การประชุมเพื่อหาความจริง เรื่อง “ทักษิณป่วยทิพย์” อยู่บนชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ตามที่มีเสียงครหาจริงหรือไม่ ของกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ กลายเป็นนาฏกรรมขนานใหญ่ ของทั้งราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ไปฉิบ
กรณีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างรับโทษปรากฏว่าตลอดเวลากว่า ๖ เดือนไม่ได้อยู่ในเรือนจำเลยแม้แต่วันเดียว หากแต่ ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจ แล้วอยู่ที่นั่นบนชั้น ๑๔ ซึ่งนัยว่าสถานที่โอ่โถง เห็นวิวงดงาม
ออกมาก็พ้นโทษ ได้กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าทันที กรรมาธิการซึ่งมี รังสิมันต์ โรม เป็นประธานประชุมเมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกา โดยเชิญเจ้าหน้าที่ทั้งจากฝ่ายกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจไปตอบคำถาม และให้ข้อมูล แต่ทั้งสองฝ่ายเหมือนไปเล่นปาหี่
หมอวาโย อัศวรุ่งเรือง กรรมาธิการคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตุในเรื่องของเงื่อนเวลา นับแต่ตอนที่ราชทัณฑ์ระบุว่าทักษิณมีอาการเจ็บหน้าอกจากสาเหตุกล้ามเนื้อยุ่ย จนถึงเวลาที่ รพ.ตำรวจรับตัวเข้ารักษา ห่างกันเพียง ๒๑ นาฑี
แสดงว่าพยาบาลของทัณฑสถานใช้เวลาเพียง ๓ นาฑีในการตัดสินใจส่งทักษิณไป รพ.ตำรวจ เพราะการเดินทางจากทัณฑสถานถึงโรงพยาบาล ตามที่ค้นข้อมูลจากกูเกิ้ลจะใช้เวลาราว ๑๗ นาฑี พยาบาลผู้นั้นอ้างว่าได้โทรศัพท์ปรึกษาทาง รพ.ตำรวจแล้ว
หมอวาโยตั้งข้อกังขาว่า การปฏิบัติในกรณีของทักษิณนั้นชอบด้วยหลักเกณฑ์และระเบียบการราชทัณฑ์หรือไม่ หากว่านักโทษอื่นๆ ในเรือนจำเกิดอาการเจ็บหน้าอกยามดึกใกล้เที่ยงคืนอย่างนั้น จะได้รับการปฏิบัติเยี่ยงเดียวกันหรือไม่
@plapoo_o มีความเห็นต่อความเป็นสองมาตรฐานของราชทัณฑ์ ว่าทักษิณใช้เวลาเพียง ๒๑ นาฑี ตั้งแต่มีอาการจนไปถึง รพ. แต่ ‘บุ้ง’ เนติพร เสน่ห์สังคม ผู้ต้องหา ๑๑๒ ต้องเสียชีวิตหลังจากได้รับการทำซีพีอาร์แล้วถึง ๓ ชั่วโมง กว่าจะไปถึง รพ.
มิหนำซ้ำเมื่อกรรมาธิการซักไซ้ว่าแพทย์ที่ให้คำแนะนำต่อพยาบาลของราชทัณฑ์ ว่าส่งตัวไป รพ.ตำรวจได้ทันทีนั้นเป็นใคร ชื่ออะไร กลับถูกบ่ายเบี่บงให้ทำหนังสือราชการสอบถามบ้าง ขอเวลากลับไปตรวจสอบก่อนบ้าง เห็นได้ชัดจงใจไม่ตอบ
ร้ายกว่านั้น ถามว่าระเบียบปฏิบัติการส่งนักโทษป่วยฉุกเฉินไปรักษาภายนอกต่อ ใครเป็นผู้มีอำนาจสั่ง ทาง รพ.บอกว่าต้องราชทัณฑ์ แต่ราชทัณฑ์กลับอ้างว่าในเรือนจำไม่มีผู้ชำนาญการแพทย์ ต้องให้โรงพยาบาลเท่านั้นวินิจฉัย
(https://x.com/loreneeliz/status/1854542023682031873 และ https://x.com/talkingpen88/status/1854507442710970580?s=12)