“ท่านจะไปเจรจา ท่านจะไปซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เพื่อทำให้ถูกใจฐานเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดิฉันขอถามว่า...พวกเราไม่มีฐานเสียงเหรอคะ ฐานเสียงของท่านเป็นเกษตรกรของอเมริกาหรืออย่างไร”
เธอประกาศไม่เห็นด้วยที่จะเอาเกษตรกรรมไทยไปแลกกับ “ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ ชิ้นส่วนรถยนต์ คอมพิวเตอร์ ทั้งที่เป็นของต่างชาติที่มาตั้งโรงงานเป็นฐานการผลิตในประเทศไทย” ข้อสำคัญเรื่องการนำเข้าเนื้อสุกร
ว่ามีดีลกับสหรัฐ ทั้งที่ “เขาใช้สารเร่งเนื้อแดง และมันจะตกค้างอยู่ในเนื้อหมู ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเสี่ยงต่อการที่จะเจ็บป่วย” และ “เรามีกฎหมายของเราอยู่ ว่าห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสุกร” แต่ “เขาก็บอกให้เราแก้กฎหมาย”
โอว ถึงขนาดนั้นเลยเชียว อย่างนี้ไตแลนเดียต้องได้เป็นดินแดนในการปกปักรักษาของอเมริกาอีกแห่ง ต่อจากปวยโตริโก้แล้วละ ไม่เพียงนั้น เธอแขวะไปถึงเรื่องเนื้อวัว ถูกตีตลาดโดยออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ (เพราะคนไทยลิ้นเทพมั้ง)
“ราคาตกต่ำ ไม่มีที่จะระบาย...ทุกข้อตกลงการค้าที่ท่านเคยไปเจรจามาบอกได้เลยว่า ผลประโยชน์ตกเป็นของต่างชาติทั้งนั้น แต่เกษตรกรไทยตายหมด” ดังนั้น “ต้องบอกให้กระทรวงเกษตรฯ พยายามไปเปิดตลาดที่ประเทศจีน” แล้วละ
อีกอย่างที่เป็น ‘tall order’ จาก ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช คือ “ทำให้ค่าเงินบาทที่แข็งเกินไป อ่อนลง” นอกนั้นก็ชวนให้ประเทศเล็กๆ ที่โดนผลกระทบแรง รวมหัวกัน ซื้อขายกันเอง และแบ่งกันผลิต “เปิดการค้าเสรีระหว่างกันมากขึ้น”
ด้านพรรคฝ่ายค้าน ไม่เห็นด้วยที่จะส่ง ทักษิณ ชินวัตร ไปเป็นผู้เจรจากับทรั้มพ์ อยากให้นายกฯ ตัวจริงไปมากกว่า และแนวทางผ่อนปรนที่รัฐบาลคิดจะใช้ น่าจะทำให้ไทยเสียเปรียบมากขึ้น ส่วนคนดังบางเธอว์ เช่นPavin Chachavalpongpun ร้องว้าย
ว่า “ล่าสุด ทักษิณโทรหาคนรอบข้างทรัมป์แล้ว และเดี๋ยวจะบินไปอเมริกาเอง เอ่อ ไปหาพ่องหรอ edok ไปในนามใคร?” อ่า ผมไม่รู้ ผมไม่ใช่คนแถวนั้น
(https://one31.net/news/detail/74741, https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_837613 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_5134515)
