วันอาทิตย์, ตุลาคม 03, 2564

เสวนา ‘ทางออกที่ดินแดง’ เห็นท่าจะ 'หลง' หรือไม่ก็ 'ลงข้างทาง'

เห็นท่าว่าการจัดเสวนา ‘ทะลุทางออกที่ดินแดง’ เมื่อวันวานจะหลงทาง หรือไม่ก็ลงข้างทางไปเลย เสียละมัง เมื่อมีเสียงจากนักกิจกรรมซึ่งรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนกันมาช้านานบางคน แสดงความไม่พอใจกันอย่างจะแจ้ง โดยเฉพาะกับ กสม.

ก่อนอื่นขออ้างถึง Sitanun Satsaksit พี่สาวของ ต้าร์ วันเฉลิม ผู้ถูกอุ้มหายไปจากที่พักลี้ภัยในพนมเปญปีกว่าแล้ว ไม่เคยมีอาการเดือดเนื้อร้อนใจใดๆ ออกมาจากกรรมการสิทธิฯ ไม่มีแม้แต่การรับรู้ ทำให้ผู้สูญเสียน้องชายคนนี้ กลายเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิฯ ตัวยง

“หลายครั้งแล้วที่เห็นองค์กรสิทธิออกมาเล่นละคร” เธอโพสต์ข้อความอย่าง “เหลืออด กับคำว่าองค์กรอิสระ...ภายใต้รัฐบาลชุดนี้...พยายามหาจุดดีขององค์กรนี้มาหักล้าง ยังมองหาไม่เจอเลย กับคำพูดที่ฟังดูสวยหรู งดงาม แต่ไม่เคยทำได้อย่างที่พูด”

ไปที่ประเด็นต้นเรื่อง ที่ว่าเป็นความเดือดร้อนของชาวแฟล็ทดินแดง ซึ่งมีการปะทะกับหน่วยควบคุมฝูงชนด้วยประทัด พลุ ก้อนอิฐ ขวด และหนังสติ๊ก โดยกลุ่ม ทะลุแก๊ส และการสลายชุมนุมด้วยกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และรถฉีดน้ำแรงสูง ไม่เว้นแต่ละวัน

ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาไม่เพียงการได้รับบาดเจ็บหนักของฝ่ายเยาวชน มีตำรวจรายเดียวที่หน้าเละ แต่ความเสียหายต่อทรัพย์สินและร่างกาย เกิดกับผู้อยู่อาศัยในย่านสามเหลี่ยมดินแดงนั้นไม่น้อย เพราะการยิงสะเปะสะปะไม่ยั้งของ คฝ. เข้าไปในบ้านคน

จนมีเสียงบางส่วนจากชาวบ้านตำหนิกลุ่มเยาวชน ไม่ยอมเลิก ระยะหลังนี่กลายเป็นฝ่ายเริ่มต้นการปะทะเสียเอง หรือกลายเป็นแรงดึงดูดให้หน่วย คฝ.ยกพลเข้าไป ใช้กำลังกับใครก็ตามที่อยู่ในพื้นที่ขณะมีการสลายชุมนุม เปิดช่องให้ กสม.มีบทบาท

ร่วมกับองค์กรอื่นๆ เช่นมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กรมคุ้มครองสิทธิ (ก.ยุติธรรม) กรมกิจการเด็ก (ก.พัฒนาสังคม) รวมทั้งศูนย์สื่อสารวาระสังคม ไทยพีบีเอส เชื้อเชิญตัวแทนต่างๆ ของชุมชนแฟล็ทดินแดง ไปสนทนาสาธารณะ หาทางออก

แต่กลายเป็น เวทีไกล่เกลี่ย สำหรับสามฝ่าย คือชาวบ้านดินแดง ผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่ง Pimsiri Mook Petchnamrob ระเบิดออกมาว่า “เสร่อมาก จะมาทำตัวเป็นกลางไกล่เกลี่ยอะไรอ่ะ...คือหน้าที่มึงนะคะ ต้องปกป้องประชาชนจากความเหี้ยของรัฐเว้ย”

เจ้าหน้าที่ประจำประเทศไทยขององค์การสิทธินานาชาติ ARTICLE 19 ใส่ไม่ยั้ง “คนกลางแบบนี้จะเจอนิ้วกลางนะยู ยูใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนปีละ ๓๐๐ ล้านบาท เค้าให้ยูมาบอกรัฐว่าอย่าละเมิดสิทธิพลเมือง ไม่ใช่มาบอกว่าอย่าตีกัน ผมรักทุกคน

ชาวแฟลตดินแดงยังกล้าพูดว่าผู้ชุมนุมไม่ใช่ผู้ก่อจลาจล ชาวแฟลตดินแดงยังกล้าพูดว่าต้นเหตุความเดือดร้อนคือการใช้กำลังของตำรวจควบคุมฝูงชน เรื่องแค่นี้ทำไมกรรมการสิทธิฯ ไม่กล้าพูด” ทั้งหมดนั่นมอบให้ วสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิฯ ที่ไปเสวนา

“คุณกำลังสร้าง narrative (โวหาร) ว่าชาวแฟลตดินแดงเป็นคู่ขัดแย้งกับผู้ชุมนุมโดยตรง ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ถ้าตั้งใจ คุณคือคนเหี้ยระดับสวะสังคมระดับหนังสือพิมพ์ดาวสยาม ถ้าไม่ตั้งใจ คุณคือคนโง่” พิมพ์สิริ ยังสาธยายเสริม

“การไกล่เกลี่ยความขัดแย้งมันเป็นเครื่องมือได้เฉพาะในสถานการณ์ที่คู่ขัดแย้งมีอำนาจต่อรองใกล้เคียงกัน (levelling the playing field) เช่นกลุ่มนึงมีอำนาจรัฐ กลุ่มนึงมีอาวุธ ปะทะกันไปไม่จบไม่สิ้นและมีผลกระทบเป็นวงกว้าง”

“คือสถานการณ์ที่รัฐใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษ (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เพื่อปราบปรามผู้ชุมนุมที่แทบจะมือเปล่า (คือพลุกับระเบิดเสียงดังมันทำให้เจ็บสาหัสหรือตายไม่ได้ โอเคนะ ส่วนตำรวจที่เห็นว่าหน้าเละไปคนนึง ลองไปคุยกับชาวแฟลตดูสิว่าใครทำ)”

“หน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายตามรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ และ ๒๕๕๐ ข้อแรกคือ ตรวจสอบและรายงานการกระทำ หรือการละเลยการกระทำ อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน” เธอว่าต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่มาไกล่เกลี่ย

คลิปการเสวนาโดย ประชาไทเต็มไปด้วยความเห็นของคนในชุมชน ที่บอกว่าความเดือดร้อนเกิดจากเจ้าหน้าที่ คฝ. ส่วนทะลุแก๊สนั้นถูกตำหนิว่าแค่ ไม่เลิก แต่ในส่วนของการเรียกร้องให้รัฐเยียวยา ปรากฏจากถ้อยคำของตัวแทนรัฐว่ายังไม่มีกฎหมายใดให้ทำได้

ปิดท้ายการเสวนา กรรมการสิทธิฯ สรุปว่า “เวทีนี้คือ อิฐก้อนแรก ที่จะนำไปสู่การก่อร่างสร้างประตูสู่ทางออกของปัญหาการชุมนุม” น่าจะคนละเรื่องเสียมั้ง ‘the first stone’ มาจากไบเบิ้ล ที่เยซูให้คนไม่มีบาปขว้างใส่คนบาปได้

ปัญหาอยู่ที่ ไม่มีใครเลยในโลกที่ไม่มีบาป ดังนั้นความหมายของ อิฐก้อนแรกก็คืออย่าได้บังอาจขว้างใส่ใครเป็นอันขาด ตราบเท่าที่ไม่สามารถบอกได้ ใครดีกว่าใคร

(https://prachatai.com/journal/2021/10/95268, https://www.youtube.com/watch?v=Od2AO-gS-U0 และ https://www.facebook.com/allthingsmustpassaway/posts/10158531336323244)

เยาวชนปลดแอกไทย ในชิคาโก และมิตรสากล ร่วมรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลา กับเยาวชน ฮ่องกง พม่า และธิเบต ทำกิจกรรมหน้ากงสุลไทย ใน นครชิคาโก พร้อมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการพร้อมกัน























ภาพกิจกรรมหน้าสงสุลไทยที่ชิคาโก








ภาพจากจุดนัดพบ Water Tower Park ใน Downtown Chicago

ถ่ายรูปร่วมกันหน้ากงสุลจีน ที่ชิคาโก

ขอขอบคุณภาพจากมิตรในชิคาโก

คลิปนาที ป้ารักเจ้าคนนึงโมโหพนักงานต้อนรับโรงแรม เนื่องจากไม่ยอมให้ขึ้นไปด้านบน บริษัท Facebook ที่อยู่บนตึก เพื่อไปขอคำชี้แจงว่า Facebook จะล้มเจ้าเหรอ Facebook เป็นบริษัทเอกชน พวกมึงไม่ไช่พ่อแม่เค้า เค้ามีสิทธิ์ปฏิเสธ

 

มีขำขันนิดหน่อย คนถ่ายถามป้าคนรักสภาบันว่า โดนเฟชบุ๊คบล็อคตรงไหน แกทำหน้าตกใจ เพราะไม่ได้เล่น 🥴 (มีคลิป)


เรื่องเหลือเชื่อ... ปาฏิหาริย์ซิโนแวค ? ตาวัย 74 ป่วยเดินไม่ได้ 3 ปี อุ้มไปฉีดเข็มแรกเดินปร๋อ (เอากันหยั่งงี้เลยเหรอ ?!?)

 

ความเห็นต่างๆ

ถ้าไม่ใส่เสื้อเหลือง..ผมอาจนำไปคิดอยู่..แต่พอเห็นใส่เสื้อเหลือง ..จบเห่เลย! ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือทั้งสิ้น..เนื่องจากขยะพวกนี้ ทำอะไรก็ได้ แม้กระทั่งยกพวกทำร้ายชาวบ้านก็ไม่มีความผิด
..
คนเดินไม่ได้สามปี สถาพแขนขาไม่ได้เป็นงี้หรอกคร้าบบบบ กูว่าถ้าไอ้หงอกนี่ตอแหล ก็ขอให้มันเดินไม่ได้จริงๆไปจนกว่าจะตายไปละกัน
..
เมื่อก่อนมียาผีบอก นี่คงเป็นวัคซีนผีบอกสินะ
..
วิทยุยานเกาะสลิ่มเหลืองปั่นเพื่อระบายสินค้า ไม่เนียนเลยไอ้แก่
..
ที่เดินได้คงเป็นเพราะใส่เสื้อเหลือง ไม่น่าเกี่ยวกับวัคซีน
..
ใส่เหลืองมาเชียว ทำไมไม่ห้อยนกหวีดมาด้วย สลิ่มจะได้เชื่อสนิทใจ
..
ใครเชื่อนี่โง่มาก
..
อ่านต่อที่ https://twitter.com/14ttir/status/1444193677891547139

ปัญหาคฝ.ไฮไลท์ปัญหาการละเมิดสิทธิภายในระบบ + สรุปเสวนา: จับเข่าคุยลุยฝ่าทางตันสมรภูมิดินแดง บนเวที ‘ทะลุทางออกที่ดินแดง’


Noi Thamsathien
7h ·

ปัญหาคฝ.ไฮไลท์ปัญหาการละเมิดสิทธิภายในระบบ
เราขอแชร์บางประเด็นที่สกัดมาในวันนี้จากเรื่องการชุมนุมดินแดง:
ม๊อบดินแดงมันเป็นปฏิกิริยาต่อการใช้ความรุนแรงของคฝ. >
คำอธิบายคือ คนไปม๊อบดินแดงหลายคนคือคนที่เคยไปม๊อบอื่นๆ มาแล้ว หรือคนที่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของการชุมนุมการเมืองที่ผ่านมา แต่พบว่าสิทธิในการชุมนุมถูกปิดกั้นโดยมาตรการของจนท. พวกเขารู้สึกว่าเมื่อตัวเองใช้สิทธิชุมนุมอย่างสันติกลับถูกกระทำ ไม่ใช่แค่ว่าข้อเรียกร้องไม่ได้รับความสนใจ แต่สิทธิในการชุมนุมไม่ได้รับการเคารพ พวกเขาจึงหันมาม๊อบที่ดินแดงแทนเพราะพวกเขารู้ว่าคนไปม๊อบดินแดงจะตอบโต้ พวกเขาไปไม่ใช่เพราะใครสั่ง แต่เพราะรู้ว่าคนไปม๊อบนี้คือยึดแนวทางเดียวกัน
มันมีคนตั้งคำถามในเวทีว่าเหตุใดในเมื่อม๊อบนี้ก็ต้องการสู้เพื่อสิ่งที่ดีกว่าและมีอุดมการณ์ ทำไมไม่ไปรวมกับม๊อบที่สู้อย่างสันติ เราว่านั่นคือประเด็น ประเด็นของม๊อบดินแดงคือการสู้แบบสันติถูกปิดหนทาง
การสู้คฝ. คนที่ไปชุมนุมก็รู้ว่าสู้ยาก ถ้าถูกจับได้ “โดน” แน่ และโดนคดีด้วย แต่ก็ต้องการสู้บ้างไม่ใช่ถูกไล่ล่าฝ่ายเดียวอย่างในม๊อบอื่น แต่พวกเขาไม่คิดว่าตัวเองใช้ความรุนแรงในระดับเดียวกันกับคฝ. เขาบอกว่ามันเทียบกันไม่ได้
ปัญหาริดรอนสิทธิ/ไม่เป็นมืออาชีพ การริดรอนสิทธิคือประเด็นสำคัญ ผู้ชุมนุมเหล่านี้ถือว่าเป็นสิทธิของพวกเขาที่จะชุมนุม แต่ถูกริดรอนด้วยการทำร้าย
ยิ่งกว่านั้นพวกเขารู้สึกว่าจนท.ไม่ทำตามกฎหมาย การจับกุม การตั้งข้อหา การสลายการชุมนุม ไม่เป็นไปตามกฎหมาย มาตรการสลายไม่ได้เริ่มจากหนักไปหาเบา มีการตอบโต้แบบใช้อารมณ์ แสดงถึงความไม่เป้นมืออาชีพ พวกเขาพูดถึงการทำร้ายคนขณะจับกุม น้องกลุ่มอาสาแพทย์พยาบาลบอกว่า มีถึงขนาดดึงคนที่พวกเขายังรักษาอยู่เอาไปทำร้าย นั่นคือทำเกินหน้าที่ ละเมิดกฎหมายเสียเอง ทำให้ปชช.ไม่มีที่พึ่งเพราะเวลาคนชุมนุมโดนคนกลุ่มอื่นทำร้ายพวกเขาก็พึ่งตร.ไม่ได้
กลุ่มโมกหลวงบอกชัดวันนี้ในเวทีที่กสม./มูลนิธิผสานจัดว่า มันไม่ใช่ว่าผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ไม่อยากคุย พวกเขายื่นข้อเรียกร้องไปเป็นเดือนแล้ว แต่จนท.ไม่มีแม้แต่จะตอบรับว่าได้รับแล้ว อย่าว่าแต่จะคุย
ม๊อบดินแดงจึงควรจะเป็นตัวชี้ให้สังคมได้เห็นถึงจุดบกพร่องของการทำงานของจนท. ปัญหาการทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ ซึ่งเป้นเรื่องที่มีคำถามเรื่อยมาตั้งแต่เหนือจรดใต้ ปัญหาการไม่รักษาสิทธิของพลเมืองในเรื่องการชุมนุม/แสดงออกทางการเมือง นี่เป็นปัญหาใหญ่มากและเป็นต้นตอของปัญหาอีกนานัปการและทำให้เกิดวัฎจักรปัญหาความไม่เป็นธรรมชนิดอยู่ในเนื้อในของระบบ
หลายคนเห็นว่าดีที่เปิดให้มีการพูดคุยเพื่อรับฟังผู้ชุมนุม และเปิดพื้นที่ให้ปชช.ในพท.แฟลตที่ได้รับผลกระทบได้พูดถึงปัญหา เราก็เชื่อว่าดี วันนี้มีที่ปรึกษาด้านกฎหมายของชุมชนแฟลตพูดว่า เขาเกรงว่ามีการสื่อสารผิดพลาด ผู้บริหารประเทศระดับสูงเข้าใจไปว่าคนไปชุมนุมมี “การเมือง” หนุนหลังทำให้เมินไม่มองกลุ่มนี้อย่างสิ้นเชิง จากที่เราได้คุยกับชาวแฟลตบางคน เราเห็นว่าพวกเขารู้สึกว่ารัฐบาลเทพวกเขาด้วย
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เรื่องนี้ขัดกับหลักการบริหาร จะชอบหรือไม่ชอบ จะคิดอย่างไรกับการเรียกร้องของปชช.ก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือต้องแก้ปัญหาให้พวกเขา
เราเชื่อว่าหลายคนเห็นด้วยกับเราว่า ต้องจัดการปัญหาให้ปชช.แฟลตดินแดงโดยที่ไม่ต้องสนใจว่าพวกเขาจะมีความคิดทางการเมืองอย่างไร แต่การแก้ปัญหาต้องไม่จบแค่นั้น และต้องไม่จบด้วยการบีบผู้ชุมนุมให้ถอยแต่ต้องแก้ปัญหาให้ผู้ชุมนุมด้วย นั่นคือแก้ปัญหาที่เป็นต้นเหตุของการชุมนุม
.....
#หยุดสมรภูมิดินแดง #เรามาอย่างสันติ #HopeBasedCommunication
[LIVE] เวทีสาธารณะ "ทะลุทางออกที่ดินแดง"

Streamed live 14 hours ago

prachatai


เวทีสาธารณะ "ทะลุทางออกที่ดินแดง" ฟังเรื่องราวสะท้อนเสียงประชาชนชาวแฟลตดินแดง ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและการควบคุมฝูงชนที่ยืดเยื้อยาวนาน กว่า 2 เดือนบริเวณแยกดินแดง

เพื่อให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ องค์กรอิสระ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ได้รับฟังปัญหา เชื่อมประสานเพื่อหาทางออก
 
📍 พูดและรับฟังร่วมกัน

ตัวแทนชุมชนแฟลตดินแดง
ตัวแทนกลุ่ม Child in mob
ผู้ชุมนุมบริเวณพื้นที่ดินแดง
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
กรมกิจการเด็กและเยาวชน
ตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ณ โรงเรียนพิบูลย์ประชาสรรค์ วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2564 เวลา 14.00-16.00 น.

ติดตามการถ่ายทอดสดได้ทางเพจ Cross Cultural Foundation (CrCF), ThaiPBS, The Reporters และ ประชาไท

เก็บตก เวทีทะลุทางออกดินแดง - บางคนพยายามทำตัวเป็นกลาง ก็สมควรแจกนิ้วกลาง ?


Pimsiri Mook Petchnamrob
14h ·

วสันต์ ภัยหลีกลี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติสรุปออกมาได้เสร่อมาก จะมาทำตัวเป็นกลางไกล่เกลี่ยอะไรอ่ะ ถ้าลืมหน้าที่จะย้ำให้ฟังว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ปกป้องพลเมืองไทยจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐ
คือหน้าที่มึงนะคะ ต้องปกป้องประชาชนจากความเหี้ยของรัฐเว้ย ไม่ใช่มาบอกว่ากูเป็นคนกลางน้า เดี๋ยวมาไกล่เกลี่ยให้เอง คนกลางแบบนี้จะเจอนิ้วกลางนะยู ยูใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนปีละ 300 ล้านบาท เค้าให้ยูมาบอกรัฐว่าอย่าละเมิดสิทธิพลเมือง ไม่ใช่มาบอกว่าอย่าตีกัน ผมรักทุกคน
ชาวแฟลตดินแดงยังกล้าพูดว่าผู้ชุมนุมไม่ใช่ผู้ก่อจลาจล ชาวแฟลตดินแดงยังกล้าพูดว่าต้นเหตุความเดือดร้อนคือการใช้กำลังของตำรวจควบคุมฝูงชน เรื่องแค่นี้ทำไมกรรมการสิทธิฯ ไม่กล้าพูด น่าอับอายนะที่กรรมการสิทธิฯ และองค์กรสิทธิฯ กลายเป็นองค์กรล้าหลังที่โง่กว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมแถมไม่มีกระดูกสันหลัง
.....
Atukkit Sawangsuk
11h ·

เวทีทะลุทางออกดินแดง
ส่วนตัวดีกับวสันต์นะ และเข้าใจวสันต์ดี
ว่าไม่สมควรเป็น กสม. ไม่มีความเป็นนักสิทธิมนุษยชนเลยด้วยซ้ำ
เพราะไม่เคยเข้าใจอารมณ์โกรธแค้นของผู้ถูกกระทำ
คิดแต่ว่าจะต้องต่อสู้อย่างพับเพียบเรียบร้อยจึงถูกหลักสิทธิมนุษยชน
.....
Atukkit Sawangsuk
11h ·

ทำตัวเป็นกลางก็สมควรแจกนิ้วกลาง

Pimsiri Mook Petchnamrob
13h ·

ที่ต้องด่ากันขนาดนี้มันไม่ใช่ว่าเกลียด แต่พวกคุณต้องตระหนักได้แล้วว่าสังคมไทยมันไปไกลกว่าพวกคุณมาก วิธีการจัดเวทีเพื่อพยายาม mediate หรือไกล่เกลี่ยปัญหาของพวกคุณมันเป็นโทษกับสังคมมากกว่าจะมีประโยชน์ ถ้าใครหลายคนจะไม่กล้าพูดเพราะประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัว เดี๋ยวเราจะพูดให้ฟังเองว่าเวทีวันนี้มันมีปัญหายังไง และถ้าใครคิดยังไงก็โต้แย้งได้ตามสบาย
- คุณกำลังสร้าง narrative ว่าชาวแฟลตดินแดงเป็นคู่ขัดแย้งกับผู้ชุมนุมโดยตรง ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ถ้าตั้งใจ คุณคือคนเหี้ยระดับสวะสังคมระดับหนังสือพิมพ์ดาวสยาม ถ้าไม่ตั้งใจ คุณคือคนโง่ เพราะอะไร เพราะเรื่องเล่าแบบนี้แหละที่รัฐต้องการ โดยที่รัฐก็จะลอยตัวไปเลย กลายเป็นว่าผู้ชุมนุมมาป่วนและชาวแฟลตไม่พอใจ ถ้าคนจำนวนมากซื้อเรื่องเล่าแบบนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือการอนุญาตให้ตำรวจปราบผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง เพราะพวกนี้คือพวกป่วนเมืองตามเรื่องเล่าที่คุณมีส่วนช่วยรัฐสร้าง คู่ขัดแย้งไม่ใช่ประชาชน vs ประชาชน แต่เป็นประชาชน vs รัฐ ต้องขอขอบคุณลุงกรรมการแฟลตสองคนช่วงท้ายมากที่ย้ำแมสเสจนี้ว่าชาวแฟลตดินแดงเป็นพวกเดียวกันกับผู้ชุมนุม เพราะเป็นคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมเหมือนกัน ไม่ใช่คู่ขัดแย้งซึ่งเป็นสิ่งที่เวทีนี้พยายามทำให้เป็น
- การไกล่เกลี่ยความขัดแย้งมันเป็นเครื่องมือได้เฉพาะในสถานการณ์ที่คู่ขัดแย้งมีอำนาจต่อรองใกล้เคียงกัน (levelling the playing field) เช่นกลุ่มนึงมีอำนาจรัฐ กลุ่มนึงมีอาวุธ ปะทะกันไปไม่จบไม่สิ้นและมีผลกระทบเป็นวงกว้าง ยกตัวอย่างเช่นสงครามกลางเมืองในเซียร์รา ลีโอน หรือการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของชาวปาตานี แต่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ถ้าคุณมองว่าทั้งสองฝ่ายมีอำนาจต่อรองใกล้เคียงกัน ขออนุญาตยึดปริญญาด้านสิทธิมนุษยชน / กฎหมาย / สันติภาพและความขัดแย้ง ไม่ว่าคุณจะจบมาจากยูท็อปของโลกก็ต้องขอยึด เพราะมันแปลว่าคุณไม่เข้าใจอะไรเลย นี่คือสถานการณ์ที่รัฐใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษ (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เพื่อปราบปรามผู้ชุมนุมที่แทบจะมือเปล่า (คือพลุกับระเบิดเสียงดังมันทำให้เจ็บสาหัสหรือตายไม่ได้ โอเคนะ ส่วนตำรวจที่เห็นว่าหน้าเละไปคนนึง ลองไปคุยกับชาวแฟลตดูสิว่าใครทำ) และเป็นการปราบปรามอย่างไม่ได้สัดส่วนและผิดหลักสากล เช่นการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าไปในที่ชุมชน การจ่อยิงกระสุนยางระยะประชิด การยิงโดยไม่เลือก (indiscriminately) และยิงจากที่สูงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ ต้องขอบคุณคุณลุงเสื้อขาวตอนท้ายที่ย้ำเรื่องพวกนี้ให้กรรมการสิทธิฯ ฟัง กลายเป็นว่าชาวบ้านแม่นยำกว่ากรรมการสิทธิฯ ไปแล้วเรื่องหลักการควบคุมฝูงชนและสิทธิในการชุมนุม ก็น่าดีใจและสังเวชใจไปพร้อมๆ กัน
- หน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายตามรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ข้อแรกคือ "ตรวจสอบและรายงานการกระทำหรือการละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรืออันไม่เป็นไปตามพันธกรณี ระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี และเสนอมาตรการการแก้ไขที่เหมาะสมต่อบุคคลหรือหน่วยงานที่กระทำ หรือละเลยการกระทำดังกล่าวเพื่อดำเนินการ ในกรณีที่ปรากฏว่าไม่มีการดำเนินการตามที่เสนอ ให้รายงานต่อรัฐสภาเพื่อดำเนินการต่อไป" และตามรัฐธรรมนูญ 2560 คือ "ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกกรณีโดยไม่ล่าช้า และเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง"
อันนี้เว้ยหน้าที่ของพวกคุณ หน้าที่ที่ทำให้พวกคุณได้มาใช้ภาษีประชาชนปีละ 300 ล้านบาท พวกคุณไม่ได้มีหน้ามาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในกรณีที่รัฐละเมิดสิทธิของประชาชน หน้าที่ของพวกคุณคือทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและบอกรัฐว่าต้องทำยังไงถึงจะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือพันธกรณีระหว่างประเทศ อันนี้คือไม่รู้ว่าพวกคุณแกล้งโง่หรือจิตวิญญาณนกหวีดเก่าของกรรมการสิทธิฯ บางท่านมันฉุดรั้งไว้จากการทำหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ถ้าพวกคุณอยากได้สถานะ A คืนมาจาก Global Alliance of National Human Rights Institutions สิ่งที่พวกคุณต้องทำคือทำหน้าที่ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่ามันจะทำให้คุณต้องยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐก็ตาม ย้ำอีกทีว่ากรรมการสิทธิฯ ไม่ได้มีหน้าที่ต้องทำตัวเป็นกลางในสถานการณ์ที่มีการละเมิดสิทธิฯ โดยรัฐเกิดขึ้น ทำตัวเป็นกลางแบบนั้นอาจจะเจอนิ้วกลางก็จะไม่แปลกใจ
สรุปคือถ้าพวกคุณตั้งใจจัดเวทีวันนี้เพื่อให้ narrative มันเข้าทางรัฐ พวกคุณคือคนเหี้ยระดับดาวสยาม ถ้าพวกคุณไม่ตั้งใจ พวกคุณคือคนโง่ที่ตกเป็นเครื่องมือของรัฐอีกครั้ง แต่ถามจริงว่าพวกคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์เสื้อแดงปี 2552-2553 บ้างเลยเหรอ จะทำความผิดพลาดแบบเดิมซ้ำๆ ไปถึงเมื่อไหร่ และคราวนี้มันไม่ใช่พวกเสื้อแดงทาสทักษิณที่คุณเกลียดชัง แต่เป็นเด็กอายุตั้งแต่ 8-25 ปี เยาวชนและอนาคตของชาติที่พวกคุณพร่ำพูดว่าเป็นห่วงเป็นใยเห็นใจทุกอย่าง ถ้าจะไม่ช่วยก็โอเค แต่อย่าทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายลงไปกว่าเดิม ไม่ขออะไรมาก
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
Cross Cultural Foundation (CrCF)
Rights and Liberties Protection Department
กองคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมกิจการเด็กและเยาวชน

ชวนฟ้ง บทสัมภาษณ์ อ.สุรชาติ เกี่ยวกับ #ม็อบทะลุแก๊ส และการที่ จนท.รัฐใช้ความรุนแรงในการปราบปรามม็อบราวกับพวกเขาเป็นกบฏ แต่ถ้ามองเข้าไปที่ "รายละเอียดชีวิต" จะเห็นได้ว่าพวกเขาตกงาน ไม่มีจะกิน จึงต้องออกมาต่อสู้

 

Pasika K.
@pasika_kh

·Sep 23
ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทยลงพื้นที่บริเวณแฟลตดินแดง พบเด็กวัยรุ่นชายหญิง 6-7 คนจับกลุ่มคุยเล่นกัน เมื่อถามว่าทำไมถึงมาชุมนุม พวกเขาแย่งกันตอบว่า "เพราะเกลียดตู่" "อะไรก็แย่ไปหมด" "โรงเรียนก็ไม่ได้ไป" "แล้วผมก็ตกงาน" "ถ้าไม่มีรัฐบาลนี้ก็ไม่มีม็อบ"

คุณโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าว BBC มีคำถามสำหรับ @AstraZeneca และสยามไบโอไซแอนซ์ (SBS) - อย. (EMA) ของสหภาพยุโรปบอกว่าแอสตร้าเซเนก้าที่ผลิตในไทยโดย SBS ไม่ได้รับการรับรองในยุโรปเพราะ EMA ไม่เคยได้รับคำขอให้ตรวจสอบโรงงาน - ว่าไงคะ​ ผู้เเทน​AZฟ้าประทาน

https://twitter.com/Thai_Talk/status/1444316729966874625

ATIKIT
@ATIKIT14

·7h
Replying to
@Thai_Talk and
@AstraZeneca
#เชื่อเเป้งคะ ว่าไงคะ​ ผู้เเทน​AZฟ้าประทาน



โหวววววว “เสาไฟกินรี” ขึ้นเวที #MissUniverseThailand2021 (KW คำถามอาจจะยากไปหน่อยสำหรับ คอนเทสทั่น)

https://twitter.com/leeeegindaeyo_/status/1444115563140182018

 

ดวงตาอีกคู่ของราษฏร #Livereal “ความจริง ที่จะไม่มีอำนาจใด มาอำพราง” สด! จากแยก มิตรไมตรี “ดินแดง” รอบดึก


LIVE REAL
11h ·

เนื่องด้วยสถานการณ์บ้านเมือง ณ ขณะนี้ มีความสุ่มเสี่ยงที่ราษฎร จะถูกการกระทำอย่างรุนแรง ในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งยังมีการร้องขอในทุกช่องทาง จากราษฎร ให้ LIVEREAL กลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่รายงานสถานการณ์เหตุการณ์ การชุมนุมในพื้นที่ดินแดง และบริเวณไกล้เคียง LIVEREAL จึงพิจารณาว่า “เห็นสมควรกลับเข้าพื้นที่” เพื่อรายงานสถานการณ์ต่างๆ และทำหน้าที่ประดุจ”ดวงตาแห่งราษฎร” ตามที่เคยได้ให้คำหมั้นไว้กับราษฎรแต่ต้น ทั้งนี้ LIVEREAL จะปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ย่อท้อเพื่อคงไว้เพื่อประโยชน์แก่ราษฎร และความดีงามตราบใดที่”ผมยังอยู่”

#ม็อบ2ตุลา มีการใช้กระสุนจริงแถวพญาไท มีผู้บาดเจ็บสาหัส


Suspect story
@SuspectStory

·5h
Thailand today true story. 2 Oct 2021 #ผนงรจตกม #ถ้าการเมืองดี #whathappeninginthailand #ประยุทธ์ออกไป #ม็อบ2ตุลา

การเมืองดี เกิดจากระบบที่ดี: ถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งเยอรมนี 2021



การเมืองดี เกิดจากระบบที่ดี: ถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งเยอรมนี 2021

2 ตุลาคม 2021
พรรคก้าวไกล

การเมืองในฝันของเราเป็นอย่างไร? คำตอบของหลายคนคงเป็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ มีนักการเมืองน้ำดี ส.ส. มีความแตกต่างหลากหลายสะท้อนเสียงของประชาชน การตั้งรัฐบาลต่อรองกันด้วยของนโยบาย ไม่ใช่ผลประโยชน์หรือตำแหน่ง

สิ่งเหล่านี้เราอาจคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ระบบที่สร้างการเมืองให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่เราอยากเห็นมากที่สุด คือประเทศเยอรมนี

หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของโลกในปี 2021 คือการเลือกตั้งใหญ่ประเทศเยอรมนี ซึ่งน่าจับตามองเพราะเป็นการเลือกตั้งหลังจากที่อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กแห่งเยอรมนี ประกาศวางมือหลังจากดำรงตำแหน่งมานานกว่า 16 ปี

ทิศทางของเยอรมนี ในฐานะประเทศที่เป็นเสาหลักของสหภาพยุโรป จะเปลี่ยนไปอย่างไร ก็เป็นเรื่องน่าติดตามกันอย่างใกล้ชิด แต่การเลือกตั้งในครั้งนี้ของเยอรมนี มีหลายอย่างที่เป็นตัวแบบของประชาธิปไตยให้เราสามารถนำมาปรับใช้ได้

เรื่องที่น่าสนใจคือ ระบบเลือกตั้งที่สามารถสะท้อนสัดส่วนเสียงของประชาชน ไปสู่เสียงในสภาผู้แทนราษฎร โดยระบบเลือกตั้งแบบ “จัดสรรปันส่วนผสม” (MMP) ของเยอรมนี เป็นระบบเลือกตั้งที่สร้างความสมดุลระว่าง ส.ส. เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ โดยมีที่นั่งในสภาคำนวณตามสัดส่วนคะแนนเสียงของประชาชนที่ลงให้แต่ละพรรค ทำให้เราเห็นการเพิ่ม ส.ส. บัญชีรายชื่อ ให้แต่ละพรรคการเมืองได้ที่นั่งตามสัดส่วน

ยกตัวอย่างเช่น
  • พรรค Christian Democratic Union (CDU) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเดิม มีนโยบายแบบกลางขวา ได้คะแนนเสียงจากประชาชนทั้งหมด 19% แต่ได้ ส.ส. เขต 98 ที่นั่ง (ซึ่งคิดเป็น 13% ของจำนวน ส.ส. พึงมีทั้งหมดในสภา 735 ที่นั่ง) จึงมีการเพิ่มจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นมาอีก 53 ที่นั่ง ทำให้มี ส.ส. ทั้งสิ้น 151 ที่นั่งใกล้เคียงกับสัดส่วนที่ประชาชนเลือก
  • พรรค Social Democratic Party (SPD) อีกหนึ่งพรรคใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งมีนโยบายแบบกลาง-ซ้าย ที่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 26% ได้ ส.ส. เขต 121 ที่นั่ง (คิดเป็น 16% จากจำนวน ส.ส.พึงมีทั้งสภา) จึงมีการเพิ่ม ส.ส. บัญชีรายชื่ออีก 85 ที่นั่ง รวมเป็น 206 ที่นั่ง ตามสัดส่วนคะแนนเสียงของประชาชน
  • ที่น่าสนใจคือ พรรค The Greens (GRÜNE) ที่นำเสนอนโยบายก้าวหน้าต่างๆ เช่น อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เปิดกว้างต่อความหลากหลายทางเพศ ที่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้คะแนนเสียง 15% แต่ได้ ส.ส.เขตเพียง 16 ที่นั่ง จาก ส.ส.พึงมีทั้งสภา 735 ที่นั่ง ทำให้ระบบเลือกตั้งเพิ่ม ส.ส. แบบบัญชีรายชื่ออีก 102 ที่นั่ง ให้ได้ตามสัดส่วนคะแนนเสียงที่ประชาชนเลือก
ไม่ใช่มีแต่พรรคการเมืองแนวก้าวหน้าเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ ระบบเลือกตั้ง MMP ของเยอรมนี ยังให้พื้นที่กับพรรคการเมืองที่ชูแนวทางของตัวเองให้มีตัวแทนในระบบการเมือง เช่น
  • พรรคทุนนิยม-เสรีนิยมสุดขั้ว Free Democratic Party (FDP) ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 92 ที่นั่ง ทั้งที่ไม่ชนะ ส.ส. เขตเลยแม้แต่เพียงเขตเดียว
  • พรรคซ้ายจัด อดีตพรรคคอมมิวนิสต์ในเยอรมันตะวันออก DIE LINKE มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ 36 ที่นั่ง ทั้งที่ชนะ ส.ส. เขตเพียง 3 ที่นั่ง
  • พรรคชาตินิยมขวาจัด Alternative for Germany (AfD) ก็ได้ ส.ส. เพิ่ม 67 ที่นั่ง ทั้งที่ ส.ส. เขตชนะเพียง 16 ที่นั่ง
  • พรรค South Schleswig Voters’ Association (SSW) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของคนเชื้อสายแดนิชและกลุ่มชาติพันธุ์ฟรีเซียนทางตอนเหนือ ไม่มี ส.ส. เขต แต่ได้บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง
ระบบเลือกตั้งที่เปิดพื้นที่ให้พรรคการเมืองที่หลากหลาย ทำให้เราเห็นการเติบโตของแนวทางการเมืองแบบอื่น นอกเหนือจาก 2 พรรคใหญ่

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราเห็นความเติบโตของพรรค The Greens ที่ได้ ส.ส. ในสภามากขึ้นถึง 50 ที่นั่ง จากสัดส่วนคะแนนเสียงประชาชนที่เลือกพรรคเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 26% ขณะที่พรรค CDU ซึ่งเป็นรัฐบาลเดิมของได้ลดลงถึง 50 ที่นั่ง ตามสัดส่วนคะแนนเสียงที่ประชาชนเลือกลดลง

ระบบเลือกตั้งแบบ MMP ของเยอรมนี ทำให้พรรคการเมืองที่เน้นนโยบายเป็นไปได้ ทำให้พรรคการเมืองสามารถนำเสนอแนวนโยบายที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงความเปลี่ยนแปลงของสังคมได้อย่างรวดเร็ว

ในกรณีที่พรรคการเมืองเก่าไม่สามารถตอบสนองความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ ระบบก็พร้อมจะเปิดให้ความแตกต่างหลากหลาย แต่ในกรณีที่มีพรรคการเมืองที่นำเสนอแนวทางและนโยบายที่ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างท่วมท้น ก็สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ โดยไม่จำเป็นประนีประนอมกับ “การเมืองแบบเดิม” เพื่อเอาชนะเลือกตั้ง

จากประสบการณ์ของเยอรมนี ถึงเราจะเห็นพรรคการเมืองหลายพรรค แต่การเมืองก็ยังมีเสถียรภาพ เพราะในการคำนวณจำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อ กำหนดให้พรรคการเมืองต้องได้คะแนนเสียงขั้นต่ำ 5% ทำให้เราเห็นพรรคการเมืองเพียง 8 พรรคในรัฐสภาเยอรมัน ไม่ใช่ 21 พรรคเหมือนประเทศไทย

แล้วถามว่าทำไมในระบบการเมืองที่ไม่ใช่พรรคใหญ่กินรวบแบบเยอรมนีถึงไม่มีการต่อรองเก้าอี้จากพรรคขนาดกลางที่เป็น The King Maker? นั่นเป็นเพราะเยอรมนีมี “ข้อตกลงการร่วมรัฐบาล” (Koalitionsvertrag) ซึ่งเป็นร่างข้อตกลงการทำนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค ก่อนการตั้งรัฐบาล ทำให้การเจรจาตั้งรัฐบาลยึดตามนโยบายเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ผลประโยชน์หรือตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรี

เราอยากเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศเราหรือไม่? “การเมืองดี” แบบที่เราเห็นในเยอรมนี ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการพร่ำสอนศีลธรรม หรือการบอกประชาชนในประเทศให้เป็นคนดี แต่สิ่งเหล่านี้เกิดจากการสร้าง “ระบบ” ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ระบบเลือกตั้ง” ที่สะท้อนเสียงของประชาชนและดุลการเมืองทั้งระบบ

เหนือสิ่งอื่นใด ระบบที่ดีเหล่านี้จะเกิดได้ เราจำเป็นต้องรื้อโครงสร้างที่วางระบบทั้งหมด คือ “รัฐธรรมนูญ” ทำให้การแก้ไข หรือรื้อสร้างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เป็นไปเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

.....
อ่านเพิ่มเติม
ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม (MMP – Mixed-Member Proportional System)