ชวนรู้จัก เดียร์กับฟ้า ดอกไม้ที่เบ่งบานอย่างกล้าหาญด้วยตัวของมันเอง ที่ผู้มีอำนาจกำลังเหยียบย่ำทำลาย

‘เดียร์ รวิสรา’

Phrae Chittiphalangsri
8 hours ago
·
ทั้งเดียร์และฟ้าเป็นลูกศิษย์ของฉัน
ทั้งสองคนเป็นนิสิตเอกเยอรมัน ในตอนที่ทั้งสองเข้าร่วมการประท้วงนั้น เดียร์เรียนจบไปแล้ว แต่ฟ้ายังเรียนอยู่ ทั้งสองคนไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นไปอ่านคำประกาศเป็นภาษาเยอรมันตั้งแต่แรก แต่เมื่อมีการถามหาคนรู้ภาษาเยอรมัน ทั้งสองคนก็อาสารับหน้าที่ด้วยความสมัครใจ ไม่มีใครปลุกปั่น ไม่มีใครยุยง
ฉันเชื่อในความตั้งใจอันบริสุทธิ์ของทั้งสองคน โดยเฉพาะเมื่อทั้งสองเรียนมาทางสายมนุษยศาสตร์ ที่สอนให้ตั้งคำถามและแสวงหาคำตอบด้วยเหตุผล
หากการตั้งคำถามในฐานะพลเมืองคนหนึ่งจะไม่ถูกต้องในประการใด ทั้งสองคนก็สมควรจะได้รับการไต่สวนอย่างเป็นธรรม
ฟ้าได้รับการประกันตัวด้วยความช่วยเหลือของอาจารย์ท่านหนึ่งในคณะที่ใช้ตำแหน่งรับประกัน ส่วนเดียร์ที่จบการศึกษาไปแล้วไม่ได้อยู่ในข่ายที่คณะจะให้ความช่วยเหลือในแบบเดียวกันได้ ฉันจึงอาสาใช้ตำแหน่งของตัวเองประกันให้
เดียร์ ฟ้า และคนอื่นๆที่อยู่ในหมายเดียวกันไปขึ้นศาลตามนัดทุกครั้ง แม้หลายครั้งศาลจะนัดมาเพื่อบอกว่าเลื่อน ไม่มีใครแสดงท่าทีว่าจะไม่ปฏิบัติตาม
ต่อมาเดียร์ได้รับทุน DAAD จากรัฐบาลเยอรมนีได้ไปเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย Osnabruck จึงไปขออนุญาตจากศาล เพื่อแสดงเจตนารมย์ว่าไม่ได้คิดหลบหนี และยินดีทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง
ศาลปฏิเสธคำร้องของเดียร์ไป 7 รอบ ฉันผู้ซึ่งอยู่กับคดีนี้ตั้งแต่ที่สถานีตำรวจมาจนที่ศาลก็ตามมาช่วยด้วย ได้เห็นครอบครัวหนึ่งที่ต้องผจญกับความหวังที่แตกสลายซ้ำๆ แต่ครอบครัวของเดียร์ก็เข้มแข็งมากที่ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ทุกครั้ง
ไม่ว่าศาลจะร้องขออะไร เราก็ไปตามหามาให้ จนได้นายประกันที่มีคุณสมบัติครบตามที่ศาลต้องการ จนเดียร์ได้ไปเรียนที่เยอรมนีในที่สุด แต่กระนั้นก็ต้องบินกลับมาขึ้นศาลตามนัดซึ่งทำให้เสียเวลาเรียนไปไม่ใช่น้อย แต่เธอก็ทำตามไม่ได้ขาด
จนเมื่อไม่กี่วันนี้ เดียร์เขียนวิทยานิพนธ์เสร็จแล้ว และกำลังจะเรียนจบในไม่ช้า
นี่ก็เป็นการพิสูจน์แล้วไม่ใช่หรือ ว่าถ้าศาลเรียกร้องเด็กคนนี้ก็บริสุทธิ์ใจที่จะดำเนินการตามระบบ ไม่ได้หนี ไม่แสดงท่าทีทุจริต และเคารพศาลทุกประการ
เขาแค่ต้องการทำตามความฝัน ต่อให้มีอุปสรรคมากกว่าคนอื่น เขาก็ไม่ย่อท้อ คนรอบข้างต่างก็วิ่งเข้าช่วยอย่างสุดกำลัง ถ้าเด็กมันไม่ดีจริง จะมีใครช่วยเหลือถึงขนาดนี้ไหม
---
ฟ้าเรียนวิชาเวลาในวรรณกรรมของฉัน เป็นนิสิตที่ฉายแววโดดเด่นในวิชาวรรณคดีมาโดยตลอด ทุกบทความที่ส่งมาแสดงให้เห็นถึงการคิดที่เป็นระบบ ภาษาที่สื่อความหมายชัดเจน ไม่นับการตีความที่น่าสนใจ ไม่แปลกใจเลยที่ฟ้าจะได้ A วิชานี้ และฉันก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ฟ้ามาเอาดีด้านวรรณกรรมเด็ก ฉันบอกนิสิตมาตลอดว่าประเทศนี้ขาดแคลนวรรณกรรมดีๆสำหรับเด็กและเยาวชน จำต้องพึ่งการแปลจากประเทศอื่นมาให้เด็กของเราอ่าน แน่นอนว่าในฐานะครูเรารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ฟ้าได้ทุน Erasmus Mundus ไปเรียนด้านนี้โดยเฉพาะ ทุนนี้เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องแสดงความมุ่งมั่นผ่านผลงานที่เคยทำมาให้ผู้ให้ทุนพิจารณาด้วย และฉันมั่นใจมากว่าเขาดูคนไม่ผิด
และเมื่อทราบข่าว ทุกคนที่อยู่รอบตัวฟ้าไม่มีใครไม่เสียใจ และรู้สึกแตกสลายไม่ต่างกัน...
ฟ้ากับเดียร์เป็นคนที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ ขี้เกรงใจมาก ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆจะไม่ขอความช่วยเหลือ ฉันกลายเป็นคนที่ถามเขามากกว่าว่ามีอะไรให้ครูช่วยไหม แต่ฟ้าก็ไม่เคยมาขอแต่อย่างใด
ที่ฉันต้องเขียนในครั้งนี้ เพราะอย่างน้อยโลกก็ควรรู้ว่าเด็กคนนี้ร้องขออะไรจากโลกนี้น้อยเหลือเกิน แต่กลับแสดงความกล้า ความศรัทธา ความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อผู้อื่นอย่างมหาศาล
ถ้าคุณไม่รู้จักเขา คุณจะเขียนอะไรก็ได้หลังจอคอมและคีย์บอร์ด
แต่ถ้าคุณรู้จักเขา นี่คือดอกไม้กลีบบางที่กำลังถูกเหยียบย่ำทำลาย เพียงเพราะมันอยากเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานอย่างกล้าหาญด้วยตัวของมันเอง

“ฟ้า” สุธินี

https://www.facebook.com/phraechit/posts/10163975384670400