วันอังคาร, พฤศจิกายน 30, 2564

๑๑๒ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่อง ‘คชสารในห้อง’ มากไปกว่า ‘กระป๋องเต็มไปด้วยหนอน’

๑๑๒ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่อง คชสารในห้องมากไปกว่า กระป๋องเต็มไปด้วยหนอนแล้วละ จากกรณีที่นิตยสาร บิลด์ ตามกัด ไทยโคนิก หลังจากที่นักข่าวของตนถูกราชองครักษ์ข่มขู่ ให้ลบภาพถ่ายการเสด็จที่โรงแรมมูนิคแอร์พอร์ตเมื่อต้นเดือน

คราวนี้บิลด์ตีข่าวแรงเรื่องกษัตริย์ไทยขนราชทรัพย์ “งานศิลปะ วัตถุล้ำค่า และศฤงคารจากวิหารโบราณ” ไปยังนครมูนิค เยอรมนี แม้นว่าเหตุอ้างของบิลด์ที่ว่าเป็นเพราะพระองค์ทรงรู้สึกไม่มั่นคงนัก ในสถานะประมุขของประเทศ ดูจะแย้งกับสภาพการณ์ที่เป็นอย่างมาก

เนื่องจากปัจจุบันมีการดำเนินคดีต่อผู้ที่เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เป็นว่าเล่น มีผู้ถูกตั้งข้อหาและดำเนินคดีในความผิดอาญามาตรา ๑๑๒ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง ๑๕๖ ราย หลายคนถูกคุมขังโดยยังไม่เริ่มดำเนินคดีเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว

บางเหตุที่อ้างว่าเป็นความผิดก็ไร้สาระเสียจน ทำให้กระบวนการศาลไทยแสดงออกถึงการด้อยจิตสำนึกและปัญญาวุฒิ เช่นการใส่เสื้อคร็อปท้อปเดินห้าง เป็นการให้ร้ายองค์พระมหากษัตริย์ได้อย่างไร ในเมื่อก็ทรงฉลองพระองค์เช่นนั้นมาก่อน

แสดงว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำการปกป้องพระเจ้าอยู่หัวและปกปิดภาพร้ายอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ขนาดที่ประยุทธ์เองสนับสนุนให้ ม็อบเชิดสิงโตชุมนุมขับไล่แอมเนสตี้อินเตอร์แน้ทชั่นแนล ซึ่งเป็นองค์การสิทธิมนุษยชนสากลที่ทั่วโลกยกย่อง

นั่นแสดงว่ารัฐบาลประยุทธ์ทำให้ประเทศไทยเป็นรัฐวายร้ายที่ต่อต้านการเชิดชูสิทธิมนุษยชน เพียงเพื่อจะเชิดชูสถาบันกษัตริย์ แล้วอย่างนี้จะว่ารัชกาลที่ ๑๐ ทรงรู้สึกว่าความมั่นคงแห่งสถานะของพระองค์ถูกคุกคามได้อย่างไร หากแต่ประเด็นเที่ยวบิน ๑๔ ครั้งที่อ้าง มีหลักฐานรองรับ

ปรากฎว่า “บันทึกการบินเส้นทาง กรุงเทพ-มิวนิค-กรุงเทพ TG924/925 ของการบินไทย ที่บินถี่ยิบแทบจะวันเว้นวัน” ๑๗ เที่ยวนั้น ไม่ปกติเป็นอย่างยิ่ง พูติกาล ศายษีมาโพสต์ถึงความสมเหตุสมผลของเที่ยวบินเหล่านั้นไว้ว่า

“หนึ่ง ผู้โดยสารเส้นทางนี้ในช่วงก่อนโควิดก็ไม่ได้มากขนาดนี้ สอง ในเว็บการบินไทยไม่ขายตั๋วเที่ยว กรุงเทพ-มิวนิค แบบเที่ยวบินตรงให้คนทั่วไป ที่มีขายเป็นแบบไปต่อเครื่องที่แฟรงเฟิร์ต หรือยุโรปเมืองอื่น” แสดงว่าเป็นเที่ยวบินพิเศษ VVIP แน่ๆ

พิเศษด้าน Cargo ในเมื่อ “การขนส่งของโดยการบินไทยต้องใช้เครื่องบินโดยสาร แทนที่จะไปใช้เครื่องบินขนส่ง ก็เพราะการบินไทยไม่มีเครื่องบินขนส่งโดยเฉพาะ เครื่องบินขนส่งลำสุดท้าย (747) ของการบินไทยถูกขายไป ๕-๖ ปีแล้ว”

Saiseema Phutikarn สันนิษฐาน “ถ้าดูความคืบหน้าการก่อสร้าง V Complex กลางกรุงมูลค่าหลายหมื่นล้าน จะเห็นว่ามีอาคารใหม่ๆเพิ่มอีกหลายอาคาร อาจมีความต้องการเฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ เครื่องใช้ ที่อาจหาไม่ได้ในไทย”

จึงเป็นไปได้ว่ารายงานของบิลด์อาจไม่ถูกต้อง แต่มันก็เป็นการเปิดกระป๋องเจอหนอนยั้วเยี้ย เมื่อ Nanthida Rakwong เก็บเอาไปเล่นที่ รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง ว่ามี “สื่อประเทศสวิตเซอร์แลนด์รายงาน” (เกี่ยวเนื่องที่มีเที่ยวบินการบินไทยใช้ส่วนพระองค์บินไปซูริค)

“พฤติกรรมการขนเงิน+ของมีค่าประเทศแล้วเอาไปฝากที่ธนาคาร ตปท.ของสถาบันกษัตริย์ไทย มีมาตั้งแต่สมัย ร.๕ เท่าที่รู้” เธออ้างหนังสือพิมพ์ลิเวอร์พูล เมอร์คิวรี่ ลงข่าวใน พ.ศ.๒๔๔๐ เรื่อง “ร.๕ มีรายได้ ๘ ล้านเหรียญดอลล่าหรือมากกว่านั้น+มีเงินฝาก ๔๐ ล้านดอลล่าสหรัฐ”

ที่สำคัญเธออ้าง ‘The King Never Smiles’ ถึงพระบรมราชชนนีพันปีหลวง หรือสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ของรัชกาลที่ ๙ ว่าเมื่อคราว เสด็จฯ ๘๐ใช้จ่ายเงิน (ภาษี) ไปกับศัลยกรรมความงาม ซื้อบ้านหรู แหวนเพชร และยังแอบเอาเงินไปฝากไว้ในธนาคาร ตปท.เผื่อไว้เวลาที่ต้องลี้ภัย

ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ‘TKNS’ อย่างไรเป็นอีกเรื่อง แต่ว่าหลังเสด็จฯ ๘๐ พักใหญ่เกิด เมษาฮาวายฮือฮามากเมื่อ ยังเติร์กลูกป๋าแท้ๆ พยายามยึดอำนาจป๋าไม่สำเร็จเพราะ สมเด็จฯ ทรงช่วยไว้ด้วยการส่งเฮลิค้อปเตอร์ไปรับจากบ้านสี่เสาฯ

ก่อนหน้านั้นมีหนึ่งในยังเติร์กเดินทางไปนครลอส แองเจลีส เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงว่ามีราชวงศ์ไทยนำศิลปะโบราณจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไปขายให้แก่ห้าง ‘Neiman Marcus’ และมีการซื้ออสังหาริมทรัพย์กับโรงแรมที่นั่นหรือไม่

ยังเติร์กได้เรื่องกลับไปแค่ไหนไม่รู้ ทราบจากข่าวภายหลังว่าความพยายามยึดอำนาจล้มเหลว แต่ใครไปเดินห้างนีมานมาร์กัสในเบฟเวอรี่ฮิลส์ช่วงนั้น จะเห็นเทวรูปครึ่งร่างทรงขอมขนาดเท่าคน ตั้งเป็นวัสดุตกแต่งไว้ในที่สูงเห็นได้จากทั่วห้อง

(https://twitter.com/ThaiPolitica/status/1417079319961210880, https://www.nau.ch/people/welt/thai-konig-maha-vajiralongkorn-bringt-seine-schatze-in-sicherheit-66053967 และ https://www.facebook.com/photo/?fbid=3013872182261622&set=p.3013872182261622)

พี่ตาคะ เชิญทางนี้หน่อยคะ...

...
Adisorn Juntrasook
23h ·

พี่ตาคะ​ น้องนกงงมากว่าเค้าจะเชิดสิงโตไปทำไม​ ไหนบอกว่ารักเมืองไทย
.
หรือน้องนกหลับนาน​ไป จนประเทศเป็นเมืองขึ้นจีนไปแล้ว​ แต่ประเทศ​จีนเค้าเคยโค่นล้มสถาบันกษัตริย์​ไม่ใช่เหรอคะพี่ตา


Adisorn Juntrasook
12h ·

พี่ตาคะ​ ภาพนี้พี่ๆ​ เค้าต้องการสื่ออะไรเหรอคะ
.
สรุปว่าคนสูบซิการ์เป็นคนไม่ดี​ ใช้ความทุกข์​ยากของคนอื่นมาทำเป็นบังลังก์​ของตัวเอง​ใช่มั้ยคะ
.
แล้วที่​ Amnesty เค้าพยายามจะให้คนสูบซิการ์​เลิกเอาเปรียบจากการนั่งบนหลังคนอื่น​ ตกลงมันไม่ดีเหรอคะ
.
น้องนกงงจริงๆ​ ค่ะพี่ตา
.
เครดิตภาพ​: VOICE


Pipob Udomittipong
16h ·

ตะกี้นั่งดูไลฟ์ของ #TopNews กลุ่มคนประมาณ 50+คน เชิดสิงโต ตีกลองส่งเสียงดังแถวสีลม เพื่อขับไล่ #แอมเนสตี้ออกไป อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม ผู้สื่อข่าวถามคำถามนี้กับแกนนำที่เป็นผญ.ทั้งหมด คนหนึ่งบอกว่า เพราะแอมเนสตี้สนับสนุนคนที่ข่มขืน อันนี้คงพูดข้ามขั้นตอนไป แอมเนสตี้ต่อต้าน #โทษประหาร ไม่ได้สนับสนุนคนที่ข่มขืนคนอื่น
พวกเขาบอกต่อว่าที่ไล่แอมเนสตี้ เพราะเข้าแทรกแซงสนับสนุนให้คนละเมิดกฎหมาย มาสนับสนุนให้คนกลุ่มหนึ่งละเมิดกฎหมาย เราถือว่าไม่โอเค จึงต้องไล่เขาออกไป เราเห็นเขาไปรณรงค์ช่วยนักโทษคดีข่มขืน ไปช่วยเพื่อ...? ไปรณรงค์ช่วยนักโทษคดี 112 ไปช่วยเพื่อ...? ที่แปลกคือเอาผญ.อีกคนหนึ่ง แนะนำตัวว่ามาจากกลุ่ม Next Gen อะไรสักอย่าง พูดเป็นอังกฤษด้วยนะ เข้าใจว่าเอามาปราศรัยให้นทท.แถวนั้นฟัง ตอนหนึ่งเขาบอกว่า แอมเนสตี้ “Don’t have the right to get the people to adjust the king” น่าจะต้องการพูดว่า “attack the king” มากกว่า บอกตามตรงว่าไม่ผ่านนะ
แล้วที่แกนนำอ้างว่ามีคนลงชื่อเป็นแสนเพื่อขับไล่แอมเนสตี้ เท่าที่ดูใน change.org เห็นมีคนลงชื่อประมาณ 1.8 หมื่นคน สื่อต้องตรวจสอบด้วย
ส่วนคนที่ต้องการลงชื่อสนับสนุนแอมเนสตี้ ตามนี้ครับ https://chng.it/mM2HmNsxTK
หมายเหตุ ขอแก้เล็กน้อย เพิ่งเข้าใจว่า เขาบอกว่า “adjust the king” คงหมายถึง “ปฏิรูปกษัตริย์” อะไรทำนองนั้น แต่ “adjust” นี่มันแปลว่า “ปฏิรูป” ได้เปล่า? แล้ว “the king” กับ “the monarchy” ต่างกันมั้ย พวกนี้คงไม่รู้หรอก 555+++


Nice ! เทศกาลลิงหลอกเจ้า

29 พฤศจิกายน ม็อบนักเรียนกลับมาอีกครั้ง กลุ่ม #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ จัดกิจกรรมชุมนุมภายใต้ชื่อ ‘แด่เธอผู้เสียสละ’ บริเวณประตูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ฝั่งพญาไท เพื่อแสดงพลังให้เพื่อนผู้เสียสละเพื่อประชาธิปไตย



เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ #ม็อบ 29 พฤศจิกายน 64 นัดรวมตัวจัดกิจกรรมปราศรัย #แด่เธอผู้เสียสละ

Premiered 12 hours ago

FULL MOON NEWS 
เกาะติดทุกกระแส... 
กดไลด์ กดแชร์ กดติดตามด้วยน่ะ!! 
https://www.youtube.com/channel/UCNBC...

The101.world
11h ·

“แด่เธอผู้เสียสละ”
.
29 พฤศจิกายน ม็อบนักเรียนกลับมาอีกครั้ง กลุ่ม #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ จัดกิจกรรมชุมนุมภายใต้ชื่อ ‘แด่เธอผู้เสียสละ’ บริเวณประตูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ฝั่งพญาไท เพื่อแสดงพลังให้เพื่อนผู้เสียสละเพื่อประชาธิปไตย
"มันหมดเวลาแล้วจริงๆ ที่พวกเราทุกคนจะปิดตา ปิดหู และปิดปากกัน มันถึงเวลาแล้วที่เตรียมอุดมจะเป็นความก้าวหน้าของยุคสมัยอีกครั้ง"
คำปราศรัยบางส่วนจาก ก้อง นักเรียนเตรียมอุดมฯ รุ่น 82 และยังมีการปราศรัยจาก แรปเตอร์-สิรภพ อัตโตหิ เตรียมอุดมฯ รุ่น 77 และทนายจูน-ศิริกาญจน์ เจริญศิริ เตรียมอุดมฯ รุ่น 64 จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
หลังจากนั้นได้มีการอ่านแถลงการณ์แสดงความภาคภูมิใจแก่นักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษา ที่เสียสละเพื่อประชาธิปไตย เพื่อจุดประกายการต่อสู้ทางการเมืองของมวลชน รวมไปถึงการแจกคู่มือเอาตัวรอดในโรงเรียน การติดป้ายหยุดลงโทษด้วยความรุนแรง เสรีทรงผม และป้ายปล่อยเพื่อนเรา
และปิดท้ายกิจกรรมด้วยการยืนหยุดขัง บริเวณหน้าป้ายโรงเรียน เป็นเวลา 11.20 นาที ก่อนที่จะมีการยุติการชุมนุมในเวลา 17.30 น.
ภาพโดย เมธิชัย เตียวนะ และกอบบุญ บูรโชควิวัฒน์









.....
Noi Thamsathien
12h ·

ทนายจูน ศิริกาญจน์ เจริญศิริ:
มิย.ปีที่แล้วจนถึงขณะนี้มีคนโดนคดี 112 แล้ว 162 ราย
โดนคดีพรก.ฉุกเฉิน 1600 ในจำนวนนี้ 200 เป็นเยาวชน
ใช้มาตรา 116 อีก 113 คดี
ยังมีการใช้กฎหมายอื่นๆอีก เช่นพรบ ความสะอาด ละเมิดอำนาจศาล
หลังศาลรธน.ออกคำสั่งล่าสุด มีกลุ่มคนไปไล่ฟ้องคนแสดงออกต่างๆ ทั้งที่คนแสดงออกเหล่านั้นกระทำโดยสงบ ไม่มีทางจะเป็นกบฎไปได้
หากรัฐปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ก็ไม่แปลกที่คนจะรู้สึกว่าคนเหล่านั้นได้รับการสนับสนุนจากรัฐ
จนถึงวันนี้มีคนในเรือนจำเพราะข้อหา 112 จำนวน 6 คน เพนกวิ้นเจอ 22 คดี เบนจา 6 คดี ทั้งคู่เป็นศิษย์เตรียมอุดม ยังมีอีกหลายคน รุ้ง ไผ่ อานนท์ ไมค์ .. และเยาวชนอีกสองคน
.
ปัจจุบันมันคือสถานะที่รัฐเหลิงในอำนาจ มันเป็น ‘นิติสงคราม’ ที่รัฐใช้มุมมองเผด็จการทหารมามองปชชว่าเป็นศัตรู
ที่งานเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ แด่เธอผู้เสียสละ ยืนหยุด ขัง


ความในใจเบนจา อะปัญ ที่ผู้พิพากษาไม่ได้ยิน


Thanapol Eawsakul
10h ·

ความในใจเบนจา อะปัญ ที่ผู้พิพากษาไม่ได้ยิน
..................
วันนี้ 29 พฤศจิกายน 2564 เบนจา อะปัญ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงก่อนศาลมีคำสั่งฝากขังเธอเป็นครั้งที่ 7 ในคดี ม.112 ปราศรัย คาร์ม็อบ 10 สิงหาฯ หน้าตึกชิโนไทย มีความว่า
“ศาลขังหนูไว้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ หนูไม่ใช่อาชญากร ขังหนูไว้มีแต่จะทำให้เกิดความสงสัยต่อความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม ปล่อยหนูออกไปเรียนหนังสือ ออกไปเป็นทรัพยากรที่ดีของประเทศนี้เถอะค่ะ ประเทศนี้มันจะได้เจริญไปข้างหน้าเสียที”
แต่ผู้พิพากษา
วัฒนพล ไชยมณี
สมชาย พฤกษ์ชัยกุล
ไม่ได้ยิน


ขังไว้ก็หยุดยั้งความเสื่อมไม่ได้


Atukkit Sawangsuk
12h ·

ขังไว้ก็หยุดยั้งความเสื่อมไม่ได้
เสื่ไปถึงศาล
...
Noppakow Kongsuwan is with Benja Apan.
14h ·

"...ศาลขังหนูไว้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ หนูไม่ใช่อาชญากร ขังหนูไว้มีแต่จะทำให้เกิดความสงสัยต่อความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม
ปล่อยหนูออกไปเรียนหนังสือ ออกไปเป็นทรัพยากรที่ดีของประเทศนี้เถอะค่ะ ประเทศนี้มันจะได้เจริญไปข้างหน้าเสียที
ขอบคุณค่ะ..."
.
.
คำแถลงต่อหน้าศาลของ "เบนจา อะปัญ" นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนศาลมีคำสั่งฝากขังเธอเป็นครั้งที่ 7 ในคดี ม.112 ปราศรัย คาร์ม็อบ 10 สิงหาฯ หน้าตึกชิโนไทย โดยในวันนี้ทนายความ ได้ยื่นประกันตัวเธอในคดีดังกล่าวแล้ว คาดว่าผลการประกันตัวคงชัดเจนในช่วงเย็นวันนี้ (29 พ.ย.)
.
คำแถลงค้านการฝากขังตัวเธอในวันนี้ เป็นคำแถลงสั้นๆ ที่เธอตัดสินใจขอแถลงต่อศาลเพียงไม่กี่นาที ในชุดผู้ต้องขังสีน้ำตาลที่เธอมักเรียกมันว่า "ชุดอีเย็น-นางทาส" ก่อนที่จะมีคำสั่งฝากขังเธอออกมาอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 7
.
ก่อนหน้าที่ เมื่อศุกร์ที่แล้ว (26 พ.ย.) เธอ และ "รุ้ง ปนัสยา" เพื่อนของเธอ ได้เขียนจดหมายเพื่อขอสิทธิการประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิชั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาที่พึงได้รับ โดยช่วงหนึ่งของจดหมายฉบับดังกล่าว ซึ่งเขียนด้วยลายมือของเธอ ได้บรรยายเหตุผลที่ "ควรปล่อย" เธอ และ เพื่อนๆ โดยระบุว่า
.
"...พวกหนูอยากบอกกับศาลด้วยว่า การขังพวกหนูไว้ในเรือนจำนั้น หากศาลยังมองว่าพวกหนูคืออาชญากรที่เป็นภัยต่อความมั่นคงระดับประเทศ หนูก็คงต้องถามศาลต่อว่า ทำไมถึงมีประชาชนจำนวนมากที่เรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกหนู ทั้งคนทั่วไป ศิลปิน ผู้แทนราษฎร หรือองค์กรสิทธิอย่าง Amnesty หลายสาขาทั่วโลก เช่น ออสเตรเลีย ไต้หวัน อเมริกา อังกฤษ และอีกหลายประเทศก็เรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรมและขอให้ปล่อยตัวพวกหนู หรือ UN เอง ก็แสดงความกังวลถึงกรณีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมในประเทศเราอีกด้วย
.
การขังพวกหนูไว้แบบนี้ ไม่ได้เป็นประโยชน์อันใดเลย หากเพียงแต่เป็นการพรากอิสรภาพและทำลายอนาคตของพวกหนู เพื่อคงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของกลุ่มคนที่ไม่ต้องการให้เราออกมาวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเท่านั้น การขังพวกหนูมิได้หยุดยั้งความคิดของประชาชนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง ซ้ำยังทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนคนไทยและสายตาของประชาคมโลก ที่มีต่อศาลและกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยอีกด้วย..."

"เกลียดรัฐเกลียดทุน(ผูกขาด)" กำลังจะเป็นหนึ่งเดียวกัน


ภาพจากเน็ต

Atukkit Sawangsuk
Yesterday at 8:34 AM ·

"เกลียดรัฐเกลียดทุน(ผูกขาด)" กำลังจะเป็นหนึ่งเดียวกัน
เพราะรัฐอำนาจนิยมกับทุนใหญ่ไม่กี่ตระกูลเป็นหนึ่งเดียวกัน
และคนที่จะถูกเบียดขับ บีบคั้น ทั้งทางเศรษฐกิจการเมือง
ไม่ใช่ใครที่ไหน คนชั้นกลางนั่นเอง
ไม่ใช่เฉพาะคนรุ่นใหม่ แต่เป็นคนชั้นกลางที่ประกอบอาชีพอิสระ คนทำธุรกิจรายย่อย Freelance หรือแม้แต่พนักงานบริษัททั่วไป
ถูกบีบคั้นและมีอำนาจต่อรองน้อยลง
:
พลังคนรุ่นใหม่ (หรือเรียกได้ว่าคนชั้นกลางในเมืองรุ่นใหม่) ในมุมเศรษฐกิจ เกิดเพราะมองไม่เห็นอนาคต ในโลก disrupted
เศรษฐกิจในโลกยุคต่อไป ไม่มีความมั่นคงในชีวิต ไม่เหมือนคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ เป็นข้าราชการหรือทำงานแบงก์จนเกษียณ
คนรุ่นใหม่จะต้องดิ้นรนด้วยตัวเองในโลกของการต่อสู้แข่งขัน ปรับตัวไม่หยุดยั้ง
จึงต้องการโอกาสที่เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่ถูกผูกขาดปิดกั้น
ต้องการรัฐสวัสดิการ ที่ไม่ได้หมายถึงให้รัฐเลี้ยงดู แต่ต้องการบริการสาธารณะที่มีคุณภาพ
สวัสดิการการศึกษา รักษาพยาบาล ที่มีคุณภาพ ที่เหลือจากนั้นเดี๋ยวไปสู้ไปเสี่ยงเอาเอง
ด้วยเหตุนี้เช่นกัน จึงไม่ต้องการ "รํฐเป็นบิดา"
รัฐใหญ่โต อำนาจมาก ยุ่งไปทุกเรื่อง ทำอะไรต้องขออนุญาต ไร้ประสิทธิภาพ เปลืองภาษีกู
ไม่ต้องการรัฐอุปถัมภ์ ต้องการแค่รัฐบริการ กะทัดรัด เอื้อต่อการแข่งขัน
:
ปรากฏการณ์คนรุ่นใหม่ไม่เห็นอนาคตนี้ไม่ใช่เกิดแค่เมืองไทยนะ
ในจีนก็มีปรากฏการณ์คนรุ่นใหม่หมดไฟ
ทำงานหนักทุ่มเท แต่ไม่สามารถสร้างตัวเหมือนคนรุ่นพ่อแม่ เพราะโอกาสทางธุรกิจมันปิดหมดแล้ว
จนคนรุ่นใหม่จีนท้อ เกิดกระแส "นอนราบ" หรือออกจากงานหนีไปขี่จักรยานเซลฟี
:
พลังคนรุ่นใหม่ในทางเศรษฐกิจ เห็นได้ตั้งแต่ตอน #NOCPTPP 1.3 ล้านทวีต
ยุคทักษิณไม่ใช่อย่างนี้นะ ต้าน FTA มีแค่ NGO หยิบมือแล้วต่อมาก็อาศัยพันธมิตร
ยุคนี้้ ข้อแรก คนตระหนักว่าเผด็จการกับทุนเป็นหนึ่งเดียวกัน
ข้อสอง คนรุ่นใหม่เรียกร้องประชาธิปไตยพร้อมไม่พอใจความเหลื่อมล้ำ
BIOTHAI โพสต์เทียบราคากล้วยหอมในเซเว่นกับในอเมริกายุโรป เทียบค่าแรงขั้นต่ำ คนแชร์กระหึ่ม
มันเป็นอารมณ์ร่วมว่าทุนใหญ่กำลังเอาเปรียบเราแต่เอาใจอำนาจ
ฉะนั้น พอ True ควบรวม Dtac หลังจากแมคโครควบรวมเทสโก้มาแล้ว โดยไม่มี กขค.
คนจึงโกรธมาก โดยไม่ใช่แค่เหลื่อมล้ำ การผูกขาดโทรคมนาคมหรือพลังงานมันยังสร้างภาระแก่การประกอบอาชีพการทำมาหากิน
:
พูดอย่างนี้คนชั้นล่าง เกษตรกรในชนบท ไม่เดือดร้อนหรือ
เดือดร้อนครับ แต่รัฐอำนาจนิยมมันมุ่งสร้างรัฐใหญ่โตให้คนหวังพึ่ง
เป็นรัฐอุปถัมภ์ ประชานิยมรูปแบบต่างๆ เสริมด้วยการเมืองอุปถัมภ์ ส.ส.บ้านใหญ่ที่กวาดต้อนไปสวามิภักดิ์ ซึ่งโดยปกติก็มีเครือข่ายดูแลชาวบ้าน
มันเป็นเป้าหมายรัฐประหารอยู่แล้ว ต้องการแย่งชิงมวลชนในชนบทจากเพื่อไทย
:
ถ้าจัดลำดับโครงสร้างอำนาจของระบอบ "ปกป้องสถาบัน"
คือผู้นำอำนาจนิยม รัฐราชการทหารตำรวจเป็นใหญ่ ตุลาการองค์กรอิสระอ้างศีลธรรม
แต่เอื้อประโยชน์ทุนใหญ่ ทางการเมืองกวาดต้อนพวก "ซื้อเสียง โกงเลือกตั้ง" (ตามคำพูด ส.ว.) ไปเป็นมือเท้า ต่างตอบแทนให้อิ่มหมีพีมัน
แล้วใช้เครือข่ายเหล่านี้ สร้างระบบอุปถัมภ์ในชนบท
โดยคนที่มีอำนาจต่อรองน้อยลง มีิสิทธิเสียงน้อยลง คือคนชั้นกลาง
ซึ่งเคยเป่านกหวีดนันแหละ เพียงแต่ไอ้พวกคนชั้นกลางสลิ่มมันเชื่อพรรคราชการ
:
อันที่จริงแม้แต่ระบบเลือกตั้ง บัตรสองใบ 400-100 เพิ่ม ส.ส.เขต
แม้ดีกว่า 60 แต่ก็ลดอำนาจเลือกตั้งของคนชั้นกลาง ซึ่งมักจะเป็นเสียงข้างน้อยในการเลือก ส.ส.เขต ยกเว้นกรุงเทพฯหรือเขตเมือง
คนชั้นกลางมักเลือก ส.ส.ด้วยความนิยมต่อพรรคต่อแนวคิดทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องมางานบวชงานศพ หรือเอารถแบคโฮลมาเกรดถนน
จึงมักเป็นฝ่ายแพ้ในระบบ ส.ส.เขต เป็นคะแนนตกน้ำ แม้ระบบ 40 เอามาคิดปาร์ตี้ลิสต์ก็แค่ 100 คน โดนด้อยค่าลง 1 ใน 5 (เพียงแต่ตอนนั้นมันเริ่มจากไม่เคยมีเลย ก็ดูดีกว่า)
:
มองในมุมชนชั้น คนชั้นกลางจะกลายเป็นพลังที่ต่อต้านระบอบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ยกเว้นพวกคลั่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์

ยุคสมัยนี้ ค่าของคนไม่ได้อยู่ที่เป็นคนของใคร อย่างเดียว ต้องมีเงินด้วย

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=443331480490976&id=100044423829531

ไอหยา น่าสนใจ น่าสนใจ แม้จะเหลือเชื่อ !!! ข่าวจาก Bild อ้างแหล่งข่าวในราชสำนักว่าวชิราลงกรณ์ขนของมีค่าไปเยอรมัน "ด้วยความกลัวจะถูกโค่น"


Somsak Jeamteerasakul
7h ·

ข่าวจาก Bild อ้างแหล่งข่าวในราชสำนักว่าวชิราลงกรณ์ขนของมีค่าไปเยอรมัน "ด้วยความกลัวจะถูกโค่น"
ผมเอาข่าวนี้มาให้ดู ไม่ใช่เพราะเชื่อ แต่เห็นว่าเป็นการเสนอข่าวออกไปโดย Bild และหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษเอาไปลงต่อ โดยส่วนตัว ผมไม่ค่อยเชื่อข่าวนี้นัก ตามข่าวบอกว่ามีการขนเครื่องบินไปทั้งหมด 14 เที่ยว

Saiseema Phutikarn ·
ทฤษฏีที่ว่าขนสมบัติไปเยอรมนีเพราะกลัวถูกโค่นแบบเจียงไคเช็กนี่ฟัง"เหลือเชื่อ"จริงๆ แต่ถ้าดูจากบันทึกการบินเส้นทาง กรุงเทพ-มิวนิค-กรุงเทพ TG924/925 ของการบินไทย ที่บินถี่ยิบแทบจะวันเว้นวันแล้วก็อดสงสัยว่าเป็นเที่ยวบินขนส่งมากกว่าที่จะเป็นการบินเพื่อรับผู้โดยสารปกติเพราะ
- 1 ผู้โดยสารเส้นทางนี้ในช่วงก่อนโควิดก็ไม่ได้มากขนาดนี้
- 2 ในเว็บการบินไทยไม่ขายตั๋วเที่ยว กรุงเทพ-มิวนิค แบบเที่ยวบินตรงให้คนทั่วไป ที่มีขายเป็นแบบไปต่อเครื่องที่แฟรงเฟิร์ต หรือยุโรปเมืองอื่น
ที่ในข่าวของ Telegraph บอก 14 เที่ยวนั่นน่าจะนับถึงวันที่ปิดต้นฉบับ แต่ถึงวันนี้มีการบินเที่ยวบิน กรุงเทพ-มิวนิค-กรุงเทพ ไปแล้ว 17 เที่ยว ไม่นับของวันที่ 7-8 พย. ที่เป็นเที่ยวบิน VVIP
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นการขนส่งจาก "กรุงเทพไปมิวนิค" หรือจาก "มิวนิคไปกรุงเทพ" กันแน่ เพราะถ้าดูความคืบหน้าการก่อสร้าง V Complex กลางกรุงมูลค่าหลายหมื่นล้าน จะเห็นว่ามีอาคารใหม่ๆเพิ่มอีกหลายอาคาร อาจมีความต้องการเฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ เครื่องใช้ ที่อาจหาไม่ได้ในไทย
ส่วนสาเหตุที่การขนส่งของโดยการบินไทยต้องใช้เครื่องบินโดยสาร แทนที่จะไปใช้เครื่องบินขนส่ง ก็เพราะการบินไทยไม่มีเครื่องบินขนส่งโดยเฉพาะ เครื่องบินขนส่งลำสุดท้าย (747) ของการบินไทยถูกขายไป 5-6 ปีแล้ว ที่ผ่านมา Thai Cargo ที่กิจการเฟื่องฟูในช่วงโควิดก็ใช้เครื่องบินโดยสารปกตินี่แหละขนส่งเอา



ทหารจะไม่เอาแล้วหรอ ฮ่าๆๆ
มิตรท่านหนึ่ง

อ่านความเห็นต่อที่ 
https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/4497697473616830

ภาพนี้เล่าเรื่องราวของคุณยายวัย 74 ปี แห่งตรอกสาเก ที่ต้องมาขายบริการทางเพศเพราะประสบปัญหาการเงินจากช่วง covid-19 เพียงเพราะต้องนำเงินมาเลี้ยงชีพและแมว ซึ่งเจ้าของภาพต้องการให้เราตั้งคำถามเกี่ยวกับบุคคลในภาพนี้

รู้จักกับคุณยายบัวผัน ผู้เป็นแบบในภาพวาดได้ยังไง

คุณยายบัวผันท่านนั่งอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน เห็นแววตานั้นแล้วผมจอดรถเลย หลังจากที่ผมเทียวไปเทียวมาอยู่หลายสัปดาห์ ผมเข้าไปพูดคุยกับคุณยายบัวผันว่ามีเจตนาอยากจะมาวาดรูปเพื่อประกวด คุณยายก็ค่อนข้างระแวงว่าเราจะเป็นมิจฉาชีพไหม หรือว่าเราจะเป็นคนที่ไม่ดีไหม ผมยืนยันว่า “เชื่อผมนะครับผมจะเอาเรื่องที่คุณยายประสบพบเจอไปสื่อสารสู่สาธารณะ”

คุณยายบัวผันมาเป็นโสเภณีด้วยความจำเป็น ตอนสมัยวัยรุ่นคุณยายเดินทางจากโคราชเข้ามาทำงานเป็นสาวโรงงานในกรุงเทพฯ จนกระทั่งประสบอุบัติเหตุแขนหักเมื่ออายุประมาณ 30-40 ปี แต่ทางโรงงานไม่รับกลับเข้าไปทำงานอีก คุณยายเคยอาศัยอยู่กับลูกชายแต่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับลูกสะใภ้จึงตัดสินใจออกมาอยู่คนเดียว ท่านต้องขวนขวายทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองรอด เลี้ยงดูตัวเองด้วยอาชีพโสเภณีมาตลอด ได้บ้างไม่ได้บ้าง วันไหนฝนตกก็ลำบากหน่อย
 
เมื่อได้คุณยายบัวผันเป็นแบบของภาพพอร์เทรตแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นอะไร

เรานัดหมายกันไปดูสถานที่ทำงานของคุณยายในวันรุ่งขึ้น เพื่อเข้าไปดูภาพรวมว่าห้องในโรงแรมม่านรูดมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ผมบันทึกเสียงและบันทึกภาพไว้ ในครั้งต่อไปก็เตรียมเฟรมผ้าใบ อุปกรณ์มาสเกตช์ภาพคุณยาย เก็บรายละเอียดตามความเป็นจริงตามที่ตาเห็นว่าความรู้สึกคุณยาย สีหน้าคุณยาย ท่านั่งของคุณยายที่ผมพบครั้งแรกเป็นยังไง บรรยากาศภายในห้องจะค่อนข้างอึมครึม มีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกหม่นหมอง อะไรสักอย่างที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ ผมทำได้ดีที่สุดก็คือถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานศิลปะที่เห็นนั่นแหละครับ

แต่เวลาที่ลงสีผมไม่อยากทำให้รู้สึกหดหู่หรือเศร้าเกินไป ผมอาจจะเพิ่มรายละเอียดบางจุดหรือว่าลดบางอย่างนิดหน่อยให้มีความงามทางศิลปะอยู่ด้วย ให้คนที่เสพผลงานได้เข้ามาชม แล้วค่อยๆ คิดว่าคุณยายท่านนี้เป็นใคร นั่งทำอะไร อยู่ที่ไหน



ระหว่างที่วาดภาพยังพอจำได้ไหมว่าคิดถึงอะไร รู้สึกยังไง

ผมคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติ ณ ปัจจุบัน สะท้อนกลับมาที่ภาพตรงหน้า ปัญหาที่ทำให้เขามานั่งอยู่ตรงนี้มันเกิดขึ้นจากอะไร คนสูงอายุอย่างคุณยายควรได้อยู่อย่างสุขสบายในพื้นที่อบอุ่นปลอดภัยของตัวเอง ถ้ามีรัฐสวัสดิการที่ดีคุณยายจะไม่ต้องแบกร่างของตัวเองมานั่งริมถนน ท่ามกลางการระบาดของโควิดแบบนี้

อยากให้คนที่ได้มีโอกาสเห็นภาพนี้มองเห็นอะไร

ผมค่อนข้างคาดหวังสูงครับ ผมคาดหวังมากกว่ารางวัลเยอะเลยครับ อยากให้คนดูภาพนี้แล้วตั้งคำถามว่าทำไมจึงมีภาพนี้เกิดขึ้นได้ เชื่อมโยงกับปัญหาโครงสร้างอะไรบ้าง ครอบครัวของเขามีปัญหาหรือเปล่า สังคมของเขามีปัญหาหรือเปล่า รัฐสวัสดิการมีความสำคัญมากน้อยขนาดไหน คำถามเหล่านี้คือสิ่งที่ผมคาดหวังกว่ารางวัลที่ได้รับมา

พอร์เทรตสำหรับผมไม่ได้เป็นแค่ภาพเหมือน ไม่ได้เป็นแค่ความสวยงาม ไม่ได้เป็นแค่บันทึกประวัติศาสตร์ แต่พอร์เทรตในศตวรรษที่ 21 ต้องเป็นอะไรที่ขับเคลื่อนสังคมได้ไม่มากก็น้อย ผมอยากทำให้สิ่งที่ผมพบเห็นและรู้สึกสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
 


ความรู้สึกของผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันประกวดวาดภาพพอร์เทรตครั้งแรกในประเทศไทยเป็นยังไงบ้าง

ภูมิใจในตัวเองมากครับ ดีใจที่คณะกรรมการเห็นถึงความตั้งใจที่ผมต้องการนำเสนอประเด็นทางสังคม ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นประกาศการประกวดนี้ผมดีใจมาก ผมมีความฝันว่าถ้ามีโอกาสสักครั้งหนึ่งจะส่งงานไปประกวดที่เมืองนอก แต่โอกาสนั้นมันมาถึงเมืองไทยแล้ว รู้สึกว่านี่แหละเวทีของเรา อยากจะพูดในสิ่งที่เราคิด และอยากจะแสดงออกในสิ่งที่ต้องการจริงๆ
 
คาดหวังอะไรในเส้นทางข้างหน้าที่กำลังมุ่งไป

ก่อนที่ผมจะมาร่วมประกวด RCB Portrait Prize ผมยอมรับว่าค่อนข้างท้อกับการเรียน ท้อกับชีวิต เนื่องจากการเรียนออนไลน์ช่วงโควิดมันบั่นทอนจิตใจนักศึกษา ผมเองต้องหาเลี้ยงชีพไปด้วยเรียนไปด้วย ก็ลำบากเหมือนกัน การที่ผมเจอกับคุณยายบัวผันที่ชีวิตแทบจะเลือกอะไรไม่ได้เลยทำให้ผมรู้สึกว่าต้องสู้เพื่ออะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็อยากเอาเงินรางวัลที่ได้รับซื้ออาหารอร่อยๆ ไปมอบให้เขาสักครั้งหนึ่ง

ผมอยากประสบความสำเร็จครับ อยากมีชื่อเสียง อยากมีเงินเหมือนกับศิลปินคนอื่น แต่ในขณะเดียวกันผมก็อยากทำให้สังคมมันดีขึ้น อยากเป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำให้งานศิลปะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทำให้คนได้ตระหนักรู้ว่าจริงๆ แล้วปัญหาของสังคมไทยมันมีอะไรบ้าง เกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมอยากเปลี่ยนแปลงมัน



อ่านบทสัมภาษณ์นี้จบแล้ว ใครอยากสัมผัสภาพพอร์เทรต ‘คุณยายบัวผัน’ และภาพอื่นๆ ที่เข้าร่วมประกวดอีกนับร้อยชิ้นด้วยตาของตัวเอง มาพบกันได้ตั้งแต่วันนี้ – 7 ธันวาคม 2021 ในนิทรรศการ Portrait Prize 2021 ที่ River City Bangkok โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และร่วมเป็นคณะกรรมการลงคะแนนภาพที่ชื่นชอบที่สุด สำหรับ People’s Choice Prize ซึ่งมีมูลค่าเงินรางวัลถึง 100,000 บาท ภายในนิทรรศการจะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการลงคะแนนด้วยการสแกน QR code

สำหรับศิลปินที่สนใจเข้าร่วมประกวดใน RCB Portrait Prize 2022 ก็ไม่ต้องรอนาน เตรียมตัวเตรียมใจ เริ่มลงมือและส่งผลงานเข้าประกวดได้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2022 ติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการประกวดได้ทางเว็บไซต์ rivercitybangkok.com/th และอินสตาแกรม @portraitprize

อ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้ คลิกที่นี่

สลิ่ม Checklist ว่าสมองนิ่มหรือไม่




วันนี้ขอเวลาสัก 7 นาที ...ชวนมาทำความรู้จักบทบาทของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ในการทำงานเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนชาวไทยและทั่วโลกกันอีกครั้ง

#60ปีแอมเนสตี้ #60YearsAmnesty #60YearsofHumanityInAction
แกนนำ 6 ตุลา ถูกปล่อยตัวได้ยังไง?

Amnesty Thailand

รู้หรือไม่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยตั้งแต่เหตุการณ์ แล้วเกี่ยวข้องยังไงกับการที่แกนนำ 6 ตุลา ถูกปล่อยตัว หาคำตอบได้ที่นี่
.
เหตุการณ์ 6 ตุลา ทำให้มีคนถูกจับไปเป็นพันคน รวมทั้งแกนนำประท้วงอย่าง สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล วิโรจน์ ตั้งวานิช และ ธงชัย วินิจจะกูล
.
เหตุการณ์นี้เป็นความพ่ายแพ้ของฝ่ายประชาชนอย่างราบคาบ และแกนนำก็ถูกจับขังคุกยาว... แต่เกือบ 2 ปีให้หลัง แกนนำทุกคนก็ถูกนิรโทษกรรมและถูกปล่อยตัว ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ...เดี๋ยวพูดให้ฟัง
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ยืนหยัดทำงานเพื่อผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษนชนมาครบรอบ 60 ปีแล้ว

"AMNESTY INTERNATIONAL'S 60TH ANNIVERSARY"

🎉 ร่วมเฉลิมฉลอง 60 ปี แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลไปด้วยกัน
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลคือขบวนการของคนธรรมดามากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก ที่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน และเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพประจำปี พ.ศ. 2520 จากการรณรงค์ต่อต้านการทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
60 YEARS OF HUMANITY IN ACTION

เพราะทุกความสำเร็จเกิดขึ้นได้ ล้วนมาจากพลังของคนธรรมดาอย่างเรา
ขอบคุณทุกความร่วมมือตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
.
📌 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนไปด้วยกัน https://bit.ly/2QBdK8K
📌 รู้จักเราเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://bit.ly/3u0R5As

วันจันทร์, พฤศจิกายน 29, 2564

“คณะก้าวหน้าไม่ได้แพ้แลนด์สไล้ด์ หรือแพ้ยับดังที่พูดนะครับ” ทายซิว่าประโยคนี้ใครบอก

“คณะก้าวหน้าไม่ได้แพ้แลนด์สไล้ด์ หรือแพ้ยับดังที่พูดนะครับ” ต้องยอมรับว่าประโยคนี้ เป็นถ้อยความของ ไพศาล พืชมงคล จริง เพราะถ้าเป็นฝ่ายเยาวชนปลดแอกต้องว่า “ก้าวหน้าไม่ได้แพ้เลือกตั้ง อบต.ย่อยยับ อย่างที่เขาหลอกลวง” นะคุณ

อีกอย่าง โพสต์ของอดีตทีมผู้ช่วยรองนายกฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณ นี้ เพจ มะม่วงหิมพานต์ ของ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นผู้นำมาแสวงแสง (แห่งสัจธรรมมั้ง) เพราะไม่มีการกระแนะกระแหน (อย่างที่เขามักเป็น) ได้แต่ถ่ายทอดอารมณ์สู่พวกพ้องว่า “อย่าประมาทไป”

“คณะก้าวหน้าแพ้เลือกตั้ง อบต.? ได้เพียง ๓๘ อบต. จากจำนวนที่ส่งสมัครทั้งหมด ๑๙๖ อบต.หรือประมาณ ๒๐%...เพราะอะไร” ตามคำของไพศาลว่าเพราะ “เป็นการเลือกในระดับหมู่บ้าน ตำบล ซึ่งแทบไม่มีเยาวชนคนรุ่นใหม่เลย”

แม้ไพศาลจะยอมรับ “ซึ่งต้องนับว่าไม่น้อย” ดังเช่นที่ผู้ฝักใฝ่ติดตามผลงานของคณะก้าวหน้าว่ากันอย่างคล้องจอง เมื่อ ๒๐% ที่ได้นี้ มากกว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งที่แล้วสำหรับสภาเทศบาล ผู้สมัครที่คณะก้าวหน้าสนับสนุนได้รับเลือก ๑๖%

Pannika Wanich@Pannika_FWP แจ้งข่าวทางทวิตเตอร์ โดยยกเอาผลที่จังหวัดร้อยเอ็ดมาชู ว่าที่นั่นได้มากกว่าจังหวัดอื่นๆ คือได้ถึง ๘ อบต. คงเป็นเพราะเหตุจากที่ ส.ส.ก้าวไกล วิโรจน์ ลักขณาอดิสร ประโคมว่าเกิดจาก

“การผลักดันนโยบายที่ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น ทำได้จริง จับต้องได้ กับ โครงการน้ำประปาดื่มได้ ที่เทศบาลตำบลอาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ประชาชนใช้ความเชื่อมั่นมากขึ้น” ซึ่ง เชตวัน เตือประโคน - Chetawan Thuaprakhon เสริม

ว่า “เป็นผลงานของ เทศบาล ที่คณะก้าวหน้าได้เข้าไปร่วมสนับสนุนผู้บริหาร มาแล้วก่อนหน้านี้” โดยเฉพาะในเรื่อง ๙๙ วันน้ำประปาดื่มได้นั้น “มีประชาชนเข้ามาถามหา อยากให้มาช่วยเปลี่ยนน้ำประปาสกปรกสีขุ่นข้นของบ้านตัวเองด้วย

นี่ย่อมสะท้อนความอยากเปลี่ยนแปลง” เชตวันชี้ให้มองถึงระยะยาว “ไม่ต้องคิดเรื่อง แลนด์สไลด์ ในครั้งหน้าอะไรหรอกครับ แค่เปลี่ยนให้คนอื่นๆ หันมาทำการเมืองท้องถิ่นแบบเดียวกันกับคณะก้าวหน้า ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนตามนโยบายที่หาเสียงไว้

...แค่นี้ก็ถือว่าเกิดประโยชน์กับพ่อแม่พี่น้องประชาชน เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองท้องถิ่น ยกระดับการเมืองไทยได้มากแล้ว” มองในประเด็นนี้ ก็จัดว่าเป็นคุณูปการของคณะก้าวหน้า ต่อความพยายามปฏิรูปการเมืองไทยให้อยู่บนพื้นฐานของการสะท้อนเสียงประชาชนได้ไม่น้อย

โดยที่ครั้งนี้ ผลเบื้องต้นที่ กกต.ผู้กำกับควบคุมการเลือกตั้งแถลงออกมา ว่าเรียบร้อยดี พบว่ามี “การร้องเรียนจำนวน ๒๖๘ เรื่อง เป็นเรื่องซื้อเสียงมากที่สุด นอกนั้นเป็นเรื่องอื่นๆ เช่น การปิดป้ายไม่ถูกขนาด ไม่ตรงสถานที่”

ไทยพีบีเอสรายงาน “พบการซื้อเสียงใน ๗ จังหวัด...มีการดำเนินคดีกับผู้ซื้อเสียง ๗ คดีใน ๕ จังหวัด ที่ชลบุรี นครปฐม เพชรบุรี นครศรีธรรมราช และเชียงราย” ซึ่งจัดว่าไม่มาก แต่ก็ไม่ควรเกิดแม้แต่รายเดียว ดังที่ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.เพื่อไทยว่า

“ผ่านมา ๘ ปีที่ทหารยึดอำนาจเข้ามาปกครองประเทศ การทุจริตเลือกตั้งหนักขึ้นทุกระดับ ซื้อเสียงทุกหย่อมหญ้า แบบไม่กลัวความผิด แสดงถึงความล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง...กดคนให้อดอยากและใช้ภาษี ปชช.มาซื้อเสียง”

เธอเผยว่ามีน้องๆ ส่งข้อความมาระบายเรื่องราวคืนหมาหอน “เมื่อคืนช่วงดึกๆ มีคนเอาเงินมาให้ที่บ้านหนู แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้รับไว้ ช่วงเช้าๆ วันนี้ ก็มีผู้สมัครอีกคนเอาเงินมาให้อีกเหมือนกัน” บางแห่งที่มีการเปิดโปงในภาคประชาชน หัวละ ๒-๓ พันบาทก็มี

แต่ในเช้าวันที่ ๒๘ พ.ย. พลตำรวจโทสราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับ นายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการ กกต. ช่วยกันเปิดเบิ่ง (ต่างกรรม ต่างวาระ) ไว้ก่อนแล้วว่า “ยังไม่พบการซื้อสิทธิ์ขายเสียงแต่อย่างใด”

เช่นนี้ในเรื่องร้องเรียนถึงความ ไม่ได้เรียบร้อยจริง ๒๖๘ ราย ส่วนใหญ่จากการซื้อเสียง ให้อารมณ์ได้ทำนองเดียวกับ “อย่าประมาทไป” ของการที่ก้าวหน้าได้ อบต.แค่ ๓๘ แห่ง ซึ่งก็คือ ฮ้า อะไรวะ

(https://www.sanook.com/news/8480770/, https://www.prachachat.net/politics/news-811037, https://twitter.com/aim.../status/1464932272998547460 และ https://truthforyou.co/77345/-nrJWe4)

จริงๆเรามีคนประเภทนี้อยู่ในสังคมนะ และมีเยอะด้วย


หมอในแอฟริกาบอกว่าเคสส่วนใหญ่ของ Omicron ที่เจอในแอฟริกาใต้มีอาการน้อยมาก และรู้สึกว่าอังกฤษและยุโรปกังวลมากเกินไป รวมถึงสายพันธุ์นี้น่าจะแพร่ไปไกลแล้วแต่ไม่ได้ตรวจสายพันธุ์กันเอง


https://twitter.com/pawinpawin/status/1464939100801101827

ลาก่อนรัฐอันธพาล หลังจากอยู่ไทยมา18 ปี! ยัน มัรชัล Yan Marchal ถูกเนรเทศกลับฝรั่งเศสเพราะเป็นภัยความมั่นคงหลังล้อเลียนกษัตริย์ไทยทาง tiktok



Yan Marchal
7h ·

As many of you know by now, I have been denied entry to Thailand and sent back to France, merely because the powers in place do not like what I post on social media. I may be the first known case of deportation from Thailand without any conviction or visa overstay.
Moving forward:
- Business: to the extent that my team is still on board with me, we keep going on. We were all working from home anyway. I just need to make arrangements to give legal powers to my Thai company to somebody else, so it can run administratively without me being there.
- Blacklist status: we will petition the immigration to obtain the file they have on me and get it removed. But it is going to be a long process.
- Children: obviously I will continue to cover the cost of their studies. They are not far from being grown up anyway.
I would like to thank everybody who expressed support, privately or publicly. In particular, let me express a deep gratitude to Pravit Rojanaphruk and Natalie Bergman, who went out of their ways to try and help me.
To the far-right figures (and non-figures) who expressed shadenfreude, keep it up! You bring me inspiration. Obviously, being deported to a place where Thai speech laws do not apply will not prevent me from posting more contents. I will do so for as long as I enjoy doing it and there is an audience who likes it.
I enjoyed the two decades I spent in Thailand a lot, but now is the time for another stage of my life, which I am looking forward to. The world is still wide and full of opportunities.
Note: the Thai Airways staff was super nice. They knew who I am and told it to the French police who, in turn, handled me nicely, and chatted with me about it. It is much more tolerable to be handled like a remanded criminal when you can feel like those doing it are your allies. My only objection is to the fact that they won't serve alcohol on board to deportees: why oh why?
Pictures by ไข่แมวx and Stephane Peray


Pravit Rojanaphruk is with Yan Marchal.
November 26 at 10:10 PM ·

(English UPDATE below)
อัพเดทการเนรเทศ ยัน มัรชัล
เจ้าตัวมีเวลาอุทธรณ์คำสั่งเนรเทศ 48 ชั่วโมง แต่เจ้าหน้าที่พยายามบังคับให้เขาขึ้นเครื่องบินกลับปารีสคืนนี้!
ล่าสุด ยัน มัรชัล Yan Marchal ดาว tiktok ชาวฝรั่งเศสผู้กลายเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์เพราะล้อเลี้ยนเจ้าไทย ถูกส่งตัวขึ้นเครื่องจากภูเก็ตถึงสุวรรณภูมิแล้ว เขามีเวลา 48 ชม.เพื่ออุทธรณ์
ทนายความของนายยัน นาตาลี เติร์กแมน Natalie Bergman บอกผมทางโทรศัพท์เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วว่าจะยื่นอุทธรณ์ภายในวันนี้ และขอเรียกร้องให้ ตม.ปล่อยตัวยันออกจากการถูกควบคุม ให้ออกมาพบทนายได้
"ระหว่าง [48 ชั่วโมง] เจ้าหน้าที่จะไปบังคับเขาออกนอก [ราชอาณาจักร] ไม่ได้ คุณยันเขาไม่เคยมีคดีอาญา ไม่มีอะไรเลย มีงานมีการ [ในไทย] มีลูก แต่ [จดหมาย ตม.] อ้างว่า "พฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคม" คุณตีความอย่างไร? ก็ต้องมาเล่าให้ฟังได้ชัดเจน เพราะเป็นสิ่งที่กระทบสิทธิเรา ระหว่างนี้จะขอประกันตัวออกมาด้วย"
ส่วนนายยันบอกผมหลังบินถึงสุวรรณภูมิเมื่อกี้ว่า ยังติดต่อเจ้าหน้าที่สถานทูตฝรั่งเศสไม่ได้ เพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ทาง ตม. พยายามจะให้เข้าขึ้นเครื่อง TG กลับปารีสคืนนี้
ปล. รูปล่าสุดของยันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพิ่งถ่ายส่งมาให้ผม #ป
Yan Marchal has just arrived at Suvarnabhumi International Airport from Phuket after being told he has become a persona non grata and will be deported back to France. The authorities try to put him on a TG flight back to Paris CDG tonight despite the fact that he has 48 hours of appeal time under Thai laws.
His lawyer, Natalie Bergman, told me on the phone at 10am that she will lodge an appeal later today.
Within this 48 hours, " [immigration] officers cannot force him out [of Thailand]. Yan has no criminal case against him - nothing. He has an occupation [in Thailand], have children but the immigration police letter stated that he poses "possible danger to public". They need to clearly explain because it affects [his] rights."
#WhatsHappeningInThailand #Thailand
https://www.matichon.co.th/politics/news_3060918

รัฐไทยจ่ายเท่าไรให้กับ Pegasus spyware เพื่อแฮกมือถือของประชาชน


Puangthong Pawakapan
Yesterday at 7:37 AM ·

รัฐไทยจ่ายเท่าไรให้กับ Pegasus spyware เพื่อแฮกมือถือของประชาชน — ไม่รู้แน่ รู้แต่ว่าสปายแวร์นึ้แพงมากๆ
รายงานข่าวของ CNBC และ New York Times ระบุว่าแค่ค่าติดตั้งก็ 500,000 ดอลลาร์ (15-16 ล้านบาท)
แต่ต้องจ่ายเพิ่มเมื่อจะใช้มันแฮกมือถือ ยิ่งมีเป้าหมายมากยิ่งต้องจ่ายมาก เช่น ถ้าต้องการแฮกไอโฟนหรือแอนดรอย 10 เครื่อง สนนราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มคือ 650,000 ดอลลาร์ (เกือบ 20 ล้านบาท) พูดง่ายๆ ยิ่งแฮกมาก ยิ่งจ่ายมาก
แล้วตอนนี้รู้ว่าคนไทยที่ใช้ไอโฟนเกือบ 20 คนได้รับคำเตือนจากแอปเปิลว่ามือถือของเราถูกโจมตีโดยพวกแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ - ยังไม่รู้ว่ามีคนที่ใช้แอนดรอยอีกคนที่ตกเป็นเหยื่อ
ภาษีเราทั้งนั้นค่ะ
#ภูมิใจที่ได้ใช้ของแพง ม่ายยยยยย
https://www.google.com/.../pegasus-row-how-much-does.../amp
...
the Guardian บอกว่ามีอย่างน้อย 17 คนค่ะ เขาไม่ได้ให้ชื่อหมด แต่เท่าที่เห็นคือ เพนกวิ้น รุ้ง อานนท์ (ผ่านโทรศัพท์ที่คนในครอบครัวดูแลอยู่) ปิยบุตร ประจักษ์ พวงทอง ยิ่งชีพ สฤณี Hockhacker (Rap against Dictatorship) ดู
https://www.theguardian.com/.../apple-tells-thai...

Thai activists who have called for reform of the monarchy are among at least 17 people in Thailand who say they have been warned by Apple that they have been targeted by “state-sponsored” attackers.

Warnings were sent to the prominent activists Panusaya Sithijirawattanakul and Arnon Nampa, according to Panusaya’s sister May and the administrator of Arnon’s Facebook page. Panusaya and Arnon are in pre-trial detention after leading demonstrations calling for the power of the monarchy to be curbed.

Dechathorn Bamrungmuang, a rapper known as Hockhacker with the group Rap Against Dictatorship, said on Facebook he had also received an alert from Apple, and posted a screengrab of the message. The group’s music has taken aim at the monarchy and the military-backed government, and Dechathorn faces charges of sedition.

The message posted by Dechathorn said: “Apple believes you are being targeted by state-sponsored attackers … These attackers are likely targeting you individually because of who you are or what you do. If your device is compromised by a state-sponsored attacker, they may be able to remotely access your sensitive data, communications, or even the camera and microphone. While it’s possible this is a false alarm, please take this warning seriously.”

Less high-profile activists who have worked behind the scenes to support pro-democracy protests have reported receiving similar warnings, as have academics.

They include Prajak Kongkirati, a political scientist at Thammasat University; Puangthong Pawakapan, a political scientist at Chulalongkorn University; Piyabutr Saengkanokkul, an opposition figure and secretary general of the Progressive Movement; and Yingcheep Atchanont, of the legal rights non-profit iLaw.

It is not clear how many people were contacted by Apple. At least 17 people said on social media or told the Guardian directly that they had received similar messages.

Apple did not respond to a request for comment. It is not known how the alleged attack was carried out.

Separately, Apple announced this week that it had filed a lawsuit against NSO Group, stating that its Pegasus software had been used to “attack a small number of Apple users worldwide with malicious malware and spyware”.

The Pegasus project, an investigation into NSO by the Guardian and other media outlets coordinated by the French media group Forbidden Stories, has documented dozens of cases where NSO’s spyware was used to attack iPhone users.

Thailand’s digital ministry could not be reached for comment.

Elia Fofi, a Thai activist, said he received an email from Apple at 4am on Wednesday, followed by an SMS message at about 11pm. He said he did not consider himself to be a high-profile protester, but other pro-democracy activists who work behind the scenes had also been contacted by Apple.

The activists were not intimidated by the messages, Elia said. “We have nothing to fear. What we say, what we think, what we fight for is the most common thing ever. We are not doing a terrorist attack.”

But he said an attack on their privacy was an attack on the public’s privacy more broadly. “People will feel fear to talk about things that they want to talk about in private,” he said.

Last year a wave of youthful protests broke a long-held taboo in calling for reforms of the monarchy, an institution previously considered off limits. Protesters called for the royal budget to be reduced and demanded that the king not interfere with politics. They also called for the resignation of the Thai prime minister, Prayuth Chan-ocha, a former general who first came to power in a coup.

At least 1,636 people have been charged in relation to their political activities or political expression since protests escalated in July 2020, according to Thai Lawyers for Human Rights. More than 150 people face lese-majesty charges, which can lead to up to 15 years in prison.

Nattacha Boonchaiinsawat, an MP with the opposition Move Forward party, called on Prayuth to clarify whether the government was involved in the attacks. “I also would like to ask the digital minister how the government is protecting Thai citizens and how it will take action against those behind the attacks. This is not a personal issue but it’s national security where the government should take responsibility and protect the people.”