ภาษาและวรรณกรรมไทย
March 10, 2020 ·
ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน
สำนวนไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน อธิบายไว้ว่า
ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน เป็นสำนวนที่ใช้อธิบายยุคหรือสมัยที่คนดีไม่กล้าแสดงตน ไม่กล้าเผยตัว จะสัญจรไปที่แห่งใดก็ต้องหลบไปใช้ตรอกซอกซอยที่คับแคบ ต่างกับคนชั่วซึ่งปกติไม่กล้าออกสู่ที่แจ้ง มาถึงยุคนี้กลับเพ่นพ่านและวางอำนาจบาตรใหญ่ไปทั่วถนนหลวง เป็นที่เหนื่อยหน่ายอิดหนาระอาใจของคนดี เช่น เขาไม่คิดว่าจะต้องมาเห็นผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน คนดี ๆ ต้องหลบคนชั่วเพราะรังเกียจ ไม่ต้องการพบเห็น
คำว่า ผู้ดี ในสำนวนนี้หมายถึง คนดี คนมีกิริยามารยาท คนที่ได้รับการศึกษาขัดเกลามาอย่างดี ส่วนคำว่า ขี้ครอก เดิมหมายถึงลูกที่เกิดจากพ่อและแม่ที่เป็นทาส แต่ในสำนวนนี้หมายถึง คนชั่ว อันธพาล คนที่ไร้วัฒนธรรม คนที่ไม่ได้รับการศึกษาอบรมความเป็นผู้ดี
สำนวนไทย ขุนวิจิตรามาตราอธิบายไว้ว่า สำนวนนี้ว่าตามผู้ใหญ่ที่พูดกันมาแต่โบราณก็แปลว่าโลกนี้มีความเปลี่ยนแปลงคือ ตามธรรมดาผู้ดีเป็นคนใหญ่โต ต้องเดินถนนให้สมกับความภาคภูมิ ส่วนขี้ครอกเป็นคนชั้นต่ำต้องเดินในตรอก ไม่เดินถนนปนกับผู้ดี แต่แล้วก็จะต้องถึงคราวเปลี่ยนแปลงเข้าวันใดวันหนึ่งหรือครั้งใดครั้งหนึ่ง จะทำให้ผู้ดีหลบไปเดินในตรอกและขี้ครอกออกมาเดินตามถนน ทำนองเดียวกับเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยาที่ว่าเป็นของพระนารายณ์เป็นเจ้านพบุรีทำนายกรุงมีว่า
สัปรุษจะแพ้แก่ทรชน
มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว
คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก
จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ
นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย
น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
กระเบื้องหมายถึงปี้ที่ใช้แทนเงิน น้ำเต้าคือเงินตรา หมายความว่า ปี้กระเบื้องซึ่งเป็นของต่ำจะกลายเป็นที่นิยมใช้กันยิ่งกว่าเงินตราแท้ ๆ สรุปความว่าอะไร ๆ จะกลับกลายสูงเป็นต่ำ ต่ำเป็นสูงไปหมด ผู้ดีกลับมาเดินในตรอก ส่วนขี้ครอกไพล่ไปเดินป๋อตามถนน
ตอนท้ายขุนวิจิตรมาตราได้ยกโคลงสุภาษิตซึ่งเป็นโคลงกระทู้เดี่ยว มาอ้างว่า
ผู้ กอบสินทรัพย์ทั้ง ปรีชา
ดี ประหยัดวาจา จิตต์พร้อม
เดิน ดัดตัดมรรคา หลีกหลาบ พาลแฮ
ตรอก ซอกสู้เลี่ยงอ้อม ห่อนให้เห็นพาล
ขี้ ข้าสินทรัพย์ไร้ ทรพล
ครอก เกิดเรือนเบี้ยตน มั่งคั่ง
เดิน หาญรุกราญชน ชอบเช่น พาลนา
ถนน ใหญ่เที่ยวรายกั้ง กีดกั้นรานทาง
โคลงที่ยกมาข้างต้นพบว่าเป็นโคลงสุภาษิตประจำภาพในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามประวัติว่า
ครั้งปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรด ฯ ให้จารึกแผ่นศิลาติดไว้ใต้รูปภาพซึ่งโปรดฯให้พระอาจารย์อินโข่ง วัดราชบูรณะ เขียนไว้ที่ผนังกรอบประตูและหน้าต่างพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
สุภาษิตที่เอามาเขียนภาพและแต่งโคลงเหล่านี้ เป็นสุภาษิตไทยมีมาแต่โบราณมักชอบอ้างและกล่าวเป็นอุปมากันในพื้นเมือง รู้กันมากบ้างน้อยบ้างแพร่หลาย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรด ฯ ให้รวมสุภาษิตไทยเหล่านี้มาเขียนรูปภาพไว้ที่ท้องฉนวนที่ทรงบาตรในบริเวณพระอภิเนาวนิเวศน์แห่ง ๑ ก่อน ครั้นทรงปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จึงโปรด ฯ ให้พระอาจารย์อินโข่งเขียนที่ผนังกรอบประตูหน้าต่างพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แต่โคลงนั้นจะโปรด ฯ ให้ใครแต่งหาทราบไม่
ตามประวัติดังกล่าวทำให้ทราบว่าสำนวนนี้เป็นสำนวนที่มีใช้มานานแล้ว เก่ากว่าสมัยรัชกาลที่ ๔ แต่หลักฐานอย่างเก่าสุดที่บันทึกไว้มีในสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นสำนวนที่สะท้อนภาพชนชั้นในสังคม
____________________________
โคลงสุภาษิตประจำภาพในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม. ๒๔๗๒. พระนคร : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร.
เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา. ค้นจาก https://bit.ly/2TDdsgr.
ราชบัณฑิตยสถาน. ๒๕๕๕. สำนวนไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน.
วิจิตรมาตรา, ขุน. ๒๕๔๑. สำนวนไทย. พิมพ์ครั้งที่ ๔. กรุงเทพฯ : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น).
Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล
18h ·
“ในเวลานี้ในประเทศไทยยังมีรัฐมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคน เอาพระมหากรุณาธิคุณที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้สิทธิสามประการ คือสิทธิที่จะได้รับการปรึกษาหารือ สิทธิที่จะทรงสนับสนุน และสิทธิที่จะทรงตักเตือนไปใช้ในทางที่ผิด
.
กล่าวคือ มักจะนำพระราชดำรัสในการที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้สิทธิสามประการดังกล่าวนั้น ไปเผยแพร่แก่สื่อมวลชนบ้าง แก่บุคคลอื่นบ้าง การที่ทำเช่นนั้นอาจเป็นโดยเจตนาดี เพราะเห็นว่าจะเป็นที่เชิดชูพระเกียรติบ้าง หรือเห็นว่าแสดงว่าได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยบ้าง หรือเป็นเกียรติที่ได้เข้าเฝ้าและสนองพระราชประสงค์บ้าง ซึ่งไม่ถูกต้องทั้งนั้น
.
คำแนะนำหรือตักเตือนของพระมหากษัตริย์ย่อมต้องเป็นความลับ เพราะมิฉะนั้นผู้ที่ไม่เห็นชอบด้วยจะนำไปวิพากษ์วิจารณ์ และทำให้องค์พระมหากษัตริย์ไม่เป็นที่เคารพสักการะ ถ้าคณะรัฐมนตรีจะรับคำแนะนำตักเตือนไปปฏิบัติ ต้องปฏิบัติด้วยความรับผิดชอบของตนเอง จะอ้างพระมหากษัตริย์มิได้ เพราะเป็นการนำพระมหากษัตริย์ไปทรงพัวพันกับการเมือง”
.
หยุด แสงอุทัย, คำอธิบายธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ.2515, หน้า 46-47.
.....
.
“ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานกระเช้าของขวัญให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในวันนี้นั้น
ข้าพระพุทธเจ้า มีความปลาบปลื้มซาบซึ้งเป็นล้นพ้น ในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานกระเช้าของขวัญในครั้งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบถวายบังคมแทบเบื้องพระยุคลบาทด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
.
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า