ซุน จ้าน วัย 25 ปี จบการศึกษาด้านการเงิน แต่ตอนนี้เขาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านหม้อไฟที่นานจิง ทางตะวันออกของจีน
วิกฤตงานในจีน คนรุ่นใหม่เรียนจบสูง ลงเอยกับงานเงินเดือนต่ำ
สตีเฟน แมคโดเนลล์
ผู้สื่อข่าวบีบีซีในจีน
4 มกราคม 2025
ประเทศจีนในตอนนี้เป็นประเทศที่คนงานช่างซ่อมในโรงเรียนมีวุฒิการศึกษาปริญญาโทสาขาฟิสิกส์ พนักงานทำความสะอาดเรียนจบทางด้านการวางแผนสิ่งแวดล้อม พนักงานเดลิเวอร์รีเรียนจบปรัชญา และผู้ที่จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชิงหัวที่มีชื่อเสียง กลับไปสมัครงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสำรอง
นี่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นจริงในสภาวะที่เศรษฐกิจของจีนกำลังประสบกับภาวะยากลำบาก และไม่ยากที่จะเจอผู้คนลงเอยด้วยงานแบบนี้เช่นตัวอย่างข้างต้น
"งานในฝันของผม คือ การทำงานในธนาคารด้านการลงทุน" ซุน จ้าน กล่าวขณะที่เขากำลังเริ่มเข้ากะเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารในร้านหม้อไฟทางตอนใต้ของนานจิง
หนุ่มจีนวัย 25 ปี เพิ่งเรียนจบปริญญาโทสาขาการเงิน เขาเคยหวังว่าตัวเองจะ "ทำเงินได้มหาศาล" ในงานที่ได้เงินเดือนสูง ๆ โดยซุน จ้านบอกว่า "ผมหางานเช่นนั้น แต่กลับไม่ได้เลยสักงาน"
ในทุก ๆ ปี จีนผลิตบัณฑิตเรียนจบมหาวิทยาลัยออกมาหลายล้านคน แต่บางสาขาที่ผลิตออกมา กลับไม่มีตำแหน่งงานเพียงพอสำหรับพวกเขา
เศรษฐกิจจีนเผชิญกับความยากลำบากและหลายภาคส่วนก็ชะงักงัน เช่น ภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคการผลิต
อัตราการว่างงานของคนรุ่นใหม่สูงเกือบ 20% ก่อนที่วิธีการประเมินตัวเลขจะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้สถานการณ์ดูดีขึ้น ในเดือน ส.ค. 2024 อัตราว่างงานอยู่ที่ 18.8% ต่อมาในเดือน พ.ย. ตัวเลขการว่างงานลดลงอยู่ที่ 16.1%
คนรุ่นใหม่จีนที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัยและหางานทำไม่ได้ในสาขาที่พวกเขาเรียนจบมา ต้องทำงานที่ต่ำกว่าคุณสมบัติของพวกเขามาก ซึ่งนำไปสู่การวิจารณ์จากครอบครัวและกลุ่มเพื่อนของพวกเขาเอง
เมื่อซุน จ้าน มาเป็นพนักงานเสิร์ฟ พ่อแม่ของเขาไม่พอใจกับหนทางของลูกคนนี้เท่าใดนัก
"ความคิดเห็นของครอบครัวเป็นความกังวลหลักของผม เพราะผมเรียนมาเป็นเวลาหลายปีและได้เข้าโรงเรียนที่ค่อนข้างดี"
เขาบอกว่า ครอบครัวรู้สึกอับอายกับอาชีพการงานที่เขาเลือก และอยากให้เขาพยายามไปสอบเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่มากกว่า แต่ซุน จ้าน ยืนยันว่านี่เป็นทางเลือกของเขา
ทว่าหนุ่มจีนคนนี้ก็มีแผนการลับ ๆ คือ เขาจะใช้เวลาช่วงที่เป็นพนักงานในร้านอาหารเรียนรู้ธุรกิจร้านอาหารเพื่อที่เขาจะไปเปิดร้านของตัวเองในวันหนึ่ง
ซุน จ้าน คิดว่า ถ้าเขาประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ คำวิจารณ์ของครอบครัวก็จะหมดไป
"สถานการณ์ตำแหน่งงานในจีนแผ่นดินใหญ่มีความท้าทายอย่างมาก ฉันคิดว่าคนรุ่นใหม่จำนวนมากต้องปรับความคาดหวังของตัวเองใหม่" ศ.จาง จุน แห่งมหาวิทยาลัยซิตีแห่งฮ่องกง กล่าว
"ในตลาดงานตอนนี้หางานยากมาก" วู่ ตัน วัย 29 ปี ซึ่งปัจจุบันฝึกงานในคลินิกนวดสำหรับการบาดเจ็บจากกีฬาในเซี่ยงไฮ้ กล่าว
"สำหรับเพื่อนที่เรียนปริญญาโทด้วยกันของฉันหลายคน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาต้องหางานทำ แต่มีน้อยคนมากที่จะได้งาน" เธอกล่าว
วู่ ตัน ไม่เคยคิดว่าเธอจะมาลงเอยกับงานนี้ หลังจากคว้าปริญญาด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง
ก่อนหน้านี้ เธอทำงานที่บริษัทค้าฟิวเจอร์สในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเธอมีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
เมื่อตันกลับไปยังจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากเรียนจบในฮ่องกง เธออยากจะทำงานในบริษัทลงทุนเอกชน และได้รับเสนอตำแหน่งงานจากบางบริษัท แต่เธอไม่พอใจกับเงื่อนไขที่ได้รับ
การที่เธอไม่ตอบรับงานจากที่ใดเลย และกลับไปฝึกงานทางด้านการแพทย์ในการกีฬาแทน ทำให้ครอบครัวของตันไม่ยินดีนัก
"พวกเขาคิดว่า ฉันมีงานทำดี ๆ มาก่อน และพื้นฐานการศึกษาของฉันก็ดูแข่งขันได้ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมฉันไปทำงานที่ใช้ทักษะต่ำ ใช้แต่กำลังกายเพื่อจะได้เงินค่าตอบแทนน้อย"
ตันยอมรับว่า เธอคงไม่สามารถใช้ชีวิตรอดได้ในเซี่ยงไฮ้ด้วยเงินเดือนที่ได้รับล่าสุด หากว่าคู่รักของเธอไม่ได้มีบ้านเป็นของตัวเอง
ตอนนี้ อดีตนักศึกษาด้านการเงินบอกว่า เธอรู้สึกว่าชีวิตการทำงานในแวดวงการลงทุนคงไม่เหมาะกับเธออีกต่อไป ตันบอกว่า เธอกำลังสนใจด้านการดูแลอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาเหมือนกับงานที่เธอทำอยู่ และวันหนึ่งเธอจะเปิดคลินิกเป็นของตัวเอง
วู่ ตัน วัย 29 ปี บอกว่า เธอหางานทำในสายงานการเงินที่มีเงื่อนไขการจ้างงานเธอพอใจไม่ได้ ตอนนี้เธอจึงมาเป็นพนักงานฝึกงานในคลินิกนวดทางการกีฬา
ศ.จาง ชี้ว่าบัณฑิตชาวจีนกำลังถูกบังคับให้ปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสิ่งที่ถือว่าเป็น "ตำแหน่งงานที่ดี"
เธอเสริมว่า สิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็น "สัญญาณเตือน" สำหรับคนรุ่นใหม่ "บริษัทหลายแห่งในจีน รวมทั้งบริษัทด้านเทคโนโลยีหลายแห่ง ได้ปลดพนักงานไปแล้วจำนวนมาก"
นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยในฮ่องกงกล่าวด้วยว่า ภาคส่วนสำคัญ ๆ ทางเศรษฐกิจที่ครั้งหนึ่งเคยจ้างงานบัณฑิตจบใหม่จำนวนมาก ตอนนี้กลับเสนองานที่เงื่อนไขการจ้างต่ำกว่ามาตรฐานเดิม และโอกาสในการทำงานที่ดีในสาขานั้น ๆ กำลังลดน้อยถอยลง
ขณะที่บัณฑิตเหล่านี้กำลังมองว่าจะทำงานอะไรในอนาคต เด็กจบใหม่ที่ว่างงานส่วนหนึ่งก็หันหน้าไปสู่อุตสาหกรรมโทรทัศน์และภาพยนตร์
ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ต้องใช้นักแสดงเอ็กซ์ตร้าหรือตัวประกอบจำนวนมากมาเข้าฉาก และในเมืองผลิตภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงของจีนอย่างเมืองเฮิงเตี้ยนทางตะวันตกเฉียงใต้ของเซี่ยงไฮ้ คนรุ่นใหม่จำนวนมากต่างกำลังมองหางานการแสดง
"ส่วนใหญ่ผมจะได้ยืนข้างนักแสดงพระเอกนางเอก เป็นตัวประกอบเท่านั้น ผมจะเข้าฉากยืนติดกับนักแสดงนำ แต่ไม่มีบทพูด" วู ซิงไห่ ซึ่งเรียนจบมาทางด้านวิศวกรรมสารสนเทศ กล่าวถึงการรับบทเป็นบอดีการ์ดในละครเรื่องหนึ่ง
หนุ่มจีนวัย 26 ปี หัวเราะกับความจริงที่ว่าหน้าตาที่ดูหล่อเหลาของเขาทำให้เขาได้รับการจ้างงานเป็นตัวประกอบ
เขากล่าวว่า ผู้คนมักจะมาที่เมืองเฮิงเตี้ยนและทำงานครั้งละไม่กี่เดือน ซึ่งรวมถึงเขาเองที่จะทำงานนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นจนกว่าจะหางานประจำได้ "ผมหาเงินได้ไม่มาก แต่ก็รู้สึกสบายใจและรู้สึกเป็นอิสระจากการทำงานนี้"
เด็กจบใหม่จำนวนมากในจีนเดินทางไปที่เมืองเฮิงเตี้ยนเพื่อทำงานเป็นนักแสดงประกอบฉากที่สตูดิโอสร้างหนัง
"นี่เป็นสถานการณ์ในจีนใช่ไหม เมื่อคุณเรียนจบ คุณก็จะว่างงานทันที" ลี ที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อสกุลกล่าว
ลี จบทางด้านการกำกับภาพยนตร์และการเขียนบท และตอนนี้เขาทำงานเป็นนักแสดงประกอบฉากมาแล้ว 2-3 เดือน
"ผมมาที่นี่เพื่อหางานทำสำหรับช่วงที่อายุยังน้อย ๆ แต่เมื่อแก่ขึ้นกว่านี้ ผมจะหางานที่มั่นคงทำ"
แต่หลายคนกลัวว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้งานที่ดี และอาจต้องยอมรับอาชีพการงานที่แตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาคิดไว้
ความไม่มั่นใจในความเป็นไปของเศรษฐกิจจีนยังหมายถึง คนรุ่นใหม่มักจะไม่รู้ว่าอนาคตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป
วู่ ตัน บอกว่ากระทั่งเพื่อนของเธอที่มีงานทำก็ยังรู้สึกหลงทาง
"พวกเขาค่อนข้างจะสับสนและรู้สึกว่าอนาคตไม่มีความชัดเจน คนที่มีงานทำก็ไม่ได้พอใจเท่าใดนัก พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำงานพวกนั้นไปได้ถึงเมื่อไหร่ และถ้าพวกเขาเสียงานที่ทำอยู่ปัจจุบันไป พวกเขาจะทำอะไรได้อีก ?"
เธอกล่าวด้วยว่า สำหรับเธอจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางและค่อย ๆ สำรวจสิ่งที่เธอต้องการทำจริง ๆ ต่อไป
https://www.bbc.com/thai/articles/crmn9le20lko