และปล่อยตัวออกมา!
เพราะศาลบอก มีพยานปากเดียวไม่ชี้ชัด
และไม่มีใครเจอร่างของคุณแม่

จนระยะเวลาล่วงเลยกฎหมาย ที่ให้ตีตก! ว่า
คุณแม่เป็นผู้สาบสูญ!
<< #จบตอนที่สอง ยังมีเรื่องราวอีก! ที่เป็นปริศนาที่อาจารย์ชาลี ทิ้งเอาไว้! ในตอนช่วงที่คุณแม่ หายไปในช่วงแรก!
ต่อเลยนะ! ขอจงอย่าพักในเรื่องนี้!555
คุณแม่ หายตัวไปด้วยการถูกลักพาตัว อย่างแน่นอนในเดือนธันวาคม 2530
นอกจากอาจารย์ชาลี จะสร้างสรรค์เพลงในทุกจังหวะชีวิตของแก ทั้งที่สะดวก และสะดุด
๏จังหวะชีวิตที่สะดวก สบายใจ แกก็จะสร้างสรรค์เพลงได้อย่าง เพลง “บ้านเรา” ที่แต่งให้นักร้องที่แกชื่นชอบ อย่างคุณสุเทพ วงศ์กำแหง
๏จังหวะชีวิตที่ภรรยาแกโดนสามีคนแรก กลับมาร้าวราน แกก็แต่งเพลง “ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก”
๏จังหวะที่สะดุดในชีวิตช่วงแรกที่ภรรยาหายตัวไป ก็แต่งเพลง “เมื่อเธอจากฉันไป”
ในปี 2531 ถัดมาแค่ไม่ถึงปี! แกแต่งเพลงนึง ที่โด่งดังมาก! ในปีนั้น! ผู้คนร้องเพลงนี้กันได้ทั้งเมือง!
#และเป็นเพลงที่จังหวะสนุกมาก และมียอดขายเทปคาสเสทส์ ถล่มทลาย!
อาจารย์แกแต่งเนื้อเพลงให้อย่างเดียว
เพราะทำนองเพลงนี้
นักร้อง ผู้ร้องเพลงนี้จนโด่งดัง เป็นผู้แต่งทำนอง!
ล้อมวงกันเข้ามา ค่อยๆ ถอดแต่ละคำในเนื้อเพลงนะครับ
#เพลงเทวดาเดินดิน
เนื้อเพลงโดย ชาลี อินทรวิจิตร พ.ศ. 2531
ใช่อยากเด่น อยากเป็นเทวดา
เสื้อและผ้า เราก็แต่ง เหมือนใครๆ
เราซื้อใน ตลาดนัด ของเก่าๆ
ไอ้ตัวเรา ก็เท่านี้
ใช่อยากเด่น เป็นผู้นำ หรือตาม
ยอมรับใน ความเท่ากัน บรรดามี
คนทุกคน มีค่างาม ในความดี
โลกจึงมี วันนี้ให้ฉัน
ฉันเคย ล้มลุก คลุกคลาน
ผ่านชีวิต ทุกอย่าง
ตั้งหลายครา ฉันเคยหลงทาง
ห่างบ้าน ห่างคนเห็นใจ
#เป็นเทวดา_แล้วใยต้องมา_เดินดิน
#ลืมเพดานบิน_ถึงกินข้าวแกงทุกมื้อ
เจียมตัวตน เพราะเราเป็น คนซื่อๆ
สองมือ นี่สร้างตัวเอง
เป็นเทวดา ฉันยังต้องมา ครวญเพลง
ตัวเองพอใจ เพราะเพลง ไม่เคยคิดร้าย
เป็นตัวตน เพราะเราเป็นคนง่ายๆ
ฉันเองใช่เทวดา สักหน่อย
~จบเพลง~
ซึ่งมีปริศนาอยู่กลางเพลง
ยุคนั้น คนฟังเพลงที่ร้องตาม ขยับเท้าตาม
ไม่ได้คิดอะไรหรอก!
พี่แจ้ คนที่ร้องเพลงนี้ และเอาทำนองที่ตนเองแต่ง มาให้อาจารย์ใส่เนื้อร้อง! ไม่รู้พี่แจ้ได้คิดอะไรตามหรือเปล่า? หลังจากร้อง!
น่าไปถามแกนะ! ร้านแกขายเหล้าอยู่เลียบด่วนฯ ใครจะไป ก็นัดกัน เลี้ยงพี่ด้วย พี่จะเป็นคนถามเอง!555
แต่ถ้าใครเปิด YouTube ดู MV ต้นฉบับเพลงนี้จากค่ายพี่แจ้ ก็จะไม่คิดอะไร เพราะเพลงมันสนุก และMV ก็ฝังความตลกฝืดๆ ในการใช้ชีวิตของคนชั้นกลางในเมือง ในช่วงยุคพ.ศ.2531 นั้น
หลังจากยุบวงแกรนด์เอ็กซ์ และพี่แจ้นักร้องนำ มาออกผลงานเดี่ยวในค่ายของตัวเอง
ก็จัดว่า พี่แจ้โด่งดังที่สุดมากกว่าใครในวง! ที่แยกกันออกมา
เพลงเทวดาเดินดิน โดดเด่นมาก!
จนพี่แจ้ หยิบเอามาไว้ในเพลงที่1 หน้าA 
จนตั้งชื่ออัลบั้มว่า “เทวดาเดินดิน” ด้วย
<<< #จบตอนที่3
ถ้าคนแวะมาอ่าน คิดว่าพี่ต้อยมโน มาฟังตอนสุดท้ายกัน พี่จะได้ปิดจบเรื่องนี้
ในปีเดียวกัน 2531
นักแต่งเพลงชื่อดัง และเป็นนักร้องชื่อดัง ระดับเดียวกับพี่แจ้ในยุคนั้น
เหมือนพี่เค้าก็ได้ยินเพลงนี้ของพี่แจ้ และเชื่อเถอะ
แกก็คงสืบหาได้ว่าใครแต่งเนื้อเพลง เทวดาเดินดิน
แล้วก็คงทราบว่าคืออาจารย์ชาลี
แกจึงแต่งเพลงนี้ออกมา ซ่อนปริศนาอันที่สอง และเหมือนตั้งใจ เลือกใช้คำ ที่เชื่อมโยงกันคือ “เทวดา”
ล้อมวงกันเข้ามา ค่อยๆ ถอดแต่ละคำในเนื้อเพลงนะครับ
#เพลงเทวดาถ้าจะแย่
เนื้อเพลงโดย ยืนยง โอภากุล พ.ศ. 2531
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง ไม่ใช่รถราง รถเมล์ รถไฟ
ล็อตเตอรี่ มันขี่ไม่ได้
ชาวบ้านหวังรวย เล่นหวยกันใหญ่
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
ชาวนา หน้าแดง หน้าดำ
มือที่กำ เคียวเกี่ยว รวงข้าว
ทุกข์อก ทุกข์ใจ ปวดร้าว
ราคาข้าว มันไม่ค่อยดี
จะให้มี ความหวัง ทางใด
ดูสดใส เท่าล็อตเตอรี่
เงินทอง แม้ไม่ค่อย จะมี
กระเบียด กระเสียน กระเสือก กระสน
ขวนขวาย เลขหมาย เด็ดๆ
ตามโพย ตามเคล็ด ตามวัด ตามวา
เทวดา ขอให้ช่วย ลูกด้วย
ถ้าลูก ถูกหวย จะเลี้ยงเทวดา
จะเชิญมา ตั้งก๊ง วงเหล้า
ปาร์ตี้ขี้เมา สรวลเส เฮฮา
ข้าวปลา หมูเห็ด เป็ดไก่
ผลหมาก รากไม้ ทั้งกัญชง กัญชา…เพียบ
เทวดา ผ่านมา พบเห็น
มนุษย์ อุจจาระเหม็น ร้องหาเทวดา
ปัญหา มันอยู่ตรงไหน
คับอก คับใจ ชาวไร่ ชาวนา
ปัญหา มันอยู่ตรงหวย
วอนให้ เราช่วย ถูกหวย สักครา
เทวดา หยุดคิด นิดหนึ่ง
ก็บ่นรำพึง รำพัน ออกมา เฮ้ออออ
เทวดา ยุคนี้ ก็ลำบาก
อดๆ อยากๆ จนด้อยปัญญา
วิชา อาคม ก็ถดถอย
เพราะมี #เมียน้อย เลยไม่มีเวลา
สังคม เทวดา ยังยุ่ง
#มัวแต่จะมุ่ง #แย่งกัน #เป็นใหญ่
เทวดา #เล่นด้วย #ได้ไหม
เล่นหวย กันยังไง ช่วยสอนเทวดา
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
ไม่ใช่ รถราง รถเมล์ รถไฟ
ล็อตเตอรี่ มันขี่ไม่ได้
เทวดา หวังรวย เล่นหวยกันใหญ่
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
เทวดา หน้าแดง หน้าดำ
เพราะใจถลำ ติดล็อตเตอรี่
ชาวนา เขาก็ ไปดี
ไปมีงานทำ ตะวันออกกลาง
จนใจ และจน ปัญญา
เป็นเทวดา ให้ทำ ไงได้
อยู่บนฟ้า ไม่มีนา มีไร่
มีแต่ก้อนเมฆ ก็เช่า เขาอยู่
ค่าไฟ ยังไม่จ่าย ดวงอาทิตย์
ค่าน้ำ ยังติดหนี้ ดวงจันทรา
โชคชะตา พาชิวิต ลำบาก
ถึงกับ #ถอดหน้ากาก #จำนำชฎา
ปัญหา มันอยู่ตรงหวย
ก็หวังจะรวย เป็นเศรษฐี เทวดา
แต่ผ่านมา ไม่เคยแทงถูก
จนเข้ากระดูก #กระเป๋าเทวดา
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
ไม่ใช่ รถราง รถเมล์ รถไฟ
ล็อตเตอรี่ มันขี่ ไม่ได้
ชาวบ้าน หวังรวย ถูกหวย กินหมด
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
~~ จบเพลง ~~
และมีปริศนาอยู่กลางเพลง และท้ายเพลง
ฟีลลิ่ง อารมณ์ของเพลง คือสนุกสนาน แนวเดียวกับเพลงเทวดาเดินดิน
จึงทำให้ผู้คนที่ร้องตาม ไม่ได้คิดอะไร
และยังขำบางช่วงของเนื้อเพลง!
เหตุผลที่พี่แอ๊ดแต่งเพลงนี้ออกมา จะจับจุดได้ง่าย ถ้าใครเกิดทันในปีก่อนนั้น!
ที่เป็นความอัปยศ อดสู! ของสำนักงานกองสลากฯ
ในช่วงที่กำลังออกรางวัลที่ 1 ด้วยการหมุนวงล้อ
ในยุคนั้นยังไม่มีการถ่ายทอดสด
และการหมุนวงล้อ ก็ใช้เป็นการหมุนวงล้อด้วยไฟฟ้า!
ไม่ได้ใช้คนสวยขึ้นไปยืนยิ้ม หมุนวงล้อบนเวที และถ่ายทอดสดๆ
การหมุนวงล้อออก #รางวัลที่1 ที่น่าอัปยศครั้งนั้น!
แรงหนืด! ของวงล้อที่ควรจะค่อยๆ อ่อนแรงลง ตามธรรมชาติ และหมายเลขไปหยุดที่ช่องเบอร์อะไร
#ก็ขานเลขเป็นเบอร์นั้น
ความพินาศ! บังเกิด เพราะว่า
สายตากรรมการทุกท่าน ที่นั่งอยู่ด้านล่าง มองบนเวที คือ ส่องเลขท้ายหลักสิบ และ หลักหน่วย
กลไกวงล้อ มันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ
ขณะช่วงวงล้ออ่อนแรง เหมือนมีอะไรไปสะดุดกลไก
ตั้งใจให้มันหยุดในเลขที่ กลุ่มคอลเซนเตอร์ลับ ตั้งใจ!
กรรมการหลายคนด้านล่าง จึงปีนขึ้นเวที เพื่อไปดูใกล้ๆ และพบว่า
มีกลไกขนาดจิ๋วเป็นแท่งเหล็กเล็กซ่อนอยู่ และทาสีดำให้กลมกลืนกับเฟืองวงล้อ เพื่อปิดบัง
และขาตั้งวงล้อ ก็ซ่อนสายไฟเพื่อส่งต่อพลังงานแบตเตอรี่ให้ครบวงจร สั่งการความอัปยศ ด้วยรีโมตคอนโทรล!
จนกองสลากฯ ได้ทำการยกเลิกการออกสลากในครั้งนั้น
ซึ่งโคตรทำร้ายจิตใจชาวบ้านทั้งประเทศ! เหมือนตัดเส้นทางทำมาหากินหลักของชาวบ้าน!555
ตั้งแต่นั้นมา จึงเปลี่ยนการออกรางวัล โดยมอบหมายให้สจล. สถาบันเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นผู้ออกแบบอุปกรณ์การออกรางวัล ใหม่ทั้งหมด!
พี่แอ๊ด อาจจะคะเนผิดที่ซ่อนปริศนาในเพลงก็ได้ เพราะไม่มีหลักฐานใด โยงถึงปริศนาที่ซ่อน
มีแต่คำที่พูดกันไปสิบทิศ สิบทาง
เหมือนการที่ไม่เจอร่างคุณแม่! ที่เป็นปริศนาจนทุกวันนี้
และอาจารย์ชาลี ก็สิ้นบุญ หมดเวร หมดกรรม ไปหลายปีแล้ว
จู่ๆ เรื่องนี้ก็ถูกนำ กลับมาพูดกันอีก!
และแน่นอน กลุ่มคนที่เป็นเจนZ เจนอัลฟ่าเติบโตไม่ทัน ที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดนี้
พอเวลาสนทนากัน บนทวิต มันก็เลยอ่อนปวกเปียก
แล้วก็เชื่อเถอะ มีเจนบูมเมอร์ เจนเอ็กซ์ จำนวนมาก
ที่เข้ามาอ่าน แล้วก็เพิ่งทราบข้อมูลนี้
และทุกวันนี้ปริศนาก็ยังอยู่ เพราะถึงแม้เราจะรวบรวมมาเล่าอย่างละเอียด แต่ก็อาจมีบางมุมที่
ไม่ปรากฏออกมาจากสื่อ ไม่ออกมาจากข้อมูลตำรวจ ให้เราคัดเอามาลงเพิ่มในการประมวลได้
ด้วยเหตุผลที่ยังเป็นปริศนา
สารวัตรที่ทำคดีนี้ในช่วงแรก คือ พันตำรวจโท ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา แกก็มุ่งมั่นคดีนี้มาก ตอนเป็นตำรวจเล็กๆ จนปลายเส้นทางอาชีพ คือแกเป็น รอง ผบ.ตร.
แล้วก็ไปมีตำแหน่งทางการเมือง ในพรรคของคุณทักษิณ
คสช. ตอนยึดอำนาจ ยังเรียกแกไปปรับทัศนคติ
เราก็พยายาม รวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง หลายมุม มาเพื่อให้ผู้อ่าน มีข้อมูลพอที่จะใช้สติ พิจารณากันเองแบบผู้มีปัญญา และจะได้ไม่เป็นอัลไซเมอร์
ส่วนพวกที่ชอบซุบซิบว่าคุณยุวธิดามีเส้นทางเหมือน รมว.คนดัง
ไหน? ขอดูข้อมูลประกอบการเชื่อมโยงหน่อยครับ
ควรเลิกใช้วิธีการแบบโบราณ คือ ฟังมาแล้วปุ๊บ! และเอาไปพูดต่อเลย โดยไม่ได้กลั่นกรอง ข้อมูลรอบด้าน
วันนี้ แวะมาเติมข้อมูลให้แล้ว อยากได้อะไรเพิ่ม!
หรือใครมีข้อมูลอะไร มาเพิ่มก็ไปเจอกันที่ร้านพี่แจ้ เลียบด่วน! พี่เลี้ยงยำวุ้นเส้นเอง!555
~ จบบริบูรณ์ ~
โพสต์นี้เป็นโพสต์ที่ยาวที่สุดตั้งแต่เล่น fb มาสิบกว่าปี
และตั้งใจด้วย คือ สกัดคนที่ขี้เกียจอ่านอะไรยาวๆ
เพราะพอไม่อ่าน จะได้ไม่ต้องแชร์กัน
#ดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจกันด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/suvipan.pornawalai/posts/10161314903088985
.....

Thanapol Eawsakul
15 hours ago
·
อ่านเคสคุณศิรินทิพย์ ถูกอุ้มหาย
และ ความพยายามของคุณชาลี อินทรวิจิตร และการสื่อสารออกมาผ่านบทเพลงต่างๆ
จากการที่ผมตามคดีฆาตกรรมต่างๆในประเทศไทย ผมเชื่อในความสามารถของตำรวจ ว่าสามารถ ปิดคดีได้ทุกคดี แต่ที่ทำไม่ได้เพราะเจอ "ตอ" ในความหมายว่าผู้ที่ใหญ่กว่ากระบวนการยุติธรรม
เพราะเรามีกรณีคุณศิรินทิพย์ในปี 2530
เราจึงมีคดีคุณสมชาย นีละไพจิตร ในปี 2547 และยังมีคดีอุ้มหาย และฆาตกรรมอื่นๆอีกตามมา
รวมทั้งการตามหา พิศาล วัฒนวงศ์คีรี อดีตแม่ทัพภาค 4 ในกรณีตากใบก็เช่นกัน
ที่ปิดคดีไม่ได้ ไม่ใช่ความสามารถอันน้อยนิดของตำรวจอย่างแน่นอน