วันเสาร์, พฤศจิกายน 30, 2567

อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วม ที่ผ่านมาอาจจะเป็นแค่เริ่มต้น สิ่งเราจะเจอ 29-30 พ.ย.-1-2 ธ.ค. 2567

https://www.facebook.com/watch/?v=1070614261414015
.....

Somporn Chuai-Aree
12h ·

สิ่งเราจะเจอ 29-30 พ.ย.-1-2 ธ.ค. 2567 ฝากพิจารณาไว้ (ยาวนิดแต่อาจจะเป็นประโยชน์) ดังต่อไปนี้
1.น้ำทะเลหนุนสูงสุด วันที่ 30 พ.ย. (15 ค่ำ) และวันก่อนหน้า 2 วัน (28-29 พ.ย.) รวมกับหลังอีก 2 วัน (1-2 ธ.ค.)
2.คลื่นลมทะเล ช่วงนี้สูงด้วยประมาณ 2-4 เมตร ดังนั้นจะรวมกับน้ำทะเลหนุนสูงด้วย จะยิ่งทำให้การระบายน้ำยากลำบากขึ้นอีก (คลิกดูพยากรณ์คลื่น 4 วันล่วงหน้า เพื่อความตระหนักรู้ http://www.marine.tmd.go.th/wave2d/waveanim.gif )
3.น้ำจืดที่ตกจากฟ้า และไหลมาจากพื้นที่สูงกว่า จะระบายไหลลงทะเลได้ช้ากว่าปกติ และจะระบายได้คล่องในช่วง ตั้งแต่วันที่ 2-3 ธ.ค. ชุมชนใกล้ปากแม่น้ำควรเตรียมการไว้เลยครับ ท่านอาจจะไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้ครับ
4.ฝนจะยังตกทุกวัน จากวันนี้ 29 พ.ย. ไปจนถึง 13 ธ.ค. ครับ อาจจะมีเว้นบ้าง แต่นั่นคือมีฝนตลอดในภาพรวม และเชื่อว่าจะตกทั้งเดือน
5.สำหรับพี่น้องที่อยู่ห่างไกล ถูกตัดไฟฟ้า จะไม่มีแบตเตอรี่ในการชาร์จมือถือเพื่อการสื่อสาร อาจจะต้องวางแผนในการเตรียมเรื่องนี้ครับ อาจจะมีระบบชาร์จไฟฟ้าเคลื่อนที่ และหากอยู่กันหลายคนก็ปิดมือถือเหลือแบตไว้ ใช้ทีละเครื่อง ปิดไวไฟ ลดความเข้มแสง โหมดประหยัดพลังงาน เพราะหลายบ้านขาดการติดต่อกันแล้วครับ
6.กว่าน้ำจะลดใช้เวลานานกว่าปกติ เสี่ยงเรื่องน้ำกัดเท้าและโรคอื่น ๆ ที่อาจจะตามครับ ลองพิจารณาดูครับ ปกติผมจะใช้น้ำมันจารบีก่อนลงน้ำสมัยตอนเด็ก ๆ ทาบาง ๆ ก่อนลงน้ำ รองรับน้ำฝนไว้บ้างจากอุปกรณ์ที่มี เอาไว้ล้างเท้าเมื่อกลับมาจากนอกบ้าน
7.การรวบรวมข้อมูลกันในกลุ่มประชาชนในพื้นที่เดียวกัน เพื่อทำข้อมูลว่าใครอยู่ในบ้านบ้าง อยู่จุดใด เพื่อให้ง่ายต่อการที่อาสาสมัครจะเข้าไปได้ถึง กรณีอดข้าวหลายวัน แนะนำให้รองน้ำฝนไว้บ้างก็ดีครับจากหลังคาครับ
8.สำหรับท่านที่มีบ้านสองชั้นและจะท่วมพื้นชั้นสองแล้ว ก็ควรจะหาทางออกจากบ้านดีที่สุด อย่าได้ห่วงสิ่งของในบ้านมากจนเกินไปครับ (ฝากพิจารณาด้วยครับ เอาชีวิตรอดก่อน) หากมีผู้ป่วยควรแจ้งเพื่อนการส่งออกจากบ้านด่วน หลายพื้นที่ขอเรือยนต์เข้ามา แต่เรืออยู่ไหนครับ?
9.เนื่องจากเส้นทางการติดต่อสัญจรไปมาระหว่างเมืองถูกตัดขาด อาจจะต้องสื่อสารสำหรับการถ่ายโอนสินค้าระหว่างน้ำลดให้ทันท่วงที เพราะหากตัดขาดนานจนเกินไป อาหารสำรองในเมืองหรือชุมชนจะมีไม่พอครับ พิจารณากันตามแหล่งพื้นที่ครับ
10.แนะนำให้วัดปริมาณน้ำที่บ้านตนเองไว้ และหมั่นดูพฤติกรรมระดับน้ำ เปรียบเทียบกับความหนักเบาของฝนตกในภาพรวม อาจจะทำให้เห็นความสัมพันธ์ ไปคาดการณ์พลาดเนื่องจากยังมีน้ำฟ้าและน้ำจากพื้นที่รอบนอกที่อาจจะไหลเข้ามาได้ วิเคราะห์สถานที่ของท่านกันครับ
11.มีหลายคนก็อยากจะไปช่วยเหลือกันครับ แต่ท่วมด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ท่วมก็ถูกตัดขาดในการสัญจร เตรียมอาหารการกิน เมนูที่อยู่รอบบ้าน ใกล้เคียงกันเอาไว้ที่หาได้ครับ
12.ร่วมคิดค้นนวัตกรรมทางความคิด การอยู่รอด การจะรอดไปด้วยกันได้ร่วมกันครับ ว่าเราจะผ่านวิกฤตนี้กันไปให้ได้ร่วมกันอย่างไร แล้วจะส่งต่อให้ลูกหลานเราอย่างไร หลักสูตรที่จะส่งต่อไปยังห้องเรียนของลูกหลานเราอย่างไร การเตรียมคนเพื่อเกิดมาเพื่อเป็นนักต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องส่งไปเรียนอะไรกันครับ
13.คำตอบส่วนหนึ่งที่ทีมเราขับเคลื่อนกันคือพลังงานสะอาด จากแดด น้ำ ลม รวมถึงแนวคิด 1 ครัวเรือน 5 โรง ตั้งแต่ โรงไฟฟ้า โรงน้ำประปา โรงแก๊สชีวภาพ (โรงน้ำมันไบโอดีเซล เตาชีวมวล) โรงอาหาร และโรงเรือน จะกลับขึ้นมาสำคัญในยามเกิดภัยพิบัตินี่แหละครับ เพราะมันคือการชวนคิดทั้งระบบเพื่อจัดการตนเองกันก่อนครับ หลังน้ำท่วมครั้งนี้ เราค่อยมาเริ่มตระหนักร่วมกันอีกรอบนะครับ
14.ฝากไว้ให้คิดร่วมกันครับ จากประสบการณ์อันน้อยนิดที่เคยผ่านมาและประสบการณ์ครับ
ด้วยมิตรภาพครับ
สมพร ช่วยอารีย์ PBWatch.NET