วันเสาร์, กันยายน 14, 2567

ไผ่ ดาวดิน และครูใหญ่ อรรถพล ถูกศาลขอนแก่นสั่งจำคุกด้วยมาตรา112 จากการปราศัยบนเวทีที่ภูเขียว ไม่ให้ประกันตัว


Nithiwat Wannasiri
1 hour ago
·
ไผ่ ดาวดิน และครูใหญ่ อรรถพล ถูกศาลขอนแก่นสั่งจำคุกด้วยมาตรา112 จากการปราศัยบนเวทีที่ภูเขียว ไม่ให้ประกันตัว
.....


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
6 hours ago
·
จำคุก “ไผ่” 2 ปี 12 เดือน “ครูใหญ่” 2 ปี ผิด ม.112 เหตุปราศรัยปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ที่ภูเขียว เข้าเรือนจำรอศาลอุทธรณ์สั่งประกัน
.
.
13 ก.ย. 2567 ศาลจังหวัดภูเขียวนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์ นักกิจกรรมภาคอีสาน ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้อนุญาต จากการปราศรัยประเด็นปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ในการชุมนุมหน้าโรงเรียนภูเขียวและ สภ.ภูเขียว เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564
.
โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 112 จำคุกคนละ 3 ปี เพิ่มโทษไผ่กึ่งหนึ่ง กรณีทำผิดซ้ำภายหลังพ้นโทษภายในเวลาไม่เกิน 3 ปี จำคุกไผ่ 4 ปี 6 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกไผ่ 2 ปี 12 เดือน จำคุกครูใหญ่ 2 ปี ยกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 116, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
.
องค์คณะผู้พิพากษา ได้แก่ สากล บุตรสำราญ และพิมลพรรณ ถิรางกูร
.
คดีนี้สืบพยานไปเมื่อกลางเดือน เม.ย. ถึงต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยฝ่ายจำเลยมีข้อต่อสู้ว่า ผู้ชุมนุมและการชุมนุมมีการคัดกรอง สถานที่ชุมนุมโล่งกว้าง ไม่แออัด ไผ่และครูใหญ่ปราศรัยวิจารณ์รัฐบาลที่ออกกฎหมายส่งผลกระทบสถาบันกษัตริย์ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมถึงปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงความเห็นที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ได้เรียกร้องให้ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ รวมถึงพยานหลักฐานที่เป็นคลิปของโจทก์ตลอดจนบันทึกการถอดเทปคำปราศรัยนั้นไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน
.
เวลา 10.00 น. ไผ่, ครูใหญ่ ทนายจำเลย พร้อมทั้งเพื่อน ๆ และประชาชนที่มาให้กำลังใจ ทยอยเดินทางมาถึงห้องพิจารณาคดีที่ 2 เพื่อฟังคำพิพากษา จนเต็มม้านั่งในห้องพิจารณาคดี
.
ราว 11.00 น. ศาลออกนั่งอ่านคำพิพากษามีสาระสำคัญในส่วนที่เป็นคำวินิจฉัยใน 4 ประเด็น โดยสรุปดังนี้
.
1. ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
.
ช่วงเกิดเหตุสถานการณ์การแพร่ระบาดทุเลาเบาบาง เห็นได้จากโรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอน on site จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงนั้นลดจำนวนลง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิยังจัดกิจกรรมประกวดเยาวชนต้นแบบ มีเยาวชนเข้าร่วมจำนวนไม่น้อย
.
สอดคล้องกับพยานโจทก์ปากสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิเบิกความว่า การจัดกิจกรรมจะมีความเสี่ยงสูงเมื่อมีผู้เข้าร่วมเป็นไข้ ถ้าผู้เข้าร่วมไม่แสดงอาการ การชุมนุมก็มีความเสี่ยงต่ำ เมื่อผู้ชุมนุมในคดีนี้ผ่านการตรวจคัดกรองแล้ว ไม่พบคนที่ติดเชื้อ การชุมนุมย่อมมีความเสี่ยงต่ำ จำเลยทั้งสองกับพวกย่อมทำกิจกรรมได้เช่นเดียวกับการประกวดเยาวชนต้นแบบ
.
ประกอบกับสถานที่จัดกิจกรรมล้วนโล่งแจ้ง อากาศถ่ายเท มีพื้นที่กว้าง ไม่แออัด ผู้ชุมนุมเดินไปมาได้ มีการรวมกลุ่มก็เพียงบางช่วง ไม่นาน แม้มีบางคนไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุไม่ปรากฏมีผู้ติดเชื้อ การเข้าร่วมชุมนุมของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
.
2. ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ
.
เห็นว่า พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ มาตรา 4 บัญญัติไว้ว่า ผู้ที่จะทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง ต้องขอรับการอนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อน ดังนั้น ผู้ที่มีหน้าที่ขออนุญาตคือผู้จัดให้มีกิจกรรม แต่ไม่มีพยานโจทก์ปากใดเบิกความว่า จำเลยทั้งสองเป็นผู้จัดการชุมนุม พยานหลักฐานของโจทก์ไม่พอยืนยันว่า จำเลยที่ทั้งสองเป็นผู้จัดกิจกรรม แม้จำเลยทั้งสองจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่จะอาศัยเพียงข้อเท็จจริงดังกล่าวมาพิจารณาเป็นโทษต่อจำเลย ก็จะเป็นผลร้ายต่อจำเลยเกินไป จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ
.
3. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
เห็นว่า การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ผู้กระทำต้องมีมูลเหตุจูงใจที่ชัดเจน แม้ได้ความจากพยานโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองปราศรัยโจมตีรัฐบาล แต่ไม่ปรากฏว่ามีการยุยงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดจะก่อความไม่สงบหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตรงกันข้ามพยานโจทก์ได้ตอบคำถามค้านทนายจำเลยว่า ระหว่างการชุมนุมไม่มีบุคคลถูกทำร้าย ผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธหรือก่อเหตุรุนแรง
.
ยิ่งเมื่อพิจารณาจากข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ต้องการให้ตำรวจขอโทษนักเรียนที่ถูกคุกคามไม่ให้ไปร่วมกิจกรรมค่าย พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่เพียงพอรับฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองมีมูลเหตุจูงใจที่จะทำให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดก่อให้เกิดความไม่สงบหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2) (3)
.
4. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
.
จำเลยที่ 1 ปราศรัยถ้อยคำว่า “ปัญหาของสังคมไทยที่ยาวนานก็คือสถาบันพระมหากษัตริย์…” ประชาชนที่ได้รับฟังย่อมเกิดความรู้สึกว่า พระมหากษัตริย์ไม่ดูแลประชาชน อันเป็นการกล่าวหาพระมหากษัตริย์ว่า ไม่อยู่ในทศพิธราชธรรม เป็นการด้อยค่าสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้
.
ที่จำเลยอ้างว่า สถาบันกษัตริย์ที่พยานพูดมีความหมายถึง กลุ่มเครือข่ายชนชั้นนำที่ได้ผลประโยชน์จากความเหลื่อมล้ำ หากเป็นเช่นนั้นจริง จำเลยที่ 1 ก็ชอบที่จะใช้คำอื่นที่สื่อความหมายได้ตรงมากกว่า คำเบิกความของจำเลยที่ 1 ไม่สมเหตุสมผล ไม่น่าเชื่อถือ การกระทำของ จำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์
.
สำหรับคำปราศรัยของจำเลยที่ 2 “ต้องไม่เอานโยบายรัฐบาลไปผูกขาดสัมปทาน…” ประชาชนที่รับฟังอาจเข้าใจว่า พระมหากษัตริย์สั่งระเบิดภูเขา อันเป็นการใส่ความพระมหากษัตริย์ ทำให้พระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ
.
พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำคุกคนละ 3 ปี จำเลยที่ 1 เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน และได้กระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ซ้ำในอนุมาตราเดียวกันภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นโทษ เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 1 กำหนด 4 ปี 6 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 กำหนด 2 ปี 12 เดือน จำเลยที่ 2 กำหนด 2 ปี
.
ส่วนคำขอให้นับโทษจำคุกจำเลยทั้งสองในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่น ไม่ปรากฏว่าศาลมีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวแล้วหรือไม่ และผลการพิพากษาเป็นอย่างไร จึงให้ยกขอในส่วนนี้ ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
.
หลังศาลจบการอ่านคำพิพากษา ไผ่และครูใหญ่ได้พูดคุยกับเพื่อนและญาติซักพักก่อนถูกควบคุมตัวลงไปห้องขังด้านหลังศาล ก่อนทนายจะยื่นประกันในช่วงบ่ายด้วยวงเงินประกันคนละ 300,000 บาท เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ศาลจะใช้เวลาในการพิจารณาสั่งนานหน่อย เนื่องจากต้องผลการประเมินความเสี่ยง
.
อย่างไรก็ตาม หลังรออยู่จนกระทั่งราว 15.30 น. เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ศาลมีคำสั่งส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิจารณา ยังไม่สามารถบอกได้ว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์จะลงมาเมื่อไหร่
.
ประมาณ 16.15 น. รถผู้ต้องขังของเรือนจำอำเภอภูเขียวควบคุมตัวผู้ต้องขังรวมทั้งไผ่และครูใหญ่ จากห้องขังศาลจังหวัดภูเขียวไปที่เรือนจำ ทั้งสองต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำระหว่างรอฟังคำสั่งคำร้องขอประกันชั้นอุทธรณ์ ทำให้ผู้ต้องขังทางการเมืองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 44 คนแล้ว โดยเป็นผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 ถึง 30 คน
.
อ่านรายละเอียดบนเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/69896
.
ย้อนอ่านคำเบิกความพยานในชั้นศาล: https://tlhr2014.com/archives/69832