วันจันทร์, เมษายน 07, 2568

สถานทูตจีนนี่เขากร่างกับประชาชนมณฑลไท้กั๋วเสียจริง แจ้งอย่างทางการเป็นภาษาไทยว่า ให้เชื่อข้อมูลที่ออกมาจากสถานทูตเท่านั้น

แหม่ง สถานทูตจีนนี่เขากร่างกับประชาชนมณฑลไท้กั๋วเสียจริง จากโพสต์ที่ Pravit Rojanaphruk บอก เขา “แจ้งเตือนอย่างเป็นทางการ” ว่าถ้าเห็นข่าวอะไรเกี่ยวกับจีน ถ้าไม่ตรงกับที่สถานทูตแจ้งไว้ ถือเป็นข่าวเท็จทั้งนั้น

อันเนื่องมาแต่ถ้อยแถลงเป็นภาษาไทยของสถานทูตจีนเมื่อวาน (๖ เมษา) ที่ว่า “ช่วงนี้มีข่าวลือปรากฏในสื่อออนไลน์ ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อความในถ้อยแถลงของสถานเอกอัครราชทูต” จึง “แนะนำคนไทยว่า” ข้อมูลใดไม่ตรงเนื้อหาของจีน “ถือเป็นข่าวเท็จ”

บก.ข่าวสด อิงลิช ว่านั่นเป็น “โลกทัศน์ของการพยายามควบคุม และผูกขาดความจริงไว้ในกำมือแต่ผู้เดียว” และ “สรุปคือความจริงต้องมาจากสถานทูตจีนเท่านั้น” ละหรือ “นี่ถ้ารัฐบาลจีนบล็อคโซเชี่ยลมีเดียตะวันตกในไทยได้” คงทำไปแล้ว

Atukkit Sawangsuk นักวิเคราะห์ข่าวระดับ ไอคอน อีกคนเห็นพ้อง “แม่ง ตึกถล่ม ก่อสร้างเทา เหล็กเส้นเทา ขยะมลพิษเต็มประเทศ แทนที่จะขอโทษ สถานทูตจีนกลับข่มขู่คนไทยเป็นลูกไล่” นี่เขาพ่วงพิงจากข่าว

“มาเลย์ ชวนสิงคโปร์ อินโด บรูไน ฟิลิปปินส์ จับเข่าคุย มาตรการต่อรองกับทรัมป์ร่วมกัน ทำไมไม่ชวนไทย ทั้งที่ทักษิณเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน” ก็สันนิษฐานว่า ๕ ชาตินี้ “อยู่ในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอเมริกา หรือเว้นห่างจากจีนมากกว่าไทย”

โดยเฉพาะข้อบาดหมางระหว่างฟิลิปปินส์กับจีน เรื่องจีนลุกล้ำน่านน้ำแถวหมู่เกาะสแปร๊ทลี่ย์ “เขาอาจคิดว่าถ้าพ่วงไทยไปด้วย จะทำให้ต่อรองยาก” และ “นี่จะทำให้เราเสียเปรียบมาก หากต้องเจรจาเดี่ยวๆ”

ว่ากันตามจริงปัญหาจีนกร่าง มันมีมาแต่สมัย ไอทู้บที่เดี๋ยวนี้เป็น องคฯ ของกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน ดูจากที่ Nattharavut Kunishe Muangsuk เค้าเล่าไว้เรื่อง “ทุนจีนกินรวบ ทางสะดวกในยุคเผด็จการ เพราะกลไกการตรวจสอบถูกทำลายจนง่อยเปลี้ย”

คือหลังรัฐประหาร ๒๕๕๗ คสช.ส่งคนเข้าไปคุมองค์กรอิสระ หน่วยงานตรวจสอบทุจริตภาครัฐ ไว้หมด ทั้ง ป.ป.ท.-ป.ป.ช.-ส.ต.ง. แล้วก็เปิดรับทุนจีนเข้ามาในไทยกันฉ่ำ “ถ้าจำชื่อ ตู้ห่าว ผู้บริจาคเงินให้พรรคที่หนุนประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ”

มีการผ่อนปรนนโยบายกับจีน “ให้สิทธิ์พิเศษกับนักลงทุนจีน” China Railway No.10 Engineering Group ลูกบุญธรรมของ CREC ในไทยก็เกิดตอนนั้น “บริษัทเหล็กจีนก็ล้วนมีนายทหารระดับนายพลเข้าไปนั่งที่ปรึกษา อิ่มหมีพีมันไปถ้วนทั่ว”

ประเด็นที่ผู้สื่อข่าวอิสระบ่นอยู่ที่ เด็กของนายใหญ่ “การเอาเรื่องรัฐประหารมาข่มขู่ จึงน่าโกรธเคืองพอๆ กับการชื่นชมผู้นำรัฐประหารว่าเป็นสุดยอดผู้นำ มันช่างบิดเบี้ยวและน่าสมเพช” พอๆ กับ องคฯ คนนั้น

(https://www.facebook.com/nattharavutm/posts/Qa57KkXpX9, https://www.facebook.com/baitongpost/posts/YFLThEgDX และ https://www.facebook.com/pravit.rojanaphruk.5/posts/XPzGbsXZKL) 

เรื่อง Tariff นายกฯเราดูเอาไม่อยู่จริงๆนะ ยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ แอ็คชั่นของลอเรนซ์ หว่อง และอันวาร์ อิบราฮิม (รวมถึงโต เลิม) หลายคนคิดว่า เศรษฐาจะทำได้ดีกว่ามาก อย่างน้อยมีประสบการณ์ผ่านงานการเจรจาธุรกิจมาเยอะ แต่เธอ.... More for less. Less for more ?

.....
Fuadi Pitsuwan
Yesterday
·
นายกฯเราดูเอาไม่อยู่จริงๆนะ ยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ แอ็คชั่นของลอเรนซ์ หว่อง และอันวาร์ อิบราฮิม (รวมถึงโต เลิม) สถานการณ์นี้นายกฯต้องแสดงความเป็นผู้นำมากกว่านี้ ทั้งในเชิง Substance และ Optics
Substance ยังมองไม่ค่อยเห็น และดูเหมือนกำลังโยนหน้าที่ความรับผิดชอบไปให้คนอื่น ส่วน Optics ตอนนี้สังคม(กลุ่มใหญ่)จำได้แต่ภาพของนายกฯจับมือกับคนที่นานาชาติถือว่าเป็นอาชญากรสงคราม
เราต้องเข้าใจกันก่อนว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในภาวะสงคราม(การค้า) นายกฯของเราเป็น (trade) war time prime minister ไปเรียบร้อยแล้ว
นายกฯต้องแสดงความเป็นผู้นำให้ได้ ไม่งั้นเราแพ้แน่นอน และถ้าไม่ไหวก็ควรเปิดทางให้คนอื่น (ส่วนตัวคิดว่าถ้าท่านเศรษฐายังเป็นนายกฯอยู่ รัฐบาลจะทำได้ดีกว่านี้)


https://www.facebook.com/fuadi.pitsuwan/posts/10105057889111485
https://x.com/lo6dfu8jt/status/1908538932255744365







 

มาเลย์ ชวนสิงคโปร์ อินโด บรูไน ฟิลิปปินส์ จับเข่าคุยมาตรการต่อรองกับทรัมป์ร่วมกัน ทำไมไม่ชวนไทย ทั้งที่ทักษิณเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน


Atukkit Sawangsuk
15 hours ago
·
มาเลย์ ชวนสิงคโปร์ อินโด บรูไน ฟิลิปปินส์ จับเข่าคุยมาตรการต่อรองกับทรัมป์ร่วมกัน
ทำไมไม่ชวนไทย
ทั้งที่ทักษิณเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน
น่าจะเป็นเพราะ 5 ชาตินี้ อยู่ในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอเมริกาหรือเว้นห่างจากจีน มากกว่าไทย (รวมทั้งมีข้อบาดหมางกับจีน เช่นฟิลิปปินส์)
เขาอาจคิดว่าถ้าพ่วงไทยไปด้วย จะทำให้ต่อรองยาก
นี่จะทำให้เราเสียเปรียบมาก หากต้องเจรจาเดี่ยวๆ
จะล็อบบี้ยังไงก็ตาม ไม่ต้องมีเขียดมีสังกะสี ต้องขอให้ 5 ชาตินี้ พ่วงเราเข้าไปด้วย
:
แม่ง ตึกถล่ม ก่อสร้างเทา เหล็กเส้นเทา ขยะมลพิษเต็มประเทศ
แทนที่จะขอโทษ สถานทูตจีนกลับข่มขู่คนไทยเป็นลูกไล่

https://www.facebook.com/baitongpost/posts/9582894885125588


South China Morning Post รายงานว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ “อย่างสร้างสรรค์” ระหว่างทรัมป์กับผู้นำ #เวียดนาม อาจช่วยลดภาษีนำเข้า 46% และกระตุ้นการค้า


Pipob Udomittipong
17 hours ago
·
South China Morning Post รายงานว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ “อย่างสร้างสรรค์” ระหว่างทรัมป์กับผู้นำ #เวียดนาม อาจช่วยลดภาษีนำเข้า 46% และกระตุ้นการค้า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับโต เลิม ผู้นำเวียดนาม ซึ่งกำลังพยายามหลีกเลี่ยงการลงโทษภาษีนำเข้า 46%

ทรัมป์กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า ผู้นำเวียดนามบอกกับเขาว่า "เวียดนามต้องการลดภาษีลงเหลือศูนย์ หากพวกเขาสามารถทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้" "ผมขอบคุณเขาในนามของประเทศของเรา และบอกว่า ผมหวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้"

ผู้นำทั้งสองประเทศตกลงที่จะพูดคุยกันต่อไป "เพื่อลงนามข้อตกลงทวิภาคีเกี่ยวกับภาษีศุลกากรในเร็ว ๆ นี้" รัฐบาลเวียดนามกล่าว และเสริมว่าทรัมป์ยอมรับคำเชิญให้เดินทางมาเยือนเวียดนามในเร็ว ๆ นี้ด้วย

รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม โฮ ดึ๊ก ฟ็อก และผู้บริหารจากบริษัทต่างๆ เช่น Vietnam Airlines JSC และ VietJet Aviation JSC อยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ เพื่อพยายามลดภาษีศุลกากร และมีความเป็นไปได้ว่าสหรัฐฯ น่าจะเลื่อนการใช้ภาษีศุลกากรใหม่ออกไป เพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงได้

Zachary Abuza ศาสตราจารย์จาก National War College ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการเมืองและประเด็นด้านความมั่นคงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า เวียดนามเข้าใจว่าภาษีดังกล่าวเป็นเพียง "กลยุทธ์ในการเจรจา"

และบอกว่า "ชาวเวียดนามเข้าใจการเมืองแบบแลกเปลี่ยน (transactional politics) เป็นอย่างดี" และเสริมว่าผู้นำของประเทศนี้ "ควรพยายามอย่างยิ่งที่จะหาความร่วมมือ" กับรัฐบาลทรัมป์ เนื่องจากโครงการปรับปรุงเศรษฐกิจของประเทศมีพื้นฐานอยู่บนการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
https://www.scmp.com/.../trump-says-vietnam-willing-cut...

https://www.facebook.com/photo/?fbid=10162350043686649&set=a.10150096728651649



ถ้อยแถลงล่าสุดของลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) ที่เรียกเสียงชื่นชมล้นหลาม จากการยืนหยัดเตือนพลเมืองสิงคโปร์และผู้คนทั้งโลกให้เตรียมรับมือคลื่นกระแทกลูกใหม่ หลังสหรัฐอเมริกาเดินหน้าขึ้นภาษีการค้าอย่างแข็งกร้าว


Salika
21 hours ago
·
ถ้อยแถลงล่าสุดของลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) เรียกเสียงชื่นชมล้นหลาม จากการยืนหยัดเตือนพลเมืองสิงคโปร์และผู้คนทั้งโลกให้เตรียมรับมือคลื่นกระแทกลูกใหม่ หลังสหรัฐอเมริกาเดินหน้าขึ้นภาษีการค้าอย่างแข็งกร้าว แต่ก่อนจะไปถอดรหัสความหมายลึกซึ้งของคำพูดเหล่านี้ เราลองมาดูว่านายกรัฐมนตรีสิงคโปร์พูดอะไรบ้างในแถลงการณ์ที่ทั่วโลกต้องฟังอย่างครุ่นคิด
.
เขาชี้ชัดแบบไม่อ้อมค้อมว่าสิงคโปร์ต้องเตรียมใจรับมือกับแรงสั่นสะเทือนจากเวทีการค้าโลก หลังสหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าครั้งใหญ่ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ออกโรงเตือนว่า ความสงบและเสถียรภาพระหว่างประเทศที่โลกเคยคุ้นเคยจะไม่หวนกลับมาในเร็ววัน พร้อมชี้ให้เห็นแนวโน้มของระเบียบโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการแข่งขันรุนแรงยิ่งขึ้น
.
“เราต้องไม่หลงคิดว่าโลกจะกลับไปเป็นเช่นเดิม กฎเกณฑ์ที่เคยคุ้มครองประเทศเล็กๆ อาจไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป” เขาล่าวในวิดีโอที่เผยแพร่ผ่าน YouTube เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า “ผมพูดเรื่องนี้เพื่อให้ทุกคนเตรียมใจไว้ล่วงหน้า เราไม่ควรปล่อยให้ตัวเองประมาท เพราะความเสี่ยงในวันนี้สูงกว่าเดิมหลายเท่า”
.
คำเตือนของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากหลายประเทศทั่วโลกเมื่อวันที่ 3 เมษายน โดยเฉพาะกับจีน สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และอินเดีย รวมถึงหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกลายเป็นชนวนใหม่ของความตึงเครียดทางการค้าโลก
.
แม้สิงคโปร์จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากอัตราภาษีเพียง 10% ซึ่งนับว่าต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ลอว์เรนซ์ หว่อง เตือนว่า ความเสียหายที่แท้จริงอาจลึกซึ้งและซับซ้อนกว่าที่เห็น
.
“สิ่งที่น่ากังวลไม่ใช่เพียงแค่ภาษีในวันนี้ แต่เป็นแนวโน้มที่ประเทศต่างๆ จะเริ่มทำตามสหรัฐอเมริกา โดยใช้กำลังและผลประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้ง การเพิกเฉยต่อกรอบ WTO และระบบระหว่างประเทศที่เคยถ่วงดุลไว้ นั่นคือความจริงที่โหดร้ายที่เราต้องเผชิญ” เขากล่าว
.
เขายืนยันว่าสิงคโปร์จะยังคงเสริมสร้างความสามารถในประเทศ พร้อมจับมือกับพันธมิตรที่มีแนวคิดเดียวกัน เพื่อยืนหยัดในโลกใหม่ที่วุ่นวายยิ่งขึ้น “เราพร้อมกว่าอีกหลายประเทศ ด้วยความสามัคคี ความมั่นคงทางการเงิน และความตั้งใจแน่วแน่”
.
นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านของโลกาภิวัตน์ว่า กำลังเดินหน้าเข้าสู่ระเบียบโลกแบบใหม่ โดยอ้างถึงบทบาทดั้งเดิมของสหรัฐอเมริกาที่เคยเป็นผู้นำในการผลักดันระบบการค้าเสรีและ WTO ซึ่งแม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ทำให้เกิดเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากมายในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
.
“สิ่งที่สหรัฐอเมริกาทำอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่การปฏิรูป แต่คือการถอนตัวออกจากระบบที่ตัวเองสร้างขึ้น การใช้ภาษีศุลกากรแบบตอบโต้เฉพาะประเทศ ถือเป็นการปฏิเสธกรอบ WTO อย่างสิ้นเชิง”
............................................................................................
:: เสียงสะท้อนจากรัฐบาลและภาคธุรกิจสิงคโปร์ ::
.
ด้านรองนายกรัฐมนตรี กัน คิม ยอง ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ เตือนว่าครัวเรือนและธุรกิจในประเทศต้องเตรียมรับมือกับ “สถานการณ์ที่เลวร้าย” พร้อมเผยว่าสิงคโปร์กำลังทบทวนการคาดการณ์เศรษฐกิจ และอาจต้องปรับตัวในไม่ช้า หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อ
.
ด้าน ลี เซียนลุง รัฐมนตรีอาวุโส อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศสิงคโปร์ ก็ออกมาแสดงความเห็นผ่านโพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การเติบโตของสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบแน่นอน แม้จะยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลลัพธ์อย่างชัดเจน
.
ในขณะเดียวกัน สมาคมการค้าและภาคธุรกิจในประเทศต่างเตรียมความพร้อมรับมือกับต้นทุนที่อาจพุ่งสูงขึ้นจากความปั่นป่วนในห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมแสดงความกังวลต่อความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจลามกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก
............................................................................................
:: ย้อนรอยประวัติศาสตร์ และบทเรียนจากทศวรรษ 1930 ::
.
ผู้นำสิงคโปร์ยังเตือนอีกว่า โลกอาจกำลังเดินซ้ำรอยประวัติศาสตร์ในช่วงทศวรรษ 1930 ซึ่งความขัดแย้งทางการค้าไต่ระดับสู่ความตึงเครียดทางการเมือง และนำไปสู่ความขัดแย้งทางทหารในที่สุด นั่นคือช่วงก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
.
“เราต้องไม่ประมาท เพราะหากโลกยังคงดำเนินตามเส้นทางนี้ ประเทศเล็กๆ อย่างเราเสี่ยงที่จะถูกบีบให้พ้นวง ถูกทอดทิ้ง และหลุดออกจากเวทีโลกในที่สุด” เขากล่าวสรุป
.
จากถ้อยแถลงดังกล่าว สามารถถอดรหัสกลยุทธ์การสื่อสารของผู้นำสิงคโปร์ และบทบาทภาวะผู้นำ ได้ดังนี้
.
1. การสื่อสารอย่างมีวิสัยทัศน์ (Visionary Communication) : ลอว์เรนซ์ หว่องไม่เพียงกล่าวถึงผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจ แต่ยกระดับการสื่อสารไปสู่ภาพใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงในระเบียบโลก (Global Order Disruption) โดยใช้ถ้อยคำที่ชัดเจน เช่น “ความสงบและเสถียรภาพของโลกที่เราเคยรู้จัก จะไม่กลับมาในเร็วๆ นี้” และ “เรากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในโลกาภิวัตน์ ที่อิงกับกฎเกณฑ์ มาสู่โลกที่เผด็จการ กีดกัน และอันตรายมากขึ้น”
.
นี่ไม่ใช่การพูดเพื่อสร้างความตื่นตระหนก แต่เป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนว่า โลกกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องถาวร ไม่ใช่ชั่วคราว
.
ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์จะช่วย “เชื่อมโยงเหตุการณ์เฉพาะหน้า” เข้ากับ “แนวโน้มระยะยาว” ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
.
2. ความโปร่งใสและการพูดความจริง (Radical Transparency) : ผู้นำส่วนใหญ่มักใช้ถ้อยคำที่ “กลางๆ” หรือ “ปลอบใจ” เพื่อหลีกเลี่ยงการตื่นตระหนก แต่เขาเลือกที่จะ “พูดตรง พูดจริง และพูดก่อน” เขาเตือนว่า “อย่าหลงระเริง ความเสี่ยงมีอยู่จริง และเดิมพันนั้นสูง” รวมถึง “เราอาจถูกบีบให้จำนน ถูกละเลย และถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”
.
การใช้แนวทาง “พูดความจริงแม้จะขื่นขม” (Brutal Honesty) แบบนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้นำ และความไว้วางใจในสติปัญญาและวุฒิภาวะของประชาชน
.
ความโปร่งใสช่วยลดข่าวลือ สร้างความน่าเชื่อถือ และบอกให้ประชาชนเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมรับมือกับผลกระทบในระดับต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมการบริหารของสิงคโปร์ที่เน้น “รัฐบาลที่พูดจริง ทำจริง” ไม่ปิดบัง ไม่ขายฝัน
.
3. การปลุกความสามัคคีและความมั่นใจ (Reinforcement of National Unity) : แม้จะเตือนตรงๆ เตือนแรงๆ แต่นายกฯ สิงคโปร์ไม่ทิ้งความหวัง โดยเน้นย้ำให้ประชาชนเชื่อว่า “หากเรายังยืนหยัด มีความสามัคคี และเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เราจะสามารถยืนอยู่ได้แม้ในโลกที่มีปัญหา” และ “เรามีความพร้อมมากกว่าประเทศอื่นๆ ด้วยทุนสำรอง ความสามัคคี และความมุ่งมั่นของเรา”
.
นี่คือรูปแบบการสื่อสารแบบ “Truth + Hope” หรือ “พูดความจริงเพื่อเตรียมใจ และทิ้งท้ายด้วยความหวังเพื่อรวมพลัง” เขาไม่ได้ต้องการทำให้ประชาชนหวาดกลัวหรือหวั่นวิตก แต่ทำให้ “ตื่นรู้” แล้วชี้ให้เห็นว่า สิงคโปร์ไม่ได้ไร้ทางเลือก การเน้นย้ำ “ความสามัคคี” เป็นการยืนยันถึง “พลังของการรวมกันเป็นชาติเล็กที่ยิ่งใหญ่” และเป็นหนึ่งในเสาหลักของการบริหารประเทศสิงคโปร์
.
4. การใช้วิกฤตเป็นโอกาสในการให้ความรู้และปลุกพลังพลเมือง (Civic Education through Crisis) : นายกฯ สิงคโปร์ใช้สถานการณ์การขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐอเมริกาเป็นจุดเปลี่ยนในการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับระบบ WTO, การค้าเสรี, และบทบาทของสิงคโปร์ในเวทีโลก เขาอธิบายว่าระบบ WTO เคยสร้างเสถียรภาพให้โลก แต่วันนี้ถูกละทิ้ง และโลกอาจย้อนกลับไปสู่ยุคที่ “ใครมีอำนาจก็เป็นฝ่ายกำหนดกติกา”
.
นี่คือการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นบทเรียน เพื่อยกระดับความเข้าใจของสังคม ไม่ใช่แค่ระดับผู้นำ แต่ขยายถึงประชาชนทั่วไป สะท้อนบทบาท “ผู้นำที่เป็นครู“ หรือ Educator-in-Chief ซึ่งเป็นภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ที่หายาก
.
5. ภาวะผู้นำเชิงรุกในโลกที่เปลี่ยนแปลง (Proactive Leadership in a Disrupted World) : ลอว์เรนซ์ หว่อง เตือนถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้า เช่น การตอบโต้จากประเทศอื่นๆ การกีดกันทางการค้า และภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
.
เขาเรียกร้องให้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และครัวเรือน “เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์เลวร้าย”
พร้อมย้ำว่า สิงคโปร์จะปรับประมาณการเศรษฐกิจและออกมาตรการเสริมทันทีหากจำเป็น พร้อมกันนี้ก็ได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าผู้นำที่เก่งต้องไม่รอรอให้สถานการณ์แย่ก่อนแล้วค่อยแก้ไข แต่เลือกใช้แนวทาง “เตรียมพร้อมก่อนเกิดวิกฤต” นี่คือภาวะผู้นำแบบ Agile + Resilient ที่เน้นการคาดการณ์ + ความยืดหยุ่น + การตัดสินใจเชิงรุก
.............................................................................................
โดยสรุปแล้วภาพรวมภาวะผู้นำของลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯ สิงคโปร์ในครั้งนี้ ประกอบด้วย
.
1. Visionary | มองไกล เข้าใจแนวโน้มโลกที่เปลี่ยนแปลง
2. Courageous | กล้าพูดความจริง ไม่หลบเลี่ยงความขมขื่น
3. Inclusive | รวมพลังประชาชนทุกภาคส่วน เป็นเจ้าของวิกฤตร่วมกัน
4. Transparent | ซื่อสัตย์ โปร่งใส สร้างความไว้ใจอย่างยั่งยืน
5. Agile Leader | เตรียมพร้อม ปรับตัวไว สื่อสารก่อนเสมอ
............................................................................................
:: เมื่อผู้นำต้องมองไกลกว่าคลื่นลมตรงหน้า ::
.
ในห้วงเวลาที่โลกกำลังโหมกระหน่ำด้วยแรงปะทะของความเปลี่ยนแปลง ผู้นำบางประเทศยังคงยืนลังเลอยู่ริมฝั่ง มองคลื่นลูกแล้วลูกเล่าอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก
.
แต่ผู้นำสิงคโปร์เลือกจะไม่ยืนเฉย หากแต่ส่งเสียงเตือนก้องข้ามพรมแดน เพื่อชี้ให้เห็นว่า “คลื่นลูกใหม่กำลังก่อตัว และเราต้องพร้อมก่อนที่มันจะซัดถึงฝั่ง”
.
คำพูดของเขาไม่ใช่เพียงแค่การคาดการณ์ล่วงหน้า หากแต่เป็นการกำหนดทิศทาง และไม่ใช่เพียงการเตือนให้ระมัดระวัง แต่คือการวางหมากเพื่อการปรับทัพในอนาคต เขาไม่ได้แค่สะท้อนสถานการณ์ แต่ได้แผ่พรมและปูทางให้ประเทศต่างๆ ได้เดินตาม
.
นี่คือบทบาทของผู้นำที่แท้จริง ผู้กล้าเผชิญอนาคตในวันที่ผู้นำที่ไร้ศักยภาพยังมะงุมมะงาหรา ยืนมองในความมืดมิด หรืออาจจะเผลอหลับอยู่ในอดีต
.
ในห้วงเวลาที่ “โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” ผู้นำที่ยังไม่รู้ตัวว่าจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาดได้อย่างไร อาจเป็นภาระของประเทศ มากกว่าจะเป็นเข็มทิศนำทาง
............................................................................................
ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/.../singapore-must-brace...
.
https://www.salika.co/.../decoding-lawrence-wong.../
.
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
.
#Leadership #นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ #ภาวะผู้นำ #ภาษีศุลกากรตอบโต้ #ลอว์เรนซ์ห

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1238547661608752&set=a.542806074516251



ชวนฟัง อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย พูดถึงการดำเนินของรัฐ เพื่อแก้ไขภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ กำหนด


Anwar Ibrahim
9 hours ago
·
The MADANI government is implementing precise, swift, and calm measures to address the unilateral tariffs imposed by the United States.
Our goal is clear. We want to secure a favourable resolution that preserves vital market access, attracts continued foreign investment, and supports the well-being of Malaysian workers and businesses.
#MalaysiaMADANI
#MADANIbekerja

https://www.facebook.com/anwaribrahimofficial/videos/1707969653127803


"อนุทิน ชาญวีรกูล" รับสนิท "มณเฑียร เจริญผล" ผู้ว่าฯ สตง. เป็นสิบปีจริง ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือปม #ตึกสตงถล่ม ลั่น ช่วยได้ก็ไม่ช่วย เผยเจ้าตัวเครียด

 




https://x.com/ThaiPBS/status/1908774948614902207


 

ตัวแทนกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย เผยประท้วงเรียกร้องเงินค่าจ้างมาโดยตลอด ถ้า ผู้ว่าฯ สตง. เอะใจสักนิด ว่าทำไมมีคนมาประท้วง มันเกิดอะไรขึ้น โศกนาฏกรรมอาจไม่เกิดขึ้น


ข่าวช่องวัน
13 hours ago
·
ตัวแทนกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย เผยประท้วงเรียกร้องเงินค่าจ้างมาโดยตลอด ถ้า ผู้ว่าฯ สตง. เอะใจสักนิด! จะไม่เกิดโศกนาฏกรรม #สำนักข่าววันนิวส์
https://www.facebook.com/photo/?fbid=679524397775089&set=a.272939885100211


ผู้รับเหมาโวยผู้ว่าฯสตง.ถ้าสั่งหยุด คนงานไม่ตาย | เรื่องร้อนอมรินทร์

AmarinTV


Apr 6, 2025 

ผู้รับเหมางานระบบ เล่าถ้าผู้ว่าฯสตง.เอะใจเรื่องโดนประท้วงแล้วสั่งหยุดงานตรวจสอบคงไม่เกิดเหตุสลดตึกถล่มทับคนงาน

https://www.youtube.com/watch?v=XU3ubsGjH1E




https://www.facebook.com/reel/1633254190654575/?ref=embed_video


ชวนย้อนอ่านบทความ อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ ประวัติศาสตร์การครอบงำโดยทหารในไทย ในสายตา พอล แชมเบอร์ เขาเห็นว่า งานศึกษาเรื่อง ทหารในไทย มีความสำคัญและถึงมีอยู่แล้ว แต่ควรมีงานวิจัยค้นคว้ามากขึ้น เพราะเป็น key political player และ ผูกขาดความรุนแรง ที่อยู่นอกการตรวจสอบโดยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง


Matichon Weekly - มติชนสุดสัปดาห์
21 hours ago
·
พอล แชมเบอร์ เห็นว่า งานศึกษาเรื่อง ทหารในไทย มีความสำคัญและถึงมีอยู่แล้ว แต่ควรมีงานวิจัยค้นคว้ามากขึ้น ด้วยเหตุว่า ทหารในประเทศไทยโดยเฉพาะนั้นเป็นสถาบันการเมืองที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของไทย
งานของพอลนี้เห็นว่า ทหารสามารถมุ่งมั่นเป็นผู้แสดงทางการเมืองหลัก (key political player) ด้วยพวกเขาได้ใช้ การผูกขาดความรุนแรง ที่อยู่นอกการตรวจสอบโดยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง

ความผิดพลาดนี้ส่งผลต่อรัฐบาลพลเรือน ที่มีการมองว่าได้สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของทหาร

บทบาททางการเมืองของทหารยังทำเพื่อให้ทหารแน่ใจได้ว่า พวกเขาใช้ผลประโยชน์ทางกฎหมายได้มาก

พวกเขาได้เป็นเจ้าของงบประมาณจำนวนมหาศาล แล้วยังอยู่เหนือการตรวจสอบของศาล

พวกเขาเก็บรักษาอำนาจของตนได้ยาวนานหลายปี ยังเป็นผู้มีความสัมพันธ์ (associate) ทั้งระดับชั้นผู้น้อยและอาวุโส

ย้อนอ่านบทความ อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์
ประวัติศาสตร์การครอบงำโดยทหารในไทย ในสายตา พอล แชมเบอร์

https://www.matichonweekly.com/column/article_694376

และ https://www.matichonweekly.com/column/article_699603

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1048918937270305&set=a.627369316091938



วันนี้ วันดี วันจักรี อาจารย์ผมยาว มาสมัครตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ความผิดที่เคยฉีกบัตรเลือกตั้ง เค้าคงไม่นับมั้ง กำลังหาคนช่วยไล่ผีพนันอยู่


Thanapol Eawsakul
11 hours ago
·
ไชนันต์ ไชยพรกับ คำพิพากษาฎีกาที่ 7008/2557
.............
เห็นหลายคนแชร์ข่าวไชยันต์ ไชยพร ไปสมัคร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เลยกลับไปอ่านดคีฉีกบัตรเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 ที่สู้กัน 3 ศาล
สาลฎีการตัดสินว่าการฉีกบัตรมีความผิดนะครับ
ส่วนจะมีผลต่อคุณสมบัติหรือไม่ ก็รู้ดูการสรรหา และโหวต ของ สว.กันอีกที
.....................
ในคดีนี้ ศาลจังหวัดพระโขนงได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2553 โดยให้เหตุผลว่าการเลือกตั้งครั้งนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 9/2549 ว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เที่ยงธรรม ไม่เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 บัตรเลือกตั้งที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งมอบให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จึงไม่ใช่บัตรเลือกตั้ง เป็นเพียงแบบพิมพ์บัตรเลือกตั้ง การกระทำของจำเลยจึงไม่อาจเป็นความผิด และการกระทำของจำเลยก็ไม่ได้ก่อความวุ่นวาย แต่เป็นการต่อต้านการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยสันติวิธี อีกทั้ง บัตรเลือกตั้งยังเป็นสิ่งที่ กกต.ในขณะนั้น ใช้ในการกระทำความผิดและมีราคาเพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการได้อำนาจปกครองประเทศมาโดยไม่ชอบ
แต่ต่อมา ทั้งศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้กลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าว โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาในปี 2557 เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จขณะที่ฉีกบัตรเลือกตั้ง ตามมาตรา 358 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 108 ที่ใช้บังคับอยู่ในวันดังกล่าว และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.49 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หามีผลต่อการกระทำความผิดของจำเลยแต่อย่างใดไม่ ส่วนข้อโต้แย้งของจำเลยที่ว่าเป็นการใช้สิทธิต่อต้านโดยสันติวิธีตามมาตรา 65 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 นั้น ศาลเห็นว่าการใช้สิทธิต่อต้านโดยสันติวิธีจะต้องเป็นการกระทำที่มิได้ล่วงละเมิดบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ได้บัญญัติไว้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด
ศาลฎีกาจึงได้พิพากษาโทษยืนตามศาลอุทธรณ์ คือเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 2 เดือน และปรับ 2,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน อีกทั้งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถโดยรับราชการอยู่ในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ระดับ 9 โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนดห้าปี (ดูคำพิพากษาฎีกาที่ 7008/2557)
https://deka.in.th/view-571568.html





https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/9796207680445983
.....

Atukkit Sawangsuk
8 hours ago
·
ไชยันต์ ไชยพร สมัครตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นะครับ
ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 1 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี เมื่อปี 2557
:
รัฐธรรมนูญมาตรา 202 ลักษณะต้องห้ามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
(3) เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
:
กรณีไชยันต์รอลงอาญา ยังไม่ใช่ “เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก“
:
มาตรา 202 ยังมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 (ห้ามสมัคร สส)
(7) เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกตั้ง…
ข้อนี้อาจสงสัยได้ว่า รวมรอลงอาญาไหม
แต่อย่างไร คำพิพากษาก็มีตั้งแต่ปี 57 รอลงอาญา 1 ปี น่าจะเกินสิบปีแล้ว
:
ผู้คนจะสับสนกับมาตรา 109 สมาชิกภาพ สส.สิ้นสุดลงเมื่อ
(13) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้จะมีการรอการลงโทษ……
รัฐธรรมนูญมีชัยมันคลั่ง เป็น สส แล้วรอลงอาญาก็พ้นตำแหน่ง
แต่เป็นศาลรัฐธรรมนูญได้
:
ไชยันต์คงปรึกษาบรรดาตุลาการแล้วก่อนลงสมัคร + โพสต์ประกาศตัว
เว้นแต่อยากจะกวนโอ๊ยเล่น
เพราะสมัครตุลาการไม่มีความผิดฐาน ”รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิยังลงสมัคร“ เหมือน สส.

https://www.facebook.com/baitongpost/posts/9584641771617566



6 เมษา ใคร ๆ ก็รักราชวงศ์จักรี - Surprise ? Nah !!








https://x.com/cnew888/status/1908797099833254355



Massive #HandsOff rallies across the country 🔥🔥🔥





 

MAGDA : We've done this Mass tariff thing 3 times in American history, the last 2 caused depression. Hey Trump "Make America Great Depression Again!"



Trump Tariff Cold Open - SNL

Apr 5, 2025 

President Donald Trump (James Austin Johnson) addresses his tariffs and their impact on the stock market during a speech.

https://www.youtube.com/watch?v=VEle3pZRqmI



วันอาทิตย์, เมษายน 06, 2568

ฝ่ายค้านอาจตกข่าวเรื่อง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตั้งทีมสู้กำแพงภาษี ‘ก้าวร้าว’ ของทรั้มพ์ แต่พรรคประชาชนเขาเสนอแนวทางรับมือ เป็นรูปธรรมและสมเหตุสมผล มาตั้งนานแล้วนี่นา

ที่ปรึกษานายกฯ อิ๊ง ว่าฝ่ายค้าน (บางพรรค) ตกข่าว เรื่องแก้ปัญหากำแพงภาษีสหรัฐ รัฐบาลนี้ดำเนินมาแล้ว “อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ทรัมป์ยังไม่ได้รับตำแหน่ง” หูย อะไรมันจะมาก่อนกาลขนาดนั้นเชียว จิรายุ ห่วงทรัพย์ น่าจะมาสายเรื่องนี้เป็นอาทิตย์ก็ได้นะ

นั่นคือระยะเวลาที่พรรคประชาชนเขาออกมาเสนอแนะ ว่าถ้าพวกเขาเป็นรัฐบาลจะทำอย่างไรในการรับมือนโยบาย ก้าวร้าว ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองของประธานาธิบดี (Tiny) ดอแนลด์ ทรั้มพ์

ต่อเมื่อมาตรการ Reciprocal tariffs เริ่มบังคับใช้นั่นละที่ มีการเรียกร้องให้รัฐบาลแพทองธาร “เร่งตั้งคณะทำงานพิเศษ (Special Task Force)” เพื่อรับมือ จากนั้นสองสามวัน ถึงได้เห็นหน้าตาคณะทำงาน ๙ คน นำโดย พันศักดิ์ วิญญรัตน์

ดูรายชื่อแล้วน่าจะเป็น ทีมประดิษฐ์นโยบายกลุ่มเจ็นเนอเรชั่นวายของอุ๊งอิ๊ง เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเป็นความท้าทายต่อคำครหาการขาดศักยภาพของนายกฯ หญิงผู้ที่ดีแต่เฟี้ยส ได้พอสมควรเชียวละ ถึงแม้จะตั้งมาตั้งแต่สามเดือนที่แล้ว เมื่อ ๖ มกรา

แต่ว่าแนวทางการทำงานของทีมพันศักดิ์นี่เพิ่งมาออกชัดเจนเมื่อวานนี้เอง “ได้วางมาตรการรองรับในการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบ ที่อาจมีต่อผู้ประกอบการส่งออกของไทยที่มีตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดหลัก” เชื่อว่าฝ่ายค้านและประชาชนทั้งประเทศ เฝ้าดูกันอย่างใจจรดจ่อ

ทว่าในรายละเอียดปรากฏแนวดำเนินการอย่างหนึ่ง คือเปิดเสรีสินค้านำเข้าจากสหรัฐบางอย่าง ที่ฝ่ายค้านเห็นแล้วร้องฮ้า ช้าก่อน นั่นมันกลายเป็นการ “คุ้มครองเจ้าสัว” โดย “เอารายได้และอาชีพของรายย่อยไปแลกแทน” ได้แก่

“จะพิจารณาเปิดเสรีนำเข้าข้าวโพด” และหมูเนื้อแดง ที่ รมว.คลัง พิชัย ชุณหวชิร เกริ่นเอาไว้ วรภพ วิริยะโรจน์ ของพรรคประชาชนชี้ว่า การนำเข้าข้าวโพดจะกระทบเกษตรกรชาวไร่ ๓ แสนครัวเรือน ส่วนหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง จะกระทบผู้เลี้ยงสัตว์ ๒ แสนครัวเรือน

การทิ้งไพ่ในมือเพื่อต่อรองของรัฐบาลไทย จึงเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ ว่า รัฐบาลไทยกำลังจะเจรจาเอาผลประโยชน์ของใครไปแลกบ้าง ในการรับมือแผ่นดินไหวทางเศรษฐกิจ” วรภพว่าต้องใช้เป็นโอกาสในการทลายทุนผูกขาดไปในตัว

เขาแนะให้ เปิดเสรีภาคธนาคาร และ เปิดเสรีโทรคมนาคม ซึ่งอเมริกามองว่าสองอย่างนี้ ไทยทำการคุ้มครองทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม “การแข่งขันบริการทางการเงินในไทยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น” และปล่อยให้ค่ายมือถือควบรวมกันเหลือแค่สองราย

“ตัวอย่างง่ายๆ ปี ๖๗ สินเชื่อในธนาคารลดลง ๐.% แต่กำไรธนาคาร ปี ๖๗ กลับเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นถึง ๑๒%” ส่วนด้านโทรคมนาคม ถ้าเปิดเสรี “บางที Starlink อาจจะเข้ามาเปิดบริการในไทยก็ได้ ทั้งสำหรับพื้นที่ห่างไกลให้มีสัญญาณเน็ต

...ทั้งเพิ่มการแข่งขัน และเพิ่มไพ่ในการต่อรองให้ไทยได้ด้วย”

(https://www.facebook.com/TleWoraphop/posts/c2QkhL8rZGmC และ https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/KpDuu4wn6L)


 

มินอ่องลายนี่ เป็นคนในสถาบันหรือ ถ้าไม่ไช่ มีคนสนับสนุนให้คนที่ปกป้องมินอ่องลายย้ายไปอยู่พม่า จะได้ปกป้องอย่างใกล้ชิด


ประชาไท Prachatai.com 
8 hours ago
·
แรงงานข้ามชาติชุมนุมประท้วงไล่ "มินอ่องหล่าย" แต่ไม่ทันได้เริ่ม กลุ่มปกป้องสถาบันพยายามเข้ารุมผู้จัดจนตำรวจต้องพาตัวออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 5 เม.ย. 2568 เวลาประมาณ 10.45 น. สืบเนื่องจากกลุ่ม Bright Future กลุ่มแรงงานข้ามชาติพม่าในไทยระบุว่า จะมีการจัดชุมนุมหน้า UN โดยการใส่เสื้อดำ และตะโกนไล่มินอ่องหล่าย ผู้นำเผด็จการทหารพม่า ที่เพิ่งมาร่วมประชุม BIMSTEC เมื่อ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 10.20 น. รถเครื่องเสียง ของกลุ่ม ปกป้องสถาบัน นำโดย อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่ม ศปปส. ธนเดช ตุลยลักษณะ ประธาน อาชีวะพ่อกูวิษณุกรรม และ ทรงชัย เนียมหอม ประธานประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ได้มาชุมนุมที่หน้า UN ก่อน
ต่อมา 10.45 น. เมื่อวีระ แสงทอง หนึ่งในกลุ่ม Bright Future และเป็นผู้จัดมาถึง กลุ่มปกป้องสถาบัน พยายามกรูกันมาทำร้ายร่างกายวีระ ขณะที่ตำรวจพยายามคุ้มกัน และรักษาความปลอดภัย
จากนั้น ตำรวจได้พาตัว วีระ ออกนอกพื้นที่ และกลุ่มปกป้องสถาบันกลับไปชุมนุมหน้า UN ที่เดิม
ภาพประกอบ - วีระ คือชายเสื้อดำที่ตำรวจกันตัวออกขณะผู้ชุมนุมอีกฝั่งกำลังเข้ามาทำร้าย (ภาพแรก)
.....

Bright Future ชุมนุมต้าน 'มินอ่องหล่าย' ไม่ทันเริ่ม กลุ่มปกป้องสถาบันบุกทำร้าย ตร.พาหลบ


5 เมษายน 2568
ประชาไท

แรงงานข้ามชาติชุมนุมประท้วงไล่ "มินอ่องหล่าย" แต่ไม่ทันได้เริ่ม กลุ่มปกป้องสถาบันพยายามเข้ารุมผู้จัดจนตำรวจต้องพาตัวออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 5 เม.ย. 2568 เวลาประมาณ 10.45 น. สืบเนื่องจากกลุ่ม Bright Future กลุ่มแรงงานข้ามชาติพม่าในไทยระบุว่า จะมีการจัดชุมนุมหน้า UN โดยการใส่เสื้อดำ และตะโกนไล่มินอ่องหล่าย ผู้นำเผด็จการทหารพม่า ที่เพิ่งมาร่วมประชุม BIMSTEC เมื่อ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 10.20 น. รถเครื่องเสียง ของกลุ่ม ปกป้องสถาบัน นำโดย อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่ม ศปปส. ธนเดช ตุลยลักษณะ ประธาน อาชีวะพ่อกูวิษณุกรรม และ ทรงชัย เนียมหอม ประธานประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ได้มาชุมนุมที่หน้า UN ก่อน

ต่อมา 10.45 น. เมื่อวีระ แสงทอง หนึ่งในกลุ่ม Bright Future และเป็นผู้จัดมาถึง กลุ่มปกป้องสถาบัน ทรงชัยได้เดินเข้าไปพยายามล็อกคอวีระแต่วีระปัดออกทำให้จากนั้นทรงชัยยังคงวิ่งตามพร้อมกับมีคนกรูกันเข้าไปทำร้ายร่างกายวีระ ขณะที่ตำรวจพยายามคุ้มกัน และรักษาความปลอดภัย


ทรงชัย เนียมหอม(เสื้อสีน้ำเงิน) กำลังพุ่งเข้าหาวีระ(เสื้อดำ) แสงทองที่กำลังเดินเข้าพื้นที่มาทำกิจกรรมประท้วงไล่มินอ่องหล่าย ภาพโดย แมวส้ม

ทรงชัย เนียมหอม ภาพโดย แมวส้ม


ธนเดช ตุลยลักษณะ (สวมแว่นดำ) ภาพโดย แมวส้ม

สมาชิกกลุ่มปกป้องสถาบันเดินเข้าหาตัววีระ




วีระ ชายเสื้อดำที่ตำรวจกันตัวออกขณะผู้ชุมนุมอีกฝั่งกำลังเข้ามาทำร้าย


อานนท์ กลิ่นแก้วขณะปราศรัยบนรถ


วีระหลังจากตำรวจเข้ากันตัวออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมอีกฝั่ง ภาพโดย แมวส้ม

จากนั้น ตำรวจได้พาตัว วีระ ออกนอกพื้นที่ และกลุ่มปกป้องสถาบันกลับไปชุมนุมหน้า UN ที่เดิม อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวไม่ทราบว่าภายหลังทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัววีระไปที่ใด

ทางด้าน The Reporter สัมภาษณ์อานนท์ เขากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้ทราบถึงการชุมนุมของชาวพม่าและจะมีคนไทยมาร่วมด้วย แต่เขาไม่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดการปะทะกัน แต่ก็ได้ห้ามแล้วเพราะไม่อยากให้มีปัญหาและอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เป็นคนจัดการ

"เพราะว่าต่างด้าวเข้ามาเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทยมันไม่ควรอย่างยิ่ง จะผิดกฎหมายมั้ยจะผลักดันออกกลับมั้ย ผมว่าถ้ามินอ่องหล่ายยังไม่กลับก็ไปพบทำหนังสือถึงเลยว่าพวกนี้เข้ามาชุมนุมในประเทศไทยต่อต้านรัฐบาลของพม่าแล้วมาเคลื่อนไหวในประเทศไทย ผมถามว่ามันก็ต้องไปเคลื่อนไหวในประเทศพม่าสิ" ประธานกลุ่ม ศปปส.ให้เหตุผล

อานนท์ยังกล่าวด้วยว่า ชาวพม่ากลุ่มนี้เข้ามาพาแรงงานข้ามชาติมาถือป้ายประท้วงกันตอนวันแรงงานปี 2565 แต่เขาไม่เคยเห็นวีระมาขายแรงงานหรือได้บัตรเข้ามาทำงานหรือไม่อย่างไร และเขาไม่เห็นด้วยที่คนกลุ่มนี้จะมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทย ถ้าจะเรียกร้องอะไรก็ไปเรียกร้องที่ประเทศพม่า แล้วก็ให้รัฐต่อรัฐจัดการกันเอง

"มึงคนละชั้นกัน บ้านเราเราเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง เรามีเกียรติมีศักดิ์ศรีของเรา ปล่อยพวกนี้มาเหยียบย่ำกฎหมายของไทยมันก็กระทืบหน้าคนไทยทุกคนแหละ เพราะว่ากฎหมายมีไว้คุ้มครองคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันชูป้ายยกเลิกมาตรา 112 ยกเลิกมาตรา 116 117 ผมถามว่าเราฝ่ายปกป้องสถาบันจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไร ผมทำตามรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญอนุญาตให้ผมทำแบบนี้ ผมก็ทำแบบนี้" อานนท์กล่าว
ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันฯ แจ้งความ "วีระ" เป็นอั้งยี่

เมื่อเวลา 11. 46 น. หลังเกิดเหตุทำร้ายร่างกายแกนนำกลุ่ม Bright Future ทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันฯ ได้เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ สน.นางเลิ้ง เอาผิดวีระ แสงทอง

ทรงชัย ให้สัมภาษณ์หลังพบพนักงานสอบสวน เผยว่า การชุมนุมหน้า UN ของกลุ่มปกป้องสถาบันฯ วันนี้ สืบเนื่องจากวีระ แสงทอง ได้ประกาศผ่านสื่อโซเชียลฯ ยุยงปลุกปั่นให้ชาวเมียนมาออกมาประท้วงรัฐบาลไทย และประท้วงรัฐบาลทหารพม่า ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญของไทย ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติไม่ว่าสัญชาติใดก็ตามแต่ชุมนุมทางการเมืองบนผืนแผ่นดินไทย และการกระทำนี้เข้าข่ายยุยงปลุกปั่น และแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย



“แทรกแซงเต็มๆ เพราะว่ามีการไปดึง UN เข้ามาร่วม และก็บอกให้ UN บีบบังคับรัฐบาลไทยกระทำตามที่ตนต้องการ ซ่องสุมกำลังพล เพื่อมาต่อต้านรัฐบาลของประเทศตัวเอง แต่มาก่อเหตุในราชอาณาจักรไทย ซึ่งไม่ถูกต้อง มันส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้” ทรงชัย กล่าว

ทรงชัย กล่าวอ้างว่า ก่อนหน้านี้ วีระ แสงทอง เคยเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรา 112 เมื่อปี 2564 ก็ได้นำแรงงานต่างด้าวที่เป็นสมาชิกของเขา ร่วมกันถือป้าย ปราศรัยให้ยกเลิกมาตรา 112 มาตรา 116 และมาตรา 117

ประธานประชาภักดิ์ฯ ระบุว่า วันนี้มาแจ้งความเอาผิดต่อวีระ แสงทอง ละเมิดรัฐธรรมนูญ หมวด 3 ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 25 ว่าด้วย ‘อั้งยี่ ซ่องโจร’ และเชิญชวนให้ผู้อื่นก่อการจลาจล โดยการเผยแพร่โฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ต

ทรงชัย กล่าวว่า เหตุการปะทะที่หน้า UN เป็นการระงับยับยั้ง เพราะประชาชนไทยอดทนไม่ได้ ไม่อยากมีเรื่องปะทะ เราเลยออกมาก่อนเวลาตามที่เขานัดเพื่อเตือนเขาว่าอย่ามานะ เพราะว่ามันวุ่นวายมากพอแล้ว แต่เขายังดื้อดึงเยาะเย้ยถากถางเหยียบย่ำพวกเรา ทำให้พวกเราอดทนไม่ไหวกับการกระทำของเขา และเป็นชนวนเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว

“อยากฝากถึงชาวต่างด้าว หรือใครก็ตามแต่ พม่า ลาว เวียดนาม อะไรก็ตามแต่ ถ้าเข้ามาประเทศไทย มาทำงาน มาพักผ่อน มาเที่ยว มาเถอะ เรายินดีต้อนรับ แต่การเข้ามาด้วยการทุจริต.. หรือใช้พื้นที่ประเทศไทยในการเป็นแหล่งกบดาน ซ่องสุม เพื่อก่อการร้ายประเทศตัวเอง อย่าทำแบบนั้นเลย มาทำงานกันเถอะ ทางประเทศไทยยินดีต้อนรับ” ทรงชัย กล่าว

ทรงชัย กล่าวว่า สำหรับแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาอย่างถูกต้อง เขาไม่ขัดข้อง ยินดีด้วย เพราะว่าเราเข้าใจว่าแรงงานไม่มี ลงทะเบียนให้ถูกต้อง และเข้ามาทำงานกัน แต่ไม่ใช่มาเพื่อก่อการชุมนุมจลาจล มาฟอกตัว และฟอกเงิน

“ที่ออกมาต่อต้านและปราบปรามร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ คือกลุ่มที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ลักลอบทำงานอาชีพต้องห้ามตามที่ทางรัฐมนตรีกำหนดไว้ ประเภทเปิดร้ายขายของ เปิดร้านโชห่วยใหญ่โตแข่งกับคนไทย อันนี้ไม่ได้ เราตรวจสอบส่วนนี้เท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ เข้ามาผิดหรือถูกกฎหมายก็แล้วแต่ ถ้าคุณทำงานโรงงาน ก่อสร้าง เราไม่ยุ่ง เราไม่แตะ” ทรงชัย กล่าว

https://prachatai.com/journal/2025/04/112549
.....

ความเห็นจากโพสต์



สนับสนุนให้คนที่ปกป้องมินอ่องลายย้ายไปอยู่พม่าครับ จะได้ปกป้องอย่างใกล้ชิด
.
มินอ่องลายนี่ เป็นคนในสถาบันหรือครับ
.
กลุ่มคนรักสถาบัน​
ปกป้องพ่อหลวงมินอ่องลาย​ ทราบซึ้ง​ พ่อมองขึ้นมาคงภูมิใจ



‘ทรัมป์ไม่สามารถผนวกกรีนแลนด์…’: นายกฯ เดนมาร์กโต้ตอบทรัมป์จากกรีนแลนด์ "เราเป็นเพื่อนที่ดี สหรัฐฯไม่สามารถผนวกประเทศอื่นได้"


‘Trump Cannot Annex…’: Denmark PM Gives Direct Challenge To US President From Greenland | Watch

Hindustan Times

Apr 4, 2025 #Trump #Greenland #GreenlandAnnexationDenmark’s Prime Minister Mette Frederiksen has slammed the US for pressuring her nation over Greenland. In a fiery press conference, she accused America of using threats to pursue annexation of the autonomous Arctic territory. “You cannot annex other countries,” she declared, citing international law. The shocking claim comes amid Trump’s revived interest in buying Greenland. While condemning US actions, Frederiksen said Denmark remains open to talks.
 
INTERNATIONAL NEWS

https://www.youtube.com/watch?v=ff707ipnujA






https://x.com/EVILSAGAGemini/status/1907931231309934915

 

วันเสาร์ของเราไม่เท่ากัน ผู้นำทุก ปท กำลังทำงานเรื่องภาษีกับสหรัฐอย่างขยันขันแข็ง ผู้นำไทยขอ Work-life balance วันหยุด ?


Thanapol Eawsakul
5 hours ago
·
"จังหวะนรก" ครอบครัวชินวัตร
ขณะที่นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์และมาเลเซียกำลังแสดงบทบาทผู้นำ เพื่อผ่านวิกฤต
ปรากฏว่าครอบครัว ชินวัตร ทั้งทักษิณและ แพทองธาร ชินวัตร กลับไปเดินห้าง แถมได้พบกับนักฟุตบอลแมนฯ ยูฯโดยบังเอิญด้วย

https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/9791906827542735





 

5 เมษายน 2568 วันประท้วงต่อต้านทรัมป์และมัสก์ทั่วสหรัฐและทั่วโลก



Anti-Trump protests get under way across the US

Guardian News

Apr 5, 2025

Protesters across the US rallied against Donald Trump's policies on Saturday. The 'Hands Off!' demonstrations are part of what the event's organisers expect to be the largest single day of protest against Trump and his billionaire ally Elon Musk since they launched a rapid-fire effort to overhaul government and expand presidential authority 

US protests – live updates 
More than 1,000 ‘Hands Off’ anti-Trump protests begin across the US

https://www.youtube.com/watch?v=9NKPccIBAQo
.....

What to know about Saturday's nationwide "Hands Off!" anti-Trump protests


Places with a Hands Off! rally or visibility event planned for April 5


A nationwide anti-President Trump movement on Saturday, "Hands Off!," is expected to be the largest single-day protest since he entered office.

Why it matters: The Trump administration's wide-reaching and ground-shaking policies have mobilized a varied cross section of Americans affected by political, economic, social and legal changes.
  • "This is not just corruption," the Hands Off! website said. "This is not just mismanagement. This is a hostile takeover."

By the numbers: More than 1,100 rallies, visibility events and meetings were scheduled in all 50 states as of Wednesday afternoon.
  • Organizers said they had more than 500,000 RSVPs as of Friday night.

The latest: White House garden tours scheduled for Saturday were postponed to Sunday in anticipation of D.C. protests, first lady Melania Trump said on Thursday.

State of play: Protesters are rallying against several Trump administration policies, including its handling of Social Security benefits, layoffs across the federal workforce, attacks on consumer protections and anti-immigrant policies and attacks on transgender people.
  • The protests are also against Elon Musk's involvement in the federal government via DOGE — after he's already faced a wave of demonstrations at Tesla dealerships worldwide via the #TeslaTakedown movement.
  • The Hands Off! demonstrations will occur at state capitals, federal buildings, congressional offices and city centers.
  • Dozens of advocacy organizations are partnering to support Saturday's action, including the Center for LGBTQ Economic Advancement & Research, Declaration for American Democracy, the Human Rights Campaign, Indivisible and Planned Parenthood.

A protester sits with a sign reading, "Hands off my benefits, VA, Social Security, Medicare," as U.S. military veterans and their supporters protest against the Trump administration's cuts to the Department of Veterans Affairs (VA) and other changes affecting veterans and the military outside the Indiana Statehouse in Indianapolis on March 14. Photo: Jeremy Hogan/SOPA Images/LightRocket via Getty Images

What they're saying: "This is a nationwide mobilization to stop the most brazen power grab in modern history," the movement's website said.
  • "Trump, Musk, and their billionaire cronies are orchestrating an all-out assault on our government, our economy, and our basic rights—enabled by Congress every step of the way."

Zoom in: The movement hosted a virtual safety and deescalation training on Wednesday, after a Tuesday virtual meeting with nearly 35,000 RSVPs, recorded for posterity, gave general information on the protests and the Trump administration.
  • "Whether they get away with any particular effort doesn't matter as much as the message that they are sending so loud and so clear, which is sowing fear, sowing the feeling of powerlessness," Deirdre Schifeling, the ACLU's chief political and advocacy officer, said on Tuesday.

Zoom out: Consumers have also been protesting corporations with boycotts, especially over anti-diversity policies since the start of the Trump administration.

https://www.axios.com/2025/04/03/hands-off-protest-trump-musk-april-5





 

เรื่องนี้ควรแมสไหม ปภ. ไปจ้างเอกชนทำระบบเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast ที่ทุกคนกำลังอยากได้ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องพาคณะ ปภ. เดินทางไปศึกษาดูงานในยุโรปด้วย อย่างน้อย 2 ประเทศ ไม่น้อยกว่า 9 วัน 🫢🫢🫢





 https://www.isranews.org/article/isranews/136966-invesdsddssdsd.html



CSI LA เปิดภาพ “อนุทินรักเพื่อนพ้อง ป้องคนดีย์” (ที่ชื่อ มณเฑียร) และบอกว่า “การประมูลตึก สตง. โปร่งใส” แต่… ประชาชนสงสัย


CSI LA
14 hours ago
·
“อนุทินรักเพื่อนพ้อง ป้องคนดีย์”
ไม่แปลกใจเลย… ทำไมวันนี้
อนุทิน ออกมาปกป้อง มณเฑียร
และบอกว่า “การประมูลตึก สตง. โปร่งใส”
แต่… ประชาชนสงสัยว่า
“ทำไมต้องให้บริษัทจีนสร้าง?”
• ประเทศไทยไม่มีวิศวกรเหรอ?
• ทำไมต้องบริษัทที่มีข่าว “ทิ้งงาน” หลายโครงการ?
• ทำไมต้องบริษัทที่ใช้ “นอมินีไทย” บังหน้า?
• ทำไมต้องบริษัทที่ “ราคาถูกเวอร์” แต่สุดท้ายประชาชนต้องจ่ายแพง… ด้วยชีวิต?
หนูเชื่อว่า… ระบบไม่ผิด
แต่คนไทยเห็น… ว่าระบบนี้ “เลือกปกป้องคนใน” มากกว่าปกป้องชีวิตประชาชน
#แผ่นดินไหวเปิดโปงระบบเน่า
#ใครสั่งใครเซ็นใครรับผิด
#ถามแทนคนที่อยู่ใต้ตึก

https://www.facebook.com/CSILA90210/posts/1181783256664286






https://www.facebook.com/CSILA90210/posts/1181783256664286
.....



CSI LA
16 hours ago
·
เครือข่าย วปอ. เส้นสายเหนือความจริง
ขณะที่ประชาชนตั้งคำถามว่าทำไมตึกหรู 30 ชั้นของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถึงถล่มอย่างง่ายดาย รวมถึฝเรื่องฝักบัวทองคำ พรมผืนละแสน
ผู้ว่าการ สตง. นายมณเฑียร เจริญผล ยังไม่มีคำขอโทษหรือคำชี้แจงที่โปร่งใส
สิ่งที่น่าสนใจคือ เขาคือศิษย์เก่า วปอ. รุ่นที่ 58
ซึ่งเป็นหลักสูตรสำหรับผู้มีอำนาจ ข้าราชการระดับสูง ทหาร ตำรวจ และนักการเมือง
ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “สนามสร้างคอนเน็กชั่น” แห่งรัฐ
และเมื่อเราเปิดดูรายชื่อในรุ่นถัดมา รุ่น 61
พบว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นักการเมืองใหญ่ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ก็เคยฝ่าคำสั่งนายกฯ เข้าไปเรียนในหลักสูตรเดียวกันนี้
แม้ คสช. จะมีนโยบายชัดเจนว่า “ห้ามนักการเมืองเข้าเรียน”
คำถามคือ… วปอ. คือแค่หลักสูตร หรือคือเส้นทางพิเศษให้คนบางกลุ่มก้าวข้ามกฎเกณฑ์?
เพราะวันนี้ เราเริ่มเห็นภาพว่า:
• โครงการก่อสร้างใหญ่โตถูกแบ่งให้บริษัทเครือจีนแบบไร้มาตรฐาน
• หน่วยงานรัฐไม่กล้าตรวจสอบ
• ข้าราชการระดับสูงไม่ต้องรับผิด
เมื่อระบบถูกขึงด้วยเส้น ไม่ใช่ด้วยกฎหมาย
ความพังพินาศก็เป็นแค่เรื่องของเวลา
#ตึกถล่มไม่ใช่อุบัติเหตุ
#วปอเส้นใหญ่ #ความจริงอยู่ใต้พรม
#อนุทิน #มณเฑียร #ใครเอื้อใคร?