.jpeg)
18 hours ago
·
ข้อสงสัยต่อแถลงการณ์ของกรมราชทัณฑ์
1. แถลงการณ์ฉบับก่อนหน้านี้อ้าง โจ้ ถุงดำ มีอาการจิตเวชวิตกกังวล (Anxiety Disorder)/ภาวะหัวใจสั่น แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้าง เขามีปัญหาการนอน/ความวิตกกังวลเรื่องของคดีความและการดำเนินชีวิตในเรือนจำ ทำไมมันย้อนแย้งกับแถลงการณ์ก่อนหน้านี้
::: ช่วงปลายปี พ.ศ. 2566 ผมเคยเจอ โจ้ ถุงดำ ที่ รพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งมารับการรักษาดวงตา เขาไม่ได้อยู่ชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นของผู้ป่วยจิตเวช ข้อมูลของกรมราชทัณฑ์กรณีอาการจิตเวชจึงย้อนแย้งสุดๆ
2. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้าง โจ้ ถุงดำ นำกล้องถ่ายรูปของเรือนจำไปถ่ายรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงโดนสอบวินัย แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกายในวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา
::: ผมไม่ทราบเขาทำอะไรในเรือนจำบ้าง แต่เรื่องการทำร้ายร่างกาย ผมเชื่อทนายความ/ญาติของ โจ้ ถุงดำ มากกว่า เพราะผมเห็นการทำร้ายร่างกายบ่อยในเรือนจำ ทั้งเจ้าหน้าที่เรือนจำทำร้าย และผู้ต้องขังทำร้ายกันเอง อีกทั้งเขายังเคยตรวจร่ายกาย/แจ้งความการทำร้ายร่างกายก่อนหน้านี้ ผมจึงไม่เชื่อแถลงการณ์ฉบับนี้
3. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้าง โจ้ ถุงดำ ถูกคุมขังในห้องคุมขังปกติที่ใช้คุมขังผู้ต้องขัง 4-5 คน แต่กรณีของเขายกห้องนี้ให้เขาอยู่คนเดียว ทำไมย้อนแย้งกับการให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ที่ว่า เขาขอขังเดี่ยวคนเดียวในห้องแยกขัง
::: จากคลิปที่เห็นเมื่อวาน ห้องที่ โจ้ ถุงดำ ถูกคุมขังเป็นห้องขังเดี่ยว ไม่ใช่ห้องคุมขังผู้ต้องขัง 4-5 คนแบบที่กรมราชทัณฑ์อ้าง ห้องแบบนี้ใช้คุมขังผู้ต้องขังที่ทำผิดวินัย ไม่ใช่ผู้ต้องขังจิตเวช ผมไม่เคยเห็นใครขอให้ขังตนเองในห้องคุมขังแบบนี้ เพราะห้องขังเดี่ยวไม่มี TV แถมยังมืดทึบ สกปรก ไม่มีใครอยากอยู่ห้องแบบนี้ ห้องแบบนี้ทรมานสุดๆ
4. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้างผลการตรวจของแพทย์ถึงรอยฟกช้ำจากการทำร้ายร่างกายในวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำไมมันย้อนแย้งกับข้อ 2 ของแถลงการณ์ฉบับเดียวกัน แถมยังอ้างเขาขอยุติการร้องเรียนโดยมีหนังสือยืนยัน
::: เรื่องหนังสือขอยุติการร้องเรียนไม่ทราบลงวันที่เท่าไหร่ ? ทำไมกรมราชทัณฑ์ไม่เห็นพูดถึงหนังสือนี้ก่อนหน้านี้ แถมทนายความยังให้สัมภาษณ์ เรือนจำคลองเปรมพยายามกีดกันไม่ให้ดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่เรือนจำกรณีนี้ ผมไม่ค่อยเชื่อหนังสือนี้จะเป็นของจริง ยิ่งเขาตายไปแล้วก็ยิ่งพิสูจน์ยาก
5. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้างถึงอาหารเรือนจำไม่ใช่อาหารห่วยๆที่ไม่มีเนื้อสัตว์ แถมยังอ้างเจ้าหน้าที่เรือนจำควบคุมการแจกจ่ายอาหารเอง
::: อาหารของเรือนจำคลองเปรมผมไม่เคยเห็นนะ แต่อาหารของเรือนจำพิเศษกรุงเทพห่วยสุดๆ แทบไม่มีเนื้อสัตว์ มีแต่เศษกระดูก ส่วนเจ้าหน้าที่เรือนจำแทบไม่เคยสนใจการแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ต้องขัง ปล่อยให้ผู้ต้องขังตักแจกอาหารให้ผู้ต้องขังกันเอง ผู้ต้องขังขาใหญ่จึงมักได้เนื้อสัตว์มากกว่าผู้ต้องขังรายย่อย
6. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้างถึงขนาดผ้าขนหนูที่พบในห้องขังเดี่ยวของ โจ้ ถุงดำ เป็นผ้าขนหนูผืนใหญ่ ทำไมย้อนแย้งกับแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ที่อ้างเขาแขวนคอด้วยผ้าขนหนูขนาดเล็ก
::: เรื่องขนาดผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่ใช้ห่มร่ายกายตอนอาบน้ำ และห่มนอนตอนกลางคืน ผมยืนยันเป็นความจริง ผ้าขนหนูแบบนี้ขายในร้านค้าสวัสดิการผืนละกว่า ฿100 ไม่มีแจกฟรี ส่วนผ้าขนหนูผืนเล็กที่กรมราชทัณฑ์เคยอ้างก่อนหน้านี้หลายขนาด ทั้ง 30 ซม./50 ซม. ผมยืนยันไม่เคยเห็นเรือนจำขาย/แจกผ้าขนหนูขนาดนี้
ยิ่งออกแถลงการณ์ ยิ่งย้อนแย้ง สังคมยิ่งสงสัย
เอกชัย หงส์กังวาน
18 hours ago
·
จากประสบการณ์ของผม ผู้ต้องขังที่ตายในเรือนจำมักใช้เวลาหลายชั่วโมงจึงมีการเคลื่อนย้ายศพออกจากที่เกิดเหตุ กรณี โจ้ ถุงดำ ใช้เวลากว่า 20 ชั่วโมงจึงจะมีการย้ายศพไป รพ.ธรรมศาสตร์
ปกติการย้ายศพตำรวจ/ญาติคนตาย/เจ้าหน้าที่มูลนิธิ (ส่วนใหญ่จะเป็นมูลนิธิร่วมกตัญญู) จะเข้าไปในจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บศพ โดยไม่มีแพทย์นิติเวช
เวลาที่ผ่านไปหลายชั่วโมง ศพผู้ต้องขังจึงมักจะเริ่มเน่า ส่งกลิ่นเหม็น และมีน้ำเหลืองปนเลือดไหลออกจากร่างกาย
ตำรวจจะถ่ายรูปศพ/พื้นที่โดยรอบ/พิมพ์ลายนิ้วมือของศพ หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนเหล่านี้จึงจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่มูลนิธิ
เจ้าหน้าที่มูลนิธิจะใช้ผ้าดิบผืนใหญ่ปูพื้นข้างศพผู้ต้องขัง จากนั้นจึงยกศพผู้ต้องขังวางบนผ้าดิบนี้ ห่อศพอย่างมิดชิด และรัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา
ศพที่ห่อเสร็จจะถูกหามบนไหล่ของเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ถ้าศพรูปร่างไม่ใหญ่ก็หามแค่คนเดียว ถ้าศพรูปร่างใหญ่อาจต้องใช้คนหามหลายคน บางครั้งกลายเป็นผู้ต้องขังเป็นคนหามศพผู้ต้องขังมาที่รถขนศพมูลนิธิที่จอดรออยู่
จากการให้สัมภาษณ์ของแพทย์นิติเวชถึงรอยบาดแผลบางรอยที่อ้างอาจเกิดจากการลากศพไปกับพื้น ผมขอยืนยันไม่มีการลากศพผู้ต้องขังกับพื้น เพราะแต่ละศพจะถูกห่อด้วยผ้าดิบอย่างแน่นหนา และแบกออก ไม่มีทางที่ลากศพออกมากระแทกโน่น กระแทกนี่ ไม่อย่างนั้นน้ำเหลืองปนเลือดคงไหลนองไปทั่วแล้ว
เอกชัย หงส์กังวาน
16 hours
·
หลักฐานสำคัญในคดี โจ้ ถุงดำ
สังคมกำลังสับสนกับการตายอย่างปริศนาของ โจ้ ถุงดำ โดยกรมราชทัณฑ์อ้างเขาฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอตนเองด้วยผ้าขนหนู ขณะที่ทนายความ/ญาติของเขาไม่เชื่อ
จากประสบการณ์ของผม ผมให้น้ำหนักการฆ่าตัวตายเพียง 30% เพราะผมฟังจากข้อมูลที่ทนายความ/ญาติของเขาเกี่ยวกับการถูกทำร้ายร่างกายของเขาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ผมจึงเชื่อเขาน่าจะตายจากอาการบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกายก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามสังคมยังคงพุ่งประเด็นไปที่การฆาตกรรมอย่างมีเงื่อนงำเป็นหลัก แต่แทบไม่สนใจในประเด็นรองที่อาจทำให้การพิสูจน์ความจริงต้องมีปัญหา ผมจึงขอแนะให้ทนายความ/ญาติของ โจ้ ถุงดำ ค้นหาหลักฐานเหล่านี้ด้วย
1. เวชระเบียน (OPD): สังคมให้ความสนใจต่อผลการชันสูตรพลิกศพการตายของ โจ้ ถุงดำ เกิดจากอะไร แต่ความจริงผลการชันสูตรพลิกศพทำได้เพียงพิสูจน์เขาตายอย่างไร ไม่ใช่พิสูจน์เป็นการฆาตกรรม/ฆ่าตัวตาย ดังจะเห็นได้จากที่แพทย์นิติเวชแจ้งพบเพียงรอยช้ำที่คอเล็กๆที่น่าจะเกิดจากการแขวนคอ
ผมแนะให้ทนายความ/ญาติของ โจ้ ถุงดำ สนใจในเวชระเบียนของเขาด้วย ทั้งใน รพ.ราชทัณฑ์ และสถานพยาบาลในเรือนจำคลองเปรม โดยเฉพาะที่กรมราชทัณฑ์อ้างเขามีอาการจิตเวชก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นอาการนอนไม่หลับ พวกคุณจำเป็นต้องตรวจเวชระเบียนเพื่อพิสูจน์เขาป่วยอะไรกันแน่ ยิ่งถ้าเป็นอาหารจิตเวชต้องมีแพทย์รับรอง ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เรือนจำรับรอง เพราะยาจิตเวชเป็นยาที่มีผลต่อจิตประสาทคล้ายยาเสพติด การจ่ายยาต้องจ่ายโดยใบสั่งแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่วินิจฉัยมั่วซั่ว
2. เพื่อนผู้ต้องขัง/เจ้าหน้าที่เรือนจำที่สนิมสนมกับ โจ้ ถุงดำ: โจ้ ถุงดำ อยู่ในเรือนจำคลองเปรมหลายปี ย่อมต้องมีเพื่อนผู้ต้องขัง/เจ้าหน้าที่เรือนจำที่สนิมสนทกับเขา ทั้งในแดน 7 และแดน 5 พวกเขาเหล่านี้ย่อมต้องทราบเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง โดยเฉพาะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เขาน่าจะเคยเหล่าถึงเพื่อน/เจ้าหน้าที่เรือนจำที่เขาสนิทสนม/ไว้ใจให้ทนายความ/ญาติฟังบ้าง แต่การจะขอข้อมูลจากพวกเขาไม่ใช่เริ่องง่าย
3. คลิปกล้อง CCTV: สังคมให้ความสนใจคลิปกล้อง CCTV ช่วงเวลา 15.00-20.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ โจ้ ถุงดำ ถูกคุมขังในห้องขังเดี่ยวก่อนจะถูกพบเสียชีวิต แม้กรมราชทัณฑ์จะเผยแพร่คลิปบางส่วน แต่ก็แค่ไม่ถึง 2 นาที จึงมีการรองขอให้เปิดคลิปเต็มในช่วงเวลาดังกล่าวกว่า 5 ชั่วโมง
จากประสบการณ์ของผม ผมเชื่อช่วงเวลา 5 ชั่วโมงนี้ไม่น่าจะมีใครเข้าไปทำร้ายเขาในห้องขังเดี่ยว ผมแนะให้ทนายความ/ญาติเน้นที่คลิป CCTV ช่วงก่อนหน้า และหลังจากช่วงเวลานี้มากกว่า โดยฌแพาะช่วงเวลาหลังการเยี่ยมญาติจนถึงเวลาที่เขาเข้าห้องขังเดี่ยว (12.00-15.00 น.) ผมค่อนข้างมั่นใจช่วงเวลานี้จะต้องเกิดเหตุการณ์บางอย่างกับเขา เช่น การทำร้ายร่างกาย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เขาตายในห้องขังเดี่ยวจากอาการบอบช้ำ และอีกช่วงคือ ช่วงที่เจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปในห้องขังเดี่ยวครั้งแรกเพื่อตรวจศพของเขา กรมราชทัณฑ์อ้างมีการตัดผ้าขนหนูออกจากคอขอเขาเพื่อช่วยชีวิต ช่วงนี้แพละสำคัญที่สุดที่จะเห็นลักษณะการตายของเขาเป็นแบบใด เขาถูกแขวนคอหรือไม่ หรือตายจากอะไรกันแน่
4. การชันสูตรพลิกศพ: ปกติแพทย์นิติเวชจะตรวจศพจากร่องรอยภายนอกร่ายกายเป็นหลัก กรณี โจ้ ถุงดำ ก็เช่นกัน แพทย์นิติเวชตรวจเพียงรอยแผลฟกช้ำก็สรุปเป็นรอยแผลเก่า และตรวจรอยรัดที่คอก็พบเพียงรอยรัดคอแบบเบาๆ จึงสรุปเป็นการฆ่าตัวตาย
ผมยังคงเชื่อเขาตายการความบอบช้ำ ผมจึงแนะให้ชันสูตรในส่วนของซี่โครง และปอดด้วย เพราะผมเห็นผู้ต้องขังที่ตายในเรือนจำส่วนใหญ่จะตายจากซี่โครงหัก/ปอดรั่ว ถ้าสามารถเอ็กซ์เรย์ทั่วร่างกายได้ยิ่งดี
ที่มา
https://www.facebook.com/profile.php?id=100012144304366
·
ข้อสงสัยต่อแถลงการณ์ของกรมราชทัณฑ์
1. แถลงการณ์ฉบับก่อนหน้านี้อ้าง โจ้ ถุงดำ มีอาการจิตเวชวิตกกังวล (Anxiety Disorder)/ภาวะหัวใจสั่น แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้าง เขามีปัญหาการนอน/ความวิตกกังวลเรื่องของคดีความและการดำเนินชีวิตในเรือนจำ ทำไมมันย้อนแย้งกับแถลงการณ์ก่อนหน้านี้
::: ช่วงปลายปี พ.ศ. 2566 ผมเคยเจอ โจ้ ถุงดำ ที่ รพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งมารับการรักษาดวงตา เขาไม่ได้อยู่ชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นของผู้ป่วยจิตเวช ข้อมูลของกรมราชทัณฑ์กรณีอาการจิตเวชจึงย้อนแย้งสุดๆ
2. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้าง โจ้ ถุงดำ นำกล้องถ่ายรูปของเรือนจำไปถ่ายรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงโดนสอบวินัย แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกายในวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา
::: ผมไม่ทราบเขาทำอะไรในเรือนจำบ้าง แต่เรื่องการทำร้ายร่างกาย ผมเชื่อทนายความ/ญาติของ โจ้ ถุงดำ มากกว่า เพราะผมเห็นการทำร้ายร่างกายบ่อยในเรือนจำ ทั้งเจ้าหน้าที่เรือนจำทำร้าย และผู้ต้องขังทำร้ายกันเอง อีกทั้งเขายังเคยตรวจร่ายกาย/แจ้งความการทำร้ายร่างกายก่อนหน้านี้ ผมจึงไม่เชื่อแถลงการณ์ฉบับนี้
3. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้าง โจ้ ถุงดำ ถูกคุมขังในห้องคุมขังปกติที่ใช้คุมขังผู้ต้องขัง 4-5 คน แต่กรณีของเขายกห้องนี้ให้เขาอยู่คนเดียว ทำไมย้อนแย้งกับการให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ที่ว่า เขาขอขังเดี่ยวคนเดียวในห้องแยกขัง
::: จากคลิปที่เห็นเมื่อวาน ห้องที่ โจ้ ถุงดำ ถูกคุมขังเป็นห้องขังเดี่ยว ไม่ใช่ห้องคุมขังผู้ต้องขัง 4-5 คนแบบที่กรมราชทัณฑ์อ้าง ห้องแบบนี้ใช้คุมขังผู้ต้องขังที่ทำผิดวินัย ไม่ใช่ผู้ต้องขังจิตเวช ผมไม่เคยเห็นใครขอให้ขังตนเองในห้องคุมขังแบบนี้ เพราะห้องขังเดี่ยวไม่มี TV แถมยังมืดทึบ สกปรก ไม่มีใครอยากอยู่ห้องแบบนี้ ห้องแบบนี้ทรมานสุดๆ
4. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้างผลการตรวจของแพทย์ถึงรอยฟกช้ำจากการทำร้ายร่างกายในวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำไมมันย้อนแย้งกับข้อ 2 ของแถลงการณ์ฉบับเดียวกัน แถมยังอ้างเขาขอยุติการร้องเรียนโดยมีหนังสือยืนยัน
::: เรื่องหนังสือขอยุติการร้องเรียนไม่ทราบลงวันที่เท่าไหร่ ? ทำไมกรมราชทัณฑ์ไม่เห็นพูดถึงหนังสือนี้ก่อนหน้านี้ แถมทนายความยังให้สัมภาษณ์ เรือนจำคลองเปรมพยายามกีดกันไม่ให้ดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่เรือนจำกรณีนี้ ผมไม่ค่อยเชื่อหนังสือนี้จะเป็นของจริง ยิ่งเขาตายไปแล้วก็ยิ่งพิสูจน์ยาก
5. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้างถึงอาหารเรือนจำไม่ใช่อาหารห่วยๆที่ไม่มีเนื้อสัตว์ แถมยังอ้างเจ้าหน้าที่เรือนจำควบคุมการแจกจ่ายอาหารเอง
::: อาหารของเรือนจำคลองเปรมผมไม่เคยเห็นนะ แต่อาหารของเรือนจำพิเศษกรุงเทพห่วยสุดๆ แทบไม่มีเนื้อสัตว์ มีแต่เศษกระดูก ส่วนเจ้าหน้าที่เรือนจำแทบไม่เคยสนใจการแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ต้องขัง ปล่อยให้ผู้ต้องขังตักแจกอาหารให้ผู้ต้องขังกันเอง ผู้ต้องขังขาใหญ่จึงมักได้เนื้อสัตว์มากกว่าผู้ต้องขังรายย่อย
6. แถลงการณ์ฉบับล่าสุดอ้างถึงขนาดผ้าขนหนูที่พบในห้องขังเดี่ยวของ โจ้ ถุงดำ เป็นผ้าขนหนูผืนใหญ่ ทำไมย้อนแย้งกับแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ที่อ้างเขาแขวนคอด้วยผ้าขนหนูขนาดเล็ก
::: เรื่องขนาดผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่ใช้ห่มร่ายกายตอนอาบน้ำ และห่มนอนตอนกลางคืน ผมยืนยันเป็นความจริง ผ้าขนหนูแบบนี้ขายในร้านค้าสวัสดิการผืนละกว่า ฿100 ไม่มีแจกฟรี ส่วนผ้าขนหนูผืนเล็กที่กรมราชทัณฑ์เคยอ้างก่อนหน้านี้หลายขนาด ทั้ง 30 ซม./50 ซม. ผมยืนยันไม่เคยเห็นเรือนจำขาย/แจกผ้าขนหนูขนาดนี้
ยิ่งออกแถลงการณ์ ยิ่งย้อนแย้ง สังคมยิ่งสงสัย
เอกชัย หงส์กังวาน
18 hours ago
·
จากประสบการณ์ของผม ผู้ต้องขังที่ตายในเรือนจำมักใช้เวลาหลายชั่วโมงจึงมีการเคลื่อนย้ายศพออกจากที่เกิดเหตุ กรณี โจ้ ถุงดำ ใช้เวลากว่า 20 ชั่วโมงจึงจะมีการย้ายศพไป รพ.ธรรมศาสตร์
ปกติการย้ายศพตำรวจ/ญาติคนตาย/เจ้าหน้าที่มูลนิธิ (ส่วนใหญ่จะเป็นมูลนิธิร่วมกตัญญู) จะเข้าไปในจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บศพ โดยไม่มีแพทย์นิติเวช
เวลาที่ผ่านไปหลายชั่วโมง ศพผู้ต้องขังจึงมักจะเริ่มเน่า ส่งกลิ่นเหม็น และมีน้ำเหลืองปนเลือดไหลออกจากร่างกาย
ตำรวจจะถ่ายรูปศพ/พื้นที่โดยรอบ/พิมพ์ลายนิ้วมือของศพ หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนเหล่านี้จึงจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่มูลนิธิ
เจ้าหน้าที่มูลนิธิจะใช้ผ้าดิบผืนใหญ่ปูพื้นข้างศพผู้ต้องขัง จากนั้นจึงยกศพผู้ต้องขังวางบนผ้าดิบนี้ ห่อศพอย่างมิดชิด และรัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา
ศพที่ห่อเสร็จจะถูกหามบนไหล่ของเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ถ้าศพรูปร่างไม่ใหญ่ก็หามแค่คนเดียว ถ้าศพรูปร่างใหญ่อาจต้องใช้คนหามหลายคน บางครั้งกลายเป็นผู้ต้องขังเป็นคนหามศพผู้ต้องขังมาที่รถขนศพมูลนิธิที่จอดรออยู่
จากการให้สัมภาษณ์ของแพทย์นิติเวชถึงรอยบาดแผลบางรอยที่อ้างอาจเกิดจากการลากศพไปกับพื้น ผมขอยืนยันไม่มีการลากศพผู้ต้องขังกับพื้น เพราะแต่ละศพจะถูกห่อด้วยผ้าดิบอย่างแน่นหนา และแบกออก ไม่มีทางที่ลากศพออกมากระแทกโน่น กระแทกนี่ ไม่อย่างนั้นน้ำเหลืองปนเลือดคงไหลนองไปทั่วแล้ว
เอกชัย หงส์กังวาน
16 hours
·
หลักฐานสำคัญในคดี โจ้ ถุงดำ
สังคมกำลังสับสนกับการตายอย่างปริศนาของ โจ้ ถุงดำ โดยกรมราชทัณฑ์อ้างเขาฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอตนเองด้วยผ้าขนหนู ขณะที่ทนายความ/ญาติของเขาไม่เชื่อ
จากประสบการณ์ของผม ผมให้น้ำหนักการฆ่าตัวตายเพียง 30% เพราะผมฟังจากข้อมูลที่ทนายความ/ญาติของเขาเกี่ยวกับการถูกทำร้ายร่างกายของเขาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ผมจึงเชื่อเขาน่าจะตายจากอาการบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกายก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามสังคมยังคงพุ่งประเด็นไปที่การฆาตกรรมอย่างมีเงื่อนงำเป็นหลัก แต่แทบไม่สนใจในประเด็นรองที่อาจทำให้การพิสูจน์ความจริงต้องมีปัญหา ผมจึงขอแนะให้ทนายความ/ญาติของ โจ้ ถุงดำ ค้นหาหลักฐานเหล่านี้ด้วย
1. เวชระเบียน (OPD): สังคมให้ความสนใจต่อผลการชันสูตรพลิกศพการตายของ โจ้ ถุงดำ เกิดจากอะไร แต่ความจริงผลการชันสูตรพลิกศพทำได้เพียงพิสูจน์เขาตายอย่างไร ไม่ใช่พิสูจน์เป็นการฆาตกรรม/ฆ่าตัวตาย ดังจะเห็นได้จากที่แพทย์นิติเวชแจ้งพบเพียงรอยช้ำที่คอเล็กๆที่น่าจะเกิดจากการแขวนคอ
ผมแนะให้ทนายความ/ญาติของ โจ้ ถุงดำ สนใจในเวชระเบียนของเขาด้วย ทั้งใน รพ.ราชทัณฑ์ และสถานพยาบาลในเรือนจำคลองเปรม โดยเฉพาะที่กรมราชทัณฑ์อ้างเขามีอาการจิตเวชก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นอาการนอนไม่หลับ พวกคุณจำเป็นต้องตรวจเวชระเบียนเพื่อพิสูจน์เขาป่วยอะไรกันแน่ ยิ่งถ้าเป็นอาหารจิตเวชต้องมีแพทย์รับรอง ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เรือนจำรับรอง เพราะยาจิตเวชเป็นยาที่มีผลต่อจิตประสาทคล้ายยาเสพติด การจ่ายยาต้องจ่ายโดยใบสั่งแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่วินิจฉัยมั่วซั่ว
2. เพื่อนผู้ต้องขัง/เจ้าหน้าที่เรือนจำที่สนิมสนมกับ โจ้ ถุงดำ: โจ้ ถุงดำ อยู่ในเรือนจำคลองเปรมหลายปี ย่อมต้องมีเพื่อนผู้ต้องขัง/เจ้าหน้าที่เรือนจำที่สนิมสนทกับเขา ทั้งในแดน 7 และแดน 5 พวกเขาเหล่านี้ย่อมต้องทราบเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง โดยเฉพาะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เขาน่าจะเคยเหล่าถึงเพื่อน/เจ้าหน้าที่เรือนจำที่เขาสนิทสนม/ไว้ใจให้ทนายความ/ญาติฟังบ้าง แต่การจะขอข้อมูลจากพวกเขาไม่ใช่เริ่องง่าย
3. คลิปกล้อง CCTV: สังคมให้ความสนใจคลิปกล้อง CCTV ช่วงเวลา 15.00-20.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ โจ้ ถุงดำ ถูกคุมขังในห้องขังเดี่ยวก่อนจะถูกพบเสียชีวิต แม้กรมราชทัณฑ์จะเผยแพร่คลิปบางส่วน แต่ก็แค่ไม่ถึง 2 นาที จึงมีการรองขอให้เปิดคลิปเต็มในช่วงเวลาดังกล่าวกว่า 5 ชั่วโมง
จากประสบการณ์ของผม ผมเชื่อช่วงเวลา 5 ชั่วโมงนี้ไม่น่าจะมีใครเข้าไปทำร้ายเขาในห้องขังเดี่ยว ผมแนะให้ทนายความ/ญาติเน้นที่คลิป CCTV ช่วงก่อนหน้า และหลังจากช่วงเวลานี้มากกว่า โดยฌแพาะช่วงเวลาหลังการเยี่ยมญาติจนถึงเวลาที่เขาเข้าห้องขังเดี่ยว (12.00-15.00 น.) ผมค่อนข้างมั่นใจช่วงเวลานี้จะต้องเกิดเหตุการณ์บางอย่างกับเขา เช่น การทำร้ายร่างกาย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เขาตายในห้องขังเดี่ยวจากอาการบอบช้ำ และอีกช่วงคือ ช่วงที่เจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปในห้องขังเดี่ยวครั้งแรกเพื่อตรวจศพของเขา กรมราชทัณฑ์อ้างมีการตัดผ้าขนหนูออกจากคอขอเขาเพื่อช่วยชีวิต ช่วงนี้แพละสำคัญที่สุดที่จะเห็นลักษณะการตายของเขาเป็นแบบใด เขาถูกแขวนคอหรือไม่ หรือตายจากอะไรกันแน่
4. การชันสูตรพลิกศพ: ปกติแพทย์นิติเวชจะตรวจศพจากร่องรอยภายนอกร่ายกายเป็นหลัก กรณี โจ้ ถุงดำ ก็เช่นกัน แพทย์นิติเวชตรวจเพียงรอยแผลฟกช้ำก็สรุปเป็นรอยแผลเก่า และตรวจรอยรัดที่คอก็พบเพียงรอยรัดคอแบบเบาๆ จึงสรุปเป็นการฆ่าตัวตาย
ผมยังคงเชื่อเขาตายการความบอบช้ำ ผมจึงแนะให้ชันสูตรในส่วนของซี่โครง และปอดด้วย เพราะผมเห็นผู้ต้องขังที่ตายในเรือนจำส่วนใหญ่จะตายจากซี่โครงหัก/ปอดรั่ว ถ้าสามารถเอ็กซ์เรย์ทั่วร่างกายได้ยิ่งดี
ที่มา
https://www.facebook.com/profile.php?id=100012144304366