วันจันทร์, มิถุนายน 30, 2568

พอเห็นอะไรได้บ้างในม็อบรวมพลังแผ่นดินเมื่อวาน?


Kasian Tejapira
10 hours ago
·
พอเห็นอะไรได้บ้างในม็อบรวมพลังแผ่นดินเมื่อวาน?
%%%%%
นับแต่ปี ๒๕๕๙ มา พลังการเมืองอนุรักษนิยมในสังคมไทยแตกแยกเป็นเสี่ยง ๆ ไม่มีปัจจัยอำนาจนำที่จะผนึกให้พลังหลากหลายเหล่านี้เป็นปึกแผ่นดังแต่ก่อน

(อนึ่ง ผมคิดว่าความเป็นปึกแผ่นแน่นหนาของโครงสร้างอำนาจอนุรักษนิยมที่อ.ธงชัย วินิจจะกูลพูดถึงนั้น เกิดในภาครัฐราชการ-รัฐพันลึก ด้วยกำลังบังคับ-กฎหมาย ไม่ใช่อำนาจนำ)

จนกระทั่งกรณี [ชาติ+ชาตินิยม] & [วิวาทะสี่พ่อลูกสองตระกูล] ทำให้พอจะผนึกกำลังเคลื่อนไหวร่วมกันได้ แต่จะถึงขั้นหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ผมยังไม่เห็น มีลักษณะเคลื่อนไหวร่วมกันเฉพาะกิจเฉพาะกาลมากกว่า (มิพักต้องพูดถึงสร้างพรรคตัวแทนอุดมการณ์หนึ่งเดียวในระดับชาติของพวกตน)

อีกอย่างก็คือขณะม็อบรวมพลังแผ่นดินแสดงพลังการเมืองในท้องถนนของอนุรักษนิยมให้เป็นที่ประจักษ์ว่ายังมีอยู่ แต่มันก็สะท้อนความอ่อนด้อยโดยสัมพัทธ์ของพวกเขาในสภาผู้แทนราษฎรเช่นกัน กล่าวคือต้องอาศัยการชุมนุมมาสร้างความชอบธรรมแบบประชาธิปไตยทางตรงเพื่อผลักพาให้รัฐบาลเพื่อไทย/นายกฯแพทองธารพ้นจากอำนาจไปด้วยวิถีทางอื่น ไม่ว่านิติสงครามหรือรัฐประหาร (อย่างหลังผมเห็นว่ายังไม่มีความเป็นไปได้ในเงื่อนไขปัจจุบัน)

ไม่สามารถและไม่มีพรรคการเมืองที่จะผลักดันระเบียบวาระสำคัญเร่งด่วนที่สุดของอนุรักษนิยมในสภาหรือรัฐบาลอย่างได้ผลเลย ไม่มี ไม่ว่ารทสช.หรือพปชร.หรือภูมิใจไทย การคว้าฉวยอำนาจและผลประโยชน์เฉพาะหน้าระยะสั้นสำคัญกว่าอุดมการณ์/โครงการระยะยาวไม่ว่าอนุรักษนิยมหรืออื่นใดทั้งนั้นหมด

นับแต่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษนิยมในสภาที่เข้มแข็งที่สุดในสมัยรัชกาลก่อนมีอันเปลี่ยนธาตุไปเป็นพรรคบ้านใหญ่ พลังอนุรักษนิยมก็ตกอยู่ในสภาพไร้ตัวแทนในสภาที่ใช้การได้ ดังนั้น แทนที่จะมีพรรคในสภาให้เรียกถอนตัวล่มรัฐบาลอย่างง่ายกว่ามาก สิ่งที่พลังอนุรักษนิยมทำได้เหลือแค่ม็อบสร้างความชอบธรรมแบบการเมืองมวลชนให้ข้อเรียกร้องเท่านั้น

ความอับจนของพลังอนุรักษนิยมบรรจบเข้ากับความอับจนของพรรคร่วมรัฐบาลในสภา ทางออกข้างหน้าของการเมืองไทยตีบแคบและหดสั้นลงทุกที ไม่เพียงพอแก่สถานการณ์โลกและภูมิภาคที่ผันแปรยิ่งและวิกฤตสารพัดที่ดักรออยู่

เพราะมันเป็นผลข้างเคียงแห่งความอับจนของรัฐธรรมนูญ 2560 ปัจจุบันที่ตรึงหนีบพลังการเมืองจากการเลือกตั้งทั้งหลายเอาไว้ในกรอบของเหล่ากลไกต่อต้านเสียงข้างมากนั่นเอง