วันศุกร์, ธันวาคม 09, 2565

เยาวชนวัย 13 ปี ถูก จนท.โทรหาผู้ปกครอง-เตรียมมาบ้าน หลังพยายามแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ 5 ธ.ค. ล่าสุด เจ้าหน้าที่แวะเวียนมาที่บ้านน้องเอีย และพูดกับน้องว่าให้น้องงดทำกิจกรรม พร้อมบอกอีกว่าอีกไม่นานจะแวะมาที่บ้านอีก


เยาวชนวัย 13 ปี ถูก จนท.โทรหาผู้ปกครอง-เตรียมมาบ้าน หลังพยายามแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ 5 ธ.ค.

2022-12-07
ประชาไท

'เอีย' เยาวชนอายุ 13 ปี ถูก ตร.โทรหาครอบครัว-จะมาพบที่บ้าน คาดเพื่อให้หยุดทำกิจกรรม หลังเจ้าตัวพยายามไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ยกเลิก ม.112 ที่สนามหลวง เมื่อ 5 ธ.ค. แต่ไม่สำเร็จเพราะถูก จนท.สกัด

7 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า 'เอีย' (สงวนชื่อ-นามสกุล) นักกิจกรรมเยาวชนวัย 13 ปี ถูกตำรวจคุกคามโดยการโทรหาสมาชิกครอบครัว และจะเดินทางมาพบที่บ้าน คาดต้องการให้หยุดทำกิจกรรม หลังเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2565 เจ้าตัวพยายามไปทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ รณรงค์ยกเลิก ม.112 ที่สนามหลวง แต่ถูกตำรวจสกัดจนกระทั่งไม่ได้ทำอะไร

'เอีย' ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์วานนี้ (6 ธ.ค.) เผยว่า เหตุการณ์สืบเนื่องจากเมื่อ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.00 น. เขาพยายามเดินทางไปที่สนามหลวง ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยการชูป้ายยกเลิกมาตรา 112 แต่ขณะที่กำลังเดินเข้าไป เยาวชนอายุ 13 ปี ได้ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบยึดป้ายกระดาษ พร้อมกับไล่เขาไปที่ร้านอาหาร ‘แมคโดนัลด์’ สาขาราชดำเนิน (บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย)

เอีย เผยต่อว่า เขาไม่เห็นด้วยกับมาตรา 112 เพราะก่อนหน้านี้กฎหมายถูกเอามาใช้ทำร้ายคนอื่นๆ อย่างไม่เป็นธรรม

หลังจากนั้น เมื่อเอีย ไปที่ร้านแมคฯ มีตำรวจ ซึ่งเขาคาดว่าน่าจะมีตำแหน่งรองผู้กำกับฯ มาคุยกับเขาทำนองว่าขอยึดป้ายได้ไหม เขาก็ให้ตำรวจยึดป้ายไป

อย่างไรก็ตาม เยาวชนอายุ 13 ปี ระบุว่าเขากลับไปที่บ้าน เพื่อเอาป้ายกระดาษรณรงค์ยกเลิก มาตรา 112 อีกแผ่น ซึ่งคล้ายกับป้ายแผ่นแรกที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึด ก่อนเดินทางกลับมาที่ร้านแมคฯ สาขาเดิม เมื่อเวลาประมาณ 4 โมงเย็น เกือบ 5 โมงเย็น
 
ขวางไม่ให้เดินไปสนามหลวง

เมื่อมาถึงร้านแมคฯ 'เอีย' เดินกลับไปที่สนามหลวงอีกครั้ง แต่ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเรียกให้หยุดบริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง พร้อมกับพยายามขัดขวางไม่ให้เยาวชนเดินต่อ โดยตำรวจพยายามคะยั้นคะยอขอให้เอีย เดินกลับไปที่ร้านแมคฯ โดยอ้างว่าจะมีขบวนเสด็จเคลื่อนผ่าน พร้อมเสนอว่าจะให้เอีย นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์กลับไป

อย่างไรก็ตาม เอีย ยืนกรานว่า เขาแค่มาเดินเล่นบริเวณนี้ และไม่ได้มีเจตนาเข้ามารบกวนขบวนเสด็จ ขณะที่ทางตำรวจเผยว่าไม่ปักใจเชื่อ และกล่าวด้วยว่า ถ้าไม่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์กลับไปกับเจ้าหน้าที่ จะให้ขึ้นรถตู้กลับแทน แต่ทางเยาวชนยังคงไม่ยอม การเจรจาดำเนินไปประมาณ 8 นาที เอียจึงยอมกลับไปที่ร้านแมคฯ

'เอีย' เล่าต่อว่า หลังจากนั้นมีการเดินออกมาต่อถึงแตกคอกวัว บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แต่เกิดเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้ามาทาง สน.ชนะสงคราม ไปที่สนามหลวงอีกครั้ง ซึ่งขณะเดินอยู่ เอียยังคงถูกตำรวจนอกเครื่องแบบขับมอเตอร์ไซค์ติดตาม และก็ต่อรองต่อว่า ไม่ให้เอีย ไปสนามหลวง พอเอีย เห็นว่า เขาเริ่มถูกตำรวจติดตาม และคุกคาม เห็นว่าไม่ดี จึงเดินกลับมาที่ร้านแมคฯ สาขาราชดำเนิน อีกครั้ง นอกจากนี้ เยาวชนอายุ 13 ปี ระบุด้วยว่า ระหว่างนั้นตำรวจพยายามถ่ายรูปเขาตลอดเวลาด้วย

เอีย เปิดใจว่า เขาไม่อยากเดินทางกลับไปกับทางเจ้าหน้าที่ เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง

"ผม (เอีย) เป็นเยาวชน เขาก็ไม่มีสิทธิ์คุกคาม อยู่ดีๆ เดินมาตามผม มันไม่ใช่เรื่องอยู่แล้ว เดินเฉยๆ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด อยู่ดีๆ ก็มาตาม จะอุ้มขึ้นรถตู้ ตำรวจไทย ไม่สมควรทำแบบนี้" เยาวชนอายุ 13 ปี กล่าว

พยายามเข้ามาขอดูป้าย-โทรหาครอบครัว

เอีย ระบุต่อว่า หลังจากมาถึงที่ร้านแมคฯ มีตำรวจนายหนึ่งเดินมาที่เอีย ภายหลังทราบชื่อว่า ร.ต.อ.จุมพล สุทธิประภา รอง สว.สส.บก.น.2 พอตำรวจเห็นป้ายกระดาษเหน็บอยู่ที่แขนของเอีย เลยพยายามจะดึงออกมา เอียเลยเดินเข้าไปที่ร้านแมคฯ ตำรวจคนเดิมก็เดินปรี่ตรงเข้ามาที่เอีย อีกครั้ง พร้อมกับบอกว่า ขอดูป้ายหน่อย ป้ายอะไร เขียนยังไง ไม่งั้นจะไล่ออกจากแมคฯ

เอีย ตอบกลับไปว่า มันเป็นสิทธิของเขา จะอยู่ตรงนี้ตำรวจเป็นเจ้าของแมคโดนัลด์เหรอ หลังจากนั้น เริ่มมีการโต้เถียงกันทั้ง 2 ฝั่ง ตำรวจเริ่มขอบัตรประจำตัวประชาชน และชื่อของเยาวชน ซึ่งเอีย เผยว่าเขาให้ชื่อไปอย่างเดียว แต่ไม่ได้ให้บัตรประชาชน

หลังจากนั้น มีตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาประมาณ 10 กว่าคน และเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้ามา ทำท่าเหมือนจะเข้ามาจับกุม ซึ่งเอีย เล่าให้ฟังว่า เขาบอกตำรวจว่า ตำรวจไม่สมควรทำแบบนี้ เขายังไม่ได้พูดหรือทำอะไรเลย

ประมาณ 10 นาทีหลังจากนั้น ครอบครัวของเอีย โทรหา และกล่าวในลักษณะที่ให้ตัวของเยาวชนหยุดทำกิจกรรม เพราะมีตำรวจจะเข้ามาหาที่บ้าน เหมือนพยายามกดดันให้เยาวชนหยุดทำกิจกรรม แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ และไม่ได้ทำอะไรผิด

"ผมกังวล …เราแค่มาทำเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น กลัวเขาทำอะไรไม่ดีกับเรา กลัวยัดคดี"

"ตำรวจไม่สมควรทำแบบนี้ ผมเป็นเด็ก เป็นเยาวชนเดินเข้ามาจู่โจมผมใกล้ๆ ผมเป็นเยาวชน เขาเล่นถึงครอบครัวผม แต่เขาเริ่มทำอะไรไม่ได้ เขาก็เลยมีการขู่ เลิกเถอะนิสัยแบบนี้ตำรวจไทย (ผม) ไม่ต้องการ" เอีย ทิ้งท้าย

วันนี้ (7 ธ.ค.) เยาวชนอายุ 13 ปี แจ้งด้วยว่า เจ้าหน้าที่จะ พม. จะเข้ามาที่บ้านของเขา เพื่อมาตรวจสอบพฤติกรรมวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.)

สำหรับ 'เอีย' เป็นหนึ่งใน 280 เยาวชนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง นับตั้งแต่มีการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปี 2563 เป็นต้นมา ปัจจุบัน 'เอีย' ถูกดำเนินคดีทั้งสิ้น 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะกำลังปั่นจักรยานกลับบ้านผ่านสถานที่ชุมนุม 13กันยา64 ที่ดินแดง และครั้งที่ 2 ถูกตั้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และร่วมมั่วสุมใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จากการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง เมื่อ 15 เม.ย. 2565