เปิดข้อมูล "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" หลัง ปค. มหาดไทย ยกข้อกฎหมายขู่! เร่งชี้แจงข้อเท็จจริง "คอร์สอบรมต่างชาติ"
3 ม.ค. 2568 17:56
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เปิดข้อมูล "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" หลัง กรมการปกครอง มหาดไทย ยกข้อกฎหมายขู่! คุกไม่เกิน 3 ปี/ปรับไม่เกิน 6 หมื่น แถมส่งหนังสือให้สมาคมฯ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวข้องการฝึกอบรมแก่ชาวต่างชาติ หากผิดวัตถุประสงค์ "อธิบดี ปค." จ่อถอนชื่อสมาคมออกจากทะเบียนได้ เผยปี 61 ตั้งเพิ่มประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เฉพาะวัตถุประสงค์ ข้อ 4.3 ระบุสนับสนุนกองทัพในเรื่องการฝึกคนในชาติให้เป็นกำลังสำรอง
วันนี้ (3 ม.ค.2568) มีรายงานจากระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์ ระบุมีการเปิดคอร์ส "อบรมตำรวจอาสาคนจีน" โดยมีรายชื่อ สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดน และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างเกี่ยวกับภารกิจของสมาคมนั้น
ล่าสุด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ระบุ กระทรวงมหาดไทย โดยส่วนทะเบียนมูลนิธิและสมาคม (สมส.) สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบในเบื้องต้น
พบชื่อ "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" จดทะเบียนจัดตั้ง เลขทะเบียนที่ จ.1697 เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2523 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 84/12 หมู่ 7 ซอยทองปาน 1 ถนนท่าข้าม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
สำหรับกรณีที่ปรากฏข่าวกรณีสมาคมเข้าไปเกี่ยวข้องกับคอร์สอบรมแก่ชาวต่างชาติ หากสมาคมฯ ได้ดำเนินการจริง อาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคม โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ของสมาคมข้อ 4.3 ที่กำหนดว่า สนับสนุนกองทัพในเรื่องการฝึกคนในชาติให้เป็นกำลังสำรอง
กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือให้สมาคมชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งหากพบว่าสมาคมดำเนินกิจการขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรืออาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ
"อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะนายทะเบียนสมาคมมีอำนาจสั่งถอนชื่อสมาคมออกจากทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 102 ต่อไปได้"
นอกจากนี้ หากพบว่ากรรมการของสมาคมผู้ใดดำเนินกิจการผิดวัตถุประสงค์ของสมาคม และการดำเนินกิจการนั้นเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ
จะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 56 พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ
ขณะที่ข้อมูลกรมการปกครอง ระบุถึง "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" ที่จดทะเบียนเมื่อปี 2523 ล่าสุดมีการประกาศโดยนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย อักษรย่อ สกร หรือ TDRF]
ล่าสุดเมื่อ พ.ย.2562 พบว่า มีชื่อ นาย ส. เป็นนายกสมาคม มีผู้ร่วมก่อตั้ง 4 ราย ได้ยื่นคําร้องขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม ข้อบังคับของสมาคมล่าสุดเมื่อ 6 พ.ย. 2562 ยังพบว่า ในปี 2561 มีการจดจัดตั้งสมาคม ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสมาชิก เริ่มต้น 3 ราย
มีวัตถุประสงค์ 9 ข้อ เฉพาะข้อ 4.3 กำหนดว่า สนับสนุนกองทัพในเรื่องการฝึกคนในชาติให้เป็นกำลังสำรอง
ขณะที่รายได้ของสมาคม ข้อ 34.3 ระบุว่า มาจากการฝึกอบรม หรือจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคม
ในส่วนของสมาชิกสามัญ ข้อ 6.3 เป็นนายทหารตั้งแต่ชั้นสัญญาบัตร หรือ ข้าราชการระดับ 3 ขึ้นไป หรือ ผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารพิเศษ ทั้งในและนอกประจำการ
อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่า สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดน ได้จดทะเบียนกับขึ้นตรงกับหน่วยงานราชการทหารแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับรายงานข่าวจากกองทัพบก ระบุว่า เป็นเพียงกลุ่มคนที่ ร่วมกันไปจดทะเบียนขึ้นเป็นสมาคม แต่มีชื่อพ้องกับหน่วยงานสังกัด หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน กองทัพบก ทำให้มีการเชื่อมโยงเกี่ยวข้องคนสีเขียว
อีกทั้งสมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดน มีชุดการแต่งกายคล้ายชุดผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร ที่ทางกองบัญชาการรักษาดินแดน ได้ฝึกอบรมให้กับครู อาจารย์ และผู้บริหารสถาบันการศึกษา เพื่อให้ไปกำกับดูแลนักศึกษาในสถาบันของตนเอง
โดยมีการจัดอบรม และมอบใบประกาศนียบัตรถูกต้อง เมื่อเห็นการแต่งกายประชาชนที่ไม่เข้าใจก็คิดว่าเป็นหน่วยงานทหาร
ขณะที่ โซเชียลมีเดีย ที่ทำขึ้นภายใต้ชื่อ สมาคมกำลังรักษาดินแดนไทย ที่มีการเคลื่อนไหวสุดท้าย เมื่อ 6 ปีก่อน เช่น มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ โดยจัดขึ้นที่สโมสรทหารบก วิภาวดีรังสิต.
https://mgronline.com/politics/detail/9680000000765
ทบ.ชี้แจงเรื่อง "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" ปรากฏชื่อในคลิปหญิงมีนามสกุลเป็นภาษาจีน แต่งกายคล้ายเครื่องแบบทหาร ขึ้นเวทีรับมอบประกาศนียบัตร ผู้สำเร็จหลักสูตร "ผู้กำกับกำลังสำรองรักษาดินแดน"#กองทัพบก #จีน #คลิป #ข่าวไทยพีบีเอส #ข่าวที่คุณวางใจ #ThaiPBSnews #ThaiPBS pic.twitter.com/u3S7YaXIRq
— Thai PBS News (@ThaiPBSNews) January 3, 2025