เห็นว่าโอกาสขึ้นปีใหม่นี่รัฐบาล คสช.กำลังจะแถลงผลงานในรอบสี่ปี
ที่อ้างว่าอลังการสองเรื่องด้วยกัน
คือระงับยับยั้งการคอรัปชั่นและขยับขยายสวัสดิการแห่งรัฐ แถมราคาคุยว่าผลงานสุดยอดเหนือกว่ารัฐบาลใดๆ
ที่ผ่านมา
เรื่องคอรัปชั่นนั้นได้ผลแค่ไหน สิ่งที่ทำเป็นการกำจัดราคินในหมู่พวกพ้องตนเองทั้งนั้น
คดีนาฬิกาหรูยี่สิบกว่าเรือน ‘ยืมเพื่อนและเอาไปคืนแล้ว’ ของ ‘บิ๊กป้อม’ รองนายกฯ และ
รมว.กลาโหม ก็เห็นๆ กันอยู่ว่ากระสุนไปลงที่ลิ่วล้อใน ปปช. ๕ คน
เสียงข้างมากกำลังถูก ศรีสุวรรณ จรรยา ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ ๒ หมื่นยื่นถอดถอน
คำตัดสินให้ยกคำร้องเพราะหาไม่พบหลักฐานถูกเพจดังเจ้าเก่ายันเอาซึ่งหน้า
ว่านาฬิกาที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
อ้างว่ายืมมาจากนายปัฐวาทซึ่งเสียชีวิตไปแล้วนั้น ซื้อมาตอนไหน
ในเมื่อเป็นรุ่นที่ออกวางจำหน่ายหลังจากเพื่อนที่ให้ยืมคนนั้นตายไปแล้ว
ส่วนเรื่องสวัสดิการแห่งรัฐก็เช่นกัน
ยิ่งกว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ในเมื่อเงินงบประมาณที่ คสช.
เอามาทุ่มทั้งสิ้นกว่าสองแสนล้าน มันมลายหายไปเฉยๆ ตลอดสี่ปีไม่มีอาการกระเพื่อมในความกินอยู่ที่ดีขึ้นของประชากร
แต่ความอูฟูไปอยู่ที่พวกเจ้าสัวที่สนับสนุน คสช.ทั้งนั้น
ล่าสุด รายการ คสช. (เอาเงินของประชาชนไป) ‘อุ้มค่อม’
เจ้าสัวประชารัฐ มาจากลิ่วล้อฝ่ายสรรพากร เมื่ออธิบดีประกาศงดเก็บภาษีแก่ผู้ประกอบการในโครงการประชารัฐ
โดย “ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายจ่าย ที่ได้จ่ายเพื่อดำเนินโครงการภายใต้โครงการ สานพลังประชารัฐ”
หนักเข้าไปอีกด้วยการยกเว้นภาษีย้อนหลังไปถึงวันที่ ๑
มกราคม ๒๕๖๑ แม้นจะมีระเบียบการต่างๆ นานา
เช่นว่าต้องมีคำรับรองจากหน่วยงานประชารัฐของ คสช.
แห่งใดแห่งหนึ่งในกรรมการขับเคลื่อนประเทศ ๑๒ แห่ง
หรือว่าต้องมีใบเสร็จยืนยันว่าห้างหรือธุรกิจได้ทำการอุทิศบริจาคแก่โครงการ
สำนักข่าวอิศรารวบรวมรายการ ‘แจกแถม’ ของ คสช. ที่ผ่านมาเอาไว้ให้ดูกันก่อนสิ้นปี
ว่าเป็นการโปรยทานด้วยเงินงบประมาณที่ควักจากคลังล้วนๆ ๒๐๓,๗๓๙ ล้านบาท
(อิศราเรียก ‘เฮลิค้อปเตอร์มันนี่ย์’)
ในจำนวนนั้นเป็นการแจกสดๆ “ทันใจไปถึงมือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการฯ
โดยที่ผู้รับไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากไปยืนกดเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม
หรือนำไปใช้ซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ” จำนวน ๕๗,๖๐๒ ล้านบาท
ส่วนที่แจกชาวนาแบบองค์ลงตรงหน้าตักนั่นราว ๖๑,๘๑๐ ล้านบาท ชาวสวนยาง
๑๘,๐๗๑ ล้านบาท และชาวสวนปาล์มก็พลอยฟ้าพลอยฝนด้วย ๓,๓๗๕ ล้านบาท กับที่ให้แก่เกษตกรพืชไร่อื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นยาสูบ ข้าวโพด อ้อย ประมาณ ๑๗,๗๓๕ ล้านบาท
รวมทั้งที่แจกคนทั่วไป คนชรา คนยากจน และคนของกรู
(ข้าราชการทหาร พลเรือน ตุลาการ และข้าราชการ คสช.) ไม่ต่ำกว่า ๖๐,๘๕๘ ล้านบาท
แต่แล้วแทนที่ชาวบ้านจะลืมตาอ้าปาก กลับกลายเป็นว่าเจ้าสัวรวยเอาๆ
ดังที่อิศราว่า มีความเหลื่อมล้ำระหว่าง “คนรวย ๑๐% แรก และคนจน ๑๐% สุดท้าย ห่างกัน ๑๙.๒๙ เท่า” จึงถามกันตรึมว่า
“เม็ดเงินที่ครม.ประยุทธ์แจกไปนั้น แท้จริงแล้วใครได้ประโยชน์
เพราะสุดท้ายแล้วเม็ดส่วนใหญ่จะไหลไปกองที่กลุ่มทุนค้าปลีกขนาดใหญ่
ธุรกิจอาหาร ธุรกิจค้าปุ๋ย และค้ายาฆ่าแมลง ซึ่งมีเจ้าของผูกขาดอยู่แค่ไม่กี่ตระกูลเท่านั้น”
เรื่องของเรื่องถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ประชาชนส่วนใหญ่ยังเฉยแบบว่า ‘กูจะดูใจมัน’ ละก็
ก๊วน คสช.+เจ้าสัว จะได้อูฟูกันต่อไป
ท่ามกลางความแร้นแค้นของประชากร