‘ทักษิณ’ ของขึ้นอีกแล้ว ยิ่งมี ส.ส.พรรคประชาชนออกมาช่วยจี้ ว่าศาลสั่งที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เป็นที่ธรณีสงฆ์ต้องคืนให้แก่วัด

ที่ดินอัลไพน์ เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ ‘ทักษิณ’ ของขึ้นอีกแล้ว ยิ่งมี ส.ส.พรรคประชาชนออกมาช่วยจี้ ขู่เตือนรองปลัดฯ มหาดไทยเร่งเพิกถอนกรรมสิทธิและส่งที่คืนวัด ด้วยละก็ เดี๋ยวคงได้เห็นจระเข้ฟาดหางกันละ

ขนาดเมื่อมีข่าว ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย แอบเซ็นคำสั่งให้จัดการคืนที่ธรณีสงฆ์ ก่อนตนจะพ้นตำแหน่งไม่กี่วัน แม้อธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งสนามกอล์ฟ ๕๐๐ ไร่เป็นของทักษิณนั้น

ทักษิณตอบนักข่าวถึงจะมีการเอาคืนกันกับพรรคภูมิใจไทยกรณีเขากระโดง ว่า “ตอนที่ตนได้ไปร่วมตีกอล์ฟกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้”

ส่วนการที่นายชาดาเซ็นคำสั่ง ทักษิณบอก “ไม่มีปัญหา...เอาอย่างไรก็เอา จะได้จบๆ เสียที คาราคาซังน่ารำคาญ” และ “หากมีการถอนสิทธิ์จริงๆ ก็ไม่เป็นไรเพราะหลักการคือถ้าเป็นของกรมที่ดิน ก็ต้องชดเชยความเสียหาย ที่รับโอนอย่างไม่ถูกต้อง

หรือหากเป็นของวัดต้องถามว่าวัดจะชดเชยค่าเสียหายหรือให้เช่าต่อ...ทุกอย่างให้เป็นไปตามกติกา สิทธิของผู้เสียหายมีอย่างไรบ้างก็ว่ากันไป ในเมื่อรัฐใช้อำนาจตรงนี้ผู้เสียหายก็มีสิทธิ์ ในการเรียกร้องค่าเสียหาย อย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องใหญ่”

เรื่องนี้ Atukkit Sawangsuk ให้ข้อคิดว่า “คุณทักษิณแกเป็นแค่ผู้ซื้อต่อ จากบริษัทของเมียและน้องของป๋าเหนาะ (เทียนทอง) เมื่อปี ๒๕๔๐ ที่ดินยกให้วัดตั้งแต่ปี ๒๕๑๔ วัดไม่อยากถือครอง ไปขอให้ป๋าเหนาะใช้อำนาจสั่งไม่ให้วัดรับที่ดิน

แล้วโอนให้มูลนิธิมหามกุฎ ขายให้บริษัทอัลไพน์ เมื่อปี ๒๕๓๓ เอาเงินเข้าวัด ทักษิณมาซื้อต่อ จากนั้นอีกช่วง ป๋าเหนาะก็เข้าไปร่วมสร้างพรรคไทยรักไทย ไม่เคยมีใครโวยเรื่องนี้มาก่อน จนพรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งปี ๔๔ แมลงสาบจึงวิ่งพล่าน”

เขาว่าเอกสารเลยปลิวว่อน ปลุกวิญญานคุณยายเนื่อม (ชำนาญชาติศักดา) ขึ้นหน้าสื่อ คล้ายๆ แม่ธนาธรซื้อที่ดินจากโรงน้ำตาล แล้วพอลูกเล่นการเมืองก็โดนเล่นงานว่าเป็นที่ป่า (สงวน) เพียงแต่ที่ดินอัลไพน์ซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่าเยอะ”

ปัจจุบันเรื่องที่ดินอัลไพน์อยู่ในความรับผิดชอบของ นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดมหาดไทย เพราะมีคำสั่งศาลอาญาคดีทุจริตฯ อยู่แล้วว่า “ที่ดินดังกล่าวเป็นของธรณีสงฆ์ จึงโอนขายเชิงพาณิชย์ไม่ได้”

นายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ์ อดีตรองปลัดฯ มท.คนก่อน ติดคุกสองปีเพราะฝ่าฝืนคำสั่งศาลกรณีนี้ เป็นเชื้อให้ จุลพงศ์ อยู่เกษ สส.พรรคประชาชนใช้ขู่รองปลัดฯ คนปัจจุบัน ว่าสุ่มเสี่ยงกับการกระทำผิดมาตรา ๔๙-๕๔ พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง

(https://www.thairath.co.th/news/politic/2836742, https://www.facebook.com/baitongpost/posts/ArfVkV6vLCTy และ https://www.facebook.com/nationweekend/posts/21SBECLQ)