วันเสาร์, กรกฎาคม 16, 2565

ถ้า"วัฒน์ วรรลยางกูร" ยังอยู่ เค้าจะคิดยังไงกับการที่เจ้าภาพงานขับไล่กลุ่มรณรงค์ยกเลิก112ออกจากงานฉายหนังที่เขาได้ประพันธ์ต้นฉบับเอาไว้


Nithiwat Wannasiri
4h
ถ้าพี่วัฒน์ยังอยู่ พี่วัฒน์คงโคตรโกรธกับการที่เจ้าภาพงานขับไล่กลุ่มรณรงค์ยกเลิก112ออกจากงานฉายหนังที่เขาได้ประพันธ์ต้นฉบับเอาไว้

Wana Wanlayangkoon
5h 
อยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำ
การต่อต้าน112เกิดขึ้นได้ทุกหัวระแหง
แก่นของมนต์รักทรานซิสเตอร์คือชีวิตชนชั้นล่าง
ูโง่จนเจ็บ แบบพี่ชาวสลัมคลองเตยรักในหลวงนั่นแหละ
ฉากในหนังการขับไล่แผนกับบักเสี่ยวจากงานเลี้ยงแฟนซีแต่งตัวเป็นคนจน เหมือนกับการไล่กลุ่มรณรงค์ต้าน112ในวันนี้แบบตลกร้าย
ถ้าประเทศนี้ไม่วิปริตพ่อของผมในฐานะผู้ประพันธ์ต้นฉบับ อาจจะยังนั่งในงานนี้ด้วย และคงไม่มีใครห้ามให้เขาพูดถึงปัญหาการเมืองในมนต์รักทรานซิสเตอร์ได้
จุดยืนของผู้ประพันธ์จนกระทั่งเสียชีวิต เขายืนยันในเสรีภาพทางคำพูดและการแสดงออกเสมอมา ไม่ว่าชีวิตหรือผลงานของเขา


Pruay Saltihead
March 22
ทั้งที่รู้ข่าวว่าแกป่วยหนักมาสักพักแล้ว แต่ก็ไม่วายหลั่งน้ำตาเมื่อรู้ข่าวว่าแกจากไป
รู้จักชื่อ วัฒน์ วรรลยางกูร มานานในฐานะคนเข้าป่า ในฐานะนักเขียนดังและนักเขียนที่ออกมาต่อสู้กับเผด็จการรัฐประหาร อย่างเปิดเผย ก่อนจะมาได้เจอตัวแกเป็นๆนั่งดื่มไวน์กันก็ปี 2013
แกไปกับมิตรสหายกลุ่มหนึ่งที่พนมเปญ จำได้ว่าเป็นวันเลือกตั้งพอดี ร้านรวงถูกห้ามขายเครื่องดื่มมึนเมา แต่ในฐานะเจ้าถิ่นก็พาแกดั้นด้นไปหามาจนได้ ได้มาหลายขวดอยู่ แกบอกว่าตุนไว้ดื่มสักสองสามวัน ยังไม่ทันข้ามคืนดี ไวน์ที่ตุนไว้ก็หมดลง วันรุ่งขึ้นต้องไปเสาะหามาดื่มกันอีก
พอหลังรัฐประหารกลางปี 2014 ผู้คนหลั่งไหลออกนอกประเทศไทย ทั้งต้องการลี้ภัยจริงๆและรวมทั้งพวกต้องการออกไปตั้งหลักในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนที่ใครมีความสามารถ ก็จะเดินทางไกลไปกว่านั้น พนมเปญคราคร่ำไปด้วยคนเหล่านี้ ยังจำได้คืนหนึ่งบังเอิญพบกับนักวิชาการและนักข่าวท่านหนึ่ง ในบาร์แจ๊ซแห่งหนึ่งในพนมเปญ
พี่วัฒน์ ก็เป็นหนึ่งในผู้คนเหล่านั้นที่หนีไปหลบภัยช่วงแรกที่พนมเปญ ด้วยความที่เราเป็นคนทำหนังอยู่แล้ว และคิดมาตลอดว่าอยากทำสารคดีเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย ก็เลยคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่ซัปเจ็คทั้งหลาย หลั่งไหลมาอยู่ในเมืองนี้ เลยติดต่อขอสัมภาษณ์ พี่วัฒน์ เป็นคนแรก และคนอื่นๆที่ลี้ภัยในเอเซียต่อๆมา มันน่าหดหู่ที่มนุษย์คนเดียวต้องลี้ภัยออกนอกประเทศสมัยหนุ่มๆ ยังต้องมาลี้ภัยอีกครั้งในปั้นปลายชีวิตเพียงแค่เพราะการแสดงความคิดเห็น
อยู่พนมเปญได้ไม่นานแกก็บ่นว่า ที่นี่ไม่น่าจะเหมาะกับแก แกก็ย้ายไปลาว เคยคุยกับแกหลังจากนั้น ดูเหมือนชีวิตแกจะลงตัวที่นั่นแล้ว ไม่อยากย้ายไปไหน จนกระทั่งเผด็จการจังไรไปไล่อุ้มไล่ฆ่าผู้ลี้ภัยในลาว แกเลยต้องเดินทางไกลไปฝรั่งเศส
ที่ประทับใจพี่วัฒน์อย่างนึงคือแกไม่มีอีโก้เลย จริงๆแกเป็นคนเขียนบทหนังเรื่องลุงนวมทองคนแรก แต่พอผมจะต้องมาทำหนังลุงนวมทอง ด้วยมารยาท ผมก็ต้องไปบอกแกก่อน ไอ้ที่จะไปบอกนี่ไม่ใช่แค่ขอแก้บทนะ คือบอกว่าไม่เอาเลย ผมจะเล่าใหม่ในแบบของผม ไอ้ตอนจะไปบอกนี่ยังนึกเลยว่า แกจะว่ายังไงวะ นี่นักเขียนใหญ่นะเว้ย เรื่องของแกเคยทำเป็นหนังโด่งดังมาแล้ว ปรากฎว่าพอไปบอกแก แกบอกว่าตามสบายเลยปรวย แถมพอทำเสร็จแกได้ดูยังบอกว่า เห้ยทำดีวะ
สองปีก่อนมั้ง พี่วัฒน์เดินทางมาถึงฝรั่งเศสแล้ว ส่วนผมมาถึงลอนดอนก่อนหน้านั้นสักพัก แกเห็นผมโพสต์รูปเบียร์กับแหนม แกถามว่าเห้ยที่ลอนดอนมีแหนมกินด้วยเหรอ พออาจารย์จรัลมาลอนดอน ผมเลยซื้อแหนมสามห่อฝากอาจารย์จรัลไปให้พี่วัฒน์ หลังจากแกไปถึงฝรั่งเศสได้สักพัก มีความสุขกับการดื่มไวน์และบรรยากาศที่นั่น เคยคุยกับแก แกบอกกูน่าจะมาตั้งนานแล้ว ก็เสียดายแกน่าจะมีเวลาดื่มด่ำในปั้นปลายชีวิตนานกว่านี้
ปีก่อน มีกองถ่ายสารคดีไปสัมภาษณ์พี่วัฒน์ แว่วเสียงพี่วัฒน์บ่นมาว่า ปรวยมันทำหนังช้ามากช้ามากๆ จนคนอื่นที่ทำทีหลังเค้าทำเสร็จไปแล้ว
ก็ด้วยความที่เป็นเพอร์เฟคชั่นนิสต์ ก็อยากทำอะไรให้มันสมบูรณ์ชิ้นเดียว ไม่ยอมตัดหนังให้เสร็จเท่าที่มีเท่าที่พอทำได้ ยืนยันจะทำให้มันสมบูรณ์ชิ้นเดียวเก็บเป็นประวัติศาสตร์ แต่การเดินทางไปถ่ายทำทั่วที่อื่นๆในยุโรปและอเมริกา ทำไม่ได้ง่ายๆ เพราะตัวคนทำเองก็เสือกเป็นผู้ลี้ภัยเหมือนกัน ไม่ได้มีอิสระเสรีที่จะได้ทางไปไหนต่อไหนได้ง่ายๆ เคยลองถ่ายผ่านแอพทั้งหลายแล้วก็ไม่ชอบ มันไม่มีบรรยากาศ เคยฝากคนอื่นถ่ายให้แล้วก็ไม่ชอบ เพราะเป็นคนเรื่องมาก ก็ยังหวังว่าจะไปถ่ายพี่ที่ฝรั่งเศสแต่ก็ไม่ได้ไป
ก็ขอโทษพี่แล้วกันที่หนังมันไม่เสร็จสักที
แต่คำสัมภาษณ์พี่ในหนังมันกินใจมาก ตอนตัดทีเซอร์ผมเลยเอาไว้ท้ายสุดในหนัง ซึ่งเชื่อความคิดผู้ที่ลี้ภัยออกนอกประเทศทั้งหลาย ก็คิดแบบนี้ไม่ต่างกัน
“ผมไม่อยากอยู่แบบอึดอัดแบบเป็นฝุ่นที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าผู้อื่น ผู้มีอำนาจ
ผมขอเป็นฝุ่นที่ปลิวไปของผมก็แล้วกัน
ฝุ่นนี้ก็ไม่คิดจะไปทำร้ายใครนะครับ
ผมก็ปลิวไปในทิศทางเสรีของผม”
ขอให้ฝุ่นของพี่ ปลิวไปในทิศทางเสรีตามที่หวังครับ
เดินทางล่วงหน้าไปก่อนเลยครับ แล้วเราคงได้พบกัน
ด้วยความระลึกถึง