วันอาทิตย์, เมษายน 27, 2568

ข้อสังเกตุน่าสนใจ คดี ม.๑๑๒ อุทธรณ์ศาลภาค ๕ เชียงใหม่ จำเลยต่อสู้ว่า ‘สถาบัน’ มิใช่หมายถึงแต่กษัตริย์ และความผิดละเมิดเฉพาะ ‘บุคคล’

ในบรรดาคดีมาตรา ๑๑๒ ที่เพิ่มมากมายในยุค ร.๑๐/ชินวัตร ๓ นี้นั้น คดีของ พิมชนก จิระไทยานนท์ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ เชียงใหม่จะอ่านคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้ (๒๘ เมษา) มีข้อสังเกตุน่าสนใจประการหนึ่ง อยู่ที่ข้อต่อสู้ของผู้ถูกกล่าวหา

โดยปกติของคดี ๑๑๒ เป็นที่คาดหมาย หรือเดากันไว้ได้เลยว่า ไม่รอด อย่างไรเสียศาลจะหาทางเอาผิดให้จงได้ ด้วยการตีความกฎหมายให้เข้าทางความผิด หรือถ้าหาตัวบทมาลงไม่ได้ ก็หันไปใช้เอกสารอ้างอิงอื่นเช่นพจนานุกรม ก็เคยทำมาแล้ว

คดีของ พิมนี้คงหนีไม่พ้นเช่นกัน เจ้าตัวก็เตรียมใจที่จะติดคุก ๒ ปีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ที่อ้างว่าข้อความบนเฟชบุ๊คของเธอว่า “รัฐบาลส้นตีน สถาบันก็ส้นตีน” นั้น “มีเจตนากล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์โดยการหลบเลี่ยง”

กระบวนการฟ้องร้องและจับกุมก็เป็นไปในลักษณะ ลงโทษตั้งแต่ก่อนพิจารณาคดีแล้ว นั่นคือ ฟ้องทางไกลผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดออนไลน์ อาศัยอยู่กรุงเทพฯ แต่นี่กลับไปฟ้องที่เชียงใหม่ จับตัวจากกรุงเทพฯ เดินทาง ๗๐๐ ก.ม.ไป สน.สารภี

ในคดี จำเลยอุทธรณ์ต่อสู้ว่า “ข้อความตามฟ้องนั้น ไม่สามารถตีความว่าหมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ได้โดยเคร่งครัด เพราะมิได้มีการโพสต์ที่ระบุไว้ชัดเจน”  และอีกประการหนึ่ง มาตรา ๑๑๒ มีเจตนารมณ์เพื่อคุ้มครองเกียรติยศชื่อเสียงของ บุคคล

ตามที่กำหนดไว้ ๔ ตำแหน่งเป็นการเฉพาะ ไม่ได้ระบุว่าคุ้มครองสถาบัน “มีคำพิพากษาในหลายคดีที่ตีความว่ามาตรานี้คุ้มครองเฉพาะตัวบุคคล” ดังเช่น ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ วินิจฉัยในคดีแขวนป้าย งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีน COVID19’

“เห็นว่าข้อความไม่ได้หมายถึงบุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะ และเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณแผ่นดิน ไม่เป็นความผิดตามมาตรา ๑๑๒” รวมถึงการตีความรัฐธรรมนูญมาตรา ๖ ที่ว่าผู้ใดจะละเมิด กล่าวหา หรือฟ้องร้องกษัตริย์มิได้

แท้จริงหมายถึง กษัตริย์มิอาจกระทำผิดได้ เพราะมิได้กระทำการใดๆ ด้วยพระองค์เอง การกระทำต่าง ๆ ต้อง “มีผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ” และการล่วงละเมิด ไม่ได้ตีความไปถึงการติชมหรือถกเถียงเกี่ยวกับกษัตริย์

ข้อที่น่าสังเกตุใหม่อยู่ที่ ศาลเชียงใหม่นัดฟังคำพิพากษามาแล้ว ๒ ครั้ง ในเดือนตุลาคม ๖๗ และมกราคม ๖๘ แต่ก่อนวันนัด ศาลได้แจ้งเลื่อนวันอ่านคำพิพากษาทั้งสองครั้ง ครั้งนี้ถ้าไม่มีการเลื่อนอีกก็แสดงว่า ศาลไปหาเหตุผลเพื่อเอาผิดได้แล้ว

(https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/0gWtYLpr5rp และ https://www.ilaw.or.th/articles/50247=Qu61h0oeMJw)