วันศุกร์, มกราคม 17, 2568

ข่าวคลายเครียด ฉากใหญ่ริมน้ำเมย “ขโมยเรียกจับขโมย” - ตำรวจไทยเก่งจังเลย

Paskorn Jumlongrach
15 hours ago
·
“ไอ้โม่ง”
กับฉากใหญ่ริมน้ำเมย
----------
ร้อยทั้งร้อยปฎิกริยาแรกต่างรู้สึก “ขำ”ที่เห็นข่าว BGF ของ พ.อ.ชิตูเรียกประชุมผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงเทาพร้อมประกาศปราบขบวนการค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เป็นไปได้อย่างไรที่ “ขโมยเรียกจับขโมย”หรือ “อาชญากรประกาศปราบแหล่งอาชญากรรม” ข่าวชิ้นนี้จึงดูเป็นข่าวคลายเครียดมากกว่า ทั้งๆโดยสาระของเรื่อง “จริงจัง”
ฉากหน้าที่เจ้าพ่อชเวโก๊กโก่ เจ้าพ่อเคเคปาร์ค เจ้าพ่อช่องแคบ เหล่านักธุรกิจจีนสีดำเทากว่า 60 คนมารวมตัวกัน จริงๆแล้วก็น่าสนใจไม่น้อยหากการ “จัดฉาก”นี้เป็นไปเพื่อแก้ปัญหาจริงจัง
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ “ฉากหลัง”
ตลอดลำน้ำเมยตั้งแต่ชเวโก๊กโก่ไล่ลงไปจนถึงช่องแคบ ซึ่งมีพื้นที่แหล่งอาชญากรรมกว่า 30 แห่งภายใต้การดูแลของ พ.อ.ชิตู และกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง หรือ BGF (Karen Border Guard Force-) และกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย หรือ DKBA (Democratic Karen Buddhist Army) ภายใต้การนำของ “โกไซ” พล.จ.ไซจ่อละ ผู้บัญชาการกองพลน้อยที่ 1 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งช่องแคบ ยังมี “ไอ้โม่ง”ซึ่งเป็นพ่อทุกสถาบันอยู่ด้วย
แน่นอนว่า “ไอ้โม่ง”รายนี้ย่อมเป็นที่เกรงอกเกรงใจของ พ.อ.ชิตู และโกไซ และเหล่าผู้นำกองกำลังที่คุมพื้นที่แหล่งอาชญากรรมในแต่ละโซน
ในบริบทของพื้นที่แม่สอดและน้ำเมย ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงกลุ่มต่างๆต้องพึ่งพาแผ่นดินไทยเป็นระเบียงช่วยเหลือในแทบทุกด้าน ทั้งในเรื่องบนดินและใต้ดิน การเคลื่อนไหวต่างๆย่อมอยู่ในสายตาไอ้โม่ง ซึ่งหากถูกตัดขาดหรือถูกห้ามข้ามมาแผ่นดินไทยแล้ว ผู้นำกองกำลังต่างๆจะ “อยู่ยาก”
ทั้งครอบครัว ทั้งบ้านช่อง ผู้นำกองกำลังติดอาวุธเหล่านี้ต่างก็อยู่บนแผ่นดินไทย รายได้จากธุรกิจสีดำเทาทำให้เขาร่ำรวย บางคนมีเงินนับพันล้าน สามารถพาครอบครัวบินไปช็อปปิ้งที่สิงคโปร์ได้ทุกสัปดาห์ แน่นอนว่าทุกอย่างต้องผ่านช่องทางไทย
ดังนั้นการอุดหนุนเกื้อกูลกันระหว่างผู้นำกองกำลังสีเทาเหล่านี้กับ “ไอ้โม่ง”ฝั่งไทยจึงเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ในหลายมิติ
ภายหลังเหตุการณ์จับตัวและปล่อยตัว “ซิง ซิง”ดาราจีน ทำให้ประเทศไทยฉาวโฉ่จนยากจะปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้อีกต่อไป ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งถึงขนาดนักท่องเที่ยวจีนจำนวนไม่น้อยยกเลิกการเดินทางมาไทยเพราะความหวาดกลัว กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทั้งกลุ่มกองกำลังกะเหรี่ยงเทาและ “ไอ้โม่ง”อยู่กันแบบเดิมๆต่อไปไม่ได้
เพียง 1 วันหลังการประชุมศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก การประชุมผู้นำกลุ่มกองกำลังกะเหรี่ยงเทาและนักธุรกิจจีนเทาดำก็เกิดขึ้น
เป็นที่น่าสังเกตคือในส่วนของรัฐบาลไทยกลับระมัดระวังในการตอบคำถามและอธิบายต่อสังคมโลกกรณีซิงซิงและเหยื่อต่างชาติที่ถูกเหล่ามาเฟียจีนนำไปไว้ในแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมยเป็นอย่างยิ่ง
ที่สำคัญคือไม่มีข้อสังการใดๆจากรัฐบางไทยที่จะยกเครื่องความช่วยเหลือและสกัดกั้นอาชญากรข้ามชาติที่ใช้แผ่นดินไทยเป็นระเบียงอาชญากรรมให้ชัดเจน ทั้งๆที่มีข้อมูลไหลทะลักออกมาว่ายังมีชาวต่างชาติอีกนับพันนับหมื่นที่กำลังถูกกักขังและทรมานเพื่อบีบบังคับให้ทำงานสแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์อยู่ในแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมย และขบวนการมาเฟียเหล่านี้ยังคงข้ามลำน้ำเมยได้ทุกค่ำคืน
หากรัฐบาลสั่งการเป็นนโยบายลงมาในพื้นที่แม่สอด ให้ช่วยเหลือชาวต่างชาติเหล่านี้ออกมา ย่อมไม่อยู่ในวิสัยที่เหลือบ่ากว่าแรงที่ไอ้โม่งจะทำได้
การจัดฉากให้เกิดการประชุมผู้นำกลุ่มกองกำลังกะเหรี่ยงเทาเพียงแค่ต้องการลดกระแส สร้างภาพให้ดูขึงขังว่าต้องการแก้ปัญหาขบวนการค้ามนุษย์และคอลเซ็นเตอร์ แต่กลับกลายเป็นเพียงเรื่อง “โจ๊ก”ที่สร้างความขำขัน
หม้อใบนี้เต็มไปด้วยข้าวร้อนๆที่แจกจ่ายได้ทั่วถึงจึงแสนหวงแหน ฉะนั้นใครจะมาทุบทิ้งจึงไม่ใช่เรื่องง่าย และเป็นเรื่องของคนที่ได้ประโยชน์ต้องร่วมกันปกป้องให้ถึงที่สุด

https://www.facebook.com/photo/?fbid=9194089973967539&set=a.139504616092832
.....

ง่ายดี จบนะ !

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1091582659678107&set=a.646092957560415
Atukkit Sawangsuk
14 hours ago
·
อ่านเมนท์