
เขียนไว้ให้เธอ
20 hours ago
·
นักท่องเที่ยวฝรั่งต่างชาติหายไปไหน
ผมเองเป็นหุ้นส่วนในร้านชาบูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง หลังจากวาเลนไทน์เป็นต้นมายอดขายหล่นวูบอย่างน่าตกใจและยังไม่ฟื้นจนวันนี้ ส่วนประกอบหลักๆนอกจากลูกค้าไทยหายไปพอสมควรเหมือนร้านอาหารอื่นๆที่เจอผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ
อีกส่วนหลักคือนักท่องเที่ยวที่หายไปดื้อๆ ผมเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ก็ลดลงจากปีที่แล้ว จีน ญี่ปุ่นหายไป 30-40% .. ก็สงสัยอยู่ว่าทำไม แต่ละชนชาติคงมีเหตุผลต่างกันแต่ทำไมมาลดลงพร้อมๆกัน… แต่ร้านผมหลักๆคือนักท่องเที่ยวจีน
……
เมื่อวานเห็นคุณแท้ป รวิศ และอีกหลายคนแชร์โพสต์ของ Bangkok post learning เรื่องนักท่องเที่ยวลดลงเป็นภาษาอังกฤษ ความน่าสนใจคือตรงคอมเม้นท์เพราะเพจภาษาอังกฤษแบบนี้คนมาเม้นก็เป็นคนต่างชาติที่ทั้งเป็นนักท่องเที่ยว expat หรือกำลังคิดจะมาเมืองไทยล้วนๆ ไม่มี IO ใดๆมาเจือปน ความเห็นเหล่านั้นจึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ดีว่าทำไมต่างชาติบางกลุ่มถึงหายไป
แน่นอนว่าเพจอังกฤษก็เป็นกลุ่มต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษ ไม่รวมจีน ญี่ปุ่น ซึ่งก็ต้องไปตามหาเหตุกันต่อไป แต่อย่างน้อยก็ได้เข้าใจกลุ่มหนึ่ง ความเห็นเหล่านี้ก็เหมือนเพจอื่นๆ อ้างอิงอะไรไม่ได้ bias ก็มี แต่ถ้าทำใจเป็นกลาง เหมือนอ่าน feedback ลูกค้าแล้วเลือกมาย่อยก็น่าจะมีประโยชน์อยู่
ผมสรุปและแปลความเห็นบางความเห็นที่ได้รับความนิยมไว้ ลองอ่านกันดูนะครับ
“ โรงแรมที่เกาะช้างราคาขึ้นเกือบสองเท่าช่วงสงกรานต์ ตอนแรกก็ว่าจะไปอยู่แต่คิดยังไงก็ไม่คุ้ม เลยไปเขมรดีกว่าและที่เขมรก็มีงานสงกรานต์ที่เจ๋งมากด้วย ที่โน่นจ่ายค่าโรงแรมสิบเหรียญก็ได้แล้ว เหมือนกับว่าที่เกาะช้างยอมมีห้องว่างดีกว่าลดราคา”
“ ประเทศไทยยังสวยและคนไทยก็ยังน่ารัก หาไฟล์ทดีๆก็ยังพอมีราคาที่รับได้ แต่พยายามหนี พัทยา ภูเก็ต สมุย ละกันเพราะมีแต่โรงแรมโหดนรกที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งนั้น”
“ คิดว่าเพราะราคาตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมที่ขึ้นสูงมากนะ”
“ ปัญหาเยอะเหลือเกิน ไม่รู้จะเลือกปัจจัยไหนดี คนไทยชอบซ้อมคนต่างชาติที่เริ่มเมา ตำรวจก็ไถทุกเรื่องจากนักท่องเที่ยว พวกแบกแพคที่มาเที่ยวก็ไม่มีตังค์แล้วเริ่มทำตัวเป็นขอทาน คนอินเดียพยายามดึงเสื้อแล้วลากเข้าบาร์ซึ่งจริงๆน่าจะเป็นพนักงานไทยมากกว่าแต่กลายเป็นคนอินเดียเต็มไปหมด คนจีนก็เยอะเกิน เต็มถนนเต็มบาร์ไปหมด คนจีนกับอินเดียไม่ใช้ตังค์แต่พยายามมาหาตังค์มากกว่า ประเทศไทยดูจะเลี้ยวผิดทุกการตัดสินใจ จีนกำลังยึดเมืองอย่างช้าๆ คนที่ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ก็ไปประเทศอื่นดีกว่าโดยเฉพาะคนที่พอมีตังค์ใช้จ่ายตามประเทศยุโรป “
“ นักท่องเที่ยวอินเดียมาเยอะไปจนมูลค่าการท่องเที่ยวหล่นวูบ”
“ ทุกปีผมไปกรุงเทพฯปีละหลายครั้งเพื่อเฮฮากับเพื่อนฝูง เพราะราคาโรงแรมดี มีร้านขายของไม่แพงเยอะ แต่หลังโควิด ค่าตั๋วแพงมาก แพงจนไม่น่าไป”
“ กฎคนเข้าเมืองเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกจนงง ไม่รู้อยู่นานได้แค่ไหน และไม่มีอะไรถูกอีกต่อไป ประเทศข้างเคียงดูน่าสนใจ น่าเที่ยวกว่ามาก”
“ขายกัญชาและให้สูบตามสบายนี่คือปัญหา”
“ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะนะ มีแกร๊ปละ แท็กซี่จะโกงยากขึ้นหน่อย”
“ ประเทศไทยเคยมีวันที่ดีและรุ่งเรืองน่ามา แต่ตอนนี้มันผ่านไปละ มีที่ใหม่ๆที่น่าสนใจและถูกกว่ามาแทน”
“ เพิ่งกลับไปแล้วพบว่ามันแพงขึ้นสองเท่า เลยไปอยู่เขมรหนึ่งอาทิตย์ เป็นการตัดสินใจที่ถูกมาก”
“ นี่คือปัญหาเวลามองว่านักท่องเที่ยวคือ ATM”
“ ตอนนี้อยู่ที่กระบี่และภูเก็ต สองที่นี้คนเยอะมาก แต่ก็น่าเศร้าที่หาดเริ่มสกปรก ภูเก็ตแย่กว่ากระบี่ เพิ่งไปหาดกะตะมาวันนี้ น่าขยะแขยงมาก ขยะก็เต็มสองข้างทาง ฟุตบาทก็พัง พวกนี้ควรจะต้องปรับปรุงขนานใหญ่นะน่าจะยังอยากทำเงินจากการท่องเที่ยวอยู่ “
“ ตอนนี้ค่าเดินทางรวมๆขึ้นมา 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน”
“ ลองคิดดูสิว่ามันจะดีขึ้นแค่ไหนถ้าพวกเขาปรับปรุงเรื่องความปลอดภัย ด้านโครงสร้าง ด้านมาเฟียแท๊กซี่และตุ๊กตุ๊ก ทำความสะอาดบ้าง และทำให้การเดินเท้าสะดวกขึ้น … แต่พวกเขาดูจะไม่อยากได้อะไรพวกนี้เลย”
“ ปัญหาคือแต่ก่อนมีแต่ประเทศไทยเป็นตัวเลือก ตอนนี้มีหลายประเทศมากที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ประเทศใหม่ๆเหล่านั้นเริ่มสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟความเร็วสูงและอื่นๆ มันถูกกว่ามากที่จะไปเวียดนาม เขมร ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตัวเลือกเยอะ ที่ฟิลิปปินส์ก็สามารถได้วีซ่าอยู่อาศัย 5 ปีซึ่งทำให้ได้มีสิทธิประกันสุขภาพและกู้เงินซื้อคอนโดได้ด้วย”
“ถ้าฉันจะอยากอยู่ท่ามกลางคนรัสเซีย ไปมอสโคว์น่าจะดีกว่า”
“ประเทศไทยเหมาะกับพวกแบคแพคมาก แต่ไทยก็ไม่อยากได้เพราะพวกแบคแพคไม่ใช้ตังค์ ไทยอยากได้พวกคนรวยมากกว่า แต่คนรวยก็ต้องการมาตรฐานการบริการที่สูงซึ่งไทยล้าหลังอยู่ 10 ปี หลายคนถูกโกงถ้าพูดภาษาไม่ได้ คนรัสเซียเต็มเมืองและกร่างมาก เรือ รถบัสก็แน่นเป็นปลากระป๋อง มันมีหลายเหตุผลที่คนหนีไปเวียดนาม ไปสวนสัตว์เก็บคนไทยร้อยเดียว แต่เก็บฝรั่งพันสอง ! ลองคิดถึงประเทศที่เจริญแล้วไม่มีใครเขาทำกันแบบนี้”
“ผมเพิ่งไปพัทยามาเดือนมกรา ตกใจมากนึกว่าไปบอมเบย์ คนอินเดียเต็มพัทยาไปหมด ตั้งแต่สินค้าอินเดีย ร้านขายของอินเดีย ร้านอาหารอินเดีย และนักท่องเที่ยวอินเดีย หาดก็สกปรก รถก็ติด แน่นเกินไป ระบบระบายน้ำก็เหม็นหึ่ง ไม่ไปอีกแน่ๆ”
“ หาดสกปรก น้ำเสีย พลาสติกเต็มไปหมด ไม่มีการบริหารจัดการของเสีย ไม่มีการให้การศึกษากันเลยว่าจะดูแลธรรมชาติเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืนยังไง และไม่มีการพยายามแก้เรื่องฝุ่น รถติดเสียงดังแม้กระทั่งบนเกาะ ไปที่อื่นดีกว่า “
“ เพิ่งโดนเก็บ 200 บาทเข้าอุทยานแต่แฟนโดนเก็บแค่ 40 เพราะหน้าเหมือนคนไทย จะหานักท่องเที่ยววิธีนี้ ใครจะอยากมา”
……
เอามาให้อ่านแบบแสบๆคันๆ เอาจริงๆเราท่านก็อาจจะพอรู้กันอยู่แต่พออ่านแล้วก็ยังเจ็บจี๊ด แต่ถามว่าแก้ยังไง ใครควรแก้ ก็ได้แต่เอาไปกองรวมไว้กับปัญหาอื่นๆที่กองพะเนินอยู่และดูจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในนั้นก็มีปัญหาคอร์รัปชั่น กฎหมาย เศรษฐกิจ ฯลฯ อะไรรวมๆกันจนกองนั้นจะล้มแหล่มิล้มแหล่อยู่แล้ว
อ่านไว้พอเข้าใจ segment ฝรั่งนี้ก่อน จะสาบส่งว่าดีแล้ว ไม่ต้องมาถ้าไม่ชอบกัน ไม่เห็นด้วยก็ไปเถียงกะเขาไนเพจ ไม่ใช่เถียงกะผม ผมแปลมาเฉยๆ หรือจะทำความเข้าใจและทำใจเวลายอดตก หรือจะก่นด่าใครระบายออกก็ตามสบายนะครับ….
ผมเองก็ต้องไปหาทางฟื้นร้านชาบูของตัวเองก่อนในตอนนี้ …
https://www.facebook.com/photo?fbid=1224496915714420&set=a.594791162018335
.....
.jpg)
กรุงเทพธุรกิจ
7 hours ago
·
ต่างชาติบ่นฉ่ำ! เที่ยวไทยไม่เหมือนเดิม แพง ราคาไม่มีมาตรฐาน ระบบล้าหลัง กัญชาเยอะ
.
กระแส “คนต่างชาติไม่เที่ยวไทย” กลับมาเป็นประเด็นร้อน หลังมีความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวเผยความในใจถล่มทลายเกือบ 2 พันข้อความใต้โพสต์ "Thailand faces lower tourist numbers" ของเพจ Bangkok Post Learning โดยส่วนมากเป็น “ความไม่พอใจ” ของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน
.
“กรุงเทพธุรกิจ” สำรวจโดยคัดเลือกตัวอย่างราว 800 ความเห็น และส่งต่อให้เอไอช่วยจัดกลุ่มปัญหาสำคัญๆ ที่ความเห็นไปในทางเดียวกัน พบ 4 ปัญหาหลักๆ คือ ปัญหาราคาพุ่งสูงเกินเหตุ ระบบราคาสองมาตรฐาน ระบบล้าสมัยและซับซ้อน และการได้กลิ่นกัญชาแพร่กระจายในแหล่งท่องเที่ยว
.
และเรื่องแรกที่ดูจะเป็นปัญหาร่วมกันมากที่สุด คือ เที่ยวไทย ไม่ได้คุ้มค่าอย่างเก่า!
.
ราคาพุ่งเท่าตัว
.
ความเห็นส่วนใหญ่ระบุว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางที่ “คุ้มค่า” อีกต่อไป โดยเฉพาะราคาที่พักในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด นักท่องเที่ยวรายหนึ่งเผยว่า "ที่เกาะสมุยพักที่โรงแรมเดิม เคยจ่ายคืนละ 2,000 บาทเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนี้ขึ้นเป็น 6,000 บาท" ในขณะที่ชาวยุโรปอีกคนเล่าว่า จ่ายถึง 180 ยูโร (ประมาณ 7,000 บาท) สำหรับอาหารเย็น 2 คนในพัทยา โดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
.
แม้หลายคนเข้าใจถึงภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก แต่ก็ยังมองว่า ราคาในไทยเพิ่มขึ้นเกินกว่าอัตราเงินเฟ้อปกติมาก
.
ส่วนชาวยุโรปรายหนึ่งระบุว่า "การที่โรงแรมขึ้นราคาจาก 100 ดอลลาร์เป็น 200-300 ดอลลาร์ต่อคืน ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเงินเฟ้อปกติ นี่คือความโลภล้วนๆ"
.
ไม่เพียงแค่ราคาที่พักและอาหารเท่านั้น ค่าตั๋วเครื่องบินก็สร้างความกังวลให้นักท่องเที่ยว "ผมเคยจ่ายแค่ 300 ดอลลาร์สำหรับตั๋วเครื่องบินไปไทย แต่ตอนนี้ต้องจ่ายเกือบ 1,000 ดอลลาร์" ชาวอเมริกันรายหนึ่งระบุ ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากอังกฤษบอกว่า "ผมจ่ายถึง 1,200 ปอนด์ (ประมาณ 54,000 บาท) สำหรับตั๋วเครื่องบินปีนี้"
.
คนไทยเองก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน ชายไทยรายหนึ่งเล่าว่า "แม้แต่คนไทยอย่างผมยังไม่สามารถเที่ยวในประเทศตัวเองได้ ราคาที่พักสูงเกินไป โดยเฉพาะช่วงวันหยุด" ขณะที่หญิงไทยอีกคนเสริมว่า "เป็นคนไทยแท้ๆ แต่ฉันยังแทบไม่มีปัญญาซื้อตั๋วเครื่องบินหรือจองโรงแรมดีๆ ไปเที่ยวชายหาดทางภาคใต้ มันแพงเกินไปสำหรับคนท้องถิ่นอย่างเรา"
.
ระบบล้าหลัง TDAC ทำยาก ผู้สูงอายุใช้ไม่เป็น วีซ่าลดเหลือ 30 วัน
.
อีกประเด็นสำคัญที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักคือ ระบบวีซ่าและการเข้าเมืองที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยเฉพาะระบบ TDAC และการลงทะเบียนออนไลน์ที่ต้องทำล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง "มันเป็นความยุ่งยากที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี" นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันกล่าว นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงระยะเวลาวีซ่าท่องเที่ยวจาก 60 วันเป็น 30 วัน ก็สร้างความไม่พอใจให้กับนักท่องเที่ยวระยะยาว
.
กัญชาทำลายภาพลักษณ์ "มีกลิ่นทุกที่.."
.
ภาพลักษณ์ของประเทศไทยยังได้รับผลกระทบจากการเปิด "กัญชาเสรี" ที่ถูกมองว่าดึงดูด "นักท่องเที่ยวไม่มีคุณภาพ" คุณแม่ชาวออสเตรเลียเล่าว่า "ครอบครัวเราไม่สนุกกับการได้กลิ่นกัญชาทุกที่ที่เราไป โดยเฉพาะกับลูกเล็ก" ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษระบุว่า "มันไม่ใช่ประเทศที่ผมจำได้ ตอนนี้มีคนเมากัญชาอยู่ทั่วไป"
.
ราคา 2 มาตรฐาน เลือกปฏิบัติ
.
ความไม่พอใจอีกประเด็นสำคัญคือระบบ "ราคาไม่มีมาตรฐาน" ที่แบ่งแยกระหว่างคนไทย และชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันเล่าว่า "ผมต้องจ่าย 200 บาทเข้าอุทยานแห่งชาติ ขณะที่แฟนผมจ่ายแค่ 40 บาทเพราะหน้าตาเหมือนคนไทย นี่คือการเลือกปฏิบัติชัดๆ" อีกทั้งยังมีการขึ้นราคาสูงสำหรับชาวต่างชาติในหลายบริการ ตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ไปจนถึงการขนส่ง
.
เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านคุ้มกว่า
.
หลายคนเปรียบเทียบประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ซึ่งถูกมองว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า "ฉันไปเวียดนาม 3 เดือนแต่อยู่พัทยาแค่ 1 เดือน คิดดูสิ" นักท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าว ในขณะที่อีกคนบอกว่า "กัมพูชามีโรงแรมดีๆ ในราคาแค่ 10 ดอลลาร์ต่อคืน และมีเทศกาลที่ยอดเยี่ยมด้วย"
.
มีการเปรียบเทียบที่น่าสนใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียเล่าว่า "เวียดนามกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว มีรถไฟความเร็วสูง ชายหาดสะอาด และคนเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น" ส่วนชาวอังกฤษรายหนึ่งระบุว่า "เกาะโบราไคย์ ในฟิลิปปินส์สวยกว่าเกาะสมุยมาก น้ำใสกว่า ทรายสะอาดกว่า และราคาที่พักไม่แพงเกินไป"
.
อีกความเห็นหนึ่งระบุว่า "ญี่ปุ่นตอนนี้ไม่ได้แพงกว่าไทยมากนัก ผมไปโตเกียวเมื่อเร็วๆ นี้ และพบว่าราคาอาหารไม่ได้แพงกว่าในกรุงเทพฯ แถมบริการยังดีกว่ามาก สะอาดกว่า และปลอดภัยกว่า" ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปเปรียบเทียบว่า "มาเลเซียมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่า อาหารหลากหลายและอร่อย และไม่มีปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยว"
.
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงอินโดนีเซียและศรีลังกาด้วย "บาหลีมีที่พักและอาหารราคาถูกกว่าไทย วัฒนธรรมที่เข้มแข็ง และชายหาดที่สวยงาม" นักท่องเที่ยวชาวดัตช์กล่าว ขณะที่ชาวอังกฤษอีกคนแนะนำว่า "ศรีลังกาเป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยม มีโรงแรมหรูในราคาที่จับต้องได้ ธรรมชาติสวยงาม และผู้คนเป็นมิตร"
.
คุณภาพสถานที่ท่องเที่ยวและความแออัด
.
คุณภาพแหล่งท่องเที่ยวก็เป็นอีกประเด็นสำคัญ นักท่องเที่ยวจากสแกนดิเนเวียรายหนึ่งเผยว่า "ชายหาดสกปรก มีขยะเต็มไปหมด โดยเฉพาะที่ภูเก็ต หาดกะตะแย่มาก เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เห็นขยะพลาสติกมากมาย" นอกจากนี้ ยังมีปัญหามลพิษทางอากาศในเมืองใหญ่และทางเท้าที่แตกร้าวอันตราย
.
ปัญหาความแออัดในแหล่งท่องเที่ยวหลักก็ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพัทยา ภูเก็ต และหัวหิน นักท่องเที่ยวออสเตรเลียรายหนึ่งบอกว่า "ชายหาดที่เคยสงบสวยงามกลับเต็มไปด้วยร่มชายหาดเรียงรายนับพัน ไม่มีพื้นที่ให้พักผ่อนอย่างสงบอีกต่อไป"
.
ความไม่พอใจกับนักท่องเที่ยวบางกลุ่มส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรวม นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบอกว่า "ทริปล่าสุดของผมที่พัทยาถูกทำลายเพราะนักท่องเที่ยวบางชาติ พวกเขาทำร้ายคู่ของผมบนเครื่องบิน และไม่ว่าเราจะไปที่ไหน พวกเขาก็แสดงความไม่สุภาพต่อคนไทย"
.
ขณะที่ชาวออสเตรเลียอีกคนกล่าวว่า "ผมรักประเทศไทยและมาที่นี่มา 26 ปี แต่การที่มีนักท่องเที่ยวจากอินเดียและรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้ผมไม่อยากมาอีก บางพื้นที่ในพัทยาตอนนี้เหมือนกับ 'ลิตเติ้ลอินเดีย' มากกว่าประเทศไทย"
.
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและอาคารถล่มที่จตุจักรเมื่อไม่นานมานี้ "ผมกลัวที่จะพักในอาคารสูงในกรุงเทพฯ หรือที่ไหนก็ตามในไทยอีกแล้ว แม้ว่าผมจะอาศัยอยู่ที่นี่ก็ตาม" นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทยรายหนึ่งกล่าว
.
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นจากคนไทยที่มองว่าการลดลงของนักท่องเที่ยวอาจเป็นโอกาสดี "เราต้องการนักท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าปริมาณ" คนไทยรายหนึ่งแสดงความเห็น ในขณะที่อีกคนกล่าวว่า "ดีแล้ว จะได้มีเวลาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน"
.
ในความเห็นทิ้งท้าย หลายคนระบุว่าแม้จะยังรักประเทศไทย แต่ความคุ้มค่าลดลงอย่างมาก "ประเทศไทยยังคงเป็นสถานที่ที่สวยงาม และคนไทยส่วนใหญ่ก็น่ารัก แต่ด้วยราคาที่สูงขึ้น ระบบที่ยุ่งยาก และคุณภาพที่ลดลง ทำให้ผมต้องมองหาจุดหมายอื่น อย่างน้อยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า" นักท่องเที่ยวระยะยาวจากแคนาดากล่าวทิ้งท้าย
.
ในอีกความเห็นหนึ่งระบุว่า "ประเทศไทยไม่ได้เป็นตัวเลือกเดียวในภูมิภาคอีกต่อไป เวลานี้นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกมากมายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีราคาถูกกว่าและมีประสบการณ์ที่สดใหม่กว่า หากไทยไม่ปรับตัว เราอาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปอย่างถาวร"
.
ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/12JzSFK3a9J/
.
.
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1099563232209262&set=a.605386548293602
https://www.facebook.com/photo?fbid=1224496915714420&set=a.594791162018335
·
ต่างชาติบ่นฉ่ำ! เที่ยวไทยไม่เหมือนเดิม แพง ราคาไม่มีมาตรฐาน ระบบล้าหลัง กัญชาเยอะ
.
กระแส “คนต่างชาติไม่เที่ยวไทย” กลับมาเป็นประเด็นร้อน หลังมีความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวเผยความในใจถล่มทลายเกือบ 2 พันข้อความใต้โพสต์ "Thailand faces lower tourist numbers" ของเพจ Bangkok Post Learning โดยส่วนมากเป็น “ความไม่พอใจ” ของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน
.
“กรุงเทพธุรกิจ” สำรวจโดยคัดเลือกตัวอย่างราว 800 ความเห็น และส่งต่อให้เอไอช่วยจัดกลุ่มปัญหาสำคัญๆ ที่ความเห็นไปในทางเดียวกัน พบ 4 ปัญหาหลักๆ คือ ปัญหาราคาพุ่งสูงเกินเหตุ ระบบราคาสองมาตรฐาน ระบบล้าสมัยและซับซ้อน และการได้กลิ่นกัญชาแพร่กระจายในแหล่งท่องเที่ยว
.
และเรื่องแรกที่ดูจะเป็นปัญหาร่วมกันมากที่สุด คือ เที่ยวไทย ไม่ได้คุ้มค่าอย่างเก่า!
.

.
ความเห็นส่วนใหญ่ระบุว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางที่ “คุ้มค่า” อีกต่อไป โดยเฉพาะราคาที่พักในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด นักท่องเที่ยวรายหนึ่งเผยว่า "ที่เกาะสมุยพักที่โรงแรมเดิม เคยจ่ายคืนละ 2,000 บาทเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนี้ขึ้นเป็น 6,000 บาท" ในขณะที่ชาวยุโรปอีกคนเล่าว่า จ่ายถึง 180 ยูโร (ประมาณ 7,000 บาท) สำหรับอาหารเย็น 2 คนในพัทยา โดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
.
แม้หลายคนเข้าใจถึงภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก แต่ก็ยังมองว่า ราคาในไทยเพิ่มขึ้นเกินกว่าอัตราเงินเฟ้อปกติมาก
.
ส่วนชาวยุโรปรายหนึ่งระบุว่า "การที่โรงแรมขึ้นราคาจาก 100 ดอลลาร์เป็น 200-300 ดอลลาร์ต่อคืน ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเงินเฟ้อปกติ นี่คือความโลภล้วนๆ"
.
ไม่เพียงแค่ราคาที่พักและอาหารเท่านั้น ค่าตั๋วเครื่องบินก็สร้างความกังวลให้นักท่องเที่ยว "ผมเคยจ่ายแค่ 300 ดอลลาร์สำหรับตั๋วเครื่องบินไปไทย แต่ตอนนี้ต้องจ่ายเกือบ 1,000 ดอลลาร์" ชาวอเมริกันรายหนึ่งระบุ ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากอังกฤษบอกว่า "ผมจ่ายถึง 1,200 ปอนด์ (ประมาณ 54,000 บาท) สำหรับตั๋วเครื่องบินปีนี้"
.
คนไทยเองก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน ชายไทยรายหนึ่งเล่าว่า "แม้แต่คนไทยอย่างผมยังไม่สามารถเที่ยวในประเทศตัวเองได้ ราคาที่พักสูงเกินไป โดยเฉพาะช่วงวันหยุด" ขณะที่หญิงไทยอีกคนเสริมว่า "เป็นคนไทยแท้ๆ แต่ฉันยังแทบไม่มีปัญญาซื้อตั๋วเครื่องบินหรือจองโรงแรมดีๆ ไปเที่ยวชายหาดทางภาคใต้ มันแพงเกินไปสำหรับคนท้องถิ่นอย่างเรา"
.

.
อีกประเด็นสำคัญที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักคือ ระบบวีซ่าและการเข้าเมืองที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยเฉพาะระบบ TDAC และการลงทะเบียนออนไลน์ที่ต้องทำล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง "มันเป็นความยุ่งยากที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี" นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันกล่าว นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงระยะเวลาวีซ่าท่องเที่ยวจาก 60 วันเป็น 30 วัน ก็สร้างความไม่พอใจให้กับนักท่องเที่ยวระยะยาว
.

.
ภาพลักษณ์ของประเทศไทยยังได้รับผลกระทบจากการเปิด "กัญชาเสรี" ที่ถูกมองว่าดึงดูด "นักท่องเที่ยวไม่มีคุณภาพ" คุณแม่ชาวออสเตรเลียเล่าว่า "ครอบครัวเราไม่สนุกกับการได้กลิ่นกัญชาทุกที่ที่เราไป โดยเฉพาะกับลูกเล็ก" ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษระบุว่า "มันไม่ใช่ประเทศที่ผมจำได้ ตอนนี้มีคนเมากัญชาอยู่ทั่วไป"
.

.
ความไม่พอใจอีกประเด็นสำคัญคือระบบ "ราคาไม่มีมาตรฐาน" ที่แบ่งแยกระหว่างคนไทย และชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันเล่าว่า "ผมต้องจ่าย 200 บาทเข้าอุทยานแห่งชาติ ขณะที่แฟนผมจ่ายแค่ 40 บาทเพราะหน้าตาเหมือนคนไทย นี่คือการเลือกปฏิบัติชัดๆ" อีกทั้งยังมีการขึ้นราคาสูงสำหรับชาวต่างชาติในหลายบริการ ตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ไปจนถึงการขนส่ง
.

.
หลายคนเปรียบเทียบประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ซึ่งถูกมองว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า "ฉันไปเวียดนาม 3 เดือนแต่อยู่พัทยาแค่ 1 เดือน คิดดูสิ" นักท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าว ในขณะที่อีกคนบอกว่า "กัมพูชามีโรงแรมดีๆ ในราคาแค่ 10 ดอลลาร์ต่อคืน และมีเทศกาลที่ยอดเยี่ยมด้วย"
.
มีการเปรียบเทียบที่น่าสนใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียเล่าว่า "เวียดนามกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว มีรถไฟความเร็วสูง ชายหาดสะอาด และคนเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น" ส่วนชาวอังกฤษรายหนึ่งระบุว่า "เกาะโบราไคย์ ในฟิลิปปินส์สวยกว่าเกาะสมุยมาก น้ำใสกว่า ทรายสะอาดกว่า และราคาที่พักไม่แพงเกินไป"
.
อีกความเห็นหนึ่งระบุว่า "ญี่ปุ่นตอนนี้ไม่ได้แพงกว่าไทยมากนัก ผมไปโตเกียวเมื่อเร็วๆ นี้ และพบว่าราคาอาหารไม่ได้แพงกว่าในกรุงเทพฯ แถมบริการยังดีกว่ามาก สะอาดกว่า และปลอดภัยกว่า" ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปเปรียบเทียบว่า "มาเลเซียมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่า อาหารหลากหลายและอร่อย และไม่มีปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยว"
.
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงอินโดนีเซียและศรีลังกาด้วย "บาหลีมีที่พักและอาหารราคาถูกกว่าไทย วัฒนธรรมที่เข้มแข็ง และชายหาดที่สวยงาม" นักท่องเที่ยวชาวดัตช์กล่าว ขณะที่ชาวอังกฤษอีกคนแนะนำว่า "ศรีลังกาเป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยม มีโรงแรมหรูในราคาที่จับต้องได้ ธรรมชาติสวยงาม และผู้คนเป็นมิตร"
.

.
คุณภาพแหล่งท่องเที่ยวก็เป็นอีกประเด็นสำคัญ นักท่องเที่ยวจากสแกนดิเนเวียรายหนึ่งเผยว่า "ชายหาดสกปรก มีขยะเต็มไปหมด โดยเฉพาะที่ภูเก็ต หาดกะตะแย่มาก เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เห็นขยะพลาสติกมากมาย" นอกจากนี้ ยังมีปัญหามลพิษทางอากาศในเมืองใหญ่และทางเท้าที่แตกร้าวอันตราย
.
ปัญหาความแออัดในแหล่งท่องเที่ยวหลักก็ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพัทยา ภูเก็ต และหัวหิน นักท่องเที่ยวออสเตรเลียรายหนึ่งบอกว่า "ชายหาดที่เคยสงบสวยงามกลับเต็มไปด้วยร่มชายหาดเรียงรายนับพัน ไม่มีพื้นที่ให้พักผ่อนอย่างสงบอีกต่อไป"
.
ความไม่พอใจกับนักท่องเที่ยวบางกลุ่มส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรวม นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบอกว่า "ทริปล่าสุดของผมที่พัทยาถูกทำลายเพราะนักท่องเที่ยวบางชาติ พวกเขาทำร้ายคู่ของผมบนเครื่องบิน และไม่ว่าเราจะไปที่ไหน พวกเขาก็แสดงความไม่สุภาพต่อคนไทย"
.
ขณะที่ชาวออสเตรเลียอีกคนกล่าวว่า "ผมรักประเทศไทยและมาที่นี่มา 26 ปี แต่การที่มีนักท่องเที่ยวจากอินเดียและรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้ผมไม่อยากมาอีก บางพื้นที่ในพัทยาตอนนี้เหมือนกับ 'ลิตเติ้ลอินเดีย' มากกว่าประเทศไทย"
.
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและอาคารถล่มที่จตุจักรเมื่อไม่นานมานี้ "ผมกลัวที่จะพักในอาคารสูงในกรุงเทพฯ หรือที่ไหนก็ตามในไทยอีกแล้ว แม้ว่าผมจะอาศัยอยู่ที่นี่ก็ตาม" นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทยรายหนึ่งกล่าว
.
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นจากคนไทยที่มองว่าการลดลงของนักท่องเที่ยวอาจเป็นโอกาสดี "เราต้องการนักท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าปริมาณ" คนไทยรายหนึ่งแสดงความเห็น ในขณะที่อีกคนกล่าวว่า "ดีแล้ว จะได้มีเวลาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน"
.
ในความเห็นทิ้งท้าย หลายคนระบุว่าแม้จะยังรักประเทศไทย แต่ความคุ้มค่าลดลงอย่างมาก "ประเทศไทยยังคงเป็นสถานที่ที่สวยงาม และคนไทยส่วนใหญ่ก็น่ารัก แต่ด้วยราคาที่สูงขึ้น ระบบที่ยุ่งยาก และคุณภาพที่ลดลง ทำให้ผมต้องมองหาจุดหมายอื่น อย่างน้อยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า" นักท่องเที่ยวระยะยาวจากแคนาดากล่าวทิ้งท้าย
.
ในอีกความเห็นหนึ่งระบุว่า "ประเทศไทยไม่ได้เป็นตัวเลือกเดียวในภูมิภาคอีกต่อไป เวลานี้นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกมากมายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีราคาถูกกว่าและมีประสบการณ์ที่สดใหม่กว่า หากไทยไม่ปรับตัว เราอาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปอย่างถาวร"
.
ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/12JzSFK3a9J/
.
.
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1099563232209262&set=a.605386548293602
https://www.facebook.com/photo?fbid=1224496915714420&set=a.594791162018335