
Thanapol Eawsakul
9 hours ago
·
จากตึกฝรั่งใส่ชฎา สู่ ประชาธิปไตยใส่ชฎา
.........
ตอนที่คิดชื่อหนังสือรวมบทความของเกษียร เตชะพีระ เล่มที่ว่าด้วยประชาธิปไตยกับบรรณาธิการคือ อาสา คำภา
มีชื่อหนังสือที่บรรณาธิการคิดออกมาหลายชื่อเช่น
- จากเสรีนิยมประชาธิปไตยถึงทางแพร่งแห่งอำนาจนำ
- จากเสรีนิยมประชาธิปไตยถึงทางแพร่งแห่งอำนาจนำในยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่าน
- จากเสรีนิยมประชาธิปไตยถึงทางแพร่งแห่งอำนาจนำในห้วงเปลี่ยนผานยุคสมัย
ฯลฯ
แต่ผมคิดว่านี่คงไม่ใช่ชื่อหนังสือ แต่น่าจะเหมาะเป็นชื่อรองมากกว่า
ในความเห็นของผม สิ่งที่น่าสนใจในหนังสือเล่มนี้คือ เมื่อประชาธิปไตยที่เป็นสิ่ง "นำเข้า" จากฝรั่งต้องมาปลูกและเติบโตกับ "เนื้อดิน" ในสังคมไทย จะเป็นเช่นไร
พูดมาถึงตอนนี้ไม่ใช่จะหมายถึงประชาธิปไตยไม่เหมาะกับสยาม/ประเทศไทย ดัง “พระบรมราชาธิบายว่าด้วยความสามัคคี” ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (2446) ที่เคยกล่าวไว้ว่า
"…พื้นเพการงานทั้งปวงไม่เหมือนกัน เหมือนหนึ่งจะไปลอกเอาตำราทำนาปลูกข้าวสาลีเมืองยุโรป มาปลูกข้าวเจ้าข้าวเหนียวในเมืองไทยก็จะไม่ได้ผลอันใด…"
https://sameskybooks.net/product/journal-009-01/
หรือนัยหนึ่งนี่คือแนวคิดแอนตี้ประชาธิปไตย
ดังที่มีคนรับเมามาขายผลต่อเช่น
เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ก็สมาทานความคิดทำนองเดียวกันมาผลิตซ้ำ เพื่อตอบโต้กับฝ่ายต่อต้านการรัฐประหาร 19 กันยา ว่า
“เวลาคิดถึงประชาธิปไตย ไม่ควรเทียบกับที่อยู่ในกระดาษ แต่ต้องดูประชาธิปไตยที่ ‘งอกจากดิน’ของเราเองให้มาก… ปัญหาของเราเวลานี้คือโครงสร้างทางสังคมที่เป็นจริง ไม่ได้มีแต่ประชาชน แต่มีอภิชนและสถาบันดังเดิม เพราะฉะนั้นการสร้างประชาธิปไตยต้องสร้างบนพื้นฐานที่เป็นจริงของเรา”
(“ต้องดูประชาธิปไตยที่งอกจากดินของเราเองให้มาก,” กรุงเทพธุรกิจ, 9 ธันวาคม 2549)
https://sameskybooks.net/product/journal-009-01/
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ รัชกาลที่ 5 มุ่งเน้นไปที่
การสร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่รวมศูนย์มาที่กษัตริย์
มากกว่าการสร้าง ปาเลียแเมนต์ หรือ คอนสติติวชั่น ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
แต่สำหรับนักการเมืองวัฒนธรรม อย่างเกษียรแล้ว
"…ประชาธิปไตยไม่ได้ต้องตายตัว ไม่ว่าคุณจะชอบหรือชัง คนที่หยิบประชาธิปไตย ไปใช้ มันก็ใช้เพื่อประโยชน์ของมัน ผมว่ามันมันส์กว่าที่จะดูว่าคนจะเอาไปใช้ยังไง ตราบที่ยังมีคนเอาไปใช้มันก็ยังมีพลัง ถ้ามันเป็นของเปลี้ยไม่มีพลัง คนไม่เอามันไปใช้หรอก … ประชาธิปไตยที่กลับไปหาตำราตะวันตกที่ต้องมีคำตอบ 10 ข้อ แล้วก็ต้องทำให้ได้ 10 ข้อนั้น คุณอย่าออกจาก 10 ข้อนี้นะ ถ้าออกจาก 10 ข้อนี้ คุณเหี้ยคุณไม่ใช่ประชาธิปไตย อย่างนี้มันง่าย คุณจะนั่งเรียนทำหอกอะไร คุณก็แจก 10 ข้อนี้ไปทั่วโลก นั่งท่อง ผมไม่เชื่อ ผมรู้สึกว่าพอมันหลุดมือจากไอ้เหี้ยล็อก ไอ้ห่ารูสโซ คนข้างหลังที่มีชีวิตและคิดเป็นเขาก็ยำมันเอาไปรับใช้ผลประโยชน์เฉพาะตัวเฉพาะหน้าของเขา…"
ข้างต้นคือเนื้อหาตอนหนึ่งในการบรรยายของเกษียร เตชะพีระ เรื่อง “วิเคราะห์สังคมไทย : ความเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครองและวัฒนธรรม” จัดโดยโรงเรียนนักข่าว TCIJ โดยการสนับสนุนของมูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ท (FES) เมื่อปลายปี 2558 สะท้อนความคงเส้นคงวาของเขาต่อมุมมองการหยิบใช้ “ประชาธิปไตย” เพื่อประโยชน์ในการต่อสู้ต่อรองของกลุ่มก้อนตัวแสดงต่างๆ
คำนำบรรณาธิการ
https://sameskybooks.net/product/9786169430391/...
เมื่อคิดเช่นนี้แล้วผมนึกถึงสถาปัตยกรรมที่สำคัญชิ้นหนึ่งของสยามในยุคของการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยมาสู่สมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสมัยรัชกาลที่ 5 คือ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
ตามประวัติ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเริ่มสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2419 และแล้วเสร็จในอีก 6 ปีถัดมาเมื่อ พ.ศ. 2425 เดิมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์จะสร้างพระที่นั่งหลังใหม่นี้ขึ้นเป็นแบบตะวันตกทั้งหมด แต่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ได้กราบ บังคมทูลทักท้วงว่า “การสร้างตึกฝรั่งประทับเป็นการลบล้างโบราณราชประเพณี” พระองค์จึงทรงมีรับสั่งให้พระยาราชสงคราม (ทัต หงสกุล) ทำหลังคาเครื่องยอดปราสาทแบบไทยขึ้นครอบส่วนที่จะทำเป็นหลังคา ทรงโดมแบบตะวันตกนั้นแทน และด้วยลักษณะตัดแปะของการนำหลังคา ยอดปราสาทแบบไทยมาครอบลงบนตึกแบบตะวันตก คงไม่มีวลีใด จะแสดงออกถึงความเป็น ‘ลูกครึ่ง’ ได้ดีไปกว่าคำอุทานที่เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ (เพ็ง เพ็ญกุล) เปล่งออกมาเมื่อแรกเห็นพระที่นั่งใหม่องค์นี้ว่า “ฝรั่งใส่ชฎา” (Fig. 1−3)
จาก นอเทรอดาม แห่งปารีส ถึง พระที่นั่งจักรี
https://tatreviewmagazine.com/.../%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0.../
ถ้าจะตีความแบบผม ชนชั้นนำในสมัยนั้นไม่ปฏิเสธฝรั่ง ในแง่เทคโนโลยีหรือความเจริญในรูปแบบต่าง ๆ ดังการรับเอา "ตึกฝรั่ง" มาไว้ในพระบรมมหาราชวัง
แต่ก็ยังคงอยากจะรักษาความเป็นไทยเอาไว้
เลยต้องเอา "ชฎา" มาใส่ไว้ด้วย
เช่นเดียวกัน ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นแนวคิดฝรั่งที่ไม่มีชนชั้นนำคนไดจะปฏิเสธได้แล้วในปัจจุบัน แต่ประชาธิปไตยแบบฝรั่ง มันไม่มีนามสกุล เราจึงไม่แปลกที่จะเห็นการแต่งองค์ทรงเครื่องต่าง ๆ เช่น
ภายใต้เกมการเมืองวัฒนธรรม “เสรีนิยม” ที่เมื่อข้ามผ่านมาสู่สังคมวัฒนธรรมไทย สิ่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนร่างแปลงกายเป็น “เสรีนิยมรอยัลลิสต์”
ขณะที่ “ประชาธิปไตย” ก็ถูกแต่งองค์ทรงเครื่องเป็น “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
ในหนังสือเล่มนี้ เกษียรชวนผู้อ่านกลับมายังเมืองไทยและชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างจากมูลฐานระหว่าง “เสื้อเหลือง—เสรีนิยม” vs. “เสื้อแดง—ประชาธิปไตย” ได้อย่างน่าคิดตาม
ดังที่อาสา คำภา ได้กล่าวไว้ในคำนำ
นี่จึงเป็นที่มาชองชื่อหนังสือ
ประชาธิปไตยใส่ชฎา
จากเสรีนิยมประชาธิปไตยถึงทางแพร่งแห่งอำนาจนำ
โดย เกษียร เตชะพีระ
https://sameskybooks.net/product/9786169430391/
สั่งจองหนังสือได้ที่ https://sameskybooks.net/product/9786169430391/
หมายเหตุ
• หนังสือพร้อมจัดส่งวันที่ 31 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป หากสั่งซื้อหนังสือเล่มอื่นๆ ด้วย ทางสำนักพิมพ์ขอส่งพร้อมกัน
• จัดส่งฟรี

https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/9644564745610278