หัวอกพ่อแม่และเพื่อน - พ่อเก็ท เกากีตาร์หน้าเรือนจำ ร้องสิทธิประกัน ‘แม่เพนกวิน’ ร่วมเคาต์ดาวน์ นักกิจกรรมแจมพรึบ

พ่อเก็ท เกากีตาร์หน้าเรือนจำ ร้องสิทธิประกัน ‘แม่เพนกวิน’ ร่วมเคาต์ดาวน์ นักกิจกรรมแจมพรึบ

31 ธันวาคม 2567
มติชนออนไลน์

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร นักกิจกรรมอิสระ จัดกิจกรรม ‘เราจะไม่ทอดทิ้งกัน‘ ส่งผ่านปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปพร้อมกับเพื่อนๆ

โดยนัดหมายเคาต์ดาวน์ปีใหม่ 2568 หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กับเพื่อนในเรือนจำอีก 33 คน เพื่อส่งกำลังใจให้กับเพื่อนผู้ต้องหาทางการเมืองที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ.



บรรยากาศตั้งแต่เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองอิสระ ตลอดจนอดีตคนเสื้อแดงและเยาวชนคนรุ่นใหม่ เดินทางมารวมตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 รวมถึง เจ๊ป๊อกกี้, นายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน, นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ’ แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ



นอกจากนี้ยังมี นายเทพดรุณ สุรฤทธิ์ธำรง บิดาของ นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเป็นเวลากว่า 1 ปี ไปจนถึง นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน พร้อมด้วย น.ส.พลอยวรินทร์ หรือ พ้อย น้องสาวของเพนกวิน เดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย โดยผู้ร่วมงานต่างนำอาหารมาจับกลุ่มล้อมวงรับประทานร่วมกันหลากหลายเมนู อาทิ ลาบ ส้มตำ บาร์บีคิว ไปจนถึงน้ำหวาน เป็นต้น

ต่อมาเวลา 20.10 น. ‘ตาม’ นักกิจกรรม กล่าวในหัวข้อ ‘นักโทษคดีการเมือง ในยุคที่รัฐบาลไทยบอกว่าเป็นประชาธิปไตย‘ โดยกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2549 ที่สู้กันมา ในปี 2553 ก็มีคนตาย 99 ศพ ตั้งแต่ปี 2553 2554 เสื้อแดงบางคนติดคุก ข้อหาก่อจลาจล ถามว่าตนมาพูดทำไมวันนี้ หิวแสงหรือเปล่า ตนหิวความยุติธรรม หิวประชาธิปไตย หิวอิสรภาพของเพื่อน ตนจึงต้องออกมาในวันนี้

ด้าน ‘เจ๊ป๊อกกี้’ กล่าวว่า อยากให้มีการปรับปรุงหลักกฎหมายของไทย ให้สอดคล้องกับหลักสากล



จากนั้น เวลา 20.20 น. ตัวแทนจาก กลุ่ม ‘ไฟลามทุ่ง’ กล่าวในหัวข้อ “นักศึกษาและแรงงาน” ว่า รุ่นพี่ของตน ชื่อก้อง อุกฤษฏ์ ยังติดอยู่ในคุก อยากให้ได้ออกมา ก่อนหน้านี้ตนและนักศึกษารามคำแหงได้ยื่นหนังสือ ให้อธิการบดี ม.รามคำแหง ซึ่งความจริง ม.รามคำแหง ควรจะภูมิใจในนักศึกษาของท่าน ที่รับใช้ประชาชน เหมือนวันหนึ่งที่ ม.รามฯ ได้สู้เพื่อประชาธิปไตย เป็นมหาวิทยาลัยของคนจน จึงเป็นกองหน้าของประชาธิปไตยทุกครั้ง ทุกเหตุการณ์ เด็ก ม.ราม ตายเยอะสุด ทุกคนใน ‘รามอีสาน’ คือไอดอลของตน เราต้องการสืบทอดเจตนารมณ์

“บอกว่าจะขึ้นค่าแรง 400 บาท จะมีการขึ้นค่าแรงจริงหรือไม่ ดูเหมือนจะมีการพูดถึงการขึ้นค่าแรงมากจริงๆ แต่ถามว่าขึ้นไหม ก็ไม่ขึ้น ถ้าอย่างนั้น ผ่านปีใหม่ไป สงกรานต์ปีหน้าก็คงประกาศอีก ชนชั้นแรงงาน คนไทย ถูกคืนศักดิ์ศรีแค่ 50 กว่าบาทเท่านั้นหรือ”



“ในช่วงกลางปี 2567 มีนักศึกษาจบใหม่ ตกงานประมาณ 2.3 แสนคน ทำงานไม่ตรงสายที่เรียน แต่ผมเชื่อว่าทุกคนเรียนไปเพื่อรับใช้ชาติ เพราะมันต้องมีชนชั้นแรงงาน แต่อยากถามว่าภาษีเอาไปไหนหมด

สุดท้ายความมั่งคั่งก็มาจากการทำงานของคนที่อยู่ข้างล่างที่สุด ที่ผ่านมา เคยเรียกร้องขอให้สัตยาบัน ในอนุสัญญา ILO 87 และ 98 ที่พูดถึงการรวมตัวตั้งสหภาพแรงงาน แต่ทำไมสหภาพแรงงานบ้านเรา ไม่รับใช้ประชาชน ไปหนุนรัฐประหารเฉยเลย”



‘ตาม’ นักกิจกรรม เสริมว่า ในช่วงปี 2516 มีการขึ้นค่าแรงถึง 2 ครั้งต่อปี แถมขึ้นเยอะด้วย ในทางกลับกัน นักศึกษา แรงงาน เป็นแนวหน้ามาตลอด สร้างทุกอย่างให้ประเทศนี้ แต่กลับไม่ได้อะไรเลย แรงงานสร้างชาติ และจะสร้างประชาธิปไตยต่อไป

จากนั้น ตัวแทน ‘แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม’ กล่าวในหัวข้อ ‘เวลาชีวิตกับอนาคตที่เสียไป เพราะต้องข้อหาคดีอาญากร’ โดยกล่าวว่า นี่หรือคือรัฐบาลประชาธิปไตย บุ้ง เนติพร สเน่ห์สังคม ต้องอดอาหารเรียกร้องกระทั่งเสียชีวิตในเรือนจำ



“ทนายอานนท์, เก็ท โสภณ, ขนุน สิรภพ ไม่ได้กลับมาฉลองกับครอบครัว โดนขังข้ามปี ขนุนบอกเสมอว่าเคลื่อนไหวอย่าให้เสียการเรียน แต่ขนุนต้องติดคุก อย่างไรก็ตาม เรายังมีอุดมการณ์ ผู้ลี้ภัยอยากกลับบ้าน ทนายอานนท์ นำภา ก็อยากกลับบ้าน คนเสื้อแดงที่ตายไปเขาพูดไม่ได้ แต่เราจะพูดแทนเอง” ตัวแทน แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ กล่าว

ตัวแทน แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่นิรโทษกรรมควรรวม ม.112 เพราะอยากให้ประเทศกลับสู่ความสงบสุข เมื่อความแตกแยกที่เกิดขึ้นตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มันเกิดเพราะบ้านเรามี 2 มาตรฐาน ความสามัคคีไม่ใช่แค่ร้องเพลงชาติ แต่คือการที่เรากล้าพูดว่าอะไรคืออะไร กล้ารวมตัวสู้ เพื่อกฎหมายที่เท่าเทียมกัน



“ลูกของ ทนายอานนท์ ร้องไห้ เพราะอยากหาพ่อ แต่เข้าไปไม่ได้ คนอย่างขนุน สิรภพ มีความฝันอยากเป็นอาจารย์ คนแบบนี้เหรอที่จะออกมาสร้างความวุ่นวาย” ตัวแทน แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ กล่าว และว่า ‘เรามารวมตัวเพื่อให้ปล่อยเพื่อเรา’ จากนั้น ชู 3 นิ้ว เพื่อแสดงความเคารพในความเสียสละ ของคนที่อยู่ข้างในเรือนจำ

ต่อมา บรรยากาศเวลา 22.25 น. นายเทพดรุณ บิดาของ นายโสภณ หรือเก็ท ร่วมเล่นกีต้าร์ ร้องเพลงหน้าเรือนจำ

“จะร้องเพลงให้น้องเก็ท ให้ทุกคนออกมาให้ได้” นายเทพดรุณกล่าว ก่อนบรรเลงเพลง สวัสดีปีใหม่

ต่อมาเวลา 22.40 น. น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน นักกิจกรรมอิสระ เดินทางมาสมทบ รวมถึง น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์, นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน ทะลุฟ้า และขอ น.ส.เบนจา อะปัญ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมี นายปริญญา ชีวินกุลปฐม หรือพอร์ท ไฟเย็น รวมถึง นายอธึกกิต แสวงสุข หรือ ใบตองแห้ง พิธีกรชื่อดัง เดินทางมาร่วมส่งท้ายปีเก่า ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

https://www.matichon.co.th/politics/news_4979937