วันอาทิตย์, ธันวาคม 04, 2565

พ่อนักศึกษาวิชาทหารชั้นปี 1 ที่จ.นราธิวาส เผยอาการลูกต้องเข้าโรงพยาบาล หลังฝึกทหาร แพทย์บอกมีอาการกล้ามเนื้อสลาย และมี 7 รายต้องล้างไต ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด่วน ชมสัมภาษณ์ผู้ปกครอง


The Reporters
23h

UPDATE:พ่อนักศึกษาวิชาทหารชั้นปี 1 ที่จ.นราธิวาส เผยอาการลูกต้องเข้าโรงพยาบาล หลังฝึกทหาร แพทย์บอกมีอาการกล้ามเนื้อสลาย และมี 7 รายต้องล้างไต ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด่วน

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 The Reporters ได้สอบถามไปยัง นายซารีมัน มะยูโซะ พ่อของนักศึกษาวิชาทหารชั้นปี 1 ในจ.นราธิวาส ที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.65 หลังจากการเข้าฝึกวิชาทหารได้ 3 วัน ก็มีอาการปวดขา และฉี่เป็นสีน้ำตาล

นายซารีมัน เปิดเผยว่า ลูกชายตนเองเรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนนราธิวาสได้เข้ารับการฝึกวิชาทหารวันแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 26 พ.ย.65 วันแรกที่ฝึกแล้วกลับมาบ้าน ลูกชายบอกแม่ว่า ปวดขาจัง พ่อจึงได้บอกลูกไปว่า เป็นเรื่องปกติในการฝึกที่ต้องปวดขา แต่พอวันที่สองของการฝึก ลูกกลับบ้านมานั่งละหมาดไม่ได้ ตนเองก็ยังบอกลูกไปด้วยว่า ก็อาจต้องเจ็บ โดยไม่คิดว่าในวันที่ 3 คือวันจันทร์ที่ 28 พ.ย.ในตอนเช้าลูกปวดขา จนไม่สามารถใส่ถุงเท้าเองได้

"พอวันที่สามของการฝึก ตอนเช้าผมไปทำงานปกติ แต่มารู้ว่า ลูกต้องให้แม่ใส่ถุงเท้าให้ ต้องผูกเชือกรองเท้าทหารให้ลูก พอตอนเย็นผมกลับจากทำงานลูกบอกแม่ว่า ฉี่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ผมตกใจมากเพราะ ศาสนาอิสลามบอกว่าถ้าปัสสาวะเป็นสีแบบนี้ จะตาย ผมไม่คิดว่า เรียน รด.จะหนักขนาดนี้ ผมก็รีบพาลูกพาไป รพ.นราธิวาสฯ พอสองทุ่ม รพ.ปิด ต้องตรรวจเลือด ก็ไปห้องฉุกเฉิน กว่าจะเสร็จเกือบเที่ยงคืนครึ่ง ผมก็ใจไม่ดีกลัวลูกจะเป็นอันตราย"

นายซารีมัน เปิดเผยว่า ในเช้าวันอังคารที่ 28 พ.ย.ตนเองได้ติดต่อไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถามหาครูที่ดูแลนักศึกษาวิชาทหาร เพื่อบอกว่าลูกชายตนเองมีอาการแบบนี้จากการฝึก ขอให้ระวังไม่ให้เกิดกับเด็กคนอื่น แต่ติดต่อไม่ได้ จนได้เบอร์ผู้หมวดนายหนึ่ง ที่เป็นคนดูแลการฝึก ก็ได้บอกว่า ลูกชายอาการวิกฤต ปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลเข้ม และในวันนั้น ก็มีเด็กมาเข้าโรงพยาบาลอีก 2-3 คน เพราะเท่าที่รู้จากลูกชายบอกว่าต้องสก๊อตจั๊มพ์ 100-200 ครั้ง โดยที่มีเวลากินน้ำน้อย

"ผมบอกไปว่า ลูกผมอาการวิกฤต ฉี่เป็นสีน้ำตาลเข้ม แล้ววันนั้นมีเด็กมาอีก 2-3 คน ในขณะที่การฝึกยังคงมีเหมือนเดิม เป็นวันอังคารที่ 29 พ.ย.65 ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการฝึก การฝึกยังมีต่อไป ที่ผมโทรบอกผู้หมวดไม่ใช่แค่ปกป้องลูกผม แต่ไม่อยากให้มีคนที่ 4-5 คน ถ้ายังให้สก๊อตจั๊มพ์ 100-200 ครั้ง แบบนี้จะมีเด็กเป็นแบบลูกผมเพิ่ม"

นายซารีมัน ยอมรับว่าเสียใจที่ลูกมาโรงพยาบาล ทำไมครู ไม่มาสักคน อยากให้ครูไปบอกผู้หมวด เพื่อให้การฝึกจะได้เบาๆ หน่อย

"ตัวชี้วัดคุณไม่ผ่านนะ เด็กมัธยม วิ่งได้เท่าไหร่ สก๊อตจั๊มพ์ได้เท่าไหร่ เด็กป่วย 4-5 คนแล้ว ยังจะฝึกอีก ทำไมครูไม่มาดูแล้วไปตรวจสอบการฝึก ผมได้ข่าวว่าที่ โรงพยาบาลรือเสาะ เด็กมารักษา 8 คน ครูมาเฝ้าเด็ก 8 ชั่วโมง แต่ทำไมครูร.ร.นท. ที่เป็นตัวแทนของครูที่ฝึก รด.น่าจะมาเยี่ยมลูกศิษย์เขา รวมถึงทหารก็ต้องมาดูในวันแรกแต่ไม่มีใครมา"

นายซารีมัน เปิดเผยว่า มีเด็กนักเรียน 7 คน ต้องฟอกไตด้วย โดยตนเองทราบว่า มีเด็ก 7 คนเข้ารับการฟอกไตที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เวลานั้นตนเองตกใจมาก ถึงขั้นขับรถชนฟุตบาท เพราะไม่คิดว่าการฝึกวิชาทหาร จะทำให้มีอาการหนักขนาดนี้ และกลัวว่าลูกตนเองจะต้องล้างไตด้วย แต่โชคดีว่าอาการลูกชายดีขึ้น ปัสสาวะสีน้ำตาลเข้มจางลง ยังเจ็บหน้าอก และมีอาการอาเจียน ก็ได้แต่คาดหวังว่าอาการลูกจะดีขึ้น แต่สงสารเด็กและผู้ปกครองคนอื่น

"ที่ผมได้พยายามบอกว่าลูกผมเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพื่อให้เขาหยุดฝึกแบบนี้ เท่าที่ทราบไม่ใช่การฝึกทั้งหมดแต่มีเด็ก 2 กลุ่มที่ฝึกหนัก เท่าที่ลูกเล่าให้ฟังบอกว่า ครูคนอื่นดีหมด แต่คนนี้โหดกว่าเพื่อน บอกให้สก๊อตจั๊มพ์ 100 ครั้ง แล้วให้ดื่มน้ำน้อยมาก บางคนยังไม่ทันได้ดื่มน้ำก็เป่านกหวีด ก็ดื่มไม่ทัน พอเข้าแถวก็โดนทำโทษอีก แล้วพอมาเห็นเด็กที่ต้องฟอกไต ไม่ใช่เรื่องปกติ ผมก็กลัวลูกผมก็ต้องดูว่าต้องเจาะไหม"

นายซารีมัน เปิดเผยว่า เท่าที่ทราบข้อมูลพบว่าในการฝึก มีการสั่งให้สก๊อตจั๊มพ์เป็น 100 ครั้ง ตนเองเชื่อลูกเพราะเด็กเป็นคนซื่อตรง ขนาดเจ็บกลับมาบ้าน ใส่ถุงเท้าตัวเอง ลูกยังขยัน ยังตองไปฝึก ก็เลยทำให้พ่อรู้สึกโกรธมากว่า ทำไมต้องฝึกโหดขนาดนี้เลยหรือ

"นี่นะฟอกไตแค่ 7 คน ถ้าผมไม่ลงข่าวแบบนี้ เด็กเข้าห้อง ICU แล้วโรงพยาบาลจะรองรับทันไหม หมอที่อื่นคิดว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อ โรคกระเพาะ แต่ที่นี่เด็กมาพร้อมกัน อาการเดียวกัน เลยคิดว่าต้องมาจากการฝึกวิชาทหาร และร้ายแรงถึงขั้นต้องฟอกไต"

นายซารีมัน เปิดเผยว่าเหตุที่ตนเองโพสต์เฟซบุ๊ก ไม่ได้ต้องการกระเช้าดอกไม้ หรือต้องการเงิน แต่ไม่อยากให้เด็กคนอื่นต้องเจอแบบลูกตนเอง อยากให้ครูฝึกมาเห็นสภาพเด็กๆ ที่เจ็บ ต้องเจาะคอ ต้องฟอกไต แค่ฝึกทำไมต้องเจ็บร้ายแรงแบบนี้ และสงสัยว่าตลอดการฝึก ครูฝึกไม่รู้เลยหรือว่ามีเด็กเจ็บหนัก ไม่มีการรายงานกันเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น

"ผมอยากให้คนที่ทำโทษเด็กบ่อยๆ มาดูลูกๆ ของเราว่าทรมานขนาดไหน บางคนเอาสำลีแปะที่คอ ผมอยากจะร้องไห้มากเด็กตัวเล็กๆ อายุ 16 ปี น่าอนาถมาก พ่อแม่เขาร้อง ผมก็รอคิวลูกผมจะต้องล้างไตด้วยไหม แต่ถ้าหายจากที่นี่ ผมจะไปตรวจที่ มอ.อีก ผมเบิกได้ คนอื่นเป็นแม่บ้านทำงานวันละ 300 บาท จะทำยังไง ผมยอมมาดูแลลูกจะตัดเงินเดือนก็ยอม อยากให้พี่เลี้ยงที่ฝึกหนักมาดู ว่าเด็กเป็นขนาดนี้ ผมรับไม่ได้ อยากให้มาดู ที่ผมลงเฟซ ลูกผมเอง เพราะไม่อยากให้เกิดแบบลูกผม" นายมารีฟัน กล่าวด้วยความเสียใจ

The Reporters ได้สอบถามไปยังแพทย์ท่านหนึ่งในพื้นที่ พบว่า ในช่วง 5-6 วันที่ผ่านมา มีนักศึกษาวิชาทหารมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และที่ส่งมาจากโรงพยาบาลต่างอำเภออย่างต่อเนื่อง ด้วยอาการฉี่เป็นสีเข้ม จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจเพราะไม่เคยเกิดแบบนี้มาก่อน

สำหรับอาการที่พบเป็นอาการกล้ามเนื้อสลาย ฉี่ไม่ออก หรือเป็นสีโค้ก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก เหมือนอาการคนวิ่งใหม่ๆ ถือว่าเป็นอาการรุนแรง เพราะกรณีกล้ามเนื้อสลายเยอะๆทำให้มีของเสียในร่างกายปล่อยออกมา ทำให้เกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ จนเกิดอาการไตวาย หรือตับวายได้ อย่างแย่ที่สุดทำให้เสียชีวิตได้ หากรักษาไม่ทัน การรักษาจึงต้องฟอกไต ต้องล้างไต ซึ่งถือเป็นเคสหนัก ต้องรักษาให้เร็ว

โดยล่าสุดมีเด็กต้องฟอกไต 6-7 รายแล้ว และมีมารักษาตัวกว่า 20 คนแล้ว ไม่รวมกับที่อยู่โรงพยาบาลรอบนอก จึงอยากให้มีการตรวจสอบโดยเร็ว และคัดกรองอาการของเด็ก หากต้องฟอกไต แล้วโรงพยาบาลรองรับไม่ทัน จะเป็นอันตรายกับเด็กมาก

แพทย์ระบุว่า อาการกล้ามเนื้อสลาย อาจเกิดกับเด็กที่เข้ารับการฝึกชุดเดียวกัน เพราะทุกคนถูกทำเหมือนกันหมด อาการแบบนี้ส่วนใหญ่จะมาจากการเป็นลมแดด เช่นตากแดดนาน การวิดพื้น ลุกนั่ง ให้วิ่ง ในเวลาติดต่อกัน

"น่าตกใจมากเพราะเด็กอายุ 16-17 ปีก็น่าจะยังแข็งแรง ถ้าเจอภาวะนี้จากการเป็นโรคใดโรคหนึ่งไม่น่าแปลกใจ แต่นี่เด็กเป็นพร้อมกันเป็นกลุ่ม เป็นภาวะไม่ปกติ ที่ต้องรีบตรวจสอบแก้ไข"

แพทย์จึงเป็นห่วงถ้ารักษาไม่ทัน อาจเกิดไตวายฉับพลัน และเสียชีวิตได้ และเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะไม่เคยเห็นการฝึกวิชาทหารแล้วเด็กเจ็บมากขนาดนี้ จึงอยากให้ตรวจสอบมาตรฐานการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร และห่วงว่าถ้ามีอาการหนักต้องฟอกไต จำนวนมาก โรงพยาบาลที่นี่ อาจไม่สามารถรองรับได้ การรักษาขณะนี้ถ้าไตวายเยอะ ฉี่ไม่ออก ต้องล้างไต เอาของเสียออกทางเลือด ถ้าหยุดการทำลายกล้ามเนื้อได้ก็จะหายเป็นปกติได้

ล่าสุดทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้เข้าเยี่ยมอาการเด็กๆ รวมถึงผู้แทนจากแม่ทัพภาคที่ 4 ที่สั่งตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการ

ชมสัมภาษณ์ผู้ปกครอง : https://fb.watch/h9Ri534HQo/?mibextid=qC1gEa