เจ้าตัวอาจไม่ได้ตั้งใจ แต่คำวิจารณ์ของ สมชัย ศรีสุทธิยากร
อดีต กกต. ต่อคำสั่ง คสช. ที่ ๑๖/๒๕๖๑ เรื่องยืดเวลาให้
กกต.จัดการแบ่งเขตเลือกตั้งตามพอใจ ฟังคล้ายๆ เป็นการประชด
“ขอขอบคุณ คสช.ที่เห็นใจ กกต.” เป็นประโยคที่สมชัยปิดท้ายโพสต์เฟชบุ๊คที่ว่า
การขยายเวลาดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งนี้ ทำให้ กกต.สามารถกำหนดเขตเลือกตั้งตามใจชอบได้
ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบใดแบบหนึ่งในสามแบบที่ได้มาจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเมื่อ
๔-๑๓ ตุลา
โดยเหตุที่มีเสียงบ่นเกี่ยวกับแนวทางแบ่งเขตสามอย่างนั้นกันมาก
จนทำให้การดำเนินงานของ กกต.ล่าช้า อาจเสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ในการนี้คำสั่ง
คสช. “ให้อำนาจแก่
กกต.ในการกำหนดเขตเลือกตั้งแบบใหม่ที่ไม่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และให้ถือเป็นที่สุด” จึงเป็นการมอบอำนาจแก่
กกต. อย่างเต็มที่
นอกจากนั้นประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อ ๑๖ พ.ย.
ยังเปิดทางให้พรรคการเมือง “สามารถดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง (ตามข้อ ๔
พรป.พรรคการเมือง)...ได้จนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_1229455 และ https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_148898)
พอราชกิจจาฯ ออกมา ข้อกังขาต่างๆ ก็บังเกิด อย่างประเด็นให้พรรคการเมืองอ้อยอิ่งไม่ต้องประกาศตัวผู้สมัครของพรรคตนไปจนกระทั่งถึงวันรับสมัครได้
เสียงนินทาบอกว่านี่เป็นประโยชน์มากกับพรรคที่เตรียมเสนอชื่อหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯ
โดยเฉพาะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โวยทันที บอกว่าการที่
คสช.ใช้มาตรา ๔๔ “ผ่อนผันและขยายเวลาให้ กกต.” จัดการแบ่งเขตเลือกตั้งออกไป “ส่วนตัวมองว่าการเลื่อนเวลาครั้งนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ขณะนี้มีข่าวว่าไม่ลงรอยกับกลุ่มสามมิตร
ในเรื่องของการแบ่งผู้สมัครลงเขตต่างๆ ไม่ได้หรือทับซ้อนกัน”
นายสาธิต ปิตุเตชะ สับแหลกต่ออีกว่า “จริงๆ แล้วถ้าทุกอย่างทำตามโรดแม็พเดิมตามที่ประกาศออกมา
ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องแบ่งเขตเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมีคนสั่งการได้”
มิใยรักษาการโฆษกสำนักนายกฯ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์รีบออกมาปฏิเสธทันควันว่าการเลื่อนเวลาจัดแบ่งเขตเลือกตั้งนี้
“ไม่มีนัยใดๆ ที่จะส่งผลต่อการเลื่อนวันเลือกตั้ง” ที่มีพรรคเล็กพรรคน้อยบางพรรคเรียกร้องต้องการกันอยู่
รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมืองยังชักแม่น้ำทั้ง ๕ อ้าง “มีข้อเรียกร้องจากสังคมที่ต้องการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย...เกิดความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และพรรคการเมืองทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกัน” บลา บลา
ยังมีคำวิพากษ์ทีอิงวิชาการ แต่เป็นข้อกล่าวหาที่หนักอยู่และดูเหมือนจะเป็นไปได้เช่นนั้นก็คือ
นี่เป็นการที่ คสช.ให้ท้าย กกต. ทำ ‘Gerrymandering’ (แบ่งเขตลดเลี้ยวให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ)
ดังเช่นที่เป็นในระบบการเมืองอเมริกัน
ในอเมริกาพรรคการเมืองที่อยู่ในอำนาจระดับมลรัฐสามารถจัดเขตเลือกตั้งให้คดเคี้ยวเพื่อเข้าไปหาผู้ออกเสียงได้
อ้างว่าเพื่อให้ประชาชนได้ใช้สิทธิอย่างถ้วนหน้า แต่ปะเหมาะประชากรที่การแบ่งเขตเข้าไปหาเป็นฐานคะแนนเสียงของพรรคตน
ดังนั้น สิ่งดีๆ ที่นายสมชัยเชิดส่งให้กับ คสช.
ว่า “ไม่ต้องเกรงว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งจะขัดกับกฎหมาย”
เหมาะที่จะใช้ในการประชดต่อ คสช. ว่าใช้อำนาจอย่างไม่มีขอบเขต ก็ได้