รัฐบาลไทยหวังให้บริษัทต่างชาติ
เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ของไทย โดยเฉพาะบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
แต่ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ อยากให้รัฐบาลทบทวนเงื่อนไขในการลงทุน
เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์จากเรื่องนี้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
“การสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ เริ่มจากโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructures) พบว่าการสร้างอาคาร ตึก
อาจลงประเทศไทยประมาณ ๒๕% แต่การวางระบบสายไฟอะไรต่างๆ
ต่างชาติหมด ไทยผลิตไม่ได้ต้องนำเข้า หลุดไปแล้วอีก ๒๐%
ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ของต่างชาติในไทย
ไม่ว่าจะเป็นเฟชบุ๊ค กูเกิ้ล ติ๊กต็อก ฯลฯ รายได้ส่วนใหญ่นับเป็นหมื่นห้าพันล้านบาท
จะถูกส่งออกไปนอกไทย อาจเป็นประเทศแม่หรือที่ไหนซึ่งเสียภาษีน้อย
ยกตัวอย่างเฟชบุ๊ค
เวลาเราจ่ายค่าบริการในไทย เงินจะวิ่งไปเข้าบัญชีเฟชบุ๊คที่ไอร์แลนด์ทันที
เพราะที่นั่นภาษีนิติบุคคลเพียง ๑๒% กว่าๆ ขณะที่ไทยเก็บ ๒๐% ติ๊กต็อกก็เช่นกัน รายได้ที่เก็บในไทยราว ๓ พันล้าน แต่คงอยู่ในไทยเพียง
๑ พัน ๓ ร้อยล้าน นอกนั้น ๑ พัน ๗ ร้อยล้านออกไปอยู่สิงคโปร์
ระบบฮาร์ดแวร์ เซิ้ฟเวอร์ ตีซะ ๒๗% ออกต่างชาติหมด ระบบซ้อฟแวร์อีก ๑๒%
ก็ไปต่างชาติหมด เราจะเหลือแค่ค่าดำเนินงาน ค่าเน็ตเวิร์คนิดหน่อย ฉะนั้นการลงทุนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์
๑ แห่ง เงินจะออกไปต่างประเทศแล้ว ๖๐%
แสดงให้เห็นว่าการชักชวนต่างชาติมาตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย
เป็นประโยชน์อยู่บ้าง แต่เพียงส่วนน้อย
เสนอแนะให้รัฐบาลกลับไปเจรจากับบริษัทเหล่านี้
ขอดูแผนงานธุรกิจว่าจะมีส่วนไหนที่เอื้อประโยชน์กับธุรกิจไทยได้บ้าง ”