วันศุกร์, ธันวาคม 02, 2565

เปิดหมู่บ้านหรูและคอนโดมีเนียม 100 ล้านบาทของทุนจีนสีเทาในเครือข่าย “ตู้ห่าว”


เปิดหมู่บ้านหรูและคอนโดมีเนียม 100 ล้านบาทของทุนจีนสีเทาในเครือข่าย “ตู้ห่าว”

บ้านที่ตำรวจบุกตรวจค้นในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล

30 พฤศจิกายน 2022
ปรับปรุงแล้ว 1 ธันวาคม 2022
บีบีซีไทย

ตำรวจกระจายกำลังตรวจที่พักอาศัยชั้นสูงที่เชื่อมโยงกับเครือข่าย “ตู้ห่าว” พบทุนจีนกว้านซื้อโครงการหมู่บ้านหรูบางแห่งเกือบยกหมู่บ้าน เพื่อนบ้านชาวไทยเผย พฤติกรรมรังควาน ซ่องสุมเล่นการพนันและปาร์ตี้กลางดึก จนเจ้าของบ้านคนไทยต้องขายบ้านหนี

วันที่ 29 พ.ย. พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ได้สนธิกำลังตำรวจ บช.สอท. รวมถึงตำรวจคอมมานโด ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านหรู ย่านซอยลาซาล หลังสืบพบว่า กลุ่มทุนจีนใช้หมู่บ้านดังกล่าวเป็นที่พักอาศัย

หมู่บ้านที่กำลังตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจค้น คือ หมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล อ.เมือง สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโครงการบ้านหรู ราคาหลังละกว่า 50 ล้านบาท ทั้งหมู่บ้านมีบ้านทั้งหมด 66 หลัง เฉลี่ยราคาหลังละ 35-60 ล้านบาท

ตำรวจพบว่า คนจีนใช้เงินสดซื้อบ้านหรูถึง 50 หลัง ที่เหลือ 16 หลัง มีเจ้าของเป็นคนไทย แต่ก็ทยอยขายบ้านที่อยู่ติดกับชาวจีนเหล่านี้ เพราะทนพฤติกรรมของเจ้าของบ้านชาวจีนที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2563 ไม่ไหว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า เจ้าของบ้านชาวไทยอธิบายว่า กลุ่มคนจีนซึ่งพบว่ามีความเชื่อมโยงกับผับ “จินหลิง” ชอบเข้ามามั่วสุมเล่นไพ่ จัดงานเลี้ยงสังสรรค์เสียงดังในเวลากลางคืน


หมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล

หลังนายตู้ห่าว หรือ ชัยนัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อไม่นานมานี้ กลับพบว่า เจ้าของบ้านชาวจีนมีพฤติกรรมผิดปกติ อาทิ ขนย้ายทรัพย์สินภายในบ้านออกไป และนำรถหรูไปซุกซ่อน

ปฏิบัติการนี้เป็นการขยายผลจากยุทธการ “ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน” ที่ได้ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยเป็นที่พักอาศัยและเป็นแหล่งมั่วสุมกระทำความผิดของกลุ่มทุนจีนเสีเทา และขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน กทม. 3 จุด เมื่อต้นเดือน พ.ย. โดยจากการตรวจสอบ ตำรวจพบว่า กลุ่มทุนจีนกว้านซื้อบ้านหรูในนามของบริษัท หรือผ่านนอมินี ซึ่งต่อจากนี้ จะตรวจสอบว่ามีการเปิดบริษัทถูกต้องหรือไม่

ซื้อสดหลังละ 30-60 ล้านบาท

เพจ “บางนา” ที่แชร์เรื่องราวข่าวสารในเขตบางนา ระบุในโพสต์ที่มีผู้แชร์มากเกือบ 10,000 ครั้งว่า “คนไทยต้องขายบ้านหนี เพราะรวมตัวปาร์ตี้เสียงดังยามค่ำคืน ขนพริตตี้สาวมาบริการถึงในหมู่บ้านขวักไขว่ และพบว่าในคนจีนแก๊งนี้ ซื้อเงินสดหลังละ 30-60 ล้านบาท”

ผู้ใช้สังคมออนไลน์ที่เคยเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้ แสดงความเห็นในโพสต์ของเพจ “บางนา” ว่า หมู่บ้านแห่งนี้แทบจะเป็นของคนจีนแล้ว อาทิ

“ย่านนั้นมีหมู่บ้านหรูแบบนี้ไม่กี่ที่... แล้วเคยเข้าไปรับส่งของ แทบจะจีนทั้งหมู่บ้านเลย”

“ในหมู่บ้านผม มี 10 กว่าหลัง ยังไม่เห็นโดนเลย”

“ซอยลาซาลตัดใหม่ คนรวยอยู่เยอะจริงครับ ยิ่งเส้นตรงหน้าโรงเรียนลาซาลตรงตลาดสดลาซาลด้วยมีแต่คนจีน”


ตัวอย่างบ้านในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล


พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ เอสซี แอสเซ็ท ผู้พัฒนาโครงการ ระบุว่า โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท เป็น “อัครสถานหรู สไตล์ English Craftsman บรรจงสร้างอย่างปราณีต ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเป็นส่วนตัว เอกสิทธิ์เพียง 65 ครอบครัว เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมฟังก์ชั่นอันสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด Grand Double Volume Dining Room ห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ หรูหราโอ่อ่าด้วยเพดานสูงโปร่ง พร้อมนวัตกรรมใหม่ Eldercare Solution by SC ASSET ที่ออกแบบรองรับการพักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ” โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 40-60 ล้านบาท

คอนโดหรู ทุนจีนซื้อสด 100 ล้านบาท

นอกเหนือจากหมู่บ้านหรูในย่านซอยลาซาล ตำรวจยังได้กระจายกำลังตรวจค้นที่พักอาศัยต้องสงสัยของทุนจีนในอีก 4 จุดใหญ่ ๆ โดยจุดหนึ่งนั้น คือ ห้องชุดหรูชั้น 69 ของคอนโดมีเนียม “แมกโนเลีย เรสซิเดนซ์” ย่านเจริญนคร ติดกับห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม ซึ่งตรวจสอบพบว่า มีราคากว่า 100 ล้านบาท


แมกโนเลีย วอเตอร์ฟรอนต์ เรสซิเดนซ์

ทางการเปิดเผยว่า คอนโดหรูชั้น 69 แห่งนี้ ถูกซื้อด้วยเงินสด โดยบริษัทนอมินี ที่มีชาวจีนเป็นหุ้นส่วน 49% และคนไทยอีก 2 คน ร่วมถือหุ้นรวมกันอีก 51% โดยบริษัทนี้ มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท หรือเท่ากับเงินที่ใช้ซื้อคอนโดหรูแห่งนี้

รายการ “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” ได้เผยแพร่คลิปที่ตำรวจได้เข้าพูดคุยกับหนึ่งใน 2 ผู้ถือหุ้นคนไทย ซึ่งกลายเป็นว่า เป็นเพียงคนรับจ้างล้างสระน้ำ ที่มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 10,000 บาทเท่านั้น

สรุปจุดตรวจค้นทั้งหมดของปฏิบัติการที่ขยายผลจากยุทธการ “ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน” มีดังนี้
  • บ้านหรู 4 หลัง ในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล
  • บ้านหรู 2 หลัง ในหมู่บ้านทูแกรนด์ โมนาโก ซอยกาญจนาภิเษก 50 แขวงดอกไม้
  • บ้านหรู 1 หลัง หมู่บ้านบุราสิริ วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม
  • บ้านหรู 3 หลัง ในหมู่บ้านลดาวัลย์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า
  • ห้องชุดหรู ชั้น 69 ของคอนโดมีเนียมแมกโนเลีย เรสซิเดนซ์ ย่านเจริญนคร

รถหรูที่ตรวจยึดได้

ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ยึดบ้านหรูราคากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งพบว่าเป็นของภรรยานายตู้ห่าว ในย่านพระราม 5 ไว้แล้ว

ขณะที่ ในงานสัมมนา “ผ่ากลยุทธ์ธุรกิจคอนโดมีเนียม ปี 2023” บางกอกบิซนิวส์รายงานว่า นางสุพินท์ มีชูชีพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2565 “ชาวจีนซื้อมากที่สุด ถึง 15,000 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณ 5 ล้านบาทต่อยูนิต”

“นักธุรกิจชาวจีนส่วนใหญ่ ชอบที่อยู่อาศัยรูปแบบเพนท์เฮาส์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา”

คืบหน้าแล้ว 90% ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท

วันที่ 1 ธ.ค. พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าว่าได้ตรวจยึดเครื่องบินของ นายตู้ห่าว ซึ่งอยู่ที่สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอ และสารเสพติด ทั้งนี้ได้ยื่นให้ ป.ป.ส. ทำการยึดอายัดทรัพย์ทั้งหมดไปแล้วมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาทนับตั้งแต่การตรวจค้นเป็นต้นมา "วันนี้ในการสืบสวนมาถึง 90% แล้ว เฉพาะในกลุ่มคนจีน ซึ่งได้จับกุมหมดแล้ว ล่าสุดคือได้จับกุม นายโทนี่ ยิป เจ้าของสเปชพลัส ผับ จนถึงวันนี้จับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว 102 คน สิ่งที่จะต้องขยายต่อไปคือเรื่องทรัพย์และเงินสด คนที่เก็บเงินสดไว้คือใคร" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าว


นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและอดีตเจ้าของธุรกิจสีเทา ซึ่งเป็นผู้ประเด็นเรื่องนี้ ได้นำเอกสารที่ระบุว่าเป็นข้อมูลอธิบายเส้นทางการเงินของเครือข่ายธุรกิจของนายตู้ห่าว เพิ่มเติมให้กับ รอง ผบ.ตร.

ตู้ห่าว คือ ใคร

นายตู้ห่าว คือ คนจีนที่โอนสัญชาติเป็นสัญชาติไทย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในฐานความผิดร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 อันเป็นการมีไว้เพื่อการค้า อันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน และสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ แถลงความคืบหน้าปฏิบัติการกวาดล้างธุรกิจสีเทาชาวจีนว่า นายตู้ห่าว มีความเชื่อมโยงกับผับจินหลิง โดยมีชื่อเป็นผู้เช่าผับ พบการเข้าออกผับจินหลิงเป็นประจำ รวมทั้งวันที่เปิดปฏิบัติการจับกุมเมื่อ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังแสดงความเชื่อมั่นในการเอาผิดคดียาเสพติดกับนายตู้ห่าวได้ เพราะคนในผับดังกล่าวรู้ว่านายตู้ห่าวเป็นผู้สั่งการ


นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว นักธุรกิจจีนที่โอนสัญชาติมาเป็นไทย ตามหมายจับคดีจำหน่ายยาเสพติดเชื่อมโยงผับลับชาวจีน "จินหลิง"

"การสืบสวนเรามีความเชื่อมโยงได้ว่า ตู้ห่าว อยู่ในสถานที่นั้นในวันเกิดเหตุ และตู้ห่าวเป็นเจ้าของสถานที่นั้นโดยเป็นคนเช่า แล้วอยู่ในสถานที่นั้นเป็นประจำ อันนี้เป็นข้อมูลในการสืบสวนที่ทำให้เราเชื่อมโยงได้ว่า ทั้งยาเสพติด และคนที่อยู่ในสถานบริการนั้นรู้ว่าตู้ห่าวมีการเข้าออกอยู่ตลอด และมีการสั่งการอยู่ตลอด" พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ แถลงด้วยว่า กลุ่มของนายตู้ห่าว เป็น 1 ใน 5 กลุ่มของนายทุนจีนที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงในไทยโดยแอบแฝงธุรกิจผิดกฎหมาย ในกรุงเทพฯ และชลบุรี ขณะนี้ได้จับกุมไปแล้ว 3 กลุ่ม โดยทั้ง 5 กลุ่ม มีความสัมพันธ์รู้จักกัน

"ในกรุงเทพฯ มีความเกี่ยวพันกันทั้งหมด... เป็นกลุ่มเดียวกัน ทั้งร่วมกันและแยกกันทำ"

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ แถลงด้วยว่า นายตู้ห่าว สื่อมวลชนทราบดีอยู่ว่าได้แต่งงานกับหลานสาว พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วงปี 2541-2543 และอดีตรองนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งหลายสื่อระบุว่า ภรรยาของนายตู้ห่าว มียศ เป็น พ.ต.อ. หญิง


บีบีซีไทย - BBC Thai
16h

ชูวิทย์มอบข้อมูลเส้นทางการเงินเครือข่าย “ตู้ห่าว” เพิ่ม
.
การขยายผลจากคดีจับผับลับชาวจีนที่ชื่อว่า จินหลิง ที่มีนักท่องเที่ยวมั่วสุมยาเสพติดในย่านยานนาวาของกรุงเทพมหานคร เครือข่ายทุนจีนสีเทาของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ยังได้รับความสนใจจากสังคมอย่างต่อเนื่อง
.
มีหลายส่วนมองว่า ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของรัฐอาจจะทำงานตามเบาะแสที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและอดีตเจ้าของธุรกิจสีเทา เป็นผู้เปิดประเด็นเป็นหลัก
.
แต่ ล่าสุด พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำตามคำสั่งใคร เพราะข้อมูลต่าง ๆ ได้รับมาจากการสืบสวนสอบสวน และเบาะแสจากประชาชน ไม่ได้รับจากนายชูวิทย์เพียงแหล่งเดียว
.
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่าได้ตรวจยึดเครื่องบินของ นายตู้ห่าว ซึ่งอยู่ที่สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอ และสารเสพติด ทั้งนี้ได้ยื่นให้ ป.ป.ส. ทำการยึดอายัดทรัพย์ทั้งหมดไปแล้วมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาทนับตั้งแต่การตรวจค้นเป็นต้นมา
.
"วันนี้ในการสืบสวนมาถึง 90% แล้ว เฉพาะในกลุ่มคนจีน ซึ่งได้จับกุมหมดแล้ว ล่าสุดคือได้จับกุม นายโทนี่ ยิป เจ้าของสเปชพลัส ผับ จนถึงวันนี้จับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว 102 คน สิ่งที่จะต้องขยายต่อไปคือเรื่องทรัพย์และเงินสด คนที่เก็บเงินสดไว้คือใคร" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว
.
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชูวิทย์ ได้นำเอกสารที่ระบุว่าเป็นข้อมูลอธิบายเส้นทางการเงินของเครือข่ายธุรกิจของนายตู้ห่าว โดยจะเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้งในช่วงบ่าย
.
ระหว่างมอบเอกสารดังกล่าว เขาตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่อข้อสังเกตที่วิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของเขาว่ามีวาระซ้อนเร้นว่า "ถ้า... พลเมืองดีอย่างผมเอาข้อมูลมาให้แล้วมาตั้งข้อสังเกตผม ต่อไปก็ไม่ต้องมีพลเมืองดีแล้ว ต่างคนต่างอยู่แล้วกัน"
.
อ่านรายละเอียดทางนี้ https://bbc.in/3Vn4MYW