ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก
2 days ago
·
ขอเล่าข่าวที่แคนาดาให้ฟัง
ความช้ำของการเกิดมาเป็นลูกผู้หญิง ที่ลามไปถึงการขึ้นโรงขึ้นศาล
Ginny Lam (จินนี่ ลัม) เติบโตมาอย่างที่เธอจะต้องเป็นรองน้องชาย Willam Law (วิลเลี่ยม ลอว์) เสมอ เพราะแม่ของเธอ Yat Hei Law (ยัท เฮ ลอว์) บอกกับเธอเสมอว่า แม่ต้องทำตามธรรมเนียมจีนสิ ที่ต้องให้ทุกอย่างกับลูกชาย
แม่ชัดเจนกับเธอมาตลอดตั้งแต่เด็กว่ารักลูกชายมากกว่า โรงรถที่บ้านจอดได้ 2 คัน แม่เธอจะบอกให้เธอไปจอดริมถนน เพื่อให้วิลเลี่ยมได้จอดรถของเค้าในโรงรถ หรือแม้แต่บนโต๊ะกินข้าว พวกอาหารดีๆ เนื้อปลา เนื้อวัว จะวางอยู่ข้างหน้าเค้าเสมอ
แม่เธอยังมีความเชื่อแบบธรรมเนียมจีนตกยุคว่าลูกชายคือราชา และเค้าควรได้รับทุกอย่าง
ครอบครัวของจินนี่อพยพมาอยู่ที่แวนคูเวอร์, แคนาดาตั้งแต่ปี 1969 โดยคุณพ่อมาเปิดร้านอาหารจีน จนปี 1992 คุณพ่อถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ ได้เงินมา 1 ล้านเหรียญ ก็ขายร้านอาหาร และเอาเงินไปลงทุนกับบ้านเช่าแทน จนเงินงอกเงยมากมาย
คุณพ่อหัวใหม่ และเป็นคนที่มาสายผู้บริหารมาก ซึ่งจินนี่ก็เดินตามรอยคุณพ่อมาเลย
แต่ไม่นานพ่อก็จากไป และหลังจากนั้นพอเหลือแม่คนเดียว เธอเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติกับลูกชัดเจน ทั้งเงิน ทั้งของ แม่ก็เริ่มเอาไปถวายให้ลูกชายทั้งหมด
แต่กับจินนี่ ในขณะที่เธอจบการศึกษาดีๆ เป็นเจ้าของกิจการพวกความบันเทิงในครอบครัว แม่กลับไม่ได้สนับสนุน ไม่ได้ชอบที่เห็นเธอประสบความสำเร็จ และเป็นนักธุรกิจ
แม่มักจะบอกเธอว่า เธอไม่ควรที่จะทำตัวฉลาด หรือประสบความสำเร็จ เพราะจะไม่มีใครอยากจะแต่งงานด้วยเดี๋ยวสามีจะทิ้งซะ ผู้หญิงควรทำงานธรรมดาไม่ก็อยู่กับบ้าน และมีหน้าที่ออกลูกชาย รวมทั้งดูแลครอบครัว
โห อย่างว่า คนรุ่นเก่าหลายคนความคิดงี้จริงๆ
ก่อนคุณแม่จะเสียชีวิตในปี 2021 จินนี่เป็นคนดูแลคุณแม่มาตลอด พอเปิดพินัยกรรมออกมาหลังแม่เสีย...
แม่ยกแทบจะทุกอย่างให้วิลเลี่ยมค่ะ มากกว่า 82% ที่มูลค่ามากกว่า 2.2 ล้านเหรียญ (77 ล้านบาทโดยประมาณ) ส่วนจินนี่ได้ 630,000 ดอลล่าร์ (22 ล้านบาท)
เธอทั้งเจ็บและปวด ทั้งที่เธอดูแลแม่มาหลายปีก่อนเสีย แต่กลับถูกทรีตแบบนี้ เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิง? มันเหมือนเธอทำอะไรผิดไป เหมือนกับความน่าอายเพราะเพศกำเนิดแค่นั้นเอง
เธอไปคุยกับวิลเลี่ยม เธอบอกว่าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง
น้องชายก็แค่ยักไหล่ แล้วบอกว่า ก็แม่ต้องการแบบนั้นเอง
เธอบอกต่อว่า "เธอรู้อยู่แล้ว แต่เธอเปลี่ยนมันได้สิ" แน่นอนค่ะใครจะเปลี่ยนให้ตัวเองเสียเปรียบ วิลเลี่ยมก็ตอบว่า
"อยากได้ก็ไปฟ้องเอา"
และเธอฟ้องจริงๆค่ะ เธอไม่ได้ฟ้องแค่เพราะโกรธและเสียใจที่ได้น้อยกว่า แต่เธอถูกแม่เลือกปฏิบัติมาตลอดชีวิต ด้วยเหตุผลที่อยุติธรรม เพราะว่าเธอคือผู้หญิง
จินนี่บอกว่าเธอมีลูกสาว และเธอรู้ว่ามีอีกหลายคนที่ต้องเจอกับการเลือกปฏิบัติจากพ่อแม่หัวเก่า แค่เพราะว่าผู้ชายต้องได้มากกว่า ผู้หญิงต้องได้น้อยกว่า เธออยากฟ้องเพื่อเป็นตัวแทนของผู้หญิง และทำให้ลูกสาวทั้งสองของเธอรู้ด้วยว่า หนูไม่ได้ด้อยค่า ไม่ถูกเลือกปฏิบัติแค่เพราะว่าเราเกิดมาเป็นผู้หญิงแต่อย่างใด
ซึ่งเหตุผลเรื่องนี้เลยค่ะที่ใช้ในศาล คือการที่เธอได้รับส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม เพราะการเลือกปฏิบัติจากเพศสภาพของเธอ
ศาลฎีกาให้จินนี่ชนะค่ะ
แม้เธอจะชนะแล้ว แต่เธอกับทนายก็บอกว่า มันเทียบไม่ได้หรอก กับที่วิลเลี่ยมได้รับมาจากแม่ตลอดชีวิต เค้าได้มากกว่านั้นเยอะ แต่เธออยากให้คดีของเธอเป็นบรรทัดฐานใหม่ ว่าไม่ควรถูกเลือกปฏิบัติแค่เป็นชายหญิง ความเชื่อเก่าๆอะไรแบบนั้นควรหมดไปได้แล้ว อยากให้ผู้หญิงคนอื่นที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมรู้ว่าคุณสู้ได้เหมือนกัน
"ฉันมีลูกสาวสองคน ฉันอยากให้ลูกทั้งสองรู้ว่านี่จะไม่ใช่สิ่งที่พวกหนูต้องเจอ จะไม่มีใครมาบอกพวกหนูว่าหนูมีค่ามากน้อยแค่ไหนจากเพศของหนู หลังจากนี้เรื่องราวของฉันที่เกิดขึ้นมันเหมือนเป็นแบบอย่างให้กับทุกคนรู้ว่า คุณทำแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว"
ซึ่งหลังจากศาลตัดสิน วิลเลี่ยมได้ขออุทธรณ์การตัดสินของศาลค่ะ
ดีใจด้วยค่ะคุณจินนี่ เชื่อว่าสิ่งที่ฟ้อง สิ่งที่ได้ มันไม่ได้เพราะเงินหรอก เชื่อว่าก็มีเงินเยอะจากงานตัวเองอยู่แล้ว แต่ที่เค้าฟ้อง คือมันสุดแล้ว ทั้งดูแลแม่ และสิ่งที่ต้องเจอกับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมมาตลอดชีวิต แถมตัวน้องชายยักไหล่แบบไม่แคร์อีก เธอเลยจัดเต็มค่ะ ซึ่งส่วนนึงที่ฉันคิดคือเธอฟ้องในประเทศเจริญ ที่เค้าสนใจเรื่องความเท่าเทียมกันทางเพศเนอะ ถึงได้ชนะค่ะคุณ
https://bc.ctvnews.ca/woman-nearly-shut-out-of-mother-s...
.....
ภัควดี วีระภาสพงษ์
14 hours ago
·
นี่แหละเหตุผลที่เราไม่เคยชอบวัฒนธรรมจีนและไม่สืบทอดใดๆ ด้วย ไหว้เจ้า ตรุษจีน ไม่มี ฉันไม่ไหว้ ซื้อขนมไหว้พระจันทร์กินอย่างเดียว
ถึงแม้แม่เราไม่ได้ขนาดในเรื่องนี้นะ แต่เห็นจากครอบครัวเพื่อน ญาติ และคนรู้จัก ก็อ่อนใจแล้ว ใครอยากสืบทอดวัฒนธรรมจีนก็ตามสะดวก ส่วนเราขอแช่งให้มันล้มหายตายจากไป
