วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 19, 2568

ยังไงยังไง ‘อิ๊ง’ ต้องไป แต่จะไปแบบไหน ‘ลาออก’ หรือ ‘ยุบสภา’ อย่าอ้อยอิ่ง ไม่งั้น “ฉากทัศน์พิสดารตามมาอีกเยอะ”

มาถึงจุดที่ยังไงยังไง อิ๊ง ต้องไป แต่จะไปแบบไหนก็ต้องตัดสินใจเร็วๆ ลาออก หรือ ยุบสภาขืนอ้อยอิ่งอยู่อีกเสียหายมากกว่าที่เคยเสียมาแล้วแน่นอน ถ้าลาออกก็มีปัญหาจะเอาใครมาแทน แถมพรรคร่วมทะยอยกันยี้ทำท่าจะเดินตาม ภูมิใจไทย

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องล่าสุดพ่อนายกฯ ทิ้งไพ่ผิดอีกแล้ว กรณีลูกสาวอ้อนลุงฮุนเซน เอาเฉพาะจะไปต่อยังไง ยังมองไม่เห็นทาง ชัยเกษม นิติสิริ นั้นสุขภาพไม่ไหวก็อย่างหนึ่ง แต่ปัญหาอยู่ที่แม้มีใครให้เสนอ ก็จะไม่มีเสียงพรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนพอ

ภูมิใจไทยเปิดก้นไปแล้วหนึ่ง พลังประชารัฐก็ไม่เอาด้วย ซ้ำ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกแถลงดันให้แพทองธารลาออก รวมไทยสร้างชาติไม่พูดเต็มปากแต่ก็ออกท่าว่าไม่เอาด้วยแล้วนะ ประชาธิปัตย์ประชุมด่วน ดูเหมือนจะผละเรืออีกราย

พรรคประชาชน ฝ่ายค้านแถลงแล้วให้ยุบสภาเปิดเลือกตั้งกันใหม่ทันใด หนึ่งนั้นเพื่อกีดกันไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้นมา อีกทั้งการลาออกน่าจะไม่เพียงพอแล้วละ “ตามสมการหน้ากระดานทางการเมืองที่เป็นอยู่” หัวหน้าเท้งบอก “เราจะไม่เป็นรัฐบาลแน่นอน

ก่อนหน้าคลิปอื้อฉาวที่อุ๊งอิ๊งอ้อนลุงฮุนเซนว่าแม่ทัพภาค ๒ อยู่ตรงข้ามรัฐบาลของเธอ มีข่าวแพลมว่า อนุทิน ชาญวีรกูล เข้าพบ สถิตพงษ์ สุขวิมล ผอ.ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จากนั้นถึงมีการแถลงถอนตัวจากรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย

อนุทินนี่มีความเคลื่อนไหวอย่างนัยยะสำคัญช่วงที่วิกฤตรัฐบาลอิ๊งกำลังกรุ่น การห้อยตามองคมนตรี ไพบูลย์ คุ้มฉายา ไปเยี่ยมให้กำลังใจ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ช่องบก ก็อาจกลายเป็นจิ๊กซอว์บ่งบอกอะไรบางอย่างที่อาจจะเกิด

“คุณอย่าเพิ่งตื่นตูม...การเมืองไทยมีฉากทัศน์พิสดารตามมาอีกเยอะ” เป็นโพสต์ของ Nattharavut Kunishe Muangsuk อ้างว่าแหล่งข่าวผู้มาก่อนกาลของเขาคนหนึ่งบอกให้ “รอดู...มีคนอกแตกตายได้เลย” ทำให้เขาอยากโคว้ทชื่อ แต่เจ้าตัวห้าม

กับที่ Atukkit Sawangsuk ว่าทางเลือกเวลานี้ “ยุบสภาจึงดีที่สุด” เพราะเพื่อไทยตกอยู่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน “เลือกทางไหนก็ย่อยยับ” เนื่องจากการเลือกตั้งใหม่จะเปิดกว้างมาก ฟัดกันอีรุงตุงนัง พรรคส้มเองอาจได้ไม่ถึง ๒๐๐ เสียงที่หวัง

เลยหวนนึกถึงเสียงกระซิบข้างหูของกูรูคนหนึ่ง พูดไว้เมื่อสองสามเดือนที่แล้ว ว่ารัฐประหารจะมาแน่ แต่มาในรูป พระราชทาน เพื่อล้างให้หมดจดจริงๆ แล้วเริ่มตั้งกระดานใหม่ นับหนึ่งเป็นต้นไป ตัวเองยังข้องใจ อะไรมันจะเยี่ยมยอดขนาดนั้น

(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/Z97LtQFk, https://www.facebook.com/nattharavutm/posts/bJBsdWEob และ https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/dNKWkRhxP)

เรื่องคุยกันทางโทรศัพท์นี้มีสิ่งน่าสนใจหลายประเด็น


Noi Thamsathien
6 hours ago
·
ที่จริงเรื่องคุยกันทางโทรศัพท์นี้มีสิ่งน่าสนใจหลายประเด็น
คือต้องเข้าใจก่อนว่าบทสนทนาระหว่างผู้นำมันไม่มีทางไพรเวทอย่างถึงที่สุด มันแค่ว่าจะเปิดเผยต่อสาธารณะแค่ไหนเท่านั้น เท่าที่อ่านมา ในบทสนทนาผู้นำมันมีบันทึกแน่ๆ เพื่อเอาไปทำโน๊ตให้สองฝ่ายรับรู้ร่วมกันอีกทีหนึ่ง บางเรื่องก็นำมาเปิดเผยสาธารณะ บางเรื่องไม่เปิด ขึ้นอยู่กับความเซ็นซิทีฟและข้อตกลง
เมื่อหัวข้อสนทนามันไม่ใช่เรื่องเยี่ยมไข้ ฯลฯ แต่มันคือเรื่องข้อพิพาทของสองประเทศ แน่นอนมันต้องมีจนท.ร่วมรับฟังอย่างน้อยที่สุดมีล่ามสองฝ่าย ทีมงาน เผลอๆต้องมีจนท.ฝ่ายความมั่นคงไปบรีฟและอยู่ด้วยด้วยซ้ำไปเพื่อให้คำแนะนำอะไรต่างๆ อย่าไปคิดว่าผู้นำจะยกหูคุยกันแบบเราท่านทั่วๆไปได้เพราะการคุยโทรศัพท์มันก็คือการประชุมหรือหารือสองฝ่ายในรูปแบยหนึ่ง มันมีโปรโตคอล มีกระบวนการของมัน
เมื่อฟังจากการให้สัมภาษณ์และบทสนทนาที่เปิดออกมามันบอกเราว่านายกไทยไม่คาดคิดว่ามันจะถูกเปิดเผย หนึ่ง เพราะตอนแถลงแสดงความผิดหวังที่ไว้ใจฮุนเซ็น และสอง ในบทสนทนาพูดเรื่องความแตกแยกภายใน ถ้าไว้วางใจบอกเล่ากันถึงระดับนี้ก็แปลว่าไม่คิดว่าจะมีการนำมาเปิดเผยแน่ๆ แม้ว่าในระหว่างจนท.และทีมงานจะรับรู้กันว่าคุยกันทำนองไหน
แต่ทีนี้มันกลับถูกเปิดและไม่ใช่เปิดแบบธรรมดา มันถูกเปิดออกมาโดยคู่สนทนาอย่างเปิดเผยและผ่านสื่อเสียด้วย แปลว่าฝ่ายกัมพูชาไม่แคร์ว่าทำผิดโปรโตคอล นอกเสียจากว่าฮุนเซ็นจะบอกว่า ออ.รู้อยู่แล้วหรือได้รับการบอกเล่าแล้วว่าจะมีการบันทึกเสียงและมันเปิดเผยได้ ในกรณีที่ไม่เคยตกลงให้นำมาเปิดเผย ก็เป็นเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศต้องประท้วง ส่วนถ้าเป็นกรณีที่สองเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย
ที่คนพูดกันมากว่านายกพลาดในบทสนทนานี้ก็เพราะว่า บทสนทนานี้มันเป็นเรี่องเซ็นซิทีฟและมันเกี่ยวพันข้อพิพาทกับผลประโยชน์ประเทศ แต่คอนเท้นท์ส่วนเหตุผลในการต่อรองดันไปยกเรื่องสถานะทางการเมืองของตัวเองกับสถานการณ์ที่ถูกรุกไล่ในความแตกแยกภายใน อันนี้มัน compromise สถานะของประเทศเพราะมันเผยจุดอ่อนของตัวเอง มันจึงทำให้ถูกมองว่ายึดเอาเรื่องส่วนตัวเหนืออื่นใด แม้ว่าจะมีความพยายามกล่อมให้อีกฝ่ายตกลง แต่วิธีการโน้มน้าวและคอนเท้นท์ที่ใช้โน้มน้าวมันไม่ใช่ เพราะมันเสียสถานะของประเทศ นี่จึงเป็นจุดที่ทำให้ถูกวิจารณ์ เรื่องเช่นนี้ถ้าไม่เข้าใจ เราว่าก็ยากจะอธิบายแล้ว
ที่จริงชักอยากรู้ใครเป็นคนริเริ่ม ถ้าฮุนเซ็นเริ่มต่อสายมาแล้วอัดเสียงเอามาปล่อย นี่คือเลือดเย็นมากเลยทีเดียว อยากรู้ว่าเป้าหมายสุดท้ายฮีต้องการอะไร โชว์เหนือกับฝ่ายทหาร สอนมวย หรือกะให้มี regime change และมันเท่ากับว่าฮุนเซ็นแลกแล้ว สายสัมพันธ์นี้คือสละได้?
อีกเรื่อง เราว่าแม้ว่าข่าวจะออกมาบอกว่าแม่ทัพภาคสองไม่ติดใจและเข้าใจ เพราะนายกโทรไปเคลียร์แล้วว่าแค่แทคติค คือเราว่าคนทั่วไป “เข้าใจ” ว่ามทภ.สอง “เข้าใจ” แต่สิ่งที่น่าคิดคือที่ออ.บอกฮุนเซ็นว่าทหารอยู่ฝ่ายตรงข้าม เรื่องนี้หมายความอย่างไร ที่ผ่านมาเราก็พอเห็นการตีประเด็นหรือแอคชั่นของทหารบางส่วนดูแปลกๆและมีกระบวนการตีฟู แต่ออ.หมายถึงทหารเล่นเกม เล่นรัฐบาลใช่หรือไม่ เล่นยังไง จะประสานกันได้ไหม แต่มาถึงขั้นนี้ สถานะของตัวเองคงทำให้ยากอยู่นะ
ส่วนเรื่องที่ว่ามีคนเรียกหารปห. เอาจริงๆนะ เรายังไม่เห็น เห็นแต่แฟนคลับนี่แหละที่ออกมาโพสต์กันกระหน่ำซัมเมอร์เซลมากว่าคนเรียกหารปห คือคนที่ไม่เห็นด้วยกับมูฟนายกจำนวนมากเขาไม่ได้เรียกหารปห. เขาเรียกหาการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง และพวกเขามีสิทธิใช่หรือไม่ เราว่าอย่าเพิ่งรีบปิดป้าย มันคนละเรื่องกันและมันจะกลายเป็นว่าต้องการให้คนปิดปากไป

https://www.facebook.com/noi.thamsathien/posts/3014285972071237
.....



“สงครามในเงามืด ปฏิบัติการปล่อยคลิปเสียง... กับบทเรียนที่คนไทยต้องรู้เท่าทัน” โดย นายทหารที่ผ่านพื้นที่การรบจริง และอดีตที่ปรึกษา รมต.ICT ผู้เคยปฏิบัติการข่าวสาร ในหลายพื้นที่ปฏิบัติการ


พลอากาศตรี สุรพล นะวะมวัฒน์ is feeling pained
9 hours ago
·
“สงครามในเงามืด
ปฏิบัติการปล่อยคลิปเสียง...
กับบทเรียนที่คนไทยต้องรู้เท่าทัน”
โดย
นายทหารที่ผ่านพื้นที่การรบจริง
และอดีตที่ปรึกษา รมต.ICT
ผู้เคยปฏิบัติการข่าวสาร
ในหลายพื้นที่ปฏิบัติการ
ถ้าผมเป็นฮุนเซน...
ผมคงยิ้มออกตอนนี้แหละ
เพราะแผน “สงครามจิตวิทยา”
ที่วางไว้ กำลังได้ผล
โดยที่คนไทยจำนวนไม่น้อย
ยังไม่รู้ตัวว่า
“ตกเป็นเครื่องมือ” ไปแล้ว
การปล่อยคลิปเสียงสนทนา
ระหว่างผู้นำสองประเทศ
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
มันคือ
“ปฏิบัติการจิตวิทยาเชิงรุก”
(Psychological Warfare)
ที่มีเป้าหมายเพื่อ
บั่นทอนความเชื่อมั่น
ของประชาชนต่อผู้นำ
และ ทำให้ความมั่นคงของไทย
ปั่นป่วนจากภายใน
ในฐานะที่เคยทำงานด้านนี้
ผมจะบอกตรงนี้เลยว่า...
สงครามยุคนี้ไม่ได้ยิงกัน
ด้วยกระสุนอย่างเดียวอีกต่อไป
แต่ยิงกันด้วย
“ข้อมูล ความรู้สึก
และอารมณ์ของประชาชน”
ประเด็นที่คนไทยต้องตื่นรู้
เกมป่วนจากภายนอกได้ผลทันตา
ยิ่งคนไทยแตกแยกกันเอง
เสียงเรียกร้องให้ยุบสภา
หรือแม้แต่รัฐประหารยิ่งดัง
ฮุนเซนก็ยิ่งขำ
เพราะสิ่งที่เขาต้องการ
คือ “การทำให้ระบบการเมืองไทย
เข้าสู่ภาวะสุญญากาศ”
เพื่อให้เขา “เล่นเกมต่อ” ได้
โดยไม่มีฝ่ายตรงข้ามในระดับรัฐ
การรัฐประหาร = กับดักทางการทูต
ประเทศใดก็ตาม
ที่มีรัฐบาลทหาร
มักตกอยู่ในความยากลำบาก
ทางการต่างประเทศ
มีตัวอย่างให้ดู
และรับรู้ได้จริงในช่วงรัฐบาล คสช.
ข้อตกลง ความช่วยเหลือ การสนับสนุนจากพันธมิตรจะถูกแขวนไว้หมด
และในจังหวะนั้น
“เขมรจะเดินหน้าเต็มกำลังบนเวทีโลก”
การรบ = เข้าทางอีกฝั่ง
อย่าลืมว่าฮุนเซน
ได้ฟ้องไทยต่อศาลโลกแล้ว
ถ้ามีการปะทะเกิดขึ้นจริง
ศาลจะถือว่าไทยใช้กำลัง
และการตัดสิน
มักจะไม่เป็นธรรม
ต่อฝ่ายที่ใช้กำลังก่อน
นี่คือบทเรียนจากเวทีโลก
ที่ผมเคยเห็นมาในหลายประเทศ
คลิปเสียงคือเครื่องมือปั่นประสาท
อย่าเอามาตัดสินว่า
ใคร “ขายชาติ”
จากบทสนทนาไม่ถึง 20 นาที
เพราะคนทำงานด้านความมั่นคงจริงๆ
รู้ดีว่า การพูดคุยระหว่างผู้นำ
มันเต็มไปด้วยชั้นเชิง
บางทีต้องยอมถอย
เพื่อเอาชนะในอีกวัน
อย่าให้เขมร
“ยิงประชาชนไทยด้วยข้อมูล”
แล้วคนไทยเราหันไปยิงกันเอง
คนปล่อยคลิป (ฮุนเซน)ไม่ได้ต้องการ
แค่ให้คนไทยโกรธนายกฯ
แต่ต้องการให้คนไทยทะเลาะกันเอง
แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ยิ่งคนไทยตีผู้นำของตัวเองเท่าไร
ศัตรูก็ยิ่งเข้มแข็งเท่านั้น
วันนี้เราต้องถามตัวเองว่า
“เราจะให้ต่างชาติแทรกแซง
และกำหนดอารมณ์เรา
ได้ขนาดนี้เลยหรือ?”
บทสรุปจากความคิดเห็นของผม
ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง
ที่มีประสบการณ์และเรียนรู้
ในด้านนี้มากจาก
การฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์
อย่าจะขอกระตุกความคิด
ให้พวกเราคนไทว
ต้องมี
“สติทางยุทธศาสตร์”
ไม่ใช่แค่
“อารมณ์ทางการเมือง”
เราต้องปกป้องชาติ
ไม่ใช่ด้วยอาวุธ
แต่ด้วย “ความเข้าใจและวุฒิภาวะ”
ถ้าศัตรูใช้ข้อมูลเป็นอาวุธ
เราต้องใช้ปัญญาเป็นเกราะ
อย่าเพิ่งรีบด่าผู้นำของเรา
เพราะคลิปเสียง ไม่ใช่
“ภาพรวมของข้อตกลง”
มันคือ “ช่วงหนึ่งของบทสนทนา”
ที่ฝ่ายตรงข้าม ตั้งใจ
เลือกมาให้เราฟัง
อย่าใจร้อน
อย่าใจเบา
ถ้าเราแพ้สงครามข้อมูล
#เราอาจไม่ต้องรบเลยก็แพ้แล้ว
ผมขอให้คนไทยตั้งสติ
และปกป้องประเทศของเราให้ได้
จากสงครามที่ไม่มีเสียงปืน...
แต่รุนแรงยิ่งกว่า
ด้วยความเคารพ
จากคนเคยเห็นเลือดเนื้อ
ความสูญเสียของประชาชน
บนผืนดินของชาติอื่น
ที่ได้ไปทำหน้าที่
ผู้สังเกตการณ์ทางทหาร ของ UN
#ผู้การเสือ.

https://www.facebook.com/surapol2339/posts/10238059777895606


ถึงคนที่รักและหวังดีต่อนายกฯอย่างจริงใจ


Thai PBS World
9 hours ago
·
PM Paetongtarn Shinawatra said in a recording posted on social media, in conversation with Hun Sen regarding the Thai-Cambodian dispute.








เห็นด้วย ถ้าโง่ก็ทำ



อุ๊ยยย
.
ต้องกลัวทหารกันขนาดนั้นเลยเหรอวะ ตอนเนี้ยทหารกลัวเศรษฐกิจจะตายห่า ปัญหาที่มันสะสมตั้งแต่ยุค คสช. เพียบ! เข้ามาเลย ดูซิจะรอดมั้ย
นายพลสมัยก่อนมันชั่วแต่ฉลาด มันปล่อยให้รัฐ,เอกชนผลักดันเศรษฐกิจให้เดินก่อน แล้วมันก็ปล้นอำนาจ ปล้นคลัง ชุบมือเปิบ พอเงินหมด มันก็คืนอำนาจ รอปล้นใหม่
แต่เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจซึมยาว เพราะมันปล้นอำนาจบ่อยเกินไป ประเทศพัฒนาไม่ทันโลก ธุรกิจก็หัวเก่า คนก็เริ่มแก่ แก่ก่อนรวย แก่พร้อมหนี้สิน ปล้นได้มั้ย? ปล้นได้ แต่เหลือแต่ซาก ปล้นไปก็รับความล้มเหลวไปถือต่อ
แต่เอาจริงๆก็รีดได้แหล่ะ รีดหนังหุ้มกระดูกมันก็รีดได้ ถ้าจะรีด ดูพม่าเป็นตัวอย่าง เจ้านายเขาก็แค่เรียกจีนมาขุดแรร์เอิร์ทเลย จ่ายค่าสัมปทานเจ้านายมา ดิน น้ำ อากาศเป็นพิษ คนเป็นมะเร็งตายไม่เป็นไร ใครประท้วง เดี๋ยวเอาปืนยัดปากให้ ก็ อยู่กันไป ใครอยากหลุดพ้น ก็ ฆ่าตัวตายไปต่อแถวเกิดใหม่ ดาร์กไปว่ะ ไม่เอาๆ จบแบบมีความหวังดีกว่า
ลูกหลานเราจะต้องสัมผัสเคมีและขาดสารอาหาร ใช่ป่ะ เราก็ฝึกให้เขาเล่นบอล แล้วให้แข่งกับเด็กอีกหลายล้านคนไปเป็นนักเตะที่อังกฤษให้ได้ แบบลูโซ่ หลุยส์ ดิอาซไง ตอนเด็กเป็นเด็กเหมืองที่บาลากัส ผมแห้งเชียว สุดท้ายได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกกับลิเวอร์พูล เห็นมั้ย happy
...
อยากอ่านความเห็นอื่นๆ ไปที่
https://www.facebook.com/NearJail4711/posts/1176635654266235


ช่วงนี้ โพสต์นางแบกจะประมาณนี้


สมชาย แซ่จิว
8 hours ago
·
บรีฟใหม่นางแบก

1. เป็นเทคนิคการเจรจาหลังบ้าน
ใช้จิตวิทยาดึงเขามาเป็นพวก

2. นายกจริงใจ หวังผลประโยชน์ชาติจริงๆ
แต่ซื่อไปหน่อย เลยถูกหลอก

3. ฮุนเซนผิด ไม่มีมารยาท
เอาคลิปที่ผู้นำเจรจากันมาปล่อย
(เดี๋ยวนะ เจรจากับผู้นำต้องฮุนมาเนตไม่ใช่หรือ)

4. อย่าหลงกลฮุนเซนทำให้เกิดรัฐประหาร
ไม่ต้องยุบสภา ไม่ต้องลาออก
อยู่ให้ครบวาระ เพราะเดี๋ยวพวกกูตกงาน
เอ๊ย เพราะยังมีงานต้องทำ

5 ใครยุให้ยุบสภา ลาออก
แปลว่าเห็นด้วยกับรัฐประหาร

ช่วงนี้ โพสต์นางแบกจะประมาณนี้นะคะ
นายเค้าบรีฟมา
จึงเรียนมาเพื่อแซบ!
 
https://www.facebook.com/photo/?fbid=10163060249904040&set=a.10150221188839040


คลิปหลุดอุ๊งอิ๊ง อาจจะทำให้หลุดเก้าอี้นายกได้เลย ภูมิใจไทย อ่านเกมขาด ถอนตัวจากรัฐบาล


Khaosod - ข่าวสด 
13 hours ago
·
เก็บของแล้ว! อนุทิน สั่งจนท.ทยอยขนของห้องทำงาน มหาดไทย หลังแตกหัก เพื่อไทย



Wassana Nanuam
6 hours ago
·
ถอนตัว!!
.
“ภูมิใจไทย” ออกแถลงการณ์
จี้ “นายกฯอิ๊งค์” รับผิดชอบ
ปม คลิปสนทนา “ฮุนเซน”
เผย รมต.ของพรรคทุกคน
ส่งใบลาออกแล้ว
มีผลตั้งแต่ 19 มิ.ย.เป็นต้นไป
พรรคภูมิใจไทย ออกแถลงการณ์ ระบุว่า กรณีการโทรศัพท์ เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และกองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น
พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่ากรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล
ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิ.ย.68 เป็นต้นไป
พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร แสดงความรับผิดชอบต่อการทำให้ประเทศไทย ต้องเสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของชาติ ประชาชน และกองทัพ
พรรคภูมิใจไทย พร้อมจะร่วมมือกับประชาชนชาวไทย สนับสนุนกองทัพ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ เพื่อธำรงรักษาอธิปไตย ดินแดน และ ประโยชน์ของประเทศไทย ทุกวิถีทาง อย่างสุดกำลัง

https://www.facebook.com/photo?fbid=23987531160878683&set=a.440635312661599


คลิปหลุดอุ๊งอิ๊ง 17 นาทีกับฮุน เซน ปลิดชีพการเมืองอุ๊งอิ๊ง


คลิป 17 นาทีกับฮุน เซน ปลิดชีพการเมืองอุ๊งอิ๊ง! : Suthichai live 18-6-2568

suthichai live

Streamed live 6 hours ago 
ในประเทศ

https://www.youtube.com/watch?v=InUbZKzuNHs



“บิ๊กป้อม” ออกแถลงการณ์ จี้ นายกฯอิ๊งค์“ ลาออก สังเวย คลิป เจรจา ”ฮุนเซน“ ชี้ ผู้นำ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในหลายมิติ ไม่มีประสบการณ์ในเรื่องความมั่นคงของชาติ ย้ำ ไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อม


Wassana Nanuam
3 hours ago
·
“บิ๊กป้อม”มาดึกๆ
ลั่น ”รักชาติ ยิ่งชีพ“
ออกแถลงการณ์ จี้ นายกฯอิ๊งค์“ ลาออก
สังเวย คลิป เจรจา ”ฮุนเซน“
ชี้ ผู้นำ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในหลายมิติ ไม่มีประสบการณ์ในเรื่องความมั่นคงของชาติ
ย้ำ ไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อม
.
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ใ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกแถลงการณ์ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์และการดำเนินนโยบาย ด้านความมั่นคงภายในประเทศ ภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอ ขาดประสบการณ์ และชั้นเชิงการเจรจา ต่อการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกัมพูชา อย่างเห็นได้ชัด ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ในการบริหารราชการแผ่นดินต่อพี่น้องประชาชน และอารยประเทศ

โดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวเจรจา ที่ก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยงกับประเทศ พร้อมกับการแสดงถ้อยคำที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรี กองกำลังด้านความมั่นคงของประเทศ ที่ปกป้องรักษาอธิปไตยให้กับคนไทยด้วยความยากลำบาก​ ดังนั้นเห็นควรให้นายกรัฐมนตรีประกาศลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

​“ในฐานะที่ผมทำงานด้านความมั่นคงมาตลอดทั้งชีวิต เหมือนที่เคยกล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภาว่า การดำเนินงานด้านความมั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจในหลายมิติ การเป็นผู้นำที่ไม่มีประสบการณ์ในเรื่องความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ

และสุดท้าย ก็เกิดเรื่องที่ทำร้ายความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศขึ้น นี่่เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าประเทศไทยมีผู้นำที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ความเสียเปรียบ และอ่อนแอ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน

ผมขอยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องชาวไทยทุกคน ทหารไทยทุกนาย บนผืนแผ่นดินไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข แผ่นดินไทย ต้องเป็นของคนไทย ต้องไม่ยอมให้ใคร มารุกราน เป็นอันขาด“

รักชาติ ยิ่งชีพ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
18 มิ.ย.68


เผื่อใครไม่รู้จักฮวด ผู้เป็นล่ามในการสนทนา


Sitanun Satsaksit
11 hours ago
·
เผื่อใครไม่รู้จักฮวด คนนี้ค่า

https://www.facebook.com/photo/?fbid=10085822821500016&set=a.277216149027448


Pannika Wanich
@Pannika_FWP
·10h

ประเด็นเล็กๆที่ไม่เล็ก “พี่ฮวด” ที่เป็นล่ามในการสนทนานี้ คือคนที่เราเห็นในรูปบ่อยๆ เวลาทักษิณเจอฮุนเซน เขาเป็นคนที่อยู่กับต้าร์ วันเฉลิม ในวันที่ต้าร์ถูกอุ้มหายในกัมพูชา



ทำไม ปิยบุตร แสงกนกกุล เห็นว่า การยุบสภา คือ ทางออก ไม่ใช่ทางตัน


ถึงเวลายุบสภา #ปิยบุตรทัวร์ #EP53 กับ ปิยบุตร แสงกนกกุล 18มิ.ย.68

Friends Talk

Streamed live 7 hours ago

https://www.youtube.com/live/YJ_Tfl-hrl4

Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล
12 hours ago
·
จากกรณีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับสมเด็จฮุนเซน และกรณีความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยในเรื่องการแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จนกระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาล
ประกอบกับ เกือบ 2 ปีภายใต้รัฐบาล “ข้ามขั้ว” นี้ พรรคเพื่อไทยไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้
จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ ได้ตัดสินใจกันใหม่ว่าต้องการให้ใครเป็นรัฐบาล
เพื่อแก้วิกฤตการเมืองในระยะสั้น ทั้งของประเทศ และทั้งของพรรคเพื่อไทยเอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถึงทางตัน และเพื่อไม่ให้สถานการณ์เดินไปจนเข้าทางพวกจ้องรัฐประหาร
นายกรัฐมนตรีโปรดแสดงภาวะผู้นำ ยุบสภาเถิดครับ
ไม่มีอะไรใหญ่กว่าประชาชน


🔴แถลงฉบับเต็ม ! นายกฯ ยอมรับคุยจริง "ฮุนเซน" ปม "คลิปเสียงหลุด" | 18 มิ.ย. 68


🔴แถลงฉบับเต็ม ! นายกฯ ยอมรับคุยจริง "ฮุนเซน" ปม "คลิปเสียงหลุด" | 18 มิ.ย. 68

Thai PBS

Jun 18, 2025 

วันนี้ (18 มิ.ย. 68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงกรณีมีคลิปเสียงหลุดบนโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริงที่คุยกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กับ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยมีเจตนาต้องการสื่อสารเพื่อต้องการความสงบ พร้อมระบุว่าทราบข้อมูลจากล่ามว่าสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งตนได้คุยกับฮุนเซนว่าทั้งไทยและกัมพูชาเป็นคู่ขัดแย้งกัน ในตอนนั้นจึงมีการพูดในลักษณะนี้ ขออย่าถือสา

https://www.youtube.com/watch?v=V6R-qXJonko


“ฮุน เซน” ปล่อย คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที

https://www.facebook.com/watch/?v=1063810361787069

Samdech Hun Sen of Cambodia
9 hours ago
·
នេះជាវីដេអូសំឡេងសន្ទនាទាំងស្រុងរវាងខ្ញុំ និងនាយករដ្ឋមន្រ្តីថៃ ដែលមានរយៈពេល១៧៖០៦នាទី កាលពីថ្ងៃទី១៥ ខែមិថុនា ឆ្នាំ២០២៥ ដោយមានលោក ឃ្លាំង ហួត ជាអ្នកបកប្រែ។

This is the full audio recording of the conversation between me and the Prime Minister of Thailand, which lasted 17 minutes and 6 seconds, on June 15, 2025, with Mr. Khleang Huot serving as the interpreter.



วันพุธ, มิถุนายน 18, 2568

ไหมล่ะ ‘อนุทิน’ ไม่ยอมคายมหาดไทย ยืนกรานปฏิญญาช็อกมิ้นต์อย่างแกร่ง แต่ก็ยังไม่ไปถึงคดีทุจริตที่อดีต ส.ส.สารคามฟ้อง ปปช.หลักฐานเพียบ

ไหมล่ะ ช่อ พูดไว้ไม่กี่วันก่อนว่า อนุทิน ไม่ยอมคายมหาดไทยแน่นอน ซ้ำตั้งข้อสังเกตุถูกต้องด้วยว่า อาหนู แสดงออกนอกหน้า คอยประคบประหงมนายกฯ หญิงยิ่งกว่าใคร พอถูกยื่นคำขาดสองแลกหนึ่ง มท. หัวหน้า ภท.ปฏิเสธทันที

๑๘ ชั่วโมงให้หลัง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ขอพบอนุทิน ชาญวีรกูล ขอแลกกระทรวงสาธารณสุขและสำนักนายกฯ กับกระทรวงมหาดไทย อนุทินเซย์โนทันทีไม่ต้องตรึกตรอง อ้างปฏิญญาช็อกมิ้นต์คำไหนคำนั้นไม่เปลี่ยน ไม่ต้องเขียนลายลักษณ์อักษร

คราวนี้จึงต้องจับตาดูกันว่าต่อไปจะยังไง จะมีการยุบสภาปีหน้าไหม หรือจะเอากันปีนี้เลย ในขณะที่ทั้งอนุทินและพรรคภูมิใจไทยก็เจอมรสุมหนักไม่แพ้ชินวัตรและเพื่อไทย ไหนจะคดีฮั้วเลือกตั้ง สว.ที่ทั้งอนุทินและเนวิน ชิดชอบ โดนเรียกสอบทั้งคู่

ขนาด เสี่ยหนู ร้องโอ้โหไม่เคยเจอแบบนี้ บอกสมัยทักษิณโดนรัฐประหารก็ยังไม่ขนาดนี้ “นี่ในระบอบประชาธิปไตย ระบอบรัฐสภาแท้ ๆ ทำไมต้องเล่นกันขนาดนี้” แล้วยังอ้อนนายกฯ ช่วยคุ้มครอง (“ถ้าทำได้”) ไม่เท่านั้นเรื่อง เจ๊แมว ฟ้อง ปปช.ก็ไม่เบา

แรกนึกกันว่าไม่มีน้ำยา นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม แค่หาแสง ที่ไหนได้เอกสารหลักฐานเพียบ ข้อหาทุจริตทั้งนั้น ไหนจะที่ดิน เขากระโดง บุรีรัมย์ ความงัวยังไม่หาย ความฟายเข้ามาแทรก รันเวย์เถื่อนโคราชมาอีก

สนามบินลับสนามบินหนึ่ง สร้างขึ้นกลางถนนหลวงที่ปากช่อง เอาที่ดินของนิคมสร้างตนเองของประชาชน ขออนุญาตแล้วก็เอาตัวเองนั้นสร้างสนามบินให้กับตัวเอง เพื่อเอาเครื่องบินลงแล้วก็ทำธุรกิจทางด้านกระโดดร่ม” กุสุมาลวตี ร่าย

คำถามมีหนึ่งเดียว คุณอนุทิน ชาญวีรกูล คุณรู้สึกอาย บ้างไหม บ้านชาวบ้านบางหลังอยู่ติดสนามกอล์ฟแต่ไม่มีไฟฟ้า เพราะการไฟฟ้าไม่กล้าวางสายข้ามรันเวย์ พยาบาลดูแลผู้ป่วยติดเตียงกลับไม่ได้ เพราะเครื่องบินวนทั้งวัน...รันเวย์เชื่อมสนามกอล์ฟ” แรนโชว์ชาญวีร์

ยังมีอีก “สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ที่อื้อฉาว” หนักแน่นพอร้องขอคณะกรรมการปราบทุจริต “ดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทย และรองนายกรัฐมนตรี”

(https://www.nationtv.tv/politic/378962844pvWeRXw, https://www.facebook.com/ThaiPBS/posts/gqiAYBQfhgi และ https://www.matichon.co.th/politics/news_5235764) 

ถึง แดง-ส้มที่ต่างก็อ้างว่าพวกตนเป็นประชาธิปไตย คิดถึงคนในคุกให้มากๆ นักศึกษาบางคนยังเรียนไม่จบ เสียอนาคตไปอีกกี่ปี อานนท์ถูกตัดสินแล้วเกือบ 24 ปี บัสบาสเกิน 50 ปี


สุรพศ ทวีศักดิ์
16 hours ago
·
คิดถึงคนในคุกให้มากๆ นักศึกษาบางคนยังเรียนไม่จบ เสียอนาคตไปอีกกี่ปี อานนท์ถูกตัดสินแล้วเกือบ 24 ปี บัสบาสเกิน 50 ปี

แดง-ส้มที่ต่างก็อ้างว่าพวกตนเป็นประชาธิปไตย จะทะเลาะเรื่องอื่นๆก็ทะเลาะกันไป แต่หันมาผลักดันพรรคตัวเองช่วยคนออกจากคุกก่อน แล้วจะทะเลาะกันต่อไปอีกกี่ชาติก็ได้ ใช้ #ความเป็นมนุษย์ของตนเอง คำนึงถึงคนในคุกให้มากขึ้น นี่คือ #ข้อเสนอหลัก ของผม

(ที่มาภาพ https://prachatai.com/journal/2024/07/110064)

https://www.facebook.com/photo/?fbid=9994757707284145&set=a.330331613726851




หลายคนแปลกใจ ทักษิณ เป็นเจ้าภาพ พิธีสวดอภิธรรมศพ "พล.อ. สุจินดา" อดีต รองปธ. รสช. ลองเดาดู ตอนสุนทร คงสมพงษ์ กับสุจินดา คราประยูร ยึดอำนาจ ใครได้สัมปทานโทรศัพท์และดาวเทียม ทำให้ตระกูลหนึ่งร่ำรวยเงินทองมหาศาล



Prachaya Nongnuch
Yesterday
·
สัมพันธ์ ‘ทักษิณ - รสช.’
อาลัย ‘บิ๊กสุ’ อดีต รองปธ. รสช.
ย้อน ‘ทักษิณ’ ยุคทำ ‘ไทยคม’
.
‘ทักษิณ ชินวัตร’ ปธ.พิธีสวดอภิธรรม ‘บิ๊กสุ’พล.อ สุจินดา คราประยูร อดีต นายกฯ - อดีต ผบ.ทบ.- อดีต ผบ.สูงสุด - อดีต รองประธาน รสช. ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร 16มิ.ย.68
.
ย้อนกลับไป 35 ปีก่อน ‘ทักษิณ’ ได้ตั้งบริษัททำธุรกิจดาวเทียม เมื่อปี2533 เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมประมูลสัมปทานดาวเทียม ในยุครัฐบาล ‘น้าชาติ’พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
.
โดยแข่งกับบริษัทต่างชาติและบริษัทร่วมทุนของต่างชาติอีก 5 ราย ได้แก่ ไทยแสท, โมดูลาร์, แอซตรา, คอมแสท และ วาเคไทย
.
ทว่า ก.พ.2534 ได้เกิดเหตุการณ์รัฐประหารรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย โดย รสช. นำโดย ‘บิ๊กจ๊อด’พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผบ.ทหารสูงสุด ในขณะนั้น ที่ขึ้นเป็น หัวหน้า รสช. ในขณะนั้น พล.อ.สุจินดา เป็น รอง ประธาน รสช.
.
‘ทักษิณ’ ได้ลงนามเซ็นสัญญาการดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ระหว่างกระทรวงคมนาคม กับ บริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี (11 ก.ย. 2534 ถึง 10 ก.ย. 2564)
.
ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘ทักษิณ’ กับ ‘บิ๊กจ๊อด’ ในยุคนั้น ผ่านการปรากฏตัวของ พล.อ. สุนทร วันที่ 17ธ.ค.2536 ในวันที่ ‘ดาวเทียมไทยคม’ ถูกยิงขึ้นท้องฟ้า
.
โดย ‘ทักษิณ’ ได้กล่าวในงานเลี้ยงรับรองว่า “ถ้าไม่มีพี่ชายผมคนนี้ ก็ไม่มีวันนี้”

https://www.facebook.com/photo/?fbid=24323231440616599&set=a.503961356303608


คนชอบเชียร์ทหารผ่านได้ - 3 ประเด็นหลักของมหากาพย์ #คอนโดทหารยักษ์ แยกประชานุกูล ที่กระทบประชาชนโดยรอบมากว่าครึ่งทศวรรษ

https://www.facebook.com/PatsarinOfficial/posts/1039850138336460

กานต์ ภัสริน รามวงศ์ - Patsarin Ramwong is at แยกประชานุกูล | Prachanukul Intersection.
16 hours ago
· Bangkok, Thailand ·

3 ประเด็นหลักของมหากาพย์ #คอนโดทหารยักษ์ แยกประชานุกูล ที่กระทบประชาชนโดยรอบมากว่าครึ่งทศวรรษ
คำถามสำคัญ ทำไมรายงาน EIA ถึงผ่านทั้งที่ชาวบ้านคัดค้านและลักษณะของอาคารก็ดูเหมือนจะผิดกฎหมายควบคุมอาคารอย่างชัดเจน?
ตามคำฟ้อง ระบุว่าที่ดินที่ใช้ก่อสร้างอาคารไม่เหมาะสม และผิด พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เนื่องจากโครงการนี้เข้าข่ายเป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งตามกฎกระทรวงฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 50 (พ.ศ. 2540) ออกตามความใน พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ข้อ 2 วรรคสอง กำหนดให้อาคารขนาดใหญ่พิเศษต้องมีทางสาธารณะเข้าสู่ที่ตั้งโครงการที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร และที่ดินที่ติดถนนสาธารณะต้องกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตรเพื่อให้รถดับเพลิงเข้าออกได้สะดวก แต่คอนโดทหารยักษ์ แยกประชานุกูล มีทางเข้าทางซอยประชาชื่น 30 (ซอยสายสิน) ซึ่งมีเขตทางกว้างเพียง 12 เมตร ทำให้อาคารนี้ไม่ชอบด้วยกฎกระทรวง แม้ข้อเท็จจริงจะชัดเจนเช่นนี้ แต่รายงาน EIA กลับผ่านได้ ชาวบ้านได้คัดค้านและท้วงติงเรื่อง EIA มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดที่เปรียบได้กับการ "ติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก" หมายความว่าคณะกรรมการที่เห็นชอบอาจไม่พิจารณาข้อเท็จจริงให้รอบด้าน ศาลปกครองกลางก็มีความเห็นสอดคล้องกันว่า คชก. ที่เห็นชอบรายงาน EIA ควรพิจารณาข้อเท็จจริงให้รอบด้าน ไม่ใช่พิจารณาเฉพาะข้อมูลที่ผู้ทำรายงานเสนอมาให้พิจารณาเท่านั้น จึงถือว่าการอนุมัติดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ประเด็นเรื่องการจราจรและการเข้าออกในซอยหมู่บ้านชวนชื่น บางซื่อ ที่เป็นทางตันและมีทางเข้าออกทางเดียว ย่อมส่งผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการเข้าออกของรถดับเพลิงที่ไม่สามารถรับประกันความสะดวกได้ เนื่องจากพื้นที่คับแคบและรถเบียดกัน ปากซอยประชาชื่น 30 ซึ่งเป็นทางเข้าออก มีลักษณะเป็นซอยเฉียง ไม่เหมาะสมสำหรับรถขนาดใหญ่ และยังติดกับแยกประชานุกูลที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติดนรกแตก
นอกจากนี้ ในกรมของสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมก็มีรถบัสทหารเข้าออกจากตัวโครงการ ซึ่งแต่ละครั้งจะกีดขวางถนนประชาชื่น และเจ้าหน้าที่ รปภ. ของกรมต้องออกไปกั้นถนน และเคยมีอุบัติเหตุรถบัสเฉี่ยวชนด้วย
ความเดือดร้อนต่อชุมชนที่ไม่มีใครรับผิดชอบ
การก่อสร้างโครงการในพื้นที่ชุมชนแห่งนี้ได้สร้างผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างรอบด้านและรุนแรง ผู้พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชวนชื่น กล่าวว่าบ้านนี้เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ อายุ 40 กว่าปี มีบ้านเรือนประมาณเกือบ 500 หลังคาเรือน คนส่วนใหญ่ที่พักอาศัยก็จะเป็นคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เส้นทางสัญจรมีทางเดียวและต้องใช้รวมกันกับหลายหน่วยงาน ทั้ง ร.พ. และผู้พักอาศัยของสำนักปลัดกลาโหม จากเดิมที่พักอาศัยของสำนักปลัดกลาโหมมีอยู่ 300 ห้อง แต่จะมาเพิ่มเป็น 644 ห้อง มีกำลังพล 3,000 คนย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ มีรถบัสเข้า-ออกรับส่ง 40 คัน เมื่อฝนตกลงมาน้ำก็จะท่วมหนักกว่าเดิม รถก็จะติดเพิ่ม คนแก่จะต้องไปหาหมอก็จะได้รับความเดือดร้อนชาวบ้าน
การขนส่งวัสดุด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทำให้การจราจรในชุมชนและบริเวณทางเข้าออกโรงพยาบาลติดขัดอย่างหนัก แม้กระทั่งรถฉุกเฉินก็ต้องติดอยู่หลังกรวยจราจรที่ถูกย้ายเปิดทางให้รถปูนเข้าออกตามอำเภอใจ ทำให้คนมาใช้บริการ รพ. จำนวนมากอาจไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้ทันเวลา
ชุมชนหมู่บ้านชวนชื่นต้องทนรับเสียงดังและแรงสั่นสะเทือนจากการตอกเสาเข็มจนบ้านแตกร้าว เสา ผนัง ฝ้า พื้นเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่มีมาตรการเยียวยาที่เป็นรูปธรรม ฝุ่นละออง กลิ่นเหม็นจากเครื่องจักรและน้ำเสีย ปนเปื้อนในอากาศและทางน้ำของชุมชน ส่งผลให้เกิดโรคทางเดินหายใจ กกระทบเด็กและผู้สูงอายุซ้ำซาก ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมขังยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม เพราะการก่อสร้างไปขวางทางระบายน้ำเดิมที่แออัดอยู่แล้ว ทำให้ปัญหาน้ำท่วมขังรุนแรงขึ้นกว่าเดิม
เมื่อโครงการแล้วเสร็จ บ้านเรือนกว่า 40 หลังจะถูกเงาตึกบังแดดเกือบตลอดวัน ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ของหลายครัวเรือน กลายเป็นภาระค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้ ชาวบ้านกลับต้องรับผลกระทบเพียงฝ่ายเดียว
และทุกครั้งที่เจรจา ชาวบ้านจะบอกว่า พวกเขาไม่เคยไว้ใจหน่วยงานใด ถูกเอาเปรียบมาตลอด หมู่บ้านต้องทำทุกอย่างด้วยงบและกำลังของหมู่บ้านมาโดยตลลอด ไม่มีหน่วยงานใดมาช่วย หรือช่วยก็ช่วยน้อยมาก ไม่เคารพพื้นที่และผู้คนที่อยู่มาก่อน
ช่องโหว่กฎหมายขนาดใหญ่ที่ต้องสังคายนาทั้งหมด
ในขณะที่ประชาชนหรือภาคเอกชนทุกคนต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร มาตรา 21 ที่กำหนดให้ต้องขออนุญาตเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อนการก่อสร้าง แต่กลับมีกฎกระทรวงอีกชุดหนึ่งที่ยกเว้นขั้นตอนการขออนุญาตให้กับหน่วยงานราชการ โดย "กฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้น ผ่อนผัน หรือกำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. 2550" ข้อ 2 ได้ระบุให้อาคารบางประเภทของหน่วยงานรัฐ ได้แก่ อาคารของกระทรวง ทบวง กรม ที่ใช้ในราชการหรือใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ อาคารของราชการส่วนท้องถิ่น อาคารขององค์การของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย และโบราณสถาน วัดวาอาราม หรืออาคารต่างๆ ที่ใช้เพื่อการศาสนา ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตตามมาตรา 21, 32, 33 และ 34
นี่คือจุดที่ต้องตั้งคำถามว่าการที่อาคารของหน่วยงานราชการไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้างนั้น เป็นการลดกลไกการควบคุม และเปิดช่องให้หน่วยงานรัฐสามารถก่อสร้างตามอำเภอใจได้หรือไม่ ที่สำคัญคือการที่หน่วยงานรัฐไม่ต้องขอใบอนุญาต ทำให้เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น การแก้ไขให้ถูกต้องต้องใช้เวลานานและมีการฟ้องร้องกันในศาล ซึ่งในกรณีตึกประชานุกูลนี้ แม้ประชาชนจะคัดค้านตั้งแต่โครงการยังไม่เริ่มก่อสร้าง แต่คดีความก็ยังไม่สิ้นสุด ขณะที่งบประมาณได้ถูกจ่ายไปแล้ว และผลกระทบ รวมถึงความเสียหาย ก็เกิดขึ้นแล้ว
ปัญหาเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เราเคยเห็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับอาคารของราชการที่มีปัญหาหลายครั้ง เช่น ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มลงมา หรืออาคารรัฐสภาที่ก่อสร้างโดยที่ที่จอดรถไม่เพียงพอ ไม่ตรงกับข้อบัญญัติ กทม. ว่าด้วยที่จอดรถ ทำให้เกิดปัญหาหน่วยงานที่มาประชุมต้องไปจอดรถริมถนน กีดขวางทางเข้าบ้านเรือนประชาชน การที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ช่วยตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่อาคารจะสร้างเสร็จ อาจช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่โตที่ต้องไปฟ้องร้องในศาลและมีเรื่องงบประมาณ sunk cost เข้ามาพัวพัน ปัญหาเหล่านี้เกิดจากข้อบกพร่องตั้งแต่การออกแบบ การจัดซื้อจัดจ้าง และผู้รับเหมา แต่ไม่มีใครสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เพราะกฎหมายเปิดช่องว่างไว้อย่างโจ่งแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร การขออนุญาตก่อสร้าง หรือกฎหมายผังเมือง ล้วนมีข้อยกเว้นให้หน่วยงานรัฐไม่ต้องขออนุญาต
ปัญหาช่องว่างทางกฎหมายที่ให้อภิสิทธิ์หน่วยงานรัฐนั้น "ต้องสังคายนาทั้งหมด" นี่ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะรายโครงการ แต่เป็นปัญหาเชิงระบบ ซึ่งเป็นช่องว่างในกฎหมายหลายฉบับที่เปิดทางให้หน่วยงานรัฐใช้สิทธิพิเศษในการก่อสร้างหรือดำเนินโครงการโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ประชาชนทั่วไปหรือภาคเอกชนต้องปฏิบัติตาม ถือเป็นกฎหมายที่ให้อภิสิทธิ์รัฐในการหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ
ทำไมคนธรรมดาต้องทำตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่หน่วยงานรัฐกลับมีสิทธิพิเศษเหนือกฎระเบียบที่ตัวเองออกไว้? แล้วประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าทุกโครงการของรัฐโปร่งใส ปลอดภัย และไม่กระทบชุมชนหรือสิ่งแวดล้อม? สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าระบบกฎหมายทั้งหมดต้องถูกทบทวนใหม่หมดอย่างจริงจัง เพื่อให้กฎหมายอยู่ภายใต้หลักความเสมอภาค และไม่มีใคร แม้แต่รัฐเอง ที่จะอยู่เหนือการตรวจสอบได้
#พรรคประชาชน #บางซื่อดุสิต #กานต์ภัสริน


'Unconditional surrender': Trump's warning to Iran as sources say he warms up to US strike


'Unconditional surrender': Trump's warning to Iran as sources say he warms up to US strike

CNN

Jun 17, 2025 

US President Donald Trump — who issued a series of warnings to Iran, including calling Supreme Leader Ayatollah Ali Khamenei an “easy target” and demanding “unconditional surrender” — has wrapped a meeting with his national security team, according to the White House. 

https://www.youtube.com/watch?v=YbAqjM9tCqs



ค่อนข้างแปลกใจที่คุณ KAM PHAKA มองข้ามความสำคัญของ ความโปร่งใส และ การมีส่วนร่วมของประชาชน และตีความ “ความไว้วางใจ” ในแบบที่ผู้แทนควรได้รับความเชื่อใจโดยไม่มีข้อกังขา








เขียนแสดงความคิดเห็นยาวเหยียดที่บล็อก https://unnamedsheep.com/echoes/representative-democracy/


ใครที่กลัวประชาธิปไตยแบบตัวแทนจะเสียความชอบธรรมไปนั้น ลองไปรับชมการถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการของประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, นิวซีแลนด์ และ EU เป็นต้น


Tewarit Bus Maneechai
10 hours ago
·
ใครที่กลัวประชาธิปไตยแบบตัวแทนจะเสียความชอบธรรมไปนั้น ลองไปรับชมการถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการของประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, นิวซีแลนด์ และ EU เป็นต้น

เทวฤทธิ์ มณีฉาย - Bus Tewarit Maneechai
10 hours ago
·
[ ถ่ายทอดสดพิจารณางบฯ เสริมแกร่งระบอบประชาธิปไตยตัวแทน ชวนติดตามถ่ายทอดสด สว. ถก พรบ.งบประมาณฯ 69 ]
.
จากกรณีที่เกิดขึ้นในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ซึ่งเกิดปัญหาไม่สามารถถ่ายทอดสดการประชุมได้ โดยเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมไม่ยินยอมให้มีการถ่ายทอดสด ด้วยเหตุผลเรื่องการเปิดเผยความลับที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือการต่างประเทศ ข้อกังวลเรื่องจะมีการตำหนิข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้มาชี้แจง รวมถึงข้อกังวลเรื่องภาพการอภิปรายของ กมธ. บางคนจะถูกนำไปตัดต่อ และนำไปใช้ในทางที่ทำให้เกิดความเสียหาย
.
ร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 มีวงเงินงบประมาณกว่า 3,780,600 ล้านบาท ผมขอยืนยันว่าประชาชนในฐานะผู้จ่ายภาษีมีสิทธิที่จะรับรู้ว่างบประมาณเหล่านี้จะถูกใช้จ่ายอย่างไรบ้างโดยละเอียดไร้การปิดกั้น และการถ่ายทอดสดการพิจารณางบประมาณถือเป็นเครื่องมือที่ง่ายและซื่อตรงที่สุดในการสื่อสารกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงิน และประชาชนมีวิจารณญาณในการพิจารณาจากการรับชมการประชุมดังกล่าว
.
เทรนด์ในยุคใหม่ของรัฐและสังคมมีความพยายามส่งเสริมรัฐและข้อมูลเปิดกว้าง (open government/open data) เพื่อร่วมกันสร้าง “รัฐโปร่งใส” ตัวอย่างเช่น จากการที่ผมได้ไปดูงานที่ประเทศเอสโตเนียร่วมกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ทำให้ได้ทราบว่ารัฐบาลเอสโตเนียเปิดเผยงบประมาณภาครัฐเกือบทั้งหมดรวมถึงเงินเดือนเจ้าหน้าที่ ยกเว้นข้อมูลลับเพียง 35 รายการเท่านั้น แต่ผู้แทนประชาชนชาวไทยกลับกระทำสวนทางกับแนวคิดนี้โดยปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาโดยตรง ความพยายามปิดกั้นไม่ให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณจึงไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายใดเลย นอกจากฝ่ายรัฐมีสิ่งใดที่จำเป็นต้อง “ปกปิด” ไม่ให้ประชาชนรับรู้ ผมจึงขอเรียกร้องให้ กมธ. งบประมาณฯ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาถ่ายทอดสดการประชุมให้ประชาชนได้รับรู้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพราะความเปิดเผยโปร่งใสจะเป็น “เกราะป้องกัน” ชั้นดี และช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทั้ง กมธ. ข้าราชการ และประชาชน
.
การถ่ายทอดสดการประชุมของผู้แทนประชาชนยังเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ทั้งยังเป็นการเสริมความเข้มแข็งของประชาธิปไตยระบบตัวแทน หาใช่การทำลายระบบตัวแทนไม่ เพราะกระบวนการทำงานที่ดีและโปร่งใสจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและไว้วางใจในตัวผู้แทนมากขึ้น กลับกันหากผู้แทนคนใดทำงานได้ไม่ดีก็จะไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน การถ่ายทอดสดกระบวนการประชุมพิจารณางบประมาณจึงเป็นเวทีที่ทำให้ประชาชนได้เห็นงานของผู้แทนทั้ง สส. และ สว. เป็นสายสัมพันธ์ที่ร้อยรัดประชาชนเข้ากับระบบตัวแทนผ่านประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
.
การถ่ายทอดสดยังทำให้ระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทนเกิดความเข้มแข็ง มีความเป็นสถาบันมากยิ่งขึ้น จากการเปิดให้มีส่วนร่วมหรือดูดซับและสามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการของประชาชนได้อย่างทันท่วงที แต่หากไม่มีการถ่ายทอดสดอาจทำให้ประชาชนไว้วางใจผู้แทนน้อยลง ความไว้วางใจในระบบตัวแทนที่ดีจึงควรมาจากการตรวจสอบการทำงานของผู้แทนได้ ไม่ใช่การให้อำนาจไปแล้วให้เลยแบบสิทธิ์ขาด โดยในต่างประเทศยังมีตัวอย่างของการถ่ายทอดสดการพิจารณางบประมาณอยู่หลายประเทศ เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์
.
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วุฒิสภา ซึ่งผมเป็นหนึ่งใน กมธ. ได้แถลงข่าวประกาศว่าวุฒิสภามีนโยบายการทำงานให้โปร่งใส มีส่วนร่วมของภาคประชาชน ด้วยการเปิดการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ให้ประชาชนรับทราบถึงงบประมาณที่รัฐบาลนำเสนอตรงตามความต้องการของประชาชนหรือไม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน - 26 สิงหาคม 2568 และยังจะมีเวทีเสวนารับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนและเอกชนต่อร่าง พ.ร.บ.งบฯ ในวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภาอีกด้วย
.
การถ่ายทอดสดครั้งนี้ยังมีการเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและสอบถามประเด็นข้อสงสัยต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างความโปร่งใสในการพิจารณางบประมาณ ผมหวังว่าการถ่ายทอดสดของวุฒิสภาจะเปิดเผยไม่ปกปิดในทุกประเด็น ไม่มีการตัดทอนหรือทำให้เป็นการประชุมลับ เพราะประชาชนจะได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และรับรู้ว่างบประมาณทุกบาททุกสตางค์นั้นคุ้มค่าเงินภาษีของพวกเขาหรือไม่ และหวังว่าจะเป็นการสร้างมาตรฐาน “รัฐโปร่งใส” ใหม่ให้สภาผู้แทนราษฎรทำตามในอนาคตด้วย เงินทุกบาททุกสตางค์มาจากประชาชนก็ควรให้เจ้าของเงินได้เฝ้าดูและมีส่วนร่วมพิจารณา
.
ช่องทางรับชมการถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการของประเทศต่าง ๆ
.
[สหรัฐอเมริกา] https://www.congress.gov/commit.../video/house-budget/hsbu00
.
[สหราชอาณาจักร]
https://www.parliamentlive.tv/Committees
.
[สหภาพยุโรป]
https://www.europarl.europa.eu/.../meetings/webstreaming
.
[นิวซีแลนด์]
https://www.parliament.nz/.../live-streaming-and-video...


https://www.facebook.com/photo/?fbid=122156057804437811&set=a.122097007064437811
https://www.facebook.com/bus.tewarit/posts/10232428671312392



#ยืนหยุดขังสัญจร 17 มิ ย. 68 ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม กทม.

https://www.facebook.com/manus.klaeovigkit.9/posts/3097027417141471

Manus Klaeovigkit
10 hours ago

17 มิ ย. 68 : 15.30 น.
ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม กทม.

#ยืนหยุดขังสัญจร
กลุ่มเรียกร้องความเป็นธรรมเพื่อสังคม ออกเดินทางเพื่อเยี่ยมเยียนผู้ต้องหา #บัสบาส ที่เรือนจำจังหวัดเชียงราย
15.30 น. รถเคลื่อนออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม
16.30 น. ถึงเรือนจำบางขวาง จ.นนทบุรี มีการปราศรัยและฝากความคิดถึง #ขุนแผน_แสนสะท้าน และนักโทษการเมืองที่ถูกย้ายมาที่นี่รวม 6 คน
22.00 น. ถึงนครสวรรค์ ยืนหยุดขังที่บริเวณอุทยานสวรรค์


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
6 hours ago
·
“บัสบาส” ถูกย้ายตัวไปเรือนจำเชียงใหม่ แม้ยังคงอดอาหาร ไม่มีใครระบุเหตุแน่ชัด ขณะกลุ่มเพื่อนไม่ทิ้งเพื่อนยังเดินหน้าไป “ยืนหยุดขังสัญจร”
.
.
วันที่ 17 มิ.ย. 2568 เสียงโทรศัพท์ผ่านกระจกที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ดังขึ้น ท่ามกลางแววตางุนงงของ “บัสบาส” หรือ มงคล ถิระโคตร ผู้ต้องขังในคดีตามมาตรา 112 ที่เพิ่งถูกย้ายจากเรือนจำกลางเชียงรายมาแบบไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
.
“ผมยังไม่รู้เลยว่ามาอยู่ที่นี่ทำไม” เขาหัวเราะ ซ่อนความไม่เข้าใจในกระบวนการที่พาตัวเขามาถึงตรงนี้
.
บัสบาสเล่าว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเชียงรายเพียงนำเอกสารมาให้เขาอ่านช่วงเที่ยงของเมื่อวานนี้ บอกว่าจะย้ายตัวมาอยู่ที่เชียงใหม่จนถึงวันที่ 20 มิ.ย. โดยไม่มีคำอธิบายถึงเหตุผลที่ชัดเจน และที่สำคัญคือ ไม่มีการแจ้งญาติให้ทราบล่วงหน้า
.
ก่อนหน้านี้ “กลุ่มเพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน” ซึ่งเป็นกลุ่มประชาชนที่ทำกิจกรรมยืนหยุดขังเพื่อผู้ต้องขังทางการเมือง อยู่ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรมที่กรุงเทพฯ มีกำหนดการเดินทางมาทำกิจกรรม “ยืนหยุดขังสัญจร” ที่เรือนจำกลางเชียงราย ในวันที่ 18 มิ.ย. นี้ เพื่อส่งตัวแทนเข้าเยี่ยมบัสบาส และให้กำลังใจให้ใกล้ผู้ต้องขังทางการเมืองรายนี้ให้ใกล้ที่สุด
.
บัสบาสเล่าว่า วานนี้ (16 มิ.ย. 2568) เขาถูกเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถของเรือนจำมาพร้อมนักโทษอีก 1 ราย โดยใส่กุญแจข้อเท้าตลอด 4 ชั่วโมง ที่เดินทางผ่านเส้นทางสายเชียงราย-เชียงใหม่ ท่ามกลางฝนโปรยปราย
.
เมื่อถึงเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่อยู่ที่อำเภแม่แตง เขาไม่ได้ถูกนำไปผ่านขั้นตอนรับตัวตามปกติ ไม่ได้มีการชั่งน้ำหนักหรือตรวจร่างกาย และไม่ต้องทำทะเบียน ก่อนเขาถูกพาตัวไปที่แดนพยาบาลในทันที
.
ในแดนพยาบาลห้องหนึ่งมีฟูกนอนให้ โดยผู้ต้องขังที่ป่วยนอนรวมกัน 12 คน บางคนเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช บางคนมารักษาอาการติดยาเสพติด บรรยากาศเงียบเหงาจนบัสบาสบอกว่าดูเหมือนหนังซอมบี้
.
“ผมแข็งแรงที่สุดในนั้น ถ้ามีอะไรคงสู้ได้อยู่” เขาพูดติดตลก
.
ตั้งแต่มาถึงเป็นเวลาวันกว่า เขายังไม่ได้รับการตรวจร่างกาย และการย้ายเรือนจำ พร้อมกับนำตัวไปอยู่ที่แดนพยาบาล ทำให้เขาไม่สามารถซื้อของในเรือนจำทานได้เหมือนตอนอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงราย ต้องกินน้ำเปล่าอย่างเดียว ทำให้เขาคิดว่าร่างกายอ่อนเพลียลง
.
“ไม่มีนมให้กินเลย มีแต่น้ำเปล่า บางทีปวดท้องบ้าง แต่ยังไหวอยู่” เขาบอก
.
บัสบาสยังตั้งคำถามกับเหตุผลในการย้ายมาเชียงใหม่อย่างเงียบ ๆ หากเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ก็สามารถส่งตัวไปยังโรงพยาบาลได้ “โรงพยาบาลเชียงรายก็มี แล้วจะส่งผมมาทำไม ที่เชียงใหม่ก็ไม่มีใครรู้ว่าผมอดอาหารอยู่ด้วยซ้ำ”
.
“ไม่รู้จะส่งมาทำไม แต่ปรับตัวได้แหละ แค่เสียเวลาไปเฉย ๆ” บัสบาสบ่น
.
แม้ดูเหมือนว่าทางเรือนจำกลางเชียงรายอ้างว่าการย้ายครั้งนี้เพื่อ “การรักษาพยาบาล” ในระหว่างที่เขาอดอาหาร แต่บัสบาสกลับตั้งข้อสังเกตว่า ทุกอย่างดูไม่สอดคล้องกับคำอธิบายดังกล่าว
.
“ร่างกายก็ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต คุยรู้เรื่อง มีแรงอยู่ ถ้ามาสภาพหน้าเดฟเลยก็ว่าไปอย่าง ที่เชียงรายผมก็มีหมอมาตรวจประจำอยู่แล้ว” บัสบาสบอก
.
ก่อนสิ้นสุดการเยี่ยม บัสบาสฝากข้อความไปยังกลุ่มประชาชนยืนหยุดขัง ที่ตั้งใจเดินทางมาเยี่ยมเขาที่กลางเชียงราย แต่ดูเหมือนจะไม่ทันได้พบกันแล้ว
.
“ขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจมา ถึงแม้จะไม่ได้เจอกัน ก็รู้สึกเสียใจแทน”
.
เขายังฝากความห่วงใยกลับบ้านด้วย เพราะทราบว่าเดิมพ่อกับแม่ก็มีกำหนดจะมาเยี่ยมเขาในช่วงอาทิตย์นี้ แต่เมื่อถูกย้ายตัวมา ทำให้ไม่ได้เยี่ยมกันแล้ว
.
“ฝากบอกรักพ่อแม่ และบอกว่าผมดูแลตัวเองอยู่แล้ว เดี๋ยวเจอกันครับ”
.
บัสบาสเริ่มอดอาหารประท้วงในเรือนจำมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พ.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 32 ปีของเขา โดยยังดื่มกาแฟ นม และน้ำ เพื่อต้องการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด จนถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 32 วันแล้ว
.
ขณะที่ยังต้องติดตามต่อไปว่าวันที่ 20 มิ.ย. บัสบาสจะถูกย้ายตัวกลับไปเรือนจำกลางเชียงรายหรือไม่ และเหตุผลของการย้ายตัวเขามาเรือนจำกลางเชียงใหม่คืออะไร

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1124511009519368&set=a.656922399611567



ห๊ะ!!! ข้อมูลใหม่ ? ขอวางถุงกาวก่อน... แท้จริงแล้ว ปิรามิด คนไทยสร้าง คนอียิปต์ เป็นคนไทย สืบเชื้อสายมาจาก อีหยิบ กับ อ้ายฉวย 🤣🤣🤣


สมชาย แซ่จิว
8 hours ago
·
แท้จริงแล้ว
ปิรามิด คนไทยสร้าง
สร้างโดย พระเจ้าปรเมศที่ 8
ภายหลังเรียกเพี้ยนเป็น ปิรามิด

คนอียิปต์ แท้จริงแล้วเป็น
คนไทย สืบเชื้อสายมาจาก
อีหยิบ กับ อ้ายฉวย

เจ้เชื่อว่าถ้าเอาทฤษฎีนี้
ไปบอกพวกคลั่งชาติ
ที่บอก ขอมไม่ใช่เขมร
แต่เป็นไทย

พวกนั้นก็จะเชื่อ

#ชาติไทยเคลมไวไม่แพ้ชาติใดในโลก

https://www.facebook.com/photo?fbid=10163055881394040&set=a.10150221188839040



ข้อมูลชายแดนไทย-กัมพูชาสับสน คนไทยเช็กข่าวยังไงดี? รายการโคแฟคสนทนา รวมพลคนเช็กข่าว EP.5 17 มิถุนายน 2568


ข้อมูลชายแดนไทย-กัมพูชาสับสน คนไทยเช็กข่าวยังไงดี?

Ubon Connect

Streamed live 13 hours ago 

ข้อมูลชายแดนไทย-กัมพูชาสับสน คนไทยเช็กข่าวยังไงดี? 

รายการโคแฟคสนทนา รวมพลคนเช็กข่าว EP.5 
17 มิถุนายน 2568 
สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง COFACT 
ดร.ธนเชษฐ วิสัยจร หัวหน้าสาขาวิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 
พี่ยุทธ คนเช็กข่าว 
สุชัย เจริญมุขยนันท ดำเนินรายการ

https://www.youtube.com/watch?v=uwVzx6sYo1I



ประเทศนี้ห้ามพัฒนา : การเมืองไทย “ประชาธิปไตยไทย” กำลังถูกทำให้อ่อนแอลงมากขึ้นเรื่อยๆ


ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง
17 hours ago
·
.
การเมืองของการทำให้ “ประชาธิปไตย” อ่อนแอ
อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
.
การเมืองไทย “ประชาธิปไตยไทย” กำลังถูกทำให้อ่อนแอลงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมองได้ว่าเป็นกระบวนการทางการเมืองของความตั้งใจที่จะทำให้พรรคการเมืองตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ไปหมดทุกพรรค กระบวนการนี้ส่งผลโดยตรงในการทำให้กระแสของความหวังของสังคมที่จะสร้าง “ประชาธิปไตย” ให้เข้มแข็งนั้น ลดทอนถอนพลังลงไปอย่างเห็นได้ชัด
.
กระบวนการทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นจากเงื่อนไขหลัก ก็คือ ความปรารถนาที่จะรักษาสภาวะเดิมทางอำนาจของเครือข่ายชนชั้นนำให้ดำรงอยู่ในสถานะที่เหนือกว่า แต่ขณะเดียวกันก็ยังจำเป็นที่จะต้องรักษาไว้ซึ่ง “ระบอบการเมืองประชาธิปไตย” ไว้ เพราะไม่ต้องการให้เกิดความตึงเครียดจากกลุ่มคนที่ต้องการประชาธิปไตยและทางสากล
.
กระบวนการการเมืองนี้เริ่มต้นการดึงผู้นำพรรคการเมืองหนึ่งมา “ใช้” เพื่อลดทอนกระแสความต้องการความเปลี่ยนแปลง แต่ขณะเดียวกัน ความไม่ไว้ใจพรรคและผู้นำพรรคที่ตนเองต้อง “ใช้” ก็ทำให้หันไปผลักดันและ “ให้ท้าย” อีกพรรคการเมืองหนึ่งขึ้นมาคานอำนาจเอาไว้ โดยทำตัวอยู่ “บนภู ดูเสือกัดกัน”
.
เมื่อชนชั้นนำเชื่อว่ากลุ่มตนสามารถที่จะลดกระแสของความเปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจกฎหมายกดทับจนทำให้พรรคฝ่ายต้องการความเปลี่ยนแปลงต้องพูด/ทำในสิ่งที่ไม่เคยพูดมาก่อน รวมทั้งต้องแสดงให้เห็นกรายๆให้เห็นว่าพรรคตนเองลดมาตราฐานทางการเมืองลง กระบวนการทางการเมืองนี้จึงได้เห็นแนวทางที่ทำตามความปรารถนาได้ชัดเจนขึ้น อันได้แก่ การรักษาสภาวะเดิมทางอำนาจของเครือข่ายชนชั้นนำโดยมีอำนาจเหนือพรรคแต่รักษาภาพของ “ระบอบการเมืองประชาธิปไตย” ไว้ได้
.
การเมืองที่ทำให้พรรคการเมืองทุกพรรคอ่อนแอด้วยการ “บ่อน เซาะ กร่อน ทำลาย” ความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยของสังคม เริ่มขึ้นด้วยการ “ชี้แนะ ชี้นำ ชักจูง” ให้เกิดการเล่นงานพรรคการเมืองด้วยแง่มุมและข้อมูลของการกระทำที่ล่อแหลมหรือผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกรณีชั้น ๑๔ การออกตั๋ว PN การฮั้ว สว. ที่ดินเขากระโดง ที่ดินอัลไพน์ (แง่มุมและข้อมูล ถูกทำให้ใช้ได้ด้วยความตั้งใจ ) แน่นอนว่าบรรดาผู้นำในพรรคการเมืองต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีแผลอยู่ข้างหลังอยู่แล้ว จึงทำให้การเมืองของการทำให้พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอ่อนแอจึงทำได้อย่างประสบผลสำเร็จอย่างสำคัญ
.
การเมืองของการรักษาอำนาจชนชั้นนำปฏิเสธการเมืองเลือกตั้งแบบประชาธิไตยไม่ได้ แต่การทำให้สังคมมองพรรคการเมืองอย่างไร้ความไว้วางใจ ไร้ความเชื่อมั่น ก็ทำให้การเลือกตั้งไม่มี “อันตราย” ต่อสถานะเดิมของตนอีกต่อไป พรรคการเมืองทุกพรรคที่ผ่านการเลือกตั้งเข้ามาก็ต้อง “สยบ” กับอำนาจชั้นนำโดยปริยาย จึงไม่แปลกใจที่อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล กล่าวถึงประชาธิปไตยสองใบอนุญาต
.
สังคมไทยไม่พอใจและโกรธนักการเมือง และพรรคการเมืองที่เลวร้ายได้ แต่ต้องตระหนักว่าเราไม่ควรผลักความรู้สึกนี้ลงโทษ “ระบอบประชาธิปไตย”
.
เราทุกคนต้องเก็บความไม่พอใจ ความโกรธนี้เป็นพลังร่วมกันในการสร้างการเมืองไทยให้ดีขึ้น งดงามขึ้น
.
17 มิถุนายน 2568

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1160987839407164&set=a.472177154954906



อ.สุวิชา มองกลเกมทักษิณ “คิดว่าจะทำได้เหมือนอดีต แต่วันนี้ไม่ใช่เมื่อวาน” ส่วน ส.ส.ภูมิใจไทย โพสต์นิทานเตือน ‘ราชสีห์’ อย่าลำพอง ครั้งหนึ่งเคยพึ่ง ‘หนู’ เอาชีวิตรอด ‘อนุทิน’ ลั่นไม่ให้ ‘มหาดไทย’




 

ส.ส.ภูมิใจไทย เล่านิทานเตือน ‘ราชสีห์’ อย่าลำพอง ครั้งหนึ่งเคยพึ่ง ‘หนู’ เอาชีวิตรอด


17 มิถุนายน 2568
มติชนออนไลน์

ส.ส.ภูมิใจไทย โพสต์นิทานเตือน ‘ราชสีห์’ อย่าลำพอง ครั้งหนึ่งเคยพึ่ง ‘หนู’ เอาชีวิตรอด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสปอตไลต์ในแวดวงการเมืองช่วงนี้ ส่องไปที่ประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวสะพัด ทั้งยังออกมาปัดกันให้วุ่น

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 17 มิถุนายน นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กเล่านิทานเรื่อง “ราชสีห์กับหนู” ความว่า

“อย่าลืมว่าราชสีห์…ก็เคยต้องพึ่งหนู”

ราชสีห์ คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุดในป่า จนวันที่เขาติดกับดักนายพรานและไม่มีใครช่วย…นอกจากหนูตัวเล็กๆ ที่เคยไว้ชีวิต เชือกเส้นใหญ่ที่ราชสีห์สลัดไม่หลุด กลายเป็นแค่ของเล่นของฟันเล็กๆ จากหนู และนั่น…คือสิ่งที่ช่วยชีวิตเจ้าป่าไว้

ในวันที่เรามีอำนาจ เรามักรู้สึกว่าเราไม่ต้องพึ่งใคร แต่ชีวิตเต็มด้วยความไม่แน่นอน และก็ซับซ้อนกว่านั้น บางครั้ง…คนที่อยู่นอกสายตา อาจเป็นคนที่มีค่าที่สุดในวันที่เราล้ม อย่าดูถูกหนู อย่าดูแคลนคนตัวเล็ก เพียงเพราะเราคำรามได้ดังกว่า อย่าลืมว่า…แม้แต่ราชสีห์ ก็เคยต้องพึ่งพาสัตว์ตัวเล็กๆ เพื่อรอดชีวิต

นิทานเรื่องนี้ไม่ได้แค่สอนเรื่องความเมตตา แต่มันกระซิบบอกว่า “อย่าลำพอง” #บทเรียนชีวิต #ราชสีห์กับหนู #อำนาจไม่ใช่ทุกอย่าง

https://www.matichon.co.th/politics/news_5235212

https://x.com/thestandardth/status/1934981326710722722


UPDATE : ศูนย์ทนายระบุว่า เมื่อเช้าวันที่ 17 มิถุนายน 68 วิจิตรได้รับรักษาตัวภายนอกแล้ว และได้แอดมิท ณ สถาบันทรวงอก หลังแพทย์เห็นว่าอาการหนัก และยังตรวจพบว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองโตอีกด้วย







https://x.com/mobnewsThailand/status/1934949832302669969



ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
15 hours ago
·
ยกคำร้องประกัน ‘วิจิตร’ ระบุราชทัณฑ์สามารถดูแลได้ ขณะเดียวกันแม้ติดต่อ รพ.กว่า 14 แห่ง ยังไม่มีที่ไหนตอบรับ ด้าน รพ.ราชทัณฑ์ เริ่มให้ยาวัณโรคเพิ่ม
.
เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย. 2568) ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทนายความเข้าเยี่ยม “วิจิตร” (นามสมมติ) อดีตผู้รับเหมาก่อสร้างวัย 59 ปี ผู้ต้องขังทางการเมืองที่เผชิญข้อหาตาม #พรบคอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์ข้อความทางการเมืองในช่วงหลังรัฐประหาร ปี 2557-58 รวม 10 โพสต์ ซึ่งถูกคุมขังหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 10 ปี และไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์
.
ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์กำลังทำเรื่องเตรียมส่งตัววิจิตรไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น แต่เท่าที่ทราบขณะนี้มีการติดต่อโรงพยาบาลไปแล้ว 14 แห่ง แต่ยังไม่มีการตอบรับ และในขณะเดียวกันศาลอุทธรณ์ยังยกคำร้องขอประกันตัว แม้อาการโดยรวมยังไม่ดีขึ้นนัก ยังคงขึ้น ๆ ลง ๆ และน้ำหนักตัวยังคงลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว และวันนี้วิจิตรเริ่มทานยารักษาวัณโรคตามที่แพทย์แนะนำเป็นวันแรกแล้ว
.
.
สำหรับกรณีของวิจิตร แพทย์ตรวจพบว่าวิจิตรมีภาวะ “ปอดติดเชื้อ” และมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมด้วย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา จึงทำให้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่นั้นเรื่อยมา
16 มิ.ย. 2568 ทนายความได้เข้าเยี่ยมวิจิตร และสังเกตเห็นว่าเขาสวมใส่หน้ากากอนามัยและมีร่างกายที่ผอมแห้งลงกว่าเดิม เสื้อผ้าชุดสีขาวดูหลวมกว่าตัวเขามาก บริเวณหลังข้อมือข้างขวาไม่มีอุปกรณ์สำหรับใส่สายน้ำเกลือแล้ว แต่เปลี่ยนไปเจาะบริเวณช่วงแขนล่างข้างซ้ายแทน โดยรวมค่อนข้างอ่อนเพลีย แต่ยังพูดคุยได้ตามปกติ เพียงแค่จะตอบช้าลงกว่าเดิม เพราะผลจากการทานยา
.
วิจิตรบอกว่าตนเองในวันนี้มีน้ำหนักอยู่ที่ 51.9 กิโลกรัม อาการในตอนนี้เป็นการไอแรง ๆ สลับกับการมีไข้สูง ไม่มีน้ำมูก ไม่มีเสมหะ และเมื่อไอนาน ๆ จะมีฟองน้ำลายสีใสเกิดขึ้น จำเป็นต้องบ้วนทิ้ง และยังมีการให้ยาฆ่าเชื้อที่มีฤทธิ์แรงกว่ายาฆ่าเชื้อในครั้งแรก ส่งผลให้ขณะที่ปัสสาวะจะรู้สึกแสบประมาณหนึ่ง แต่เขายังพอทนไหว
.
สำหรับการรักษาตัว วิจิตรบอกว่าโรงพยาบาล แพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การดูแลรักษาเป็นอย่างดี วันนี้มีการส่งเลือด และเสมหะไปตรวจที่แล็ป อีกทั้งเขาได้พบแพทย์ ซึ่งแพทย์แจ้งว่าให้ยาฆ่าเชื้อที่ครอบคลุมอาการเจ็บป่วยไปแล้ว แพทย์ได้แนะนำให้ลองรักษาวัณโรคด้วย วิจิตรเห็นด้วย วันนี้เขาจึงเริ่มทานยารักษาวัณโรคเมื่อช่วงหลังอาหารเที่ยงที่ผ่านมา
.
แพทย์บอกถึงอาการป่วยของวิจิตรว่าเป็นลักษณะกราฟขึ้นลง (เดี๋ยวดีขึ้น เดี๋ยวทรุดตัว) ต้องติดตามอาการตลอด อย่างในช่วงที่เขาไข้ขึ้นสูง ก็เป็นช่วงที่วิจิตรกำลังนั่งคุยกับผู้ต้องขังคนอื่น อยู่ ๆ เขาก็มีอาการไข้ขึ้นสูงฉับพลันและทรุดทันที วัดไข้ได้ประมาณ 38-39 องศา ทำให้ต้องนอนพักทันที และมีผู้ช่วยนำผ้ามาเช็ดตัวให้เขาตลอด
.
วิจิตรเล่าต่อว่าสำหรับการทานยาพาราฯ เพื่อบรรเทาอาการนั้นไม่ได้ช่วยให้อาการเขาดีขึ้นแล้ว อีกทั้งวิธีการขับเหงื่อออกจากร่างกาย ต้องใช้วิธีตรงกันข้ามกับเวลาที่ป่วยปกติ กล่าวคือปกติหากไม่สบาย คนทั่วไปจะใช้วิธีการห่มผ้าหนา ๆ เพื่อให้เหงื่อออก แต่สำหรับเขาใช้วิธีนั้นไม่ได้ผล กลับกลายเป็นจะทำให้ไข้หนักกว่าเดิม เขาจึงต้องใช้วิธีการถอดเสื้อผ้าออกบางส่วน เพื่อให้ลมพัดและร่างกายขับเหงื่อออกมา
.
วิจิตรเล่าว่า ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ กำลังทำเรื่องเตรียมส่งตัววิจิตรไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น แต่เท่าที่เขาทราบขณะนี้มีการติดต่อโรงพยาบาลไปแล้ว 14 แห่ง แต่ยังไม่มีการตอบรับ เขามองว่าถ้าได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานีก็เป็นการดี เนื่องจากประวัติการรักษาเดิมของเขาอยู่ที่นั่น แต่ถ้าไม่ได้มีการย้าย หรือส่งต่อไปรักษาตัวที่ใดก็ไม่เป็นไร วิจิตรก็คิดว่าที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็คงให้การรักษาที่ดีพอ
.
ทนายสังเกตเห็นว่าระหว่างที่พูดคุยกัน วิจิตรไอแห้งเป็นพัก ๆ ต่อกันนาน และได้สอบถามอาการ วิจิตรตอบว่าเขารู้สึกอ่อนเพลีย มีอาการบ้านหมุน ซึ่งเขาได้แจ้งแพทย์แล้ว ส่วนตอนนี้ก็คิดได้ช้าลง และมีอาการเบลอร่วมด้วย
.
ก่อนจากกัน วิจิตรได้ฝากข้อความถึงลูกสาว และลูกชายของเขาว่า "บุญคุณต้องตอบแทน แค้นไม่ต้องชำระ อย่าไปโกรธคนที่ทำร้ายพ่อ ถือว่าพ่อมีบุญมาแค่นี้ จงอโหสิในเรื่องทุกอย่าง ตั้งใจเรียนให้มาก และหากในอนาคตเราสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ จงช่วยเขาเท่าที่ไหว”
เมื่อจบบทสนทนา วิจิตรค่อย ๆ เดินไปที่ประตูและเรียกเจ้าหน้าที่ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง เขาจึงถูกนำตัวนั่งรถเข็นกลับขึ้นไปข้างบน
.
.
อย่างไรก็ตาม แม้ทนายความยื่นขอประกันตัววิจิตรไปเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2568 และศาลอาญาส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องการประกันตัว ระบุเหตุผลว่า “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา พฤติการณ์แห่งคดี และโทษที่ศาลชั้นต้นลงแก่จำเลย ประกอบกับศาลอุทธรณ์เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์มาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งศาลฎีกาก็เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์อันเนื่องจากเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี
.
“ส่วนที่จำเลยอ้างว่าเจ็บป่วยนั้น กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลจัดการให้ได้ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 และตามพฤติการณ์ยังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง”
.
กรณีนี้ยังทำให้วิจิตรยังคงถูกคุมขังและรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งจนถึงวันนี้เขาถูกขังมาแล้ว 92 วัน


https://www.facebook.com/photo?fbid=1124206729549796&set=a.656922399611567
https://x.com/mobnewsThailand/status/1934949832302669969



วันอังคาร, มิถุนายน 17, 2568

กัมพูชายื่นคำร้องปม ๓ ปราสาทกับช่องบก ต่อศาลโลก ณ กรุงเฮกส์ มีคำถามให้ต้องคิดต่อไปว่า “แล้วต้องทำตามคำตัดสินศาลโลกไหม”

ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชาโพสต์ภาพเพื่อแสดงว่า เอกอัคราชทูตประจำเนเธอร์แลนด์ของเขา ยื่นหนังสือต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮกส์ไปแล้ว ให้ช่วยหาทางออกในกรณีพิพาทเขตแดนกับไทย ตรงพื้นที่ปราสาท ๓ แห่ง และช่องบก

ขณะที่ฝ่ายไทยก็แสดงจุดยืนทางประวัติศาสตร์ ในการไม่รับเขตอำนาจศาลโลก ฉะนั้นมีคำถามให้ต้องคิดต่อไปว่า ถ้าศาลมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างใด “แล้วต้องทำตามคำตัดสินศาลโลกไหม” สำนักข่าวเนชั่นเสนอไทม์ไลน์ย้อนไปถึงปี ๒๕๐๒

เมื่อกัมพูชายื่นขอให้ศาลวินิจฉัยเรื่องปราสาทพระวิหาร ศาลตัดสินในปี ๒๕๐๕ ให้ตัวปราสาทพระวิหารอยู่ในครอบครองของกัมพูชา ไทยต้องคืนวัตถุโบราณต่างๆ เกี่ยวกับปราสาทให้กับกัมพูชา แต่ไม่ได้ตัดสินเรื่องแผนที่ระวางดงรัก ๑ ต่อ ๒ แสน

ไทยไม่ยอมรับคำพิพากษา แต่ว่าจะคืนเฉพาะตัวปราสาทให้เขมร จนปี ๒๕๔๐ จึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการเขตแดนร่วมกัน ไทย-กัมพูชา ขึ้นแล้วมีบันทึกความเข้าใจต่อกันในปี ๒๕๔๓ เรียกว่า เอ็มโอยู ๔๓ เพื่อสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน

หลังจากที่กัมพูชายื่นจดทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ฝ่ายเดียว มีปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ๔.๖ ตารางกิโลเมตรตามมา มีเหตุปะทะกันตามชายแดนหลายครั้งระหว่างปี ๒๕๕๑ ถึง ๒๕๕๔ ซึ่งกัมพูชายื่นขอศาลโลกตีความคำพิพากษาเดิมอีกครั้ง

ปี ๒๕๕๖ คราวนี้ศาลโลกชี้ขาดเป็นเอกฉันท์ว่ากัมพูชามีอธิปไตยเหนือพื้นที่ทั้งหมดบนยอดเขาปราสาทพระวิหาร แต่ไม่รับพิจารณาเรื่องพื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตรที่เรียกว่าภูมะเขือ แม้คำตัดสินของศาลมีผลผูกพันให้คู่กรณีปฏิบัติตาม แต่ไม่มีกลไกบังคับ

ดังนั้นถ้าคู่กรณีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องการให้มีการบังคับคดี ก็ต้องไปยื่นคำร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงฯ ให้ออกมาตรการบังคับ “เห็นได้ว่า การไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ใช่ปัญหาทางกฎหมายอีกต่อไป แต่เป็นปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ”

มีตัวอย่างการไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลฯ หลายกรณี ทำได้เพราะคู่กรณีเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง สามารถใช้สิทธิพิเศษวีโต้คำตัดสินได้ เช่นคดีสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน และสหรัฐกับนิคารากัว ซึ่งสหรัฐไม่ปฏิบัติตามคำตัดสิน

“อ่านทิศทางได้ค่อนข้างชัดเจนว่า เมื่อไทยไม่ใช่มหาอำนาจ ผลที่จะเกิดขึ้นคือ แทบไม่สามารถเลี่ยงการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลกได้”

(https://www.facebook.com/NationTV/posts/VRAKtr1Do และ https://www.msn.com/th-th/news/other/AA1GNVCf) 

จับสัญญาณแปลกใหม่ ฤาว่าเบื้องลึกเบื้องหลังจะมีผู้มีอำนาจคุมเกมประเทศไทยของจริงเริ่มขยับหมาก ย้ายเรือ โยกโคน เดินม้า ขยับขุน 🤔


“นายกฯ อิ๊งค์” สั่งตั้ง ทีม ฉก.ไทยแลนด์ รับมือกัมพูชา มี #บิ๊กเล็ก รมช.กลาโหม นำทีม

สำนักข่าวราษฎร

Jun 16, 2025
.....


Wassana Nanuam
4 hours ago
·
หลังเลื่อนประชุม สมช.
บ่ายวันนี้ ออกไปก่อน
เปิดทาง ให้
“บิ๊กเล็ก” หัวหน้า “ฉก.ไทยแลนด์”
ที่นายกฯแต่งตั้ง วันนี้
เรียกประชุม นัดแรก พุธ18 มิย.นี้
ประเมินสถานการณ์ แนวหน้า-แนวหลัง
รวมทั้ง มาตรการต่างๆ
และ การสื่อสาร เชิงรุกต่อ พับบลิค
เพื่อเป็นการเตรียมข้อมูลความพร้อมต่างๆเสียก่อน 
.
พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ทำหน้าที่ ข้อต่อ ระหว่างรัฐบาล กับ กองทัพ ในฐานะทหารเก่า ได้รับ บทบาทสำคัญอีกครั้ง ในห้วงวิกฤต หลังจากที่ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงสถานการณ์โควิดฯ พลเอกณัฐพล ก็ได้เป็นผู้รับ ศปก.ศบค. เป็นหลัก ในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหา
มาตอนนี้เป็น สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งแตกต่าง และซับซ้อนครอบคลุมหลายมิติ แตกต่าง จากสถานการณ์โควิดฯ อย่างมาก พลเอกณัฐพล จึงถูกจับตามองอย่างมาก และ เป็น บทพิสูจน์ว่าในอนาคต จะได้เป็น รมว. กลาโหม สักครั้ง หรือไม่ หลังจากเป็น รมช. กลาโหมมาสองสมัย ตั้งแต่ยุคนายสุทิน คลังแสง จนมา นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็น รมว.กห.พลเรือน

https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/23972947122337087
.....

Santode Siva Suppakan
จับสัญญาณแปลกได้นิดหน่อยครับ
1. องคมนตรีที่เป็นอดีตนักรบ ลงพื้นที่ให้กำลังใจแนวหน้าและประชาชน
2. นายกฯ ปรับบทบาทการให้สัมภาษณ์ใหม่ดูตึงมากขึ้น กอปรกับการใส่เสื้อสีเขียวทหารบก
3. ปรับโครงสร้างการตอบโต้ใหม่ มีการบูรณาการรวมศูนย์โดยให้อดีตทหารเป็นผู้นำ (บิ๊กเล็ก) ตัดภูมิธรรมออกจากสารบบ (ตำบลกระสุนตกของศัตรู)
4. ฤาว่าเบื้องลึกเบื้องหลังจะมีผู้มีอำนาจคุมเกมประเทศไทยของจริงเริ่มขยับหมาก ย้ายเรือ โยกโคน เดินม้า ขยับขุน
... แต่ก็ขอบคุณครับกับแผนนี้



https://www.facebook.com/watch/?v=1666814451375850
Wassana Nanuam
4 hours ago
·
“ในหลวง” ทรงติดตามสถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชา
ทรงดูข่าว ตลอด
นักข่าว เขียนอะไร
พระองค์ท่าน ก็ทรงอ่านตลอด
“องคมนตรีไพบูลย์”อัญเชิญ สิ่งของพระราชทานเพื่อเป็นกำลังใจให้ทหารกองกำลังสุรนารี กองทัพภาค2 ที่ปฎิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
น้อมนำพระราชกระแสห่วงใยและกำลังใจ มายังประชาชนหมู่บ้านชายแดน และจนท.ฝ่ายปกครอง และฝ่ายทหาร
.พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ลงพื้นที่ชายแดนช่องบก ตำบลโดมประดิษฐ์ อ. น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อัญเชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่เจ้าหน้าที่ทหาร ที่ ปฎิบัติหน้าที่ชายแดนกองกำลังสุรนารี กองทัพภาค2 พร้อมพระราชทานขวัญและกำลังใจ