อ่า มันเข้าสู่โหมดการเมืองแบบไทยๆ ‘ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร’ แล้วจริงๆ เมื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล ไม่เสือสิงห์กระทิงแรดกับใคร แต่เป็นไอ้เข้ฟาดหางใส่ คำนูณ สิทธิสมาน ฐานที่ สว.ตู่ตั้งคนนี้ออกมาขวาง ‘กัญชาเสรี’ นี่ถ้าไม่อ่าน Thanapol Eawsakul คงร้องฮ้า เกิดอะไรขึ้น
สนธิลำเลิกว่าถึงจะเคยสนิทสนมเหมือนน้องเหมือนนุ่งมากว่า ๔๐ ปี แต่ก่อนคำนูณต้องไปกินข้าวที่บ้านตน “อย่างน้อยเดือนละสองครั้ง...ทำนองเข้าเฝ้าอะไรนั่นแหละ” ประโยคหลังนี่ธนาพลแถม “แต่สิ่งที่สนธิจำเป็นจะต้องตัดความสัมพันธ์...
เนื่องจากคำนูณออกมาขู่อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย ว่าจะดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ ถ้ายังปล่อยให้มีนโยบายกัญชาเสรี” อีกที ประโยคท้ายนี่ Kasian Tejapira ช่วยแก้ไขให้ สนธิจวกว่าคำนูณทำตัวเป็นผู้ยึดมั่นกฎหมาย
แต่สนธิบอกไม่ใช่ เขาแค่หาแสง สร้างราคาให้ได้กลับมาเป็น สว.อีกในคราวหน้า สนธิอ้างถ้าคำนูณจะเชิดกฎหมายเป็นตราชูสู่แสง ตนก็จะยืนข้างประชาชน (ซึ่งต้องการกัญชา) สู้ ประชาชนที่สนธิยกมาใช้เป็นพลังสู้ก็คือภรรยาของเขาเอง
ผู้ที่ก่อนเสียชีวิตในปี ๒๕๕๙ ได้กัญชาเป็นยารักษาโรคร้ายอยู่เป็นเวลานาน อีกคนซึ่งสนธิอ้างมากระตุกจิตสำนึกคำนูณ ก็เป็นผู้ที่เขารู้จักดี “สโรชา พรอุดมศักดิ์ คนจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์คู่สนธิ ที่รักษามะเร็งตอนนี้ก็ใช้น้ำมันกัญชา”
สนธิยังยกเอากฎหมายภูมิปัญญาไทย ๒๕๔๒ มาตรา ๔๕ มาคัดง้างกับมาตรา ๔๖ ที่คำนูณใช้อ้างเรื่อง “ทุกกิจกรรมเกี่ยวกับกัญชา ศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย แปรรูปเพื่อการค้า ต้องขออนุญาตเป็นรายๆ” ว่าเป็นการตีกันห้ามใช้กัญชารักษาโดยปริยาย
สนธิบริภาษณ์คำนูณสาดเสียชนิด “ประกาศว่า หลังจากนี้สื่อในเครือผู้จัดการทั้งหมดจะไม่รายงานข่าวของคำนูณ สิทธิสมาน อีกต่อไป ถ้าจะลงก็ไปลงที่หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ หรือไม่งั้นก็เป็นสำนักข่าวอิศรา” เขาว่าสิ่งที่คำนูณควรทำกลับไม่ทำ
“เช่นการแจกกล้วยให้กับบรรดานักการเมืองที่เป็นความผิดที่ชัดเจน คนอย่างคำนูณก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไรทั้งสิ้น เนื่องจากเกรงจะกระทบกับผู้มีอำนาจนั่นเอง” สนธิไม่ยั้งพูดถึงคำนูณออกอากาศ “กรุณาอย่าเสือกเรื่องกัญชา...อย่าเตะตัดขากัญชาเสรี”
สำหรับประวัติความเป็น ‘คอหอยกับลูกกระเดือก’ ของสนธิกับคำนูณนั้น บก.ฟ้าเดียวกัน ชี้ให้เห็นสายใยจากหนังสือที่คำนูณเขียน “ปรากฏการณ์สนธิ : จากเสื้อสีเหลืองถึงผ้าพันคอสีฟ้า” แม้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ๒๕๔๐ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการมีปัญหา
“คำนูณหนีตายออกไปอยู่กับ ภูษณ ปรีย์มาโนช และหลังจากนั้นก็ได้กลับมาทำงานร่วมกันอีก” ก่อนที่จะเข้าสู่การเมืองหลังปี ๒๕๔๙ “จากการแต่งตั้งในทุกๆ ครั้งของการรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วุฒิสภาชิกปี ๒๕๕๑ และ ๒๕๕๔”
กระทั่งมาเด่นดวง “หลังรัฐประหาร ๒๕๕๗ ก็ได้เป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ รวมไปจนถึงวุฒิสมาชิกจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร คสช.ในปี ๒๕๖๒ จนถึงปัจจุบัน”
(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/pfbid037ht และ https://www.facebook.com/sondhitalk/videos/385117820400725/)