"เจียรวนนท์" ติด 25 ตระกูลรวยสุดโลก เจ้าของวอลมาร์ท ยืน1
13 ธ.ค. 256
ฐานเศรษฐกิจ
เปิด 25 ตระกูลรวยสุดโลก นำทัพโดย "วอลตัน" เจ้าของวอลมาร์ท ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่ตระกูลเจียรวนนท์ ตัวแทนไทยหนึ่งเดียว ตัดอันดับ 19 อาณาจักรธุรกิจ 4.41 หมื่นล้านดอลลาร์
ในการจัดอันดับตระกูลที่รวยที่สุดในโลกประจำปี 2024 โดย Bloomberg พบว่า ตระกูลวอลตันเจ้าของห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่วอลมาร์ทครองอันดับ 1 ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 4.32 แสนล้านดอลลาร์
ขณะที่ตระกูลเจียรวนนท์จากประเทศไทย เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ติดอันดับที่ 19 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 4.41 หมื่นล้านดอลลาร์
ตระกูลเจียรวนนท์เป็นหนึ่งในสองตระกูลที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในรายชื่อปีนี้ โดยมีจุดเริ่มต้นจากเอ็กชอ แซ่เจี๋ย ที่หนีภัยพิบัติจากหมู่บ้านในจีนตอนใต้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในประเทศไทย ด้วยการขายเมล็ดพืชกับพี่ชายในปี 1921
หนึ่งศตวรรษต่อมา ธนินท์ เจียรวนนท์ บุตรชายของเอ็กชอ แซ่เจี๋ย ดำรงตำแหน่งประธานอาวุโสของเครือซีพี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งอาหาร ค้าปลีก และโทรคมนาคม
Bloomberg รายงานว่า ความมั่งคั่งของตระกูลวอลตัน เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีนี้ เนื่องจากราคาหุ้นวอลมาร์ทพุ่งขึ้น 80% ส่งผลให้ทรัพย์สินของตระกูลเพิ่มขึ้น 172.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 12 เดือน หรือเฉลี่ยวันละ 473.2 ล้านดอลลาร์ (นาทีละ 328,577 ดอลลาร์) แซงหน้าตระกูลราชวงศ์จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ครองอันดับ 1 ในปี 2023
ความสำเร็จนี้มีรากฐานมาจากแซม วอลตัน ที่วางแผนแบ่งทรัพย์สินให้ลูกๆ อย่างชาญฉลาด เพื่อรักษาการควบคุมธุรกิจไว้ในครอบครัว หลังจากเขาเสียชีวิตในปี 1992 ทายาทยึดหลักการสำคัญคือ "อยู่ร่วมกัน" โดยมี Walton Enterprises เป็นตัวเชื่อมดูแลหุ้นวอลมาร์ทของครอบครัว
ปัจจุบันทายาทรุ่นใหม่ไม่ได้บริหารวอลมาร์ทโดยตรงแล้ว หลังจากร็อบ วอลตัน วัย 80 ปี ลาออกจากบอร์ดในปีนี้ พวกเขาขยายการลงทุนไปในธุรกิจอื่น เช่น ร็อบ วอลตัน ลูกสาวแครี และลูกเขย เกรก เพนเนอร์ ซื้อทีม NFL เดนเวอร์ บรองโคส์ ด้วยมูลค่า 4.65 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022
ขณะที่แอลิส วอลตัน วัย 75 ปี สนับสนุนพิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นนำที่ช่วยให้เมืองเบนตันวิลล์กลายเป็นจุดหมายทางวัฒนธรรม และลูคัส วอลตัน หลานชายวัย 38 ปี นำเงินไปลงทุนใน Builders Vision แพลตฟอร์มที่มุ่งแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
ปัจจุบันวอลมาร์ทคิดเป็นประมาณ 70% ของทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูล โดยพวกเขาทยอยขายหุ้นเพื่อกระจายการลงทุนและให้สมาชิกครอบครัวมีอิสระในการทำธุรกิจที่สนใจ
สำหรับ 25 ตระกูลที่รวยที่สุดในโลกมีทรัพย์สินรวมกันเพิ่มขึ้น 406.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 โดยมีรายละเอียดดังนี้:
1. ตระกูลวอลตัน (สหรัฐฯ) - 4.324 แสนล้านดอลลาร์ เจ้าของวอลมาร์ท ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก
มีรายได้ 6.48 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี จาก 10,600 สาขาทั่วโลก
ตระกูลถือหุ้น 46% ในบริษัท
เพิ่งซื้อทีม NFL เดนเวอร์ บรองโคส์ มูลค่า 4.65 พันล้านดอลลาร์
2. ตระกูลอัล นาห์ยาน (UAE) - 3.239 แสนล้านดอลลาร์ราชวงศ์ผู้ปกครองอาบูดาบี
ควบคุมแหล่งน้ำมันส่วนใหญ่ของ UAE
มีการลงทุนผ่านกองทุนรวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
ลงทุนทั้งในภาครัฐและเอกชน
3. ตระกูลอัล ธานิ (กาตาร์) - 1.729 แสนล้านดอลลาร์ ราชวงศ์ผู้ปกครองกาตาร์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19
รายได้หลักจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม ประกันภัย และแบรนด์แฟชั่น Valentino
มีอสังหาริมทรัพย์หรูในลอนดอน
4. ตระกูลแอร์เมส (ฝรั่งเศส) - 1.706 แสนล้านดอลลาร์เจ้าของแบรนด์หรู Hermès มา 6 รุ่น
เริ่มต้นจากการทำเครื่องหนังสำหรับม้า
กระเป๋า Kelly สามารถขายได้ในราคาหลายแสนดอลลาร์
มีสมาชิกตระกูลกว่า 100 คนบริหารธุรกิจ
5. ตระกูลคอช (สหรัฐฯ) - 1.485 แสนล้านดอลลาร์เจ้าของ Koch Industries มีรายได้ 1.25 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี
ธุรกิจครอบคลุมน้ำมัน อุตสาหกรรม และการลงทุน
เพิ่งซื้อหุ้น 15% ในทีม NBA บรุกลิน เน็ตส์
มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทางการเมือง
6. ตระกูลอัล ซาอุด (ซาอุดีอาระเบีย) - 1.40 แสนล้านดอลลาร์ราชวงศ์ผู้ปกครองซาอุดีอาระเบีย
ควบคุม Saudi Aramco บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่
มีกองทุน PIF มูลค่า 9.25 แสนล้านดอลลาร์
สมาชิกราชวงศ์กว่า 15,000 คน
7. ตระกูลมาร์ส (สหรัฐฯ) - 1.338 แสนล้านดอลลาร์ผู้ผลิตช็อกโกแลต M&M's, Milky Way และ Snickers
เริ่มจากการขายลูกอมในปี 1902
กำลังซื้อ Kellanova มูลค่า 3.59 หมื่นล้านดอลลาร์
ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงสร้างรายได้มากกว่าครึ่ง
8. ตระกูลอัมบานี (อินเดีย) - 9.96 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของ Reliance Industries
มีโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มุเกช อัมบานีอาศัยในบ้าน 27 ชั้น ที่แพงที่สุดในโลก
คาดว่าธุรกิจจะเติบโตเป็นสองเท่าภายในปี 2030
9. ตระกูลเวอร์ไทเมอร์ (ฝรั่งเศส) - 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของแบรนด์ Chanel
เริ่มจากการทำน้ำหอมร่วมกับ โคโค่ ชาแนล
มีรายได้เกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2023
ลงทุนในม้าแข่งและไร่องุ่น
10. ตระกูลทอมสัน (แคนาดา) - 8.71 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของ Thomson Reuters
เริ่มจากสถานีวิทยุในออนแทรีโอ
ถือหุ้น 70% ในบริษัท
มีรายได้ 6.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023
11. ตระกูลจอห์นสัน (สหรัฐฯ) - 7.24 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของ Fidelity Investments
บริหารสินทรัพย์กว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์
ปัจจุบันบริหารโดยทายาทรุ่นที่ 3 คือ แอบบี้ จอห์นสัน
พนักงานเพิ่มจาก 50,000 เป็น 76,000 คนในช่วง 4 ปี
12. ตระกูลอัลเบรชท์ (เยอรมนี) - 6.02 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของ Aldi เครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตราคาประหยัด
แบ่งธุรกิจเป็น Aldi Nord และ Aldi Sued
มีร้านค้ารวมกว่า 10,000 สาขา
เป็นเจ้าของ Trader Joe's ในสหรัฐฯ
13. ตระกูลพริตซ์เกอร์ (สหรัฐฯ) - 5.94 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของโรงแรม Hyatt และธุรกิจหลากหลาย
เริ่มจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และบริษัทที่มีปัญหา
มีบทบาทในการเมือง เช่น เพนนี พริตซ์เกอร์เคยเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์
เจ.บี. พริตซ์เกอร์เป็นผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์
14. ตระกูลคาร์กิลล์, แมคมิลลัน (สหรัฐฯ) - 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์บริษัทอาหารและเกษตร Cargill
มีรายได้ 1.60 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี
เริ่มจากโกดังเก็บธัญพืชในไอโอวาปี 1865
กำลังลดพนักงาน 5% จาก 164,000 คน
15. ตระกูลโอเฟอร์ (อิสราเอล) - 5.56 หมื่นล้านดอลลาร์เริ่มจากเรือขนส่งสินค้าลำเดียวในปี 1950
ปัจจุบันมีกองเรือใหญ่ที่สุดในโลก
ธุรกิจแบ่งระหว่างสองพี่น้อง ไอยัล และ อิดาน
ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน
16. ตระกูลฮอฟฟ์มันน์, โอเอริ (สวิตเซอร์แลนด์) - 5.38 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของบริษัทยา Roche ตั้งแต่ปี 1896
มีรายได้ 6.54 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2023
เน้นยารักษามะเร็ง
สนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติ
17. ตระกูลฮาร์โทโน (อินโดนีเซีย) - 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์เริ่มจากธุรกิจบุหรี่ Djarum
ถือหุ้นใหญ่ใน Bank Central Asia
พัฒนาห้าง Grand Indonesia
บริหารโดยสองพี่น้อง ไมเคิล และ บุดี
18. ตระกูลควานด์ (เยอรมนี) - 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ถือหุ้นเกือบครึ่งใน BMW
ช่วยพลิกฟื้น BMW จากภาวะล้มละลาย
สตีฟาน ควานด์ และ ซูซานเน่ คลัตเทน เป็นทายาทรุ่นปัจจุบัน
มูลนิธิของตระกูลสนับสนุนการวิจัยทางการแพทย์
19. ตระกูลเจียรวนนท์ (ไทย) - 4.41 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP)
ธุรกิจครอบคลุมอาหาร ฟาร์มเลี้ยงปลา เซเว่น อีเลฟเว่น
ธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นประธานอาวุโส
หลานชายก่อตั้งสตาร์ทอัพเทคโนโลยี
20. ตระกูลดันแคน (สหรัฐฯ) - 4.38 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของ Enterprise Products Partners
ธุรกิจพลังงานและก๊าซธรรมชาติ
เริ่มด้วยเงินลงทุน 10,000 ดอลลาร์
แรนดา ดันแคน วิลเลียมส์ เป็นประธานบริษัท
21. ตระกูลแวน ดัมเม่, เดอ สโปเอลเบิร์ช, เดอ เมวิอุส (เบลเยียม) - 4.37 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของ Anheuser-Busch InBev ผู้ผลิตเบียร์ระดับโลก
มีประวัติย้อนไปถึงศตวรรษที่ 14
ผลิตเบียร์ Stella Artois และ Jupiler
บริหารการลงทุนผ่าน Patrinvest และ Verlinvest
22. ตระกูลเบอริงเกอร์, ฟอน บาวม์บาค (เยอรมนี) - 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของ Boehringer Ingelheim บริษัทยาใหญ่สุดของเยอรมนี
ก่อตั้งเมื่อปี 1885 โดย อัลเบิร์ต เบอริงเกอร์
มีรายได้ 2.77 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2023
กำลังพัฒนายาลดน้ำหนัก
23. ตระกูลมิสทรี (อินเดีย) - 4.14 หมื่นล้านดอลลาร์ก่อตั้ง Shapoorji Pallonji Group ในปี 1865
ธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้าง
ถือหุ้นใน Tata Sons บริษัทแม่ของ Tata Group
สร้างตึก Oberoi Towers อาคารสูงที่สุดของอินเดียในปี 1973
24. ตระกูลนิวเฮาส์ (สหรัฐฯ) - 3.88 หมื่นล้านดอลลาร์เจ้าของ Advance Publications
เริ่มจากหนังสือพิมพ์ Staten Island Advance
เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Warner Bros. Discovery และ Charter Communications
เป็นเจ้าของ Reddit ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้น
25. ตระกูลแฟร์เรโร (อิตาลี) - 3.74 หมื่นล้านดอลลาร์ผู้ผลิต Nutella และช็อกโกแลต
เริ่มจากร้านขนมเล็กๆ ในเมืองอัลบา
ซื้อธุรกิจลูกอมของ Nestlé ในสหรัฐฯ มูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์
บริหารเงินลงทุนผ่าน Fedesa และ Teseo Capital
ข้อมูลจัดทำโดย Bloomberg ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2024 โดยไม่รวมตระกูลที่มีความมั่งคั่งจากรุ่นแรก หรือมีทายาทเพียงคนเดียว รวมถึงตระกูลที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าทรัพย์สินได้อย่างชัดเจน
ทั้ง 25 ตระกูลมีทรัพย์สินรวมกันเพิ่มขึ้น 4.065 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของตลาดหุ้น
https://www.thansettakij.com/business/614394