‘ทักษิณ’ มัวแต่ไล่ตามสะกัดกั้นการเติบโตทางการเมืองของพรรคประชาชน จนลืมไปหรือเปล่าว่าหน้าตักของพรรคตนจะต้องทำให้ประเทศล้ำหน้าทางเศรษฐกิจภายในสองปีข้างหน้า ถ้าจะเบี่ยงกระแสความต้องการเปลี่ยนแปลง
ขณะที่เรื่องกระสุนก็เจอคู่แข่งน่าเกรงขามของพรรคและ สว.สีน้ำงิน กำลังคืบไปไม่หยุดยั้งหรืออ่อนแรง ทว่าภาวะเศรษฐกิจทั้งในส่วนจุลภาคและมหภาค มีแต่ลางร้ายออกมาให้เห็นบ่อยขึ้น ล่าสุดก็คำเตือนจาก สศช. (สภาพัฒน์ฯ เดิม)
ดนุชา พิชยนันท์ แถลงภาวะสังคมในไตรมาสที่สาม วันนี้ (๒๕ พ.ย.) “เห็นสัญญาณแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้บ้านที่เร่งตัวขึ้น” ประจวบกับ “การขยายตัวของมูลค่าหนี้เสียที่สูงถึง ๒๓.๒% จาก ๑๘.๒% เมื่อไตรมาสที่ผ่านมา”
ทั้งนี้ “สัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวม” ก็เพิ่มขึ้นด้วย จาก ๓.๙๘% เมื่อไตรมาสที่แล้ว มาเป็น ๔.๓๔% ในไตรมาสนี้ เลขาสภาพัฒน์ฯ อธิบายว่าการที่ผุ้บริโภคเลือกที่จะผิดนัดชำระหนี้ที่ด้านอยู่อาศัย แทนที่จะค้างจ่ายบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล
แสดงว่าภาวะการเงินในครอบครัวยังไม่เห็นแววฟื้นตัว “ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาหนี้เสียของสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว”
อีกด้าน สมรรถนะในการผลิตส่งออกที่เคยเป็นดาวรุ่งของไทย กลับแสดงให้เห็นว่าง่อยเปลี้ยเสียขาไปมาก จากรายงานของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์วันนี้ ว่าการผลิตรถยนต์ของไทยลดไป ๒๕.๑๓% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ดีกว่าเมื่อเดือนที่แล้ว (กันยา) นิดนึง ซึ่งสถิติเดิมอัตราลด ๒๕.๔๘% แต่ข้อสำคัญเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องเป้นเดือนที่ ๑๕ แล้วนะนี่ เฉพาะอย่างยิ่งการผลิตรถปิ๊คอัพลดไป ๒๗.๘% จากตุลาคมที่แล้ว ขณะที่ผลผลิตรวมรถบรรทุกลดลง ๗๗.๕%
ส่วนปริมาณการขายรถในประเทศเมื่อเดือนตุลาดีกว่าเมื่อเดือนกันยาเล็กน้อยเช่นกัน จากอัตราลด ๓๗.๑๑% ในเดือนกันยา มาเป็น ๓๖.๐๘% ในเดือนตุลาเทียบกับปีที่แล้ว
อย่างนี้ถ้าจะให้พรรคเพื่อไทยได้ ๒๐๐ เสียงในปี ๒๕๗๐ ทักษิณต้องเร่งเป่ามนต์ให้แรงกว่านี้แล้วละ
(https://www.bangkokpost.com/business/general/2908320/th-oct-car และ https://www.thansettakij.com/business/economy/612770)