ใครที่อยู่ในวงการนาฏศิลป์ และ โบราณคดี ลองอ่าน โพสต์ข้างล่าง อย่าเกลียดเขมร จนหน้ามืด

ภาพจาก The People

Somrit Luechai
Yesterday
·
เพื่อนฝูงผมที่อยู่ในวงการนาฏศิลป์
จะไม่ชอบเขมรเป็นชีวิตจิตใจ
แถมกดเขมรให้ต่ำ
แล้วยกตนให้สูงกว่าเขมร
จึงไม่แปลกที่จะเห็นคนพวกนี้
ติดแฮชแท็ค
"ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด"
ในเวลานี้
ผมพยายามสืบค้นว่า
ทำไมคนพวกนี้
ถึงได้มีทัศนะและอคติเช่นนี้
ในทางกลับกัน
ก็มีคนเขมรส่วนหนึ่งที่เกลียดไทย
เกลียดแบบไม่ต้องอาศัยเหตุผล
อะไรทำให้คน 2 กลุ่มนี้เกลียดกัน
ผมคิดว่า
ทั้ง 2 กลุ่มนี้ต่างมีปมด้อยด้วยกันทั้งคู่
คนไทยที่เกลียดเขมร
เพราะมีปมด้อยในอดีต
ด้วยอดีตนั้นไทยหรือสยาม
ต้องอยู่ใต้อารยธรรมเขมร
เพลงหน้าพาทย์ที่ชื่อ"แผละ"
เป็นหน้าพาทย์สำหรับครุฑ
คำนี้เป็นภาษาเขมรแปลว่า"บินข้ามไป"
ส่วนคนเขมรที่เกลียดไทย
ก็เพราะมีปมด้อยในปัจจุบัน
ด้วยเขมรในปัจจุบัน
ส่วนหนึ่งพึ่งพาอารยธรรมไทย
(เพราะราชสำนักเขมรอยู่ใต้ราชสำนักสยาม)
โดยเฉพาะนาฏศิลป์และดนตรี
การไม่ยอมรับความจริงของคนทั้ง 2 กลุ่มนี้
นำมาซึ่งการต่อต้านโดยการเกลียด
แล้วสร้างความเท็จขึ้นมาปกปิด
เช่น โขนไม่ได้มาจากขอม(หรือเขมร)
ครับ
ยากมากที่จะเปลี่ยนความคิดคนเหล่านี้
และคงเสียเวลาที่จะไปเปลี่ยนคนเหล่านี้
ผมจึงมุ่งที่จะสอนและสื่อสารกับคนรุ่นใหม่
เชื่อว่าน่าจะดีกว่า
จำไว้ว่า
ไทยและเขมร
เราต่างเป็นญาติกันทางวัฒนธรรม
ไทยมีเขมรผสม
เขมรมีไทยผสม
จำไว้ว่า
ถ้าไม่มีเขมร
คนไทยเดินไม่ได้น่ะครับ
ได้แค่ย่าง
เพราะ"เดิน"เป็นภาษาเขมรแปลว่าเดิน
ครับ

https://www.facebook.com/somrit.luechai/posts/10233489495438356
.....

Prabhassara Chuvichean
June 6
·
จากที่ได้เห็นปฏิกริยาบนโลกสื่อฯต่อสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาขณะนี้ จึงขอดึงสติ(เฉพาะ)ชาวคณะโบราณคดีไว้ก่อนอันดับแรกด้วยความเป็นห่วงว่า
1.อย่าเพิ่งหลงไปกับข่าวสารที่ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลจริงเท็จ โบราณคดีสอนให้ตรวจสอบและประเมินหลักฐานก่อนนำไปใช้เสมอ
2. ประวัติศาสตร์ศิลปะบอกเราว่า ศิลปะไม่สังกัดเชื้อชาติ-ชนชาติที่แน่นอน แต่เป็นสมบัติที่มนุษยชาติเป็นเจ้าของ หยิบยืม ใช้ร่วมกัน อย่าหน้ามืดไปหลงกับวาทะกรรมเรื่องความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของว่าที่ไหนมีศิลปะอะไรต้องเป็นของประเทศนั้น ถ้าจะเอาตามนั้นจริง กัมพูชาจะมีอาณาเขตไปถึงกาญจนบุรี ไทยจะเหลือแค่กรุงเทพและปริมณฑล
3.อย่าหลงทางไปกับกลการเมืองภายใน-ภายนอกประเทศ ที่ใช้ความขัดแย้งเชิงรัฐชาติในการสร้างสถานการณ์เพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตน เราเห็นตัวอย่างเสมอแม้ในวรรณคดีอิงประวัติศาสตร์ถึงการไม่รู้เท่าทันเล่ห์เพทุบายจนเกิดความสูญเสียใหญ่หลวง
4. ขอให้มองวัฒนธรรมและชาติพันธุ์อย่างเท่าเทียม เพราะวิชามานุษยวิทยาสอนให้ปราศจากอคติทางชาติพันธุ์ มีแต่กลุ่มก้อนอำนาจทางการเมืองที่สมมติขึ้นมาเพื่อแบ่งแยกผู้คนให้สังกัดตามการเรียกเก็บผลประโยชน์ ไม่มีชาติใดสูงต่ำกว่ากัน
5. ประวัติศาสตร์ที่ร่ำเรียนกันมารวมถึงหลักฐานทางโบราณคดีทั้งหลายยืนยันว่า สงครามและความขัดแย้งนำมาซึ่งความสูญเสียมากกว่าสำหรับคนหมู่มากที่ไม่เคยมีความชิงชังกันโดยเรื่องส่วนตัว อารยธรรมหรือสังคมบางยุคสาบสูญจากการบราฆ่าฟันปล้นสะดม เรียนโบราณคดีมาแล้วไม่ควรสนับสนุนให้อดีตที่ชั่วร้ายย้อนรอยกลับมา
6. อย่าให้โมหะจริตเข้าครอบงำจนเกิดโทสะจริต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อคติทางชนชาติ เชื้อชาติ รัฐชาติ ซึ่งไม่มีอยู่แท้จริง แต่เลื่อนลอยเปลี่ยนไปตามการจำกัดความของรัฐในแต่ละยุคสมัย
7.ได้เรียนจากคณะโบราณคดีที่ภูมิใจนักหนาว่ามีคณะเดียวในประเทศนี้ อย่าให้ใครเขาวิจารณ์ได้ว่า ตั้งคณะมาแล้ว 70 ปี ยังมีคนตาบอดเพราะหลงกลลวงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ดังที่เขียนมาข้างบน

ด้วยความเคารพ

https://www.facebook.com/prabhassara.chuvichean/posts/10228198996575664