วันศุกร์, พฤศจิกายน 29, 2567

พวก ‘ค่าง’ ช่างโหน ฟ้อง ๑๑๒ จี กามิน หาว่าเข้าไทยด้วยกิริยา ‘ท่าเดิน’ คล้ายบุคคลเบื้องสูง หารู้ไม่ ยูเอ็นเตือนไทยบ่อยครั้ง ม.๑๑๒ ผิดหลักการสิทธิมนุษยชนสากล

เอาอีกแล้วพวก ค่าง ช่างโหน ตะบี้ตะบันโหนดะไปจนถึงดาราต่างชาติ เอามาฟ้อง ๑๑๒ ทั้งที่ไม่มีเหตุแจ้งชัด คนฟ้องมโนเองทั้งนั้นว่าเขากระทำผิด กรณีประธานกลุ่มประชาพิทักษ์สถาบัน กล่าวหา กามิน ดาราเกาหลีใต้ เดินคล้ายบุคคลเบื้องสูง

ทรงชัย เนียมหอม อ้างในคำฟ้องว่า ได้เห็นจากสื่อออนไลน์ เมื่อ ๓ พ.ย.๖๗ ขณะ จี กามิน อินฟลูเอ๊นเซอร์คนดังชาวเกาหลีใต้เดินทางเข้าประเทศไทย “ได้แสดงกริยาท่าทางให้คล้ายหรือลอกเลียนแบบบุคคลเบื้องสูง” อ้างด้วยว่าเคยมีคดีแบบนี้เมื่อปี ๖๓

เป็นคำฟ้องที่เหลวไหลที่สุด ชนิดที่ถ้าต่างชาติไปสืบสาวกฎหมายต้นตอที่ให้อำนาจฟ้อง ก็จะพบกับความเหลวไหลของ กม.นั้นเช่นกัน อย่าลืมว่าสหประชาชาติ ผ่านทางกลไกพิเศษด้านสิทธิมนุษยชน ได้ส่งหนังสือเตือนรัฐบาลไทยมาตลอด

จากการบรรยายของ อัครชัย ชัยมณีการเกษ แห่งศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน เราทราบว่าตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ถึง ๖๗ ผู้เสนอรายงานพิเศษยูเอ็นฯ นี้ ส่งหนังสือเตือนไทยแล้ว ๑๑๑ ฉบับ ในจำนวนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพและการแสดงออก ๑๐๔ ฉบับ

และใน ๑๐๔ ฉบับนั้น เป็นเรื่องการบังคับใช้ กม.อาญา ม.๑๑๒ เสีย ๒๓ ฉบับ โดยเฉพาะในช่วงปี ๒๕๕๔ ถึง ๒๕๖๓ ไทยได้รับคำเตือนเรื่อง ๑๑๒ ปีละ ๒-๓ ฉบับ เลยทีเดียว ในหนังสือเตือนเหล่านั้นว่าอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ย้ำเตือนหลักการสำคัญ

ถ้าคุณจะจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก มันมีหลักการระหว่างประเทศที่คุณต้องเคารพอยู่” เพื่อให้เกิดความชอบธรรม ๓ หลัก คือหนึ่ง กม.นั้นต้องชัดเจน ห้ามอะไร ไม่ห้ามอะไร สอง จำกัดสิทธิไปเพื่ออะไร และสาม ต้องได้สัดส่วนและมีความจำเป็น

หน่วยงานสหประชาชาติแห่งนั้นบอกว่า มาตรา ๑๑๒ ของไทย ไม่ผ่านเงื่อนไขเหล่านี้ทั้งหมด แต่ผู้ฟ้องร้องกรณีกามิน ไพล่ไปเอ่ยถึงเรื่องใบอนุญาตทำงานในไทยของกามิน ว่าหมดอายุไปแล้ว ถ้ากามินเข้าประเทศครั้งนี้ยังไม่มีนายจ้าง ต้องถูกเพิกถอนวีซ่า

เห็นชัดว่าการฟ้องร้องคดี ๑๑๒ นี้ เป็นการใช้ กม.มาตรานี้เพื่อการกลั่นแกล้งเสียมากกว่าปกป้องเกียรติของบุคคลเบื้องสูง ข่าวไม่ได้บอกว่าคนไหน ถ้าจะเดาเอาก็คงเป็นเพศหญิงสวมชุดไทย เหมือนผู้ต้องคดีปี ๖๓ แต่ท่าเดินของกามินแบบนั้นหรือ

วิธีการพิสูจน์ในศาล อย่างน้อยต้องมีคลิปท่าเดินของกามินในสถานการณ์คำฟ้องอ้าง ทียบเคียงกับคลิปท่าเดินของบุคคลเบื้องสูงที่คำฟ้องระบุ เชื่อว่าถ้าสูงจริงศาลจะต้องสืบพยานโดยวิธีลับ ไม่ยอมให้แพร่งพรายสู่สาธารณะ

แค่นี้ก็เป็นสิ่งที่ต่างชาติรับไม่ได้อยู่แล้ว แต่ในไทย กระทำกับคนไทยด้วยกันได้ ดังคดี อานนท์ นำภา ปราศรัยในม็อบ แฮรี่พ็อตเตอร์ “จำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้คดี ไม่มีโอกาสถามค้านพยานโจทก์ ไม่มีโอกาสนำเสนอพยานหลักฐานของตัวเอง

และไม่ได้เอกสารที่เกี่ยวข้องในการพิสูจน์ความจริงเข้ามาในคดี พร้อมกับศาลสั่งให้พิจารณาคดีเป็นการลับและห้ามเปิดเผยกระบวนพิจารณาคดีที่เกิดขึ้น” ประดุจว่ากระบวนการศาลไทยอยู่แต่ในโลกของตัวเอง ไม่ได้ร่วมประชาคมโลก

(https://www.facebook.com/pow.ilaw/posts/PSNtwC2LHZ, https://ilaw.or.th/articles/48100 และ https://prachatai.com/journal/2024/11/111520)