วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ซึ่งมีตำแหน่งการเมืองเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการการเงินการคลัง ซึ่งมักแสดงความเห็นด้านนโยบายสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลแพทองธารบ่อยๆ คราวนี้ออกมาสวนคำตัดสินของกฤษฎีกา ไม่แน่ใจว่าจะหวังผล ต่อข้อที่ Thanapol Eawsakul เตือนหรือเปล่า
บก.ฟ้าเดียวกันว่า “ผลจากการคีความคุณสมบัติ ‘ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี’ ของกิตติรัตน์ ณ ระนอง อาจจะสะเทือนไปถึงที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีคนอื่น ๆ” โดยอ้างถ้อยคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ว่า
“ตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่นายกิตติรัตน์ได้รับการแต่งตั้งในสมัยรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจากมีส่วนไปเกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบาย” เขาชี้เป้าที่ปรึกษาคนอื่นๆ
ในคณะที่ปรึกษาของนายกฯ แพทองธาร “ที่เข้าไประชุมเรื่องสำคัญกับนายก เรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม” แล้วผลลัพท์ออกมา “นายกฯ อิ๊งค์ ถอย การันตีไม่ขึ้น VAT 15% หลังถกกุนซือบ้านพิษฯ” ตามพาดหัวข่าว นสพ.ไทยโพสต์
ทีมที่ปรึกษาชุดนี้ประกอบด้วย พันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นประธาน สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานฯ นอกนั้น ศุภวุฒิ สายเชื้อ ธงทอง จันทรางศุ และ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ร่วมเป็นกรรมการที่ปรึกษา ซึ่ง ธนาพลบอกว่า
“คนเหล่านี้ก็อาจจะมีปัญหาในอนาคตที่ไปดำรงตำแหน่งอื่น ๆ อีก” ซึ่งเป็นข้อสังเกตุที่มีทางเป็นไปได้ หากคณะกรรมการกฤษฎีกายังคงความเห็นในลักษณะนี้ต่อๆ ไป อีกอย่างน้อยสองสามปี เลยทำให้มีเสียงนายแบกออกมาตามสื่อโซเชียล
ว่า กฤษฎีกาเวลานี้ ‘สองมาตรฐาน’ พร้อมทั้งประเด็นที่วีรพัฒน์ส่งเสียงมาจากลันดั้น ว่า “บทบาท-หน้าที่ คณะกรรมาการกฤษฎีกา เป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล ต้องไม่ทำหน้าที่เป็นศาล” รวมทั้งอ้างว่า ตำแหน่ง ‘ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ’
“ไม่ควรมีข้อจำกัด ว่าเคยหรือไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะหน้าที่คือการเข้าไปตรวจสอบ ดูแล ถ่วงดุลการทำงานในองค์กร” เท่านั้น “สุดท้าย (ว้อยซ์ทีวีรายงาน ว่าวีรพัฒน์ซัด) คนที่คัดค้านกลับเป็นคนที่นำการเมืองแทรกแซงแบงก์ชาติเสียเอง”
เลยงงไปใหญ่ เขาว่าใคร “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง”
(https://x.com/VoiceTVOfficial/status/1872524305063694701 และ https://www.isranews.org/.../134511-politics-129.html)
